วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ (DFAT) ของออสเตรเลีย Julie Bishop ออกมาประกาศบนเวทีงาน InnovationXchange ซึ่งเป็นเวทีของโครงการชื่อเดียวกันของอดีตผู้ว่านครนิวยอร์ก Michael Bloomberg ว่าทาง DFAT เตรียมที่จะทดลองใช้หนังสือเดินทางแบบคลาวด์ (Cloud Passport) ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างนิวซีแลนด์แล้ว
Bishop ระบุว่าความคิดดังกล่าวเกิดจากการสุ่มถามเจ้าหน้าที่ของกระทรวงว่าจะปรับเปลี่ยนงานของกระทรวงได้อย่างไรบ้างเมื่อต้นปีนี้ และพบว่าหนึ่งในความเห็นที่ได้รับการสนับสนุนคือการใช้หนังสือเดินทางแบบคลาวด์ ซึ่งก็คือผู้เดินทางสามารถเดินทางได้ทันทีโดยไม่ต้องมีเอกสารใดๆ พกติดตัว รวมถึงตัดความเสี่ยงเอกสารหายไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยตัวเลขของหนังสือเดินทางออสเตรเลียที่สูญหายหรือถูกขโมยนั้น มีมากกว่า 38,000 ครั้งในปีที่ผ่านๆ มา การใช้หนังสือเดินทางคลาวด์ด้วยการเก็บข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูล Biometric นั้น จะทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกขึ้น
รัฐมนตรี Bishop เชื่อว่าแนวคิดนี้จะได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างแน่นอน
ที่มา - Hacked
Comments
Biometric + Cloud
หึหึ
ผมว่ามันจะปลอมข้อมูลได้ง่ายขึ้นนะสิ
Get ready to work from now on.
มีตัวเล่มหรือเปล่านี่ไม่เท่าไหร่ แต่ไม่มีให้ตรวจเช็คเลยว่าเล่มจริงหรือเปล่านี่ผมสงสัยมากครับว่าทำไมไม่ทำกันเสียที แบบเอาเล่มมาสแกนบาร์โค้ด ปิ๊ด เด้งหน้าตาจากส่วนกลางมาให้ดูว่าตรงกับในเล่มมั้ยก็ยังดี
ผมไม่แน่ใจว่าถ้าไปตรงช่องคนตรวจมันจะเด้งโชว์มั้ยนะ แต่ตรงเครื่องออโต้ถึงเด้งก็ไม่ค่อยมีใครสนใจมองของคนอื่นมั้ง... ยังไงถ่ายรูป+เก็บลายนิ้วมือไว้ก็ยังโอเคนะ
ดูจากพาสปอร์ตปลอมเกลื่อนแล้วคิดว่าไม่น่ามีนะครับ
ปกติตม.เค้าก็ทำแบบนี้นี่ครับ เอาเล่มไปรูดปรื๊ดก็โผล่หน้าเจ้าของกับข้อมูลมา
อ้าวเหรอครับ แล้วพวกเล่มปลอมล่ะครับ?
เล่มปลอมน่าจะไม่ผ่านนะครับ(เดา) หรือไม่เค้าก็อาจจะก็อปาาโค้ดมาด้วยรึป่าว
คือถ้าก็อปโค้ดมาด้วย ในฐานข้อมูลที่เปิดมามันก็น่าจะขึ้นเจ้าของจริงๆ นี่สิครับ - -"
ทุกวันนี้บ้านเรายังต้องเขียนใบเข้าออกประเทศสีขาวกันอยุ่เลย จำชื่อไม่ได้ เป็นภาระ ต้องเก็บของคนไปอยู่ ตปท นานๆ มาก - -*
หลายประเทศก็ยังมีอยู่นะครับ ล่าสุดที่ไปญี่ปุ่นมาก็ยังมี ถ้ากลัวฉีกไปใบนึงแล้วใบที่เหลือจะหาย แนะนำให้แม็กติดกับพาสปอร์ตเลยครับ
ปกติ ตม จะเย็บติดกับพาสปอร์ตให้นะครับ
แต่จริงๆโยนใบนั้นทิ้งไปแล้วเขียนใหม่ตอนขาเข้าเอาก็ได้ครับ มันไม่ได้บังคับว่าเข้าออกต้อง match กันนะ
แบบนี้คนที่มีหลายเล่ม เวลาจะเดินทางทีมีให้เลือกมั้ยอ่ะครับว่ารอบนี้จะใช้เล่มไหน?
ปกติแล้วคนหนึ่งคนมีสัญชาติเดียวครับ ถือหนังสือเดินทางได้เล่มเดียว พวกมีหลายสัญชาติปกติต้องทำเรื่องสละสัญชาติเดิมทิ้งครับถึงจะถูกกฏหมายระหว่างประเทศ แต่ส่วนมากไม่มีคนทำเรื่องครับยกเว้นติดปัญหาด้านกฏหมายถึงค่อยมาทำกัน (เห็นพอติดปัญหาเรื่องเงินกับจ่ายภาษีค่อยวิ่งมาทำกัน)
แต่ของไทยก็แปลกบางคนมีหลายเล่มจริง เยอะสุดเคยเห็นคนเดียวมี 4 สีเลย แดง เลือดหมู น้ำเงิน แล้วก็ เขียว ไม่รู้จะมีไว้ทำไมเยอะขนาดนี้
มีในบางกรณีที่มีหลายเล่มครับ ตัวอย่างเช่น บางประเทศในตะวันออกกลางจะไม่ยอมรับหนังสือเดินทางที่มีตราประทับของประเทศอิสราเอล ในกรณีนี้ก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีสองเล่มครับ เล่มหนึ่งไว้สำหรับมีตราประทับของประเทศที่ไม่ยอมรับกันครับผม อันนี้พูดในกรณีสัญชาติเดียวนะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ที่ของไทยมีหลายเล่มหลายสีเป็นการใช้คนละจุดมุ่งหมายครับ ไม่เกี่ยวกับสัญชาติเลย เช่น สีเลือดหมูเป็นเดินทางส่วนตัว น้ำเงินในงานราชการ แดงสำหรับทางการฑูต เขียวเป็นแบบชั่วคราว ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็แยกประเภทแบบนี้แหละครับ
ผมเลยสงสัยว่า ถ้าทำเป็น Cloud แล้ว เวลาเดินทางไปนอกประเทศมันจะรู้ได้ไงว่าไปในจุดมุ่งหมายอะไร
ยืนยันตัวตนด้วย Apple ID, Google+, Microsoft ID, Facebook ไปเลยครับ
ทุกวันนี้ ID ทั้ง 4 ตัวนี้ ก็ใหญ่กว่า เบอร์บัตรประชาชนแล้ว
แค่ กฏหมายยังไม่ยอมรับมันเท่านั้น
เอา ID ไปลงทะเบียนกับ หน่วยงานรัฐ ผูกกับบัตรประชาชน
ถ้า login ถูก 2 ตัวพร้อมกัน
เช่น ยืนยันด้วย Facebook กับ Apple พร้อมกันได้ก็ผ่านได้เลย
พออ่านแล้วก็คิดว่าจะโดน Hack ไหมนะพออ่านไปถึงที่มา ของข่าวนี้ขำเลย
"Hacked"
นึกถึง Blockchain Passport