เมื่อวานนี้มีข่าวเครือข่ายทรูกับกสทช. สองข่าวได้แก่ ประเด็น 2G ที่อยู่ระหว่างการเยียวยา และการออกใบอนุญาต 1800MHz ตอนนี้ทางบริษัทได้ชี้แจงเพิ่มเติมมาแล้ว
สำหรับประเด็นใบอนุญาต 1800MHz บริษัทชี้แจงว่า
บริษัทฯ ได้ดำเนินการถูกต้องตามเงื่อนไขการรับใบอนุญาตของกสทช. ซึ่งมีกำหนดเวลาภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล คือต้องชำระภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นวันสุดท้าย อีกทั้งการที่บริษัทฯ ได้ชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz งวดที่หนึ่งเป็นเงินสดในจำนวนร้อยละ 50 ของราคาที่ประมูลได้ตามเงื่อนไขการชำระเงินในบ่ายวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20,492.72 ล้านบาท
ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการดำเนินการตามเงื่อนไขของกสทช. อีกทั้งประเทศชาติจะได้นำเงินสดดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ โดยบริษัทฯ มีเจตนาที่ไม่ส่งมอบหนังสือค้ำประกันในส่วนที่เหลือ เพราะจะทำให้เกิดการอนุมัติออกใบอนุญาตในทันที เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทไทยให้ความสำคัญกับเรื่องฤกษ์ที่เหมาะสมในการรับใบอนุญาตประกอบกิจการฯ เพื่อความก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรืองในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการขอรับใบอนุญาตจะต้องมีการจัดส่งหนังสือค้ำประกันให้กับสำนักงานกสทช. ซึ่งยังคงอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดคือ 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล
และประเด็นการขอทบทวนคำสั่งเยียวยา
บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้ส่งหนังสือเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ให้ กทค. พิจารณาทบทวนคำสั่งสิ้นสุดระยะเวลาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1800 MHz และ ที่ประชุมบอร์ด กทค. นัดพิเศษ ครั้ง 9/2558 บ่ายวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ได้พิจารณาเหตุผลต่างๆ แล้วได้มีมติรับคำขอทบทวนของบริษัทฯ ไว้พิจารณา โดยให้รวบรวมข้อเท็จจริงและวิเคราะห์ผลกระทบเพิ่มเติมในประเด็นดังต่อไปนี้ 1. รัฐได้รับความเสียหายหรือไม่ 2. ประชาชนได้รับผลกระทบหรือไม่ 3. บริษัทที่ชนะการประมูลในคลื่นความถี่ดังกล่าวได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้นหรือไม่ 4. บริษัทผู้ชนะการประมูลอีกรายได้รับผลกระทบหรือไม่ ดังนั้น การนำเสนอข่าวในประเด็นนี้จึงไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง และไม่ตรงตามมติของที่ประชุมบอร์ดกทค. ด้วย
จดหมายฉบับเต็มอยู่ท้ายข่าวครับ
Comments
อยากรู้มากครับ
ว่าใครดูฤกษ์ให้...
ระดับนี้น่าจะเป็นพวกซินแสดังๆระดับประเทศอยู่แล้วครับ
มีอยู่ไม่กี่คนหรอกผมว่า
อาจจะเป็นซินแสอยู่ในนั้นนะแหละ อิอิ
หมอหย....
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
อ่านผ่านๆ แล้ว...
ตอนแรกคิดว่าพิมพ์ ห หีบเกินมา
ลูกค้าทรูมูฟยังไม่หมดอีกหรอ? แล้วตอนลงทะเบียนซิมคือลงได้?
เวลาไปจ่ายรายเดือนช้า อย่าเพิ่งตัดนะ เพราะลูกค้าเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องฤกษ์ที่เหมาะสม เช่นเดียวกับผู้ให้บริการ
ถ้าผมต้องเลือกใช้บริการระหว่าง AIS กับ True
ผมเลือกไป AIS ไปแบบไม่ต้องคิด เชื่อมั่นกับบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจและวิธีคิดแบบสากลมากกว่า
แค่ฟังก็แหยงแล้ว กับบริษัทแบบไทยๆ คิดแบบไทยๆ เชื่อสิ่งงมงายมากกว่าการมองไปยังสิ่งที่จับต้องได้ ความก้าวหน้าในบริษัทต้องเกิดจากการลงมือทำ ไม่ใช่เรื่องของฤกษ์ยาม
สมมุติเปิดศูนย์บริการใหม่ บางบริษัทก็คงมองแต่เรื่องฤกษ์ยาม เปิดเมื่อไหร่ถึงจะก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง แต่อีกบริษัทกลับเปิดศูนย์ใหม่โดยโฟกัสว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด กลับมาใช้บริการอีก และมี brand loyalty ให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและก้าวหน้าอย่างยั่งยืน แนวคิดเหล่านี้ของบริษัทมันจึงสะท้อนภาพตัวสินค้าออกมาอย่างชัดเจน บริษัทนึงบริการลูกค้าไม่เอาอ่าว ก้นด่าทั่วพันทิป ในขณะอีกเจ้า ทุกคนรู้กันว่าบริการดีมาก ต่อให้จ่ายแพงแต่ก็อยากใช้
เรื่องนี้แหละคือความเชื่อมั่นของลูกค้า การ PR ตามข่าวนี้ไม่มีประโยชน์อะไร แถมยิ่งตอกย้ำว่าข่าวนี้เป็นจริง ความเชื่อมั่นมันเสียไปตั้งแต่เห็นแนวทางของบริษัทแล้ว
+1
ที่ true ยังอยู่ได้ก็เพราะ ลด แลก แจก แถมล่ะครับ (ถ้าวัดกันที่คุณภาพคงสู้คู่แข่งไม่ได้)
เรื่องบริการ AIS ดีกว่ามากจริงๆครับ
แต่เรื่องสัญญาณ Internet กับโปรโมชั่น ทรูกินขาดนะ
ผมไม่หนี AIS เพราะบริการ นี่แหละครับ เน็ท 4G ก็จะได้ใช้แล้ว
ได้ทำก่อนคนอื่นด้วยช่องทางวิธีพิเศษมาตลอดมันก็กินขาดสิครับ ♥
+1
เรื่องสัญญานเนต เราไห้ AIS สเถียรสุด 3 ค่าย
เรื่องบริการผมไม่เคยเจออะไรนะครับ
ถ้าผมเจอก็เรื่องเล็กน้อยๆ
ปล. โทรใช้ais net ใช้ ทรู bonus net ฟรี 3 เบอร์ ใช้ครบ 3 ปี x10 ไม่ต้องเสียงตังค์สักบาท
/>o</
"คิดแบบไทย" นี่อาจจะไม่จริงนะครับ
เพราะตึกบริษัทบนเกาะฮ่องกงเกือบทั้งหมด ดูฮวงจุ้ยและฤกษ์ครับ
ถ้าจำไม่ผิดคาสิโนที่สิงคโปร์ ก็สร้างตามหลักฮวงจุ้ยครับ (เป็นฮ้วงจุ้ยที่ใครเดินเข้าประตูนี้จะไม่รวยขึ้นมาครับ)
แสดงว่าต้องมีอีกประตู ที่ให้เจ้าของหรือพนักงานเดินเข้า
ย้ายจาก เอเอส มา ทรู เพราะว่าเจอค่าโทรศัพท์เค้าหาขอเซ็นเตอร์นาทีละ 3 บาทโทรไปตอนตีสองรอสายอยู่ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นก็พอกันทีย้ายเข้าทรูวุนถัดไปเลยครับ ค้นพบว่า Wi-Fi ฟรี ที่ผูกกับ mac และ สัญญาณเน็ตเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นมากมากกว่าตอนอยู่กับเอเอสเยอะ
ทั้งนี้เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อนได้แต่หวังว่าตอนนี้คุณภาพจะใกล้เคียงกัน
ถ้าเหตุผลเรื่องฤกษ์ยามคือเหตุผลหลักจริงๆ ก็แก้ด้วยวิธีแบบไทยๆ ไปเลยครับ ปกติเมืองไทยมักจะมีวิธีแก้เคล็ดอะไรแปลกๆ อยู่แล้ว แบบตัดสติ๊กเกอร์เอาไปติดหน้าซองว่าซองนี้สีชมพูเอ๊ยซองนี้ฤกษ์ดีเซ็นรับวันที่ blah blah blah
เหตุผลจริง ผมว่าเตรียมเปิด 2g 850 แทน 1800 ที่มีอยู่มากกว่า สลับยังไม่เสร็จ มีบางคนเจอแล้ว แอบเปิดเงียบๆอยู่ เรื่องฤกษ์มันตอนไหนก็ได้ อาทิตย์นี้ก็น่าจะมีแหละ แต่ส่วนตัวผมเชื่อ
pantip.com/topic/34489672
คลื่นที่เปิดเป็นคลื่นของ cat ที่ยังว่างอยู่อีก 5 mhz
น่าจะเกี่ยวกับสัมปทาน ที่ต้องกลายเป็นของ cat
https://www.cellmapper.net/arfcn?net=GSM&ARFCN=209&MNC=0
/>o</
เรื่องฤกษ์ยามผมเชื่อ ยิ่งบริษัทที่เจ้าของเชื้อสายจีนด้วยแล้ว ผมว่าหลายบริษัทเลย แต่ที่อึ้งคือ ไม่คิดว่าทรูจะยกเรื่องฤกษ์ยามมาเป็นเหตุผล
อ้างกรอบ 90 วัน อันนี้ผมไม่ติดใจนะ มันเป็นสิทธิ์ที่กระทำได้ แต่ระหว่างการใช้สิทธิ์เพื่อรอเวลา จะด้วยเหตุผลอะไรก็เถอะ แต่คุณไม่ควรจะมาขอให้ยืดเวลาระงับคลื่น 1800 เดิมนะ
ขอทราบอรรถประโยชน์จากการถือฮวงจุ้ย?
มันน่าจับยัดลงฮวงซุ๊ยให้หมด
ระวังมัวแต่รอฤกษ์จนได้เลิกนะครับ
พูดไม่ออกเลย...
นี่มันธุรกิจนะเฮีย ไม่ใช่ขึ้นบ้านใหม่
เอาที่สบายใจครับ แต่น้องอุ่นใจไม่ยอมเสียวันละ 6 ล้านน่ะ
เป็นทั้งลูกค้าและตัวประกัน
ผมนี่อึ้งไปเลย แต่ก็รู้สึกดีที่พูดข้อมูลตรงกันทั้งสองฝ่ายนะ
ตำแหน่งใหม่
COO
Chief Oracle Officer
ต้องมี COD ด้วยนะครับ
Chief Oracle Director
ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชาว Blognone ถึงมีปัญหากับการดูฤกษ์ยามของ True กันจัง ตามที่ชี้แจงเขาก้บอกว่ามันไม่ได้ผิดกติกานี่ (อยู่ในระยะเวลา 90 วัน) ไม่มีปัญหานะ ท่านทั้งหลายที่ด่า ๆ กันเนี่ยคงไม่ไปทำซะเองหรอกนะ จะบวชวันไหนต้องดูฤกษ์ จะสึกวันไหนต้องดูฤกษ์ ซื้อบ้านใหม่ต้องขึ้นบ้านใหม่ ย้ายเข้าวันไหนต้องมีฤกษ์ ซื้อรถใหม่จะไปรับรถวันไหนก็ต้องดูฤกษ์ แต่งงานวันไหนก็ดูฤกษ์ (ทั้งหมดที่กล่าวมา ผมทำบุญขึ้นบ้านใหม่อย่างเดียว นอกนั้นเอาที่สะดวกหมด) นี่เขาลงทุนระดับพันล้านหมื่นล้าน เขาจะดูฤกษ์มันจะแปลกยังไงเหรอครับ? ถ้า True มาทำโฆษณาขายเบอร์มงคลกับ Blognone ก็ว่าไปอย่าง อันนี้ผมว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์คิดผิดอย่างแรง มันไม่น่าใช่กลุ่มเป้าหมาย (ซึ่งก็เคยมีมือถือค่ายหนึ่งทำมาแล้ว จำไม่ได้ว่ายี่ห้อไหน)
ส่วนเรื่องเตะถ่วงนี่อีกประเด็นนึง ผมว่าน่าเกลียดมาก ทำยังกะเพิ่งรู้ว่าสัญญาตัวเองจะหมด (ซึ่งจริง ๆ เขาใจดีต่อให้มาหลายทีแล้ว) กทค. ก็ดันบ้าจี้รับเรื่องซะงั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ตีตกไปเลยให้จบ ๆ ไป จะต่อกันไปถึงไหน?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าอ้างเรื่องขั้นตอนกระบวนเอกสารที่ล่าช้าผมว่าจะสมเหตุสมผลมากว่าเรื่องดูฤกษ์ยาม ซึ่งมันไม่มีเหตุผลสักเท่าไรนะครับ ดูไม่มีความเป็นมืออาชีพ แบบสิ่งที่ทำมาจนรวย ไม่ใช่มาจากความเก่ง แต่มาจากฤกษ์ ดวงดี
เรื่องนี้ไม่เห็นต้องใช้เหตุผลอ้างเลยครับ ถ้ามันยังอยู่ในกติกา เค้าจะเลือกวันไหนก็ได้ แต่ถ้าทำตามกติกาไม่ได้สิ ถึงต้องหาเหตุผลมาชี้แจง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่ทรูก็อ้าง เรื่องดูฤกษ์นะครับ
อารมณ์เหมือนคุณฝากผีฝากไข้ให้กับคนที่ปล่อยให้โชคชะตากำหนดชีวิตของเขาหน่ะครับ
ผมคงตอบแทนผู้อ่าน Blognone ไม่ได้ทุกคนนะครับ แต่เชื่อว่าจำนวนไม่น้อยเชื่อมั่นใน math & science เลยมีปัญหากับฤกษ์ยามและโหราศาสตร์ครับ
สงสัยว่าชาว Blognone ไม่เคยได้กิติศัพท์เรื่องเคร่งฮวงจุ้ยของเจ้าสัว CP เลยเหรอ? มากกว่า
แค่ที่ผ่านมาไม่ได้ออกสื่อเท่านั้นเอง
มันคือภาพลักษณ์องค์กรครับ คุณนำเสนออะไร คนก็จำสิ่งนั้นแหละ
เขาเป็นบริษัทเทคโนโลยี สินค้าคือผลผลิตจากวิทยาการ แต่ดันประกาศอะไรแบบนี้มา แล้วลูกค้าจะรู้สึกยังไงครับ ทุกครั้งที่ติดต่อศูนย์ให้แก้ปัญหาให้ต้องดูฤกษ์ก่อนมั้ยว่าจะแก้ปัญหาได้หรือเปล่า? เวลาจะโทรออกต้องตั้งนะโมสามจบเพื่อให้โทรติดด้วยมั้ย?
ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามัน awkward พอๆ กับการที่คุณเห็นข่าวกระทรวงไอซีทีนิมนต์พระมาพรมน้ำมนต์ หรือแม้แต่การบวงสรวงเซิร์ฟเวอร์ด้วยธูปเทียนดอกไม้ผ้าแพรเจ็ดสีครับ
ผมว่าคนทั่วไปไม่มีปัญหากับการมีความเชื่อ เพียงแต่ถ้าจะทำก็ทำเงียบๆ ไป (ผมเชื่อว่าน้องอุ่นใจก็มีอะไรแบบนี้) แต่ไม่น่าเอามาใช้เป็นเหตุผลครับ ไม่พูดยังดีกว่า
มีความสามารถทำธุรกิจจนเจริญรุ่งเรืองได้ แต่กลับดูถูกตัวเองและยกเครดิตให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซะงั้น
โดนใจความคิดนี้มากๆ
มันใช่เลย
มันต้องมีเงี่ยนงำอะไรแน่ๆ
อาจจะใช้ความเชื่อเป็นข้ออ้างที่ติดขัดอะไรสักอย่างอยู่
หรืออาจจะแค่แย่งพื้นที่สื่อเรียกร้องความสนใจกันง่ายๆ เลย
หรืออาจจะแย่งเพื่อปิดบังข่าวอย่างอื่นอีกทีก็ได้
แก้เคล็ดแบบที่เขาทำสิครับ เช่น "ใบอนุญาตนี้สีชมพู"
ฤกษ์ยาม ฟังดูก็เหมือนตลกนะครับ อาจจะด้วย หมอดูหมอเดาที่เราเจอกันเกลื่อนด้วยแหละครับ
ส่วนว่ามันเป็นไปได้มั้ย? ฤกษ์ยามนี่ผมไม่ค่อยชัวร์ แต่ถ้าฮวงจุ้ยนี่เกี่ยวแน่นอนครับ ถ้าลองเปิดใจสักนิดจะรู้ว่าตามหลักฮวงจุ้ยนี่ว่าไปแล้วก็เป็นไปตามหลักการหาที่ดินสวยที่ดินที่ทำกำไรกันทั้งนั้นเลยครับ
อย่างที่ตรงทางแยกมันก็ไม่เหมาะตามฮวงจุ้ย แต่จริง ๆ แล้วเพราะมันเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยกว่าที่อื่น ถ้ามีอุบัติเหตุมันก็มีความรุนแรงตั้งแต่ไม่มีใครบาดเจ็บจนไปถึงเสียชีวิตได้เลย ถ้าเลี่ยงมาตำแหน่งที่ไม่ใช่ทางแยก มันก็มาดูเรื่องการสัญจรอีกว่าถนนเข้าออกมันเหมาะมั้ย ตามหลักอะไรของเค้าก็แล้วแต่ แต่จริง ๆ ก็คือ ถ้าสัญจรสะดวก ทางไม่แคบจอดรถข้างทางได้ มันก็น่าจะสนับสนุนธุรกิจ เป็นต้นครับ (ส่วนฮวงจุ้ยบ้านเค้าก็จะดูอีกแบบ)
แต่ถามว่า การดูฤกษ์ของ True มันตลกมั้ย? ผมก็รู้สึกตลกเพราะผมไม่เชื่อ แต่คนไทยหลายคนอาจจะเชื่อกับเรื่องนี้ และยอมมาใช้บริการ True ด้วยเหตุผลนี่เลยล่ะครับ (อาจจะเพราะกลุ่มเป้าหมายของ True คือกลุ่มประชาชนที่เชื่อเรื่องพวกนี้ ลุ้นหวยทุกครึ่งเดือน ตามหาเลขทุกอาทิตย์ ดูฤกษ์แต่งงาน ตามหาเบอร์สวย ผมว่ากลุ่มคนเหล่านี้กำลังซื้อไม่น้อยเลยนะครับ และไม่สนใจด้วยว่าจะต้องเป็นของแบรนด์เนม)
ส่วนว่ามันเวิร์คมั้ยผมไม่แน่ใจ แต่เจ้าสัวก็แทบจะครองประเทศจนหลายคนออกมาต่อต้านกันเป็นพัก ๆ (แต่ทำอะไรไม่ได้ Strong มาก)
พอถึงย่อหน้าท้ายๆ นี่ความสมเหตุสมผลก็เริ่มจะมากขึ้นแล้วครับ ทำให้ผมสามารถคล้อยตามได้เลย และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ก็เป็นไปในทำนองนั้นจริงๆ ด้วย
ทำไมคนแถวบ้านผมยังใช้aisกันอยู่ทั้งๆที่ก็ยังดห็นเล่นหวยกันทุกงวด บางงวดก็ตีความฝันกันสนุกสนาน ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกันอย่างแรง
ความสมเหตุสมผลของผมในที่นี้คือการเอาเรื่องฤกษ์ยามมาเพื่ออ้างอะไรสักอย่างครับ
ผมว่าเรื่องความเชื่อการดูฤกษ์ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องการที่คนจะเลือกมาใช้บริการสินค้านั้นๆก็น่าจะอีกเรื่องหนึ่งหรือเปล่าครับ
การจะเลือกใช้เครือข่ายของผู้ให้บริการเจ้าไหน แม้คนๆนั้นจะเชื่อเรื่องแบบนี้ แต่ผมว่สคงไม่มีใครเอาเหตุผลนี้มาเลือกซื้อของกัน ผมเชื่อว่าคนเลือกเพราะคุณภาพและบริการมากกว่าเลือกเพราะพื้นที่ที่เราิยู่เตนื่อข่ายนั้นๆสัญญาณดีมากน้อยเพียงใดมากกว่า
เหมือนตอนที่เราซื้อรถ คนที่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็จะดูแค่สีรถที่ถูกโฉลกกับตัวเองและดูฤกษ์วันที่ไปรับรถ หรือเอาไปให้พระที่เคารพนับถือเจิมประพรมน้ำมนต์ แต่ไม่มีใครดูว่ารถต้องtoyota honda หรือbmw ถึงจะถูกโฉลกน่ะครับ
ผมไม่ได้หมายถึงแง่มุมนั้นครับ ผมหมายถึงมุมมองจากผู้ให้บริการในการที่จะยกเหตุผลอะไรสักเรื่องมาอ้างเพื่อประโยชน์อะไรสักอย่างของตัวเอง (ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องยอดขาย) แต่เป็นการอ้างขึ้นมาเพื่อตัดบท เพราะเมื่อเวลาที่ยกเหตุผลนี้มาแล้วคนส่วนหนึ่งก็พร้อมที่จะหมดคำถามไม่ถามอะไรต่อ เพราะถูกคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ล้อมกรอบความคิดเอาไว้
ส่วนเรื่องดวง โชคลาง ฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้นผมเป็นประเภทที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเรื่องพวกนี้อยู่แล้วครับ รถไม่มีการเจิม ไม่มีถูกโฉลกมีแต่ถูกใจ ไม่ดูฤกษ์ ไม่มีเครื่องรางของขลัง
คือมันไม่ใช่ทั้งหมดของปัจจัยการเลือกซื้อของน่ะครับ แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นปัจจัยนึง ถ้าหากทุกอย่างมันเหมือนกันหมด บริการดีเท่ากัน ราคาเท่ากัน
แล้วอยู่ดี ๆ มีคนบอกว่า เจ้านี้เค้าขายของปลูกเสก ตามฤกษ์ยาม
ผมเชื่อว่าคนไม่น้อยที่เลือกเพราะสิ่งนี้
ส่วนพวกเราชาวไอที คงจะมานั่งหาเหตุผลอื่นต่อ อย่างเช่น พ่อแม่เคยใช้มาก่อน หรือเราเคยใช้มาก่อน ประมาณนั้นครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่เค้าอ้างเรื่อง ฤกษ์เนี่ย มันตัดบทง่ายครับ ถ้าเอกสารมันช้า ทำไมไม่ทำให้เสร็จเร็วขึ้นมาล่ะ เงินก็มี คนก็เยอะ
แต่ถ้าอ้างฤกษ์ ทีนี้เค้าจะไปเอาคลื่นวันไหนก็ขัดเค้าไม่ได้ครับ
งงครับ กำหนดเวลาภายใน 90 วัน เลยออกมารับช้า แล้วจะออกมาพูดเรื่องฤกษ์ยามทำไหม บริษัทเทคโนโลยีแบบนี้ไม่น่าพูดแบบนี้เลย พนักงานผู้บริหารทำงานสร้างกันมากลับไปยกประโยชน์ให้อะไรไม่รู้เหอะๆ หาเหตุผลอื่นมาหรือชี้แจ้งมาว่ารับได้ภายใน90วันแต่แรกเลยยังดีกว่า
ปล. หรือที่ทำมาจนถึงทุกวันเพราะโชคล้วนๆ
หูกระจง ควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน
ถ้าไม่ได้ ฤกษ์ยาม ช่วยไว้
กิจการ คง เจ๊ง พินาศ ฉิบหายไป นานแล้ว ......
ตัวเขา คง เชื่อมั่น แบบนี้
ที่รอดมาได้ เพราะ ฤกษ์ ไม่ใช่ คนทำงาน
ดูฤกษ์ยาม ดูฮวงจุ๊ย แล้วเคยดูศีลธรรมบ้างไหม
เชื่อแต่พวกหมอดู แต่ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมบ้างเหรอ
ผมไม่เชื่อเรื่องดวงนะ คือถ้าให้ความสำคัญเรื่องนี้จนต้องทำผิดข้อตกลงคงไม่เห็นด้วย แต่นี่ถ้ายังอยู่ในกำหนดตามที่เค้าชี้แจง เค้าจะเชื่อดวง เชื่ออะไร ก็ไม่เดือดร้อนคนอื่นหนิครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เรื่องดวงนี่ ผมว่ามันมีส่วนไม่น้อยครับ คนประสบความสำเร็จเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเฮงด้วย
ไม่ต้องใคร Steve Jobs ไอดอลผมเนี่ยแหละ เก่งมากจริง ๆ ครับ แต่กว่าแกจะมาถึงจุดนี้ได้ล้มลุกคลุกคลานไปมาก ดวงแกมาดีที่ได้ ทิม คุกช่วยจัดการบริหาร ทำให้มันกำไรได้ขนาดนี้
หรือบิล เกตส์ เก่งมั้ยก็เก่งอยู่แล้วล่ะ แต่ถ้า ดวงแกไม่ดี ไม่ได้ทันเห็นข่าว IBM อะไรแบบนี้
แต่ถ้าดวงล้วน ๆ มันก็ไม่มีวันไปไหนหรอกครับ อยู่ตามบ่อนการพนันเนี่ยแหละ
ผมเชื่อเรื่องเก่ง+ดวงนะครับ ถ้าจะพูดทางวิทยาศาสตร์ ผมเชื่อเรื่องปัจจัยที่ควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้ (อย่างหลังนี่ต้องอาศัยดวงเน้น ๆ เพราะเราทำอะไรกับมันไม่ได้เลย)
ทีนี้ต่อให้เราเก่งแค่ไหนแต่ถ้าก็ต้องคอยระวังตัวปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ให้ดี จังหวะ โอกาส นี่เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องเข้าให้ถูกจังหวะ เวลา ตามแต่โอกาสที่เข้ามา ปัญหาคือบางทีรอเป็นชาติ มันไม่มีโอกาสเลยนี่สิ มันก็มีครับ บางทีขายของตลาดนัด ฝนมันตกทุกวันที่เราขายเลย จะบอกว่าเราไม่ได้ดูพยากรณ์ก็ไม่ใช่ เพราะพยากรณ์อากาศมันก็พยากรณ์ได้แค่คร่าว ๆ เป็นความน่าจะเป็น แถมค่าเช่าที่เราเช่าระยะยาว
สุดท้ายแล้วผมอยากฝากบอกว่า ทุกอย่างมันไม่ใช่ ขาวกับดำครับ เชื่อเรื่องฤกษ์ยาม ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่เชื่อความสามารถคน
เค้าอาจจะเชื่อทั้งคู่ก็ได้ครับ
เอาล่ะครับสุดท้ายแล้ว ฤกษ์ยาม มันไม่ใช่แค่หมอดูครับ แต่รวมถึง จังหวะที่เราพร้อม เงินมี คนมี เวลามี นั่นก็ถือเป็น ฤกษ์ยามอย่างนึง
เหมือนผม ฤกษ์ยามที่ดีในการออกจากบ้านไปทำงานวันจันทร์คือ ก่อน 7 โมงครับ ถ้าไปหลังจากนั้นอาจจะบรรลัยชีวิตได้ (เพราะรถติดไปทำงานสาย) แต่ต้องไม่ออกก่อน 6 โมงเช้า เพราะเราจะทานข้าวเช้าได้ไม่เต็มที่ ทำให้หิวเร็ว ก่อนเที่ยงเริ่มหมดแรงทำงาน ทำให้ทำงานไม่ดีเป็นต้นครับ ^ ^