Claim Di (เคลมดิ) สตาร์ตอัพด้านประกันรถยนต์ของไทย ที่เคยชนะโครงการ dtac Accelerate Batch #2 ปีที่แล้ว ประกาศรับทุน Series A จำนวน 2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 71 ล้านบาท) ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าเกิน 10 ล้านดอลลาร์แล้ว
ในโอกาสเดียวกัน Claim Di ยังขยายธุรกิจของบริษัทให้ครอบคลุมบริการเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ครบวงจร (แอพเดียวเรียกได้ทุกอย่างตั้งแต่ประกัน ยันการขอความช่วยเหลือบนถนน)
คุณกิตตินันท์ อนุพันธ์ (หรือที่รู้จักกันในวงการคือคุณแจ็ค) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Anywhere to Go ผู้สร้าง Claim Di ระบุว่าการระดมทุน Series A รอบนี้มีนักลงทุนร่วมกัน 8 ราย นำโดย Cyber Agent venture ส่วนที่เหลือคือ Golden Gate Venture, 500 Startup, 500 Durian, dtac Accelerate, นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Double A และนักลงทุนไทยอีก 2 ราย
จุดที่น่าสนใจคือ Claim Di เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับเงินลงทุนจากกองทุนในเครือ 500 Startup ทั้งสามกอง คือ 500 Startup ซานฟรานซิสโก, 500 Durian ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ 500 TukTuks ของไทย ที่เคยลงทุนไปแล้วในรอบก่อน Series A
Claim Di เป็นบริษัทไทยที่เติบโตเร็วมาก หลังจากเข้าโครงการ dtac Accelerate ปีกลายแล้วโตขึ้น 15 เท่าในรอบ 12 เดือน ปัจจัยหนึ่งที่บริษัทเติบโตคือคุณแจ็คอยู่ในวงการทำแอพมือถือมานานนับสิบปี ผ่านประสบการณ์เจ๊งมาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะปรับวิธีการมองธุรกิจมาเป็นแบบสตาร์ตอัพ ทำให้สามารถปรับปรุงตัวได้อย่างรวดเร็ว (ไว้มีโอกาสจะไปสัมภาษณ์ประสบการณ์มาให้อ่านกันนะครับ)
คุณแจ็คยังบอกว่าการเข้าร่วมโครงการกับ dtac รวมถึงการออกสื่ออย่างรายการ SME ตีแตก ช่วยให้ Claim Di เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเจรจาเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทประกันได้ 18 ราย ครอบคลุม 50% ของผู้เล่นในตลาดเมืองไทยแล้ว
คุณธนฉัตร ตั้งศรีวงศ์ จาก Cyber Agent Venture ที่ลงทุนใน Claim Di ให้สัมภาษณ์ในงานว่าปัจจัยที่เลือกลงทุนใน Claim Di มีสามข้อ ได้แก่
ส่วนคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล จาก 500 TukTuks ให้ความเห็นคล้ายกันว่าตลาดประกันภัยเป็นตลาดใหญ่ แต่ผู้เล่นรายเดิมยังไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ทำให้เป็นตลาดที่เหมาะสำหรับการ disrupt ด้วยเทคโนโลยี ซึ่ง Claim Di พร้อมสำหรับงานนี้
ในงานเดียวกัน Claim Di ยังประกาศขยายธุรกิจ จากแอพเคลมประกันด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว ให้ครอบคลุมบริการด้านประกันภัยรถยนต์เกือบครบวงจร (ยกเว้นการขายกรมธรรม์ประกันภัย) ดังนี้
Claim Di Bike แอพสำหรับพนักงานสำรวจอุบัติเหตุหรือ surveyor สามารถเข้ามารับงานเคลมประกันให้ Claim Di ได้ (ลักษณะเดียวกับการรับงาน Uber แต่แทนที่จะขับรถให้ผู้โดยสาร ก็มาเป็นการเคลมประกันให้ลูกค้า) จุดเด่นของ Claim Di Bike เหนือบริษัทเอาท์ซอร์ส surveyor คือระบบการรายงานอุบัติเหตุทำบนแอพได้ทั้งหมด ไม่ต้องใช้กระดาษเลย ช่วยให้ Claim Di สามารถจ่ายค่าตอบแทนที่ดีกว่าให้พนักงาน และคิดราคาต่อหัวถูกกว่าให้บริษัทประกันภัย
Claim Di Call รับจ้างเป็นคอลล์เซ็นเตอร์ให้บริษัทประกันภัย จุดเด่นคือผู้เอาประกันสามารถติดต่อผ่านแอพ แล้วให้ทางคอลล์เซ็นเตอร์เป็นฝ่ายติดต่อกลับมาได้ ระบบนี้ถือว่าได้เปรียบกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าคอลล์เซ็นเตอร์ทั่วไป
Claim Di Assist บริการเชื่อมต่อผู้ขับขี่รถยนต์ กับบริการให้ความช่วยเหลือบนท้องถนน (Road Side Assist) เช่น ยางแตก รถเสีย หารถยก ฯลฯ ซึ่งเรียกใช้ได้ผ่านแอพของ Claim Di เลย (ช่วงโปรโมชั่น ใช้ฟรีครั้งแรกมูลค่า 500 บาท)
โดยสรุปแล้ว Claim Di ต้องการทำตัวเป็นผู้ให้บริการด้านประกันภัย โดยอาศัยฐานผู้ใช้แอพ แล้วจ่ายงานให้เอาท์ซอร์สด้านต่างๆ อีกทีหนึ่ง แต่การที่เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ทำให้บริษัทประกันภัยจ้าง Claim Di ถูกกว่าการจ้างบริษัทบริหารงานเอาท์ซอร์สแบบเดิมๆ
เป้าหมายของ Claim Di ต้องการขยายบริการไปยังทั่วประเทศไทย ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเซ็ตทีมในจังหวัดสำคัญๆ อยู่ ตามภาพ
สุดท้ายคือ Claim Di ยังจับมือกับบริษัทในมาเลเซียเตรียมขยายไปยังตลาดมาเลเซียด้วย และประเทศอื่นที่กำลังเตรียมขยายตัวไปคือ ลาวและศรีลังกา ที่มีพาร์ทเนอร์ติดต่อเข้ามา รวมถึงจะลองไปยังตลาดญี่ปุ่นหรือเกาหลีเช่นกัน
Claim Di ถือเป็นบริษัทสตาร์ตอัพไทยที่มาแรงในปีนี้ และจับตลาดประกันภัยที่เป็นตลาดใหญ่ แต่ยังขาดแคลนการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เมื่อบวกกับทีมงานที่มีประสบการณ์โชกโชนอยู่แล้ว กับความเข้าใจวงการประกันภัยเป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่ได้รับเงินระดมทุนและขยายตัวได้อย่างรวดเร็วครับ
Comments
รอใครมาริวิว app นี้ที
จ๊อด ต่อไปเข้า ตลาดหลักทรัพย์ในห้าปี
ตอนนั้นเคยออกรายการ sme ตีแตก แต่ไม่น่าจะใช่ตัวนี้นะ อันนี้ใช้ได้ยั้ง