หลังจากที่ได้มีการปล่อยตัวอย่าง Gameplay ออกมาที่งาน PlayStation Experience 2015 แล้ว ทาง Square Enix ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกม Final Fantasy VII Remake ว่าตัวเกมจะกลายเป็นเกมซีรีส์ที่วางจำหน่ายแบ่งออกเป็นตอน ๆ ไป (เช่น Episode I, Episode II, ...) โดยแต่ละตอนที่วางจำหน่าย จะมีประสบการณ์ในการเล่นให้แก่ผู้เล่นที่แตกต่างกันออกไป
แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลแต่อย่างใดจากทาง Square Enix ผู้พัฒนาเกม ว่าการแบ่งเกมนี้ออกเป็นตอน ๆ หมายความว่าอย่างไรกันแน่ แต่จากข้อมูลที่นาย Takashi Mochizuki นักข่าวของ Wall Street Journal ซึ่งได้ไปพูดคุยกับทาง Square Enix ไว้แล้ว พอจะสรุปได้ว่า Square Enix จำเป็นที่จะต้องแบ่งเกม Final Fantasy VII ออกเป็นหลาย ๆ ตอน เนื่องจากเนื้อหาและข้อมูลของตัวเกมมันเยอะมาก ๆ
Mochizuki ยังบอกอีกว่า เนื้อหาหลักในเกม จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แต่จะมีฉากใหม่ ๆ และเนื้อหาใหม่เพิ่มเติมเข้ามาเพิ่มอีกมากในภาค Remake นี้
and SquareEnix says FF7 Remake's data size so huge; the software will be split into several titles (for example, FF7-Remake 1, FF7-Remake 2)
— Takashi Mochizuki (@mochi_wsj) December 7, 2015
เกม Final Fantasy VII ภาค Remake ยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผู้เล่นบน PlayStation 4 จะได้เล่นเกมนี้ก่อนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
สำหรับแฟน ๆ เกมนี้ที่สนใจ เกมภาค Remake นี้ Nobuo Uematsu จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเพลงประกอบหรือ Soundtrack ให้กับตัวเกมนี้ครับ
ที่มา - Kotaku, IGN และ PlayStation LifeStyle
ความเห็นส่วนตัวผู้เขียน: ผมเห็นด้วยกับการแบ่งเกมนี้ขายเป็นตอน ๆ เนื่องจากผมเกรงว่าถ้าปล่อยให้ Square Enix ทำเกมนี้ให้สมบูรณ์แบบและมีความครบครันในด้านเนื้อหาที่สุด เราอาจจะไม่ได้เกมนี้เลยไปอีกหลายปี ผมอยากเห็นเกมที่มีความสมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกันผู้เล่นที่รอคอยเกมนี้มานานสามารถได้ตัวเกมมาเล่นภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
ตอนนี้ที่น่าสนใจคือ Square Enix จะเลือกให้ Final Fantasy VII Remake เป็นเกมแบบ Open world หรือจะเป็นแนว Story-telling ตรงดิ่งแบบ Uncharted? และจะทิ้งระยะเวลาในการรอตอนใหม่นานแค่ไหน? จะมาแนวปีละครั้งเหมือน Assassin's Creed หรือเปล่า
Comments
พอเข้าใจเหตุผล จักรวาลมันใหญ่มากหน่ะ อาจจะยัดลง BD ไม่ได้ในแผ่นเดียว
แต่ผมอยากให้แบ่ง Part แล้ววางขายพร้อมกันไปเลยดีกว่า
รอแต่ละ Part เป็นปีๆ กลับมาเล่นอีกทีอารมณ์มันไม่ต่อเนื่อง
อย่าลืมซื้อ Day One Season Pass $299 :D
@TonsTweetings
คิดเหมือนกับผู้เขียนครับ รอมันเขียนจนเสร็จ เราอาจจะไม่ได้อายุยืนกันขนาดนั้น 555
แต่เดี๋ยว เห้ยเนื้อเรื่อง FF7 มันก็ไม่ได้ยาวอะไรมากมาย มาแบ่งๆ กันงี้ แล้วจะซอยกันยิกยังไงอะ
ตบโต๊ะ คิดไว้อยู่แล้ว แต่สมเหตุสมผลนะครับ
I will change the world, to the better day.
อยากรู้ราคาและความยาวของแตละตอนด้วยครับ ... ถ้ารวมทุกตอนแล้วแพงกว่าแผ่นเดียวแบบปรกติมากผมก็คงถอย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ต้องรอ complete edition
คงจะมีแต่ Bundle pack ซื้อเหมาวันนี้ได้เล่นทันทีที่ตอนใหม่ออก (ตอนซื้อยังไม่ออกแต่จ่ายก่อนนะจ๊ะ)
เราจะมีโอกาสช่วยให้แอริธไม่ตายครับ โดยวัดจากตัวเลือกต่างๆตลอดทั้ง episode.
แต่พอจบ episode ก็ตายอยู่ดี
Telltale present...Final Fantasy VII.
เหมือนละครบางช่องสินะ ถ่ายไปฉายไป เห้ย..เรตติ้งดีว่ะ ดึงๆ ไว้อย่าให้มันจบง่ายๆ 555
แต่บางเรื่อง เรทติ่ง ดีมาก แต่อยู่ๆ ก็โดนตัดจบ ... 555555555
The Dream hacker..
ไม่ใช่บางช่องหรอกครับ Series ฝรั่งแต่งเรื่องเพิ่มทุก Season
เคยคิดเล่น ๆ ว่าโคนามิก็คงอยากจะทำแบบนี้กับ Metal Gear Solid V เพราะเกมมันยาวมาก จนทำไม่เสร็จ แล้วก็ออกมา แล้วก็ดราม่า
ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า ที่ชอบว่ากันว่า FF7 เนี่ย ข้อมูลเยอะ เนื้อเรื่องเยอะ ยาว ใส่ไม่ไหว พูดกันทุกครั้งเวลาพูดถึงการรีเมคนี่มันจริงหรือเปล่า? หรือมันเป็นแค่การตลาด อุปทานหมู่กันไปเอง พูดกันตลอดจนคิดไปว่าเป็นเรื่องจริง
ผมมีเหตุผลสนับสนุนความสงสัยของผมดังนี้
1.ผมจำได้ว่า สมัยที่เคยเล่นจนจบตามปกติ แบบไม่อ่านบทสรุป เล่นตามเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ตามเก็บของเก็บความลับอะไรมากมาย เกมนี้กินเวลาประมาณ 50ชั่วโมง
ซึ่งเทียบกับเกมสมัยปีที่เกมนี้ออก ก็นับว่ายาว เป็นมาตรฐานใหม่
แต่เทียบกับเกม RPG หรือเกม action ปัจจุบัน ที่เป็น openworld มีบทพูด มีเนื้อเรื่องย่อย ไม่ใช่openworld แบบโหวงเหวง หลัก 50ชั่วโมง 100ชั่วโมงนี่ ปัจจุบันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ว่าไม่มีใครทำได้ ยิ่งถ้าจะเอาทุกอย่าง กดกันไปหลายร้อยชั่วโมง
2.ตัวเกมสมัย ps1 ที่สร้างความฮือฮาด้วย CD 3แผ่น ข้อมูลแทบทั้งหมด คือไฟล์มูฟวี่ จำได้เลาๆว่าผมเคยเห็น ไฟล์ rip มูฟวี่ทิ้งของเกมนี้ ขนาดจริงๆ 5-600MBเอง
3.ที่ว่า cd3แผ่นสมัยนั้น เอาจริงๆ แผ่นที่3 แทบไม่มีเนื้อเรื่องอะไรแล้ว อีกนิดเดียว สู้บอสจบแล้ว
ผมเลยตั้งข้อสังเกตุ ว่าจริงๆ การสร้างปรากฏการณ์ในสมัยนั้น ทำให้คนเกิดภาพจำ ว่า FF7ต้องใหญ่ ต้องเยอะ ต้องจุ BD ไม่พอ
เหมือนคนจำว่า Cry Engine ต้องกินเสปค
จำว่า เกม Blizzard ต้องเจ๋งทุกเกม
แต่ในยุคปัจจุบัน เกมที่ใหญ่กว่า ยาวกว่า FF7มีมากมาย ก็ยังทำกันได้ไม่ได้ใหญ่เวอร์อะไร การแบ่งซอยเกมขายแบบนี้ น่าจะเป็นเหตุผลทางการตลาดมากกว่าเหตุผลทางเทคนิค
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาเกมออก ทุกคนก็คงได้รู้กันว่าเกมนี้มันใหญ่จริงไหมครับ
ผมเห็นด้วยเลย เทียบกับเกมช่วง 3-4 ปีนี้ที่เล่นนานๆรายละเอียดเยอะ กราฟฟิคหนักอย่าง Bioshock Infinite, Wolfenstein ใช้เวลาพัฒนานานหลายปีก็จริง แต่ก็ไม่ได้นานอะไร 4-5 ปี แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่เห็นต้องแบ่งซอยเป็นภาคย่อยๆเลย
เรื่อง remake FF7 นี่ลองนึกถึง Diablo 3 เข้าไว้ครับ
ก่อนเกมออกกระแส hype กันเต็มเน็ตเพราะภาคก่อน ทำไว้ดีมาก กว่าจะรีเมครอเกือบ 15 ปี
พอเกมออกสัปดาห์แรกขายได้ 20 ล้าน ทำลายทุกสถิติ
ทุกวันนี้เป็นไงครับ....... คนลืมไปแล้วมั้งว่า Diablo 3 มันยังไม่จบ ยังมีอีก expansion ที่ยังต้องเก็บเงินซื้อ นี่ขนาดไม่ได้ออกช้ามากนะเนี่ย (ภาคละ 2 ปี)
ที่บอกว่าข้อมูลเยอะ รายละเอียดเยอะ เนื้อเรื่องเยอะ Diablo ก็เป็นครับ จักรวาล Blizzard นี่รายละเอียดเยอะกว่า Final Fantasy มาก แต่ลองดูบทพูดในเกมสิครับ ขนาดใช้เวลาพัฒนาหลายปีได้เงินไปตั้งเยอะ บทพูดยังกะหลุดมาจาก Cartoon Network (ผมยังเซ็งคาแร็กเตอร์ของ Azmodan กับ Malthael อยู่ทุกจนถึงทุกวันนีเลย)
เพราะเค้ามีฐานแฟนบอยที่พร้อมซื้อเก็บอยู่แล้ว ดังนั้นเค้ามองที่ทำกำไรมากๆ หลายๆต่อไว้ก่อน
เล่นไม่อ่านสรุป!!! ผมจำได้ว่ามีอยู่ฉากหนึ่งออกจากเมืองไม่ได้ถ้าไม่ไปคุยกับใครบางคน ภาษาญี่ปุ่นอีกต่างหาก
ไบแอสแบบสุดๆ เอา ชั่วโมงการเล่น RPG เล่นแบบไม่เก็บรายละเอียดอะไรเลย มาเทียบกับเกม openworld แบบเก็บ sub story หมด lol
FF7 แค่ปั้นโบะทองน่าจะกินเวลาไป 10ชั่วโมงได้แล้วมั้ง เก็บฟัน 4ทีในโกลเซาเซ่ออีก lol
openworld เล่นแบบตรงไปจบเลย ไม่มีเกมไหนเกิน 50ชั่งโมงซักเกม
ผมว่าเขาแค่ตั้งข้อสงสัยในฐานะคนที่ไม่เคนเล่น FF7 ครับ เพราะชั่วโมงเล่นที่ว่านี่ถ้าเล่นแบบให้จบเฉยๆ มันนานเท่าไร และเล่นแบบจบ 100% มันนานเท่าไร อย่าง Witcher 3 ถ้าเล่นแค่จบเฉยๆ CD Red Projekt บอกว่าประมาณ 50 ชั่วโมง แต่ถ้าจบ 100% บอกว่าประมาณ 200 ชั่วโมงครับ
เขาเขียนค่อนข้างชัดนะครับว่าเคยเล่น FF7
บังเอิญว่าอ่านแบบ skimming หน่ะครับ เลยไม่เห็นทุกคำ
ปั้นโบะทอง 10 ชม นี่ไม่ได้ทำให้ data เยอะขึ้นกว่ายอมให้ปั้น 1 ชม นี่ครับ
ff9 นี่ก็ขุดกันสนุกเลย นานไม่แพ้กัน.....
ถ้าไฟล์ของภาครีเมคจะใหญ่นี่คงเป็นเพราะ texture นี่แหละครับ ตัวประกอบ Big Wedge Jessie ยังอลังการเลย
ครับ ผมไม่เคยเล่น FF7 แบบเก็บทุกอย่าง แต่ผมก็เล่นแบบคนธรรมดาเล่นนี่แหละครับ ไม่ได้เปิดบทสรุปวิ่งตรงดิ่งให้จบ ก็งม แก้ปริศนา หาของ เท่าที่เกมจะออกแบบมาให้ทำ มันก็ประมาณ 50 ชั่วโมง
แล้วมันต้องสักกี่ชั่วโมงล่ะครับ สำหรับการเก็บหมด
เท่าที่ผมทราบระบบเกมยุคนั้น ยกตัวอย่างอย่างการปั้นโจโกโบะก็ได้ ปั้นเป็น 10 ชั่วโมง แต่10 ชั่วโมงนั้น มันคือการอดทน ปั้มเลเวล, รอเวลาเสาะหาโอกาสที่จะจับโจโกโบะได้จากการสุ่ม ,รอเวลาโอกาสการได้ไอเทมที่สำคัญ จากการสุ่ม, แข่งวิ่ง,
แล้วระบบปั้มเลเวล หรือเสาะหาของหายากที่โอกาสได้เกิดจากการสุ่มแบบเกม JRPG แบบนี้ เราเอามาอ้างอิงว่าคอนเทนต์มันเยอะได้หรือครับ จะสำเร็จใน10ชั่วโมง หรือ 1000 ชั่วโมง คอนเทนต์มันก็เท่าเดิม
แล้วนี่ไม่ใช่แค่เรื่องโจโกโบะ การเก็บรายละเอียดให้ครบในเกม JRPG แบบนี้ หมายถึงการอดทนทำสิ่งซ้ำๆ อย่างยาวนานอีกจำนวนมาก ทั้งที่จำเป็นต้องทำ เช่นการเก็บเลเวลให้พอปราบบอส หรือสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ เช่นการเสาะหาไอเทมพิเศษ หาศัตรูหายาก
ซึ่งถ้าเรามาคิดกันดีๆ ระบบนี้เกมยุคปัจจุบันเกมไหนๆ (โดยเฉพาะเกมที่มีคุถภาพเกรด A ไม่ใช่ open world โล่งๆ)ก็พยายามหลีกเลี่ยงทั้งนั้น พยายามทำให้เกมไม่ซ้ำซาก มีเนื้อเรื่องเพิ่ม มีเกมเพลย์ใหม่ อะไรแบบนี้มากกว่า ซึ่งการทำแบบนี้ต่างหากที่มันเพิ่มคอนเทนต์ โมเดลใหม่ asset ใหม่ สถานที่ใหม่ เสียงพากย์เพิ่ม สคริปต์เพิ่ม
ผมไม่ได้เอาชั่วโมงการเล่นมาเทียบตรงๆดื้อๆครับ ผมกำลังเทียบเรื่องปริมาณคอนเทนต์ ว่าเกมระบบJRPG ยุคเก่าในความทรงจำอันหอมหวานนี้ สร้างชั่วโมงการเล่นเพิ่มได้โดยไม่เพิ่มปริมาณข้อมูล โลกในเกมที่เราจำได้ว่ามันใหญ่ มันใหญ่ขนาดนั้นจริงๆหรือครับ
โลกวิดิโอเกมปัจจุบัน เราเดินมาไกลจากจุดนนั้นมากแล้วนะครับ
คอนเทนต์หนักๆ เลยลองดูหมู่บ้าน
Costa del sol
Icicle Inn
Rocket Town
Midgar
Wutai
..Etc
เกมปัจจุบันเกมไหนสร้างแบบนี้ได้เหรอครับ แต่ละฉากต่างกันสุดขั้ว
เห็นมีแต่ reuse ฉากกันทั้งนั้น ขนาด Fallout ฉากยังซ้ำๆ คล้ายๆ กันเลย
ที่คุณว่ามามันแค่ theme ของแต่ละเมืองที่แตกต่างกันออกไปเฉยๆไม่ใช่หรอครับ มันต่างสุดขั้วกันตรงไหน
ถ้าแค่ไอความหลากหลายของเมือง มันมีอยู่ในเกม Fantasy สมัยใหม่หมดแล้วครับ
ลองดูเกม Darksiders, Bioshock, World of Warcraft พวกนี้ครับ
โดยเฉพาะ WoW เนี่ยเมืองหลวงงของแต่ละเผ่านี่อลังการงานสร้างเทียบกันแล้ว FF7 เป็นขนมเลย
เอาแค่ที่ไม่ต้อง reuse รายละเอียดมันก็เยอะกว่า FF7 แล้วครับ -0-
นึกไม่ออกลองเล่น FF14 ดูครับ แล้วมาเทียบสภาพตัวเมืองแต่ละเมืองกับ WoW อลังต่างกันไหม?
อีกอย่าง Darksiders, Bioshock ที่ว่าน่ะ reuse เพียบครับ
(Bioshock เมืองก็ไม่ได้กว้างนะ มันวิ่งวนไปวนมา)
เอาแค่มอน FF7 มีหลักร้อยนะที่ใช้ model ต่างกัน (ถ้ารวมเปลี่ยนสีก็หลายร้อย)
ส่วน FF7 น่ะเมืองมีมากกว่าที่ผมบอกไว้เยอะนะ พอหลุดไปอีกเมืองนึงของเก่านี่แทบจะ reuse ไม่ได้เลย
ตัวอย่างเช่น เมืองนึงเป็นยุโรป(Nibleheim) พอหลุดมาอีกเมืองก็เป็นเมืองจีน(Wutai) ซึ่งถ้าเอามาทำตามเสกลจริง map มันกว้างใหญ่มากๆ เพราะในเกมมันเดินถึงกันหมดเลย
Content ใน FF7 มันเยอะเท่า FF14 หรือ WoW หรือครับ ?
เทียบกันแล้ว โลกของ FF7 มันมีอะไรไม่ถึง 10% ของโลกของ 2 เกมนั้นเลยด้วยซ้ำไป
แค่ทำ content ฉากต่างๆให้มันดูเป็นเมืองจีน เมืองยุโรป เมืองโบราณ หุ่นยนต์ โลกอนาคตเฉยๆ
มันไม่ได้ทำให้ดูเหมือนเป็นคนละเกมครับ มันเป็นแค่บรรยายกาศ ไม่ได้ถึงขั้นว่า "reuse อะไรไม่ได้เลย"
ใน WoW แมพกว้างใหญ่ไพศาลกว่า FF7 เยอะ ไปดูเมือง night elf, human, dwarf, orc มันก็ได้บรรยายกาศต่างกันออกไป "คนละโลก" เหมือนกันครับ นั่นขนาดออกมาตั้งแต่ปี 2004
ใน darksiders คุณเดินจาก realm นึงไปยังอีก realm นึง มันก็แทบไม่เหมือนกันเลยเหมือนกัน มีป่า เมือง โบสถ์ นรก สวรรค์ หุ่นยนต์ ทุ่งหิมะ นี่ก็เป็นลักษณะของ "คนละโลก" อีกเหมือนกัน นั่นขนาด reuse เยอะแยะเลยนะ
เวอร์ไปครับ จำนวน monster ใน FF7 มันมีไม่ถึง 255 ตัวเลย รวมบอสด้วยอย่างมากก็ 300 ตัวครับ
ใน WoW แค่จำนวนสัตว์เลี้ยง (700+) ก็เยอะกว่าจำนวน monster ใน FF7 แล้วครับ
pet แต่ละตัวมี attribute มีธาตุมีเผ่า ซับซ้อนกว่ามอนใน FF7 อีกครับ
mount ที่ไว้ขี่แบบ Chocobo ก็มี 400 กว่าแบบแล้ว
นี่ขนาด mount กับ pet เป็นแค่ content รองๆอีกทีนะ
ขออภัยนึกว่าเลิกอ่านไปแล้ว เห็นเงียบไปนาน ไม่นึกว่าจะเก็บกดขนาดนี้
คนเรามองแต่แง่เดียวครับ แง่ที่ตัวเองถูก
Wow ถ้าเอาไปเทียบเมืองที่บอกว่าอลังกว่า พอให้เทียบ FF14 ก็แพ้เงียบ
มั่วข้อมูลต่อว่า Bioshock,Darksiders ใหญ่กว่า FF7 แพ้เงียบ
แถมเอา Wow ที่เป็น game online มาแถข่มเลย 555+
เอาระบบ Wow มาข่มต่อเอิ่ม...
แถมทิ้งท้ายด้วยการมั่วจำนวนมอน FF7 ต่ออีก
Wow ที่ว่าเทพนักหนาเล่น Offline ได้ไหมแค่นั้นล่ะมันคือคนล่ะกลุ่มกันแล้ว
ที่สำคัญคือเกม remake ยังไม่ออกอย่าพึ่งตัดสินจากข้อมูลเก่า ระบบก็เปลี่ยนใหม่
คุณหยั่งรู้อนาคตเชียวเหรอว่าเป็นยังไง
คุณไม่ชอบ FF แต่คนอื่นที่ไม่ชอบ ระบบ Wow ก็มีเยอะไป ไม่งั้น FF14 คนร้างไปนานแล้ว
ที่สำคัญเขาไม่ได้บังคับเอาปืนจ่อหัวให้เล่นซักหน่อย ถึงคุณเถียงชนะผมก็ไม่เล่น Wow อยู่ดี
ถึงผมเถียงชนะ คุณก็ไม่ซื้อ FF7 remake อยู่ดี แล้วจะเถียงไปเพื่ออะไร
content หรือ asset กันแน่ครับ
ผมไม่ค่อยได้เล่นเกมแนวนี้ แต่พออ่าน
แล้วรู้สึกมีอะไรลอยขึ้นมาในหัวว่า "เกมยุคนี้ก็ต้อง P2W ไม่ก็ซื้อ DLC ไอเท็มสินะครับ"
ผมว่าJRPG มีสันดาน Grinding ที่ไม่น่าให้อภัยอยู่นะครับ คือเกมอื่นๆมันก็มี แต่เกมยุ่นนี่หนักเป็นพิเศษ ผมมาเล่นแนวฝรั่งสักพักถึงได้รู้สึกว่า ระบบเกมที่ไม่ลงโทษคนที่ไม่grindเป็นยังไง เนื้อเรื่องมันลื่นกว่ากันเยอะมากเลยครับ
เห็นด้วยเลยตรง grind เยอะจริง ไม่ทำก็เล่นไม่ผ่าน กลายเป็นวาเอาเวลาตรงนี้มา + เวลารวมตอนเล่นทำให้เกมยาวขึ้นเกินจริงไปเยอะมากมาย ซึ่งถ้าหันพวกนี้ออกไป เกมที่ main story ยาวสัก 50 ชั่วโมง ดีไม่ดีเหลือ 20-25 แค่นั้น
ซึ่งตรงนี้มันจะต่างกับ wrpg ตรงที่ wrpg จะไล่ไปทำเควสบ้า ๆ บอ ๆ แทน ที่ระยะเวลาเนื้อเรื่องหลัก เท่า ๆ กัน กลายเป็นว่า content ให้เล่นฝั่ง wrpg เนื้อหามากกว่าเยอะ
คห.แฟนบอยมากครับ ผมเล่นFF7แบบเปิดเฉลยมา ยังไม่รู้สึกเหมือนคุณเลยว่า บางอันมันต้องเก็บ เพราะgrinding มันไม่ควรนับเป็นชม.แต่ต้นแล้ว
ถ้าเอา grinding มานับนี่เอาเกมอื่นนับยังได้เป็นพันชั่วโมงก็มี
เพราะมันไม่ open world ไงครับ model มันเลยต้องมีรายละเอียด
เกม open world บางกลุ่มเค้าจะมี engine สำหรับ generate ต้นไม้ ตึกราม บ้านช่อง ในบางฉาก แต่ๆ FF7 สถาปัตยกรรมมันเฉพาะทางเอามากๆ ยิ่ง remake ยิ่งต้องพิถีพิถัน แป๊ะเทียบจากฉากเก่าเฟรมต่อเฟรม กลุ่ม model มันไม่สามารถสร้างได้ด้วยการใช้ engine generator ทั่วๆไปได้
ฟังแล้วเหมือนเกมนี้จะใหญ่ขนาด BD 15แผ่นได้เลยนะ
ผมว่า ฉากมันก็ไม่ได้ต่างไปซะทุกฉากนะครับ หลายๆฉากใช้engine generator ผมว่าแฟนๆก็ไม่สะดุดตาอะไรแน่ๆ ยกเว้นกะจับผิดกันยิบ
ลองกลับไปเล่นอีกทีครับ แล้วลองดูฉากต่างๆ มันไม่น่าจะ reuse ได้เหมือนพวกเกมฝรั่งใหม่ๆ นะ อันนั้นต้นเกมยันจบเกมซ้ำไปซ้ำมา ส่วน FF7 แค่เปลี่ยนเมืองก็เหมือนคนละเกมแล้ว แถมพวกส่วนอื่นๆ ยิบย่อยเยอะ Model มอนก็ปาไปหลายร้อยชนิดล่ะ
monster ทั้งหมดใน FF7 มีไม่ถึง 255 ตัว มันจะไปมี model มอนถึงหลายร้อยชนิดได้ไงครับ
การทำโลกแบบ static กับ dynamic มันใช้ความจุต่างกันนะครับ ในโลกของFF7 นี้แต่ล่ะเมืองมันต้องสร้างขึ้นมาอย่างเม้นบ่นๆ บอก ไม่เหมือน openworld ที่มัแค่กำหนดฟิลกำหนดโซนแล้วให้สร้างสภาพแวดล้อมขึ้นมา
The Dream hacker..
เทียบกับopenworld WRPG ยากครับ เพราะพวก openworld น่ะ พื้นที่ไม่กว้างมาก แต่รายละเอียดเยอะ ใส่side quest เยอะๆได้
ส่วน JRPG พื้นที่กว้าง เพราะไปทั่วโลก แต่รายละเอียดน้อยเพราะจะเจาะแค่บางจุดที่เกี่ยวกับเนิ้อเรื่องหลักเท่านั้น
ลองขยาย JRPG ให้มีรายละเอียดเยอะๆ เมืองนึงอย่างmidgard มีรายละเอียดทุกตึกจริงๆแบบเมืองใน The witcher3 สิ scale มันจะละเอียดไปไหม แถมยังมีเมืองแต่ละภูมิภาคที่มีรายละเอียดต่างกันสุดขั้วอีก
ลองนึกดูจะวิ่งจาก Midgard ไป Junon แล้วพื้นที่รายละเอียดเต็มแบบ the witcher คงเดินจนเมื่อย
อีกอย่างจะมีปัญหาเรื่องstoryline อีก ระหว่างเส้นตรงกับopenworld ไปกันไม่ค่อยได้ เพราะชอบข้าม(พวก Elder scroll series ผมเล่นmain questไม่เคยจบเลย ไปทำอย่างอืนสนุกกว่า)
FF VII original ใช้เวลาพัฒนากี่ปีครับ
Development of Final Fantasy VII
ไม่รีบ ผมอยู่ในกลุ่มรอได้
ดีไม่ดีกว่าจะออกครบ. ออกพร้อมconsoleเครื่องใหม่อัพเป็น UHD edition ขายอีกรอบอีก -_-
พอเล่น Destiny เกม 10 year plan แล้วกลายเป็นอะไรที่เฉยๆ ไปเลย ถ้าจะออกมารูปแบบ dlc แบบนี้
กลัวแต่ละตอน ระบบไม่เหมือนกันนี่สิ
กว่าจะจบ อาจจะลากยาวไปถึง PS5 โน่นเลย
ผมอยากได้แบบม้วนเดียวจบ ภาค 15 รอมาจะ 10 ปียังรอได้ รอ 7 อีกซัก 10 ปีคงไม่เสียหายอะไร
อย่าง Resident Evil Revelation 2 มันทำผมอารมณ์ค้างมาก ยังดีว่าปล่อย 7 วันต่อตอน เพราะได้ลองแล้วมันอยากไปต่อ
มันเป็นแผนตั้งแต่ Chaos ring 3 สินะ......
อยากเล่นเฟ้ย อยากเล่นทั้งFF7 & CR3-2!!
ที่มันนานเพราะทำ movie บทพูดใหม่หมดไงครับ หลายคนที่บอกภาค original ใช้เวลาเล่นไม่นานเพราะ บทพูดมันกดข้ามๆๆ รึเปล่าครับ เปลี่ยนบทพูดทั้งเกมเป็นเสียงนี้ก็นานเว่อแล้วครับ (เพราะดูท่าทางแกจะทำแบบนั้น ขนาดบทพูดของลูกจ๊อกทั้ง 3 ยังอุตส่าทำซะอลัง)
ดูท่าจะยาวกว่าจะได้เล่นแต่ละ EP รอกันนานๆ เลยทีเดียว
แค่เปลี่ยนจาก 2D Pre-render เป็น 3D ก็อ่วมแล้ว
ผมเฉยๆ
แค่คิดว่า แทนที่จะเอาไปรีเมกเกมเก่าๆ
ทำเกมใหม่ๆ ให้มันเป็นตำนานใหม่ขึ้นมาเลยดีกว่าไหม ? สแควร์ ( ไม่ขอนับรวมอีนิกซ์ เพราะเกมอีนิกซ์ ดีทุกเกม )
เมื่อ 3 ปีที่แล้วสแควร์ ก็พูดแบบนี้ครับ แต่ที่ต้อง remake เพราะไม่งั้นกว่าจะได้ทำคนเก่าๆ ได้เกษียณกันไปหมดพอดี (แถมประกาศปุ๊ปหุ้นพุ่ง)
Square Enix นี่เป็นบริษัทมหาชน หรอครับ
Square Enix Holdings Co. Ltd.
OTC: SQNXF
ก็ทำ FFXV อยู่ไง
มาถึงจุดนี้แล้ว กี่ Chapter กี่ EP ก็ทำออกมาเถอะครับ
พร้อมจ่ายเสมอ Orz
episode game เอาจริง ๆ มันไม่เหมาะกับเกมที่คิดจะทำเป็น RPG เลย เพราะความซับซ้อนมันจะหายไปเยอะมากไม่งั้นมันจะมีปัญหาในเรื่องเซฟเกม ไหนจะยิ่งเรื่องเอนจิ้นที่กว่าตอนใหม่จะมา ตอนเก่าก็เอนจิ้นตกรุ่นไปรุ่นสองรุ่นแล้ว ทำให้ต้องย้อนกลับมาอัพตอนเก่าขึ้นมาอีก แถมยังอาจจะได้บั๊กเพิ่มมาอีก
//กลับไปเล่น fallout 4 ต่อ
เดี๋ยวนี้พาดหัวข่าวใช้ศัพท์แบบนี้ได้ด้วย?
ไม่ได้ครับ
ขอบคุณครับ
สมัยก่อน FF7 มี 3 แผ่น
ออกแผ่น 1 ให้เดินปั๊ม level เล่นๆ ก่อน ซัก 500 ช.ม. กำลังดี
บางทีพวกนี้ผมก็ซื้อความทรงจำครับ ถ้ามันไม่แพงมาก
ของแถมคือได้เล่นอีกรอบ เรื่องเทคนิคคอลกับรายละเอียดโปรแกรมเกมผมมองข้ามไปแล้วครับ
ปัญหามันคือ คนที่ชอบ ff7 มากๆ ก็คงพร้อมจะจ่าย แต่คนที่ไม่ใด้ชอบก็คงตามไม่นาน ดังนั้น ff7 จะโดนยืดหรือโดนตัดจบขึ้นกับยอดขาย แต่ทั้งยืดและตัดจบก็ไม่ไช่ของดีด้วยสิ ...
อีกส่วนคือราคารวมของ ff7 remake ทั้งชีรี่น่าจะแพงกว่าแผ่นเดียวๆ คนนอกวงการอย่างผมก็รู้สึกถึงการรีดไถ่เงินใด้เหมือนกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 แพงไปผมก็รอลดราคา complete edution ไม่รีบ รอได้ ดองเกมอื่นไว้เยอะ
แต่ก็นะ อย่าตัดจบละกันนน
สิ่งที่กลัว ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
555
เดิมพันสูงมากกับ FFVII
ถ้าสาวกใหม่ไม่เข้ามา...สาวกเก่าไม่ปลื้ม...ไม่อยากจะนึกภาพเลย...
ออกมาเถอะครับ ซื้อมาดองอยู่ดีไม่มีเวลาเล่น
"โดยแต่ละตอนที่วางจำหน่าย จะมีประสบการณ์ในการเล่นให้แก่ผู้เล่นที่แตกต่างกันออกไป"
เข้าใจได้ว่า เขาจะเปลี่ยน FF7 จาก "game หนึ่งภาค" เป็น "หนึ่ง series" และทำหลายๆ game บนนั้น คล้ายๆ กับที่ทำมาแล้ว เช่น Dirge of Cerberus, Crisis Core, ฯลฯ แต่คราวนี้จะเชื่อม player profile ให้ต่อเนื่องกัน
ซึ่งแนวทางนี้จะมีความเป็น FF7 remake ชัดเจน มีความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละ minigame เหมือนที่เราเคยเล่นกันในภาคดั้งเดิม เช่น
เก็บเงินตามเนื้อเรื่อง > ไปใช้เล่น RTS ที่ Fort Condor เมื่อเก็บ materia > ไปใช้สู้ boss เพื่อเก็บ EXP > ไปเล่น mini-game ใน Gold Saucer เพื่อเก็บ item > ไปเลี้ยง chocobo
Series เดียวยาวเล่นรอลูกโตมาเล่นด้วยกัน ตามรอย Blizzard ไปเลยครับ
มีคนบอกเกมที่เป็น story-based อย่าง FF7 ใช้เวลา remake นาน..
ผมนี่ร้องไห้กับ SCII เลย.. เริ่มทำตั้งแต่ปี 2007 กว่าจะทำเสร็จสามภาคก็พึ่งปลายปีนี้ - -"
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แบ่งแบบนี้ ผมว่ามีแป๊กได้
การตลาดของ Life is Strange มันได้ผลดีครับ เขาเลยเอามาใช้
มันเหมาะมากกับเกมที่เล่นสนุก เนื้อหาน่าติดตาม และจะทำให้คนเล่นต้องรีวิวตั้งแต่เกมยังไม่จบ ส่งผลให้ทำให้กระแสดีได้ง่ายกว่าปล่อยมายาวๆเนิบๆแล้วมีคนหักแผ่น
เป็นภาคเดียวที่ผมไม่ปลื้มที่สุด และเล่นไปได้นิดหน่อยเอง ถ้าเทียบกับพวก FF1 - FF9