Tags:
Node Thumbnail

จากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน 130 ประเทศรวมถึงประเทศไทยของ Netflix บริการดูหนังออนไลน์ชั้นนำจากสหรัฐฯ ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้หยิบบริการระดับโลกที่เพิ่งมาเป็นน้องใหม่ในบ้านเราว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด

การรีวิวจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับรีวิวบริการดูหนังออนไลน์สี่เจ้าใหญ่ในไทย อันประกอบไปด้วยตัวเว็บไซต์หลัก, คุณภาพวิดีโอ, ประเภทของเนื้อหา, แอพบนอุปกรณ์พกพา และอุปกรณ์อื่นๆ ปิดท้ายด้วยราคาว่าคุ้มค่าแค่ไหน ว่าแล้วก็ไปเริ่มดูกันเลย

No Description

เริ่มสมัครสมาชิก และดูเว็บไซต์หลัก

การสมัครใช้งาน Netflix ไม่ต่างอะไรกับการสมัครใช้งานบริการดูหนังออนไลน์อื่นๆ ในท้องตลาด จุดที่ต่างคือการจะรับสิทธิ์ดูฟรีเดือนแรกจะต้องผูกบัตรเครดิต หรือ PayPal ด้วย แต่จะยังไม่ตัดเงินตอนสมัคร และสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา

สำหรับค่าบริการรายเดือนของ Netflix จะเริ่มต้นที่ 280 บาท และแพ็คเกจแพงสุด 420 บาท รายละเอียดเดี๋ยวจะมาพูดต่อกันทีหลัง

No Description

เมื่อสมัคร และผูกบัตรฯ เสร็จแล้ว หน้าต่อไปจะเป็นการเก็บข้อมูลส่วนตัว เริ่มด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับชมตั้งแต่สมาร์ททีวี อุปกรณ์พกพา พีซี ไปจนถึงเครื่องเล่นเกมต่างๆ และมี Apple TV มาด้วย ตรงนี้เลือกทุกข้อที่มีเลย ตามมาด้วยหน้าต่อไปสำหรับใส่ชื่อผู้รับชม (แปรผันตามแพ็คเกจ)

No Description

หน้าสุดท้ายก่อนเข้าเว็บไซต์หลัก Netflix จะให้เลือกหนัง-ซีรีส์ที่ชอบทั้งหมด 3 เรื่อง เพื่อให้ตัวบริการสามารถใช้แนะนำเรื่องที่ผู้ใช้น่าจะสนใจได้

No Description

No Description

เลือกเสร็จก็เป็นอันเรียบร้อย เตรียมเข้าสู่หน้าหลักของเว็บไซต์ โดยจะมีหน้าสำหรับเลือกผู้ใช้เสียก่อน สามารถเข้าหน้ารวมหนัง-ซีรีส์สำหรับเด็กๆ ได้จากหน้านี้เช่นกัน

No Description

หน้าแรกของ Netflix จะมาในโทนดำสนิท พร้อมกับการจัดหมวดหมู่ที่หลากหลายตั้งแต่ รวมหนัง-ซีรีส์ยอดนิยม รวมเรื่องที่คัดสรรมาจากที่เลือกไปสามเรื่อง และจะเริ่มเรียงตามประเภทของหนังซึ่งมีไว้ให้อย่างครบถ้วน

No Description

No Description

No Description

เมนูหลักสำหรับค้นหาหนัง-ซีรีส์จะถูกวางไว้ด้านซ้ายบน เมื่อกดเข้าไปจะมีรายชื่อประเภทของหนังที่จัดหมวดคล้ายกับที่วางไว้ในหน้าเว็บไซต์หลักทุกประการ (แค่ไม่ต้องเลื่อนไปหา)

No Description

เมื่อกดเข้าไปในประเภทหนัง-ซีรีส์ที่ต้องการแล้ว ยังสามารถเลือกประเภทรองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากขึ้นอีกด้วย (ตัวอย่างในภาพ Action + Thriller)

No Description

No Description

สำหรับการค้นหาหนัง-ซีรีส์ด้วยตัวเอง สามารถทำได้จากแถบค้นหาด้านขวาบนรูปแว่นขยาย ซึ่งพิมพ์ลงไปได้เลยไม่ต้องกด enter ระบบจะค้นหาให้อัตโนมัติ ผลลัพธ์ค่อนข้างแม่นยำ และสามารถค้นหาได้ละเอียดไม่ว่าจะเป็นชื่อหนัง-ซีรีส์, ชื่อผู้กำกับ หรือประเภทของหนังก็ยังได้

No Description

ต่อมาจะเป็นส่วนแสดงรายละเอียดของหนัง-ซีรีส์ เมื่อวางเมาส์ลงไปบนภาพของหนังเรื่องดังกล่าว ตัวภาพจะขยายขึ้นและบอกรายละเอียดย่อๆ เรทของเรื่องที่เลือก ปุ่มให้กดเล่นทันที หรือเก็บเข้าลิสต์ส่วนตัว หรือจะกดดูรายละเอียดเพิ่มก็ทำได้จากหน้าเดียวกัน

No Description

เมื่อกดดูเพิ่มตัวเว็บไซต์จะขยายจากภาพขนาดเล็กเป็นวิดีโอตัวอย่างขนาดใหญ่ พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมจากหน้าแรกตั้งแต่ดาราที่แสดงในเรื่อง และประเภทของหนัง-ซีรีส์ดังกล่าว โดยจะยังสามารถกดเล่น และเก็บเข้าลิสต์ส่วนตัวได้ดังเดิม

No Description

แท็บอื่นๆ มีไว้สำหรับแสดงจำนวนตอน ระยะเวลาต่อตอน เรื่องย่อ รายละเอียดเกี่ยวกับเสียง และซับไตเติล ซึ่งถ้าเป็นหนังที่ได้รับรางวัลก็จะมีระบุไว้ด้วย

ถ้าสังเกตดีๆ สิ่งที่หายไปตอนนี้คือ Netflix ไม่บอกความละเอียดของหนัง-ซีรีส์บนเว็บไซต์ และไม่มีซับไทยมาให้ครับ

No Description

No Description

No Description

โซน Kids สำหรับคุณหนูๆ

ดูเว็บไซต์ฝั่งปกติไปจนครบแล้ว ก็มาถึงฝั่ง Kids ที่ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะบ้าง สิ่งแรกที่ต่างออกไปคือโทนสีซึ่ง Netflix Kids จะใช้สีอ่อนอย่างสีขาวและฟ้า รวมถึงการจัดวางเว็บไซต์ก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง มีการวางตัวละครดังให้เด็กๆ เลือกได้ง่ายขึ้น

No Description

No Description

เมนูด้านบนสำหรับเลือกประเภทหนัง-ซีรีส์ยังใช้แนวทางเดียวกันกับเว็บไซต์หลัก

No Description

ส่วนที่ต่างคือภาพตัวอย่างจะไม่ขยายเมื่อวางเมาส์ทับ ต้องกดเข้าไปดูเอง

No Description

การตั้งค่า Netflix

ในหน้าบัญชีผู้ใช้ของ Netflix เป็นแหล่งรวมการตั้งค่าที่จะมีผลกับทุกๆ อุปกรณ์ที่รับชม Netflix มีตัวเลือกให้ค่อนข้างละเอียดตามนี้

No Description

ตัวเลือกน่าสนใจอย่างแรกคือ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแพ็คเกจการรับชมได้ตลอดเวลา โดยจะมีผลหลังจากหมดรอบเดือนนั้นๆ ในหน้านี้ระบุความต่างของแต่ละแพ็คเกจไว้อย่างเข้าใจง่ายด้วย

No Description

สำหรับบ้านที่ดู Netflix กันหลายคน ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าเพื่อจำกัดเนื้อหาบางประเภทไม่ให้เด็กเข้าถึงได้ผ่านการใส่รหัส PIN

No Description

เข้าใกล้การรับชมมากขึ้นด้วยตัวเลือกความละเอียดที่มีตั้งแต่อัตโนมัติ ไปจนถึงความละเอียดสูง ซึ่ง Netflix ระบุว่าจะใช้อินเทอร์เน็ต 3GB ต่อชั่วโมงเมื่อดูด้วยความละเอียด HD และ 7GB สำหรับ Ultra HD (4K)

No Description

ตัวเลือกต่อมาเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Netflix คือการเปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งซับไตเติลได้ตามใจชอบ ทั้งสี ฟอนต์ สไตล์การแสดงผล รวมถึงขนาด โดยมีตัวอย่างให้ดูหลังปรับตั้งค่า

No Description

No Description

ในหน้าตั้งค่ายังมีให้เลือกปรับภาษาด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีภาษาไทยให้เลือกครับ

เครื่องเล่นวิดีโอของ Netflix

ดูเว็บไซต์ไปจนทะลุปรุโปร่งแล้วก็ถึงคิวของการดูหนังจริงๆ กันบ้าง ว่าแล้วก็เริ่มทดสอบกันด้วยซีรีส์ Sense8 ซึ่งฉายเฉพาะ Netflix เท่านั้น

No Description

ตัววิดีโอของ Netflix จะใช้งานเทคโนโลยี HTML5 จึงไม่มีปัญหากับผู้ใช้ที่มีปลักอินบล็อค Flash โดยอินเทอร์เฟซของเครื่องเล่นวิดีโอ Netflix หน้าตาแบบนี้

No Description

เมื่อเลื่อนแถบเวลาของเครื่องเล่น จะมีภาพตัวอย่างของช่วงนั้นๆ ขึ้นมาด้วย

No Description

สำหรับซีรีส์จะมีปุ่มสำหรับเลือกดูตอนอื่นๆ ในซีซันมาด้วย

No Description

ตัวเลือกสำหรับภาษาทั้งเสียงและซับไตเติลวางไว้ที่เดียวกัน

No Description

ซับไตเติลมาตรฐานที่ Netflix ตั้งค่าให้ขนาดกำลังพอดี และอ่านง่ายอยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบเช่นกัน

No Description

ประเภทของเนื้อหา

คนที่ติดตาม Netflix มาตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศไทย น่าจะทราบกันดีกว่าจุดเด่นของ Netflix คือการเน้นไปที่ซีรีส์เอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งมีทั้งผลิตเอง และร่วมผลิต เมื่อมาถึงการขยายออกไปทั่วโลก Netflix ก็ยังคงเน้นจุดยืนเดิมอย่างเหนียวแน่น เนื้อหาหลักจึงจะเป็นซีรีส์จากสหรัฐฯ โดยมีหนังดังแซมมาเล็กน้อย

น่าเสียดายที่ด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์ทำให้ซีรีส์ดังหลายเรื่องยังไม่สามารถนำมาฉายได้ทั่วโลกตามที่ Netflix ออกมาแจ้งในภายหลัง

การใช้งานในอุปกรณ์อื่นๆ

จุดขายของ Netflix อีกอย่างคือการเข้าถึงในทุกๆ ที่ของอุปกรณ์บนโลกใบนี้ตั้งแต่พีซี มือถือ แท็บเล็ต เครื่องเกม รวมถึงเป้าหมายหลักอย่างสมาร์ททีวี ซึ่งทางทีมงานได้ถือโอกาสทดสอบ Netflix บนสมาร์ททีวี เพื่อดูหนังกันที่ความละเอียด Ultra HD (4K) กันด้วย

Netflix กับสมาร์ททีวี 4K

สมาร์ททีวีที่ยืมมาทดสอบในครั้งนี้เป็นของรุ่นจอโค้งของซัมซุงที่ขนาด 65" มีแอพ Netflix มาในตัว เปิดมาหน้าแรกพร้อมล็อกอินจะพบกับหน้าสำหรับเลือกผู้ใช้แบบนี้

No Description

เปิดเข้าไปหน้าแรกจะพบกับอินเทอร์เฟซใกล้เคียงกับเว็บไซต์ ความต่างคือจะแสดงผลรายละเอียดหนังเป็นภาพขนาดใหญ่พร้อมบอกรายละเอียดที่ไม่มีบนเว็บไซต์อย่าง ความละเอียด และคุณภาพเสียงด้วย

No Description

ตัวอย่างแอนิเมชันความละเอียด HD

No Description

No Description

ตัวอย่างซีรีส์ความละเอียด Ultra HD 4K

ตัวแอพ Netflix บนสมาร์ททีวีออกแบบมาให้ใช้กับรีโมตโดยเฉพาะ และทำผลงานได้ค่อนข้างดี เพียงแต่จะหน่วงเล็กน้อย และยากต่อการพิมพ์เมื่อเทียบกับพีซี

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ได้ครบถ้วนนะ

No Description

ตัวเครื่องเล่นวิดีโอในสมาร์ททีวีจะใช้อินเทอร์เฟซเรียบง่ายกว่าบนพีซี รวมถึงมีภาพตัวอย่างเมื่อเลื่อนแถบเวลาที่มากกว่าด้วย

No Description

สำหรับคนที่สงสัยในความละเอียด Ultra HD 4K นี่คือความต่างเมื่อเทียบกับ Full HD ครับ (คลิกเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น)

No Description

ความละเอียด Ultra HD 4K

No Description

No Description

เมื่อดูจบแต่ละตอนแล้ว ตัวแอพจะเริ่มตอนต่อไปให้ทันที (โดยไม่รอให้เพลงปิดจบ)

No Description

Netflix บนอุปกรณ์พกพา

ข้ามมาดูการใช้งานกับแอพบนสมาร์ทโฟน เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกจะพบว่าสามารถล็อกอินได้ทันทีผ่านฟีเจอร์ Google Smart Lock ของแอนดรอยด์ (ในกรณีที่เคยล็อกอินผ่าน Chrome มาแล้ว)

หน้าแรกของแอพ Netflix นั้นทำมาเหมือนกับเว็บไซต์เป๊ะๆ ยกเว้นเมนูที่ถูกโยกไปฝั่งซ้ายแทน

No DescriptionNo Description

ดูเหมือนว่าแอพ Netflix จะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก รายละเอียดต่างๆ ของหนัง-ซีรีส์จะถูกลดทอนลงจากเว็บไซต์ และสมาร์ททีวีอย่างมาก

No DescriptionNo Description

การค้นหาทำได้ระดับเดียวกับเว็บไซต์ นอกจากจะค้นหาหนัง-ซีรีส์ได้แล้ว ยังค้นจากผู้กำกับได้เช่นกัน

No DescriptionNo Description

Netflix Kids สามารถใช้ได้ในแอพสมาร์ทโฟนเช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นโทนสีขาว-ฟ้าเหมือนในเว็บไซต์เสียแล้ว

No DescriptionNo Description

ตัวเครื่องเล่นวิดีโอในแอพสมาร์ทโฟนทำออกมาคล้ายกับบนเว็บไซต์ จุดต่างคือมีปุ่มถอยหลัง 30 วินาทีมาให้ด้วย แต่ไม่มีการแสดงภาพตัวอย่างเมื่อเลื่อนแถบเวลาอีกต่อไป

No Description

No Description

เลือกตอน เลือกเสียง เลือกซับไตเติลได้เหมือนกัน

No Description

No Description

ใช้งาน Netflix กับ Chromecast

ใครที่ตาดีน่าจะเห็นแล้วว่าในแอพของ Netflix บนสมาร์ทโฟนมีไอคอน Chromecast อยู่ด้วย แน่นอนว่า Netflix เองสามารถใช้งานกับ Chromecast ได้ โดยจำกัดความละเอียดไว้ที่ 1080p (เป็นข้อจำกัดที่ตัว Chromecast)

No DescriptionNo Description

cast ออกไปบนจอทีวีจะได้แบบนี้

No Description

เปรียบเทียบการใช้งาน Netflix ในหลายอุปกรณ์

หลังจากทดลองใช้ Netflix มาได้พักใหญ่ พบความต่างของการใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ พอสมควร แยกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ครับ

  • บนพีซีผ่านเว็บไซต์ - เลือกความละเอียดหนังไม่ได้ ตัวเว็บไซต์ไม่บอกความละเอียด, ค้นหาหนังที่จะดูได้ง่ายกว่า
  • บนสมาร์ททีวี - ดูความละเอียดสูงสุด 4K พร้อมเสียงคุณภาพสูงได้, การค้นหาทำได้ค่อนข้างยาก, การควบคุมต้องใช้เวลาเรียนรู้
  • บนสมาร์ทโฟน - ไม่บอกความละเอียด น่าจะต่ำกว่า 1080p นอกนั้นทำได้เหมือนกับบนพีซี
  • บนสมาร์ทโฟนผ่าน Chromecast - ได้ฟีเจอร์ระดับเดียวกับแอพบนสมาร์ทโฟน แต่ใช้ดูบนจอใหญ่กว่า ควบคุมง่ายกว่าสมาร์ททีวีมากๆ
  • บน PS4 ผ่านแอพ - เหมือนสมาร์ททีวีแทบทุกประการ ยกเว้นต่อคีย์บอร์ดได้ ควบคุมได้ง่ายกว่า

ค่าบริการรายเดือน

จากข่าวเปิดตัว Netflix เปิดราคามาที่ 280 บาท แต่มีทั้งหมดสามแพ็คเกจย่อย รายละเอียดแต่ละแพ็คเกจมีดังนี้

  • น้องเล็ก 280 บาท - แพ็คเกจเริ่มต้น ดูได้ทีละเครื่อง ความละเอียดสูงสุด SD (480p)
  • น้องกลาง 350 บาท - แพ็คเกจคู่รัก ดูได้พร้อมกันสองเครื่อง ความละเอียดอัพเกรดเป็น HD
  • พี่ใหญ่ 420 บาท - แพ็คเกจครอบครัว ดูได้พร้อมกันสี่เครื่อง ความละเอียดสูงสุด Ultra HD 4K

เปรียบเทียบราคาของ Netflix กับเจ้าอื่นๆ ในไทยแล้ว ต้องบอกว่า Netflix เปิดราคามาแพงกว่ามากๆ โดยเฉพาะเมื่อเอาไปชนกับ iflix ที่เน้นซีรีส์เหมือนกัน รายนั้นค่าบริการรายเดือนเพียง 100 บาทเท่านั้น

นอกจากเรื่องแพงกว่าแล้ว ตัวซีรีส์ของ Netflix เองก็ยังขาดเรื่องดังๆ ไปมาก และแทบไม่มีหนังใหม่เลย (ไม่มีระบบเช่าหนังใหม่ด้วย) สำคัญที่สุดสำหรับบางคนคือตอนนี้ Netflix ยังไม่มีภาพยนตร์ไทย และซับไตเติลไทยมาให้ รวมถึงเซฟไว้ดูออฟไลน์ ฟีเจอร์ที่แทบทุกเจ้าในตลาดมีกันหมดแล้ว Netflix ก็ไม่มีเช่นกัน

สรุป

สำหรับคนที่ติดตามซีรีส์ดังจากสหรัฐฯ มาก่อน Netflix ยังคงเป็นตัวเลือกน่าสนใจ แม้ว่าจะต้องยอมจ่ายหนักเพื่อให้ได้อรรถรสในการรับชมมากขึ้น ทั้งฝั่งแพ็คเกจและสมาร์ททีวี (4K เขาดีจริงๆ) โดยมีจุดเด่นคือการรับชมได้พร้อมกันหลายเครื่อง และตัวบริการเองก็รองรับหลายอุปกรณ์แต่แรก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากเดิมที่ก็แพงกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว

สำหรับคนที่ไม่ได้ติดซีรีส์ในเครือ Netflix มาก แนะนำให้ดูท่าทีไปก่อน ทั้งการรองรับภาษาไทยมากขึ้น (อย่างน้อยก็ซับไตเติล) หรือการปรับราคาให้แข่งขันกับคู่แข่งได้มากขึ้นในอนาคตครับ

Get latest news from Blognone

Comments

By: NUTKABPOM
AndroidWindowsIn Love
on 12 January 2016 - 18:12 #874610

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รูปเยอะดี

ผมสงสัย คือ Netflix ไม่มี CDN ใกล้ๆ ไทย หรือเน็ตผมห่วย (True Cable)

ดูทั้งบน LG SmartTV WebOS และ Xbox One ภาพแย่มาก Buffering กระจายเลย

ทั้งๆ ที่เจ้าอื่น (iFlix, Primetime บน LG SmartTV) ไม่มีปัญหาด้วยนะนะ

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 12 January 2016 - 18:43 #874617 Reply to:874610
Blltz's picture

ตอนผมลองกับ 3BB/AIS Fibre ไม่เคยเจอบัฟเฟอร์เลยนะครับ แต่ก็ไปไม่ถึง 4K บนพีซีเหมือนกัน (เข้าใจว่าจำกัดไว้) ไว้ถ้ามีโอกาสลองกับทรูจะมาบอกเล่าอีกทีครับ

By: iamham
ContributorAndroidUbuntu
on 12 January 2016 - 18:48 #874620 Reply to:874610
iamham's picture

ผมใช้ True Cable อยู่โอเคเลยนะครับ ผมว่าภาพชัดกว่า iFlix อีก นั่งดู Making a murderer เพลินเลยฮะเมื่อคืน

By: MaxDOL
iPhoneWindows
on 12 January 2016 - 20:15 #874639 Reply to:874610

ผมใช้ ทุยเคเบิ้ล เช่นกัน

บน ipad air 1080p. แทบจะตลอดนะครับ

แต่บน PS3 ไม่ค่อยถึง 1080p ส่วนใหญ่จะต่ำกว่า 720p (แต่เข้าใจได้ว่าชิปwifi ของPS3มันห่วยมาก ไม่มี wifi n ด้วยซ้ำไป)

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 13 January 2016 - 10:07 #874807 Reply to:874610

ใช้ True Cable ไม่ติด Buffer นะครับ (Apple TV) ไม่แน่ใจความละเอียด แต่ชัดกว่า iflix (บางที iflix มีปรับความละเอียดไปมา)

By: TW
AndroidWindows
on 13 January 2016 - 10:48 #874830 Reply to:874610

ผมก็เป็นแบบคุณ NUTKABPOM ครับ

ผมเลือกโปรแพงสุด บนเน็ตทุยทุกข์คูณสามด้วย(30/3) ทีวี SONY 4K Android TV

-ภาพแย่(น้อยครั้งมากที่จะได้ความละเอียดสูง)
-bufferนาน
-ดูๆ อยู่หลุดออกมาที่หน้าเมนู
-กำลังดูๆอยู่ภาพก็ปรับลดความละเอียดลง(อย่างน่าเกลียด)

ที่ไม่ชอบที่สุดคือ ไม่มีให้เลือกความละเอียด

ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่เกิดขึ้นเลยบน Google Movie และ Youtube ซึ่งผมดู 4K บน Youtube นิ่มเลย

หมดช่วงดูฟรี คงยกเลิกครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 January 2016 - 18:27 #874995 Reply to:874830
hisoft's picture

ผมใช้เน็ตทรู 10/1 ครับ

ดู 4K YouTube คลิปนึงที่ไม่นิยม นี่แรกๆ บัฟเฟอร์กระจายครับ ใช้เวลาโหลดสักสามสี่เท่าของเวลาคลิปเป็นอย่างต่ำ ดู stat for nerd ก็เห็นว่า BW วิ่งนิดเดียว ฝืนเปิดทุกวันวันละ 1-2 รอบไปเรื่อยๆ จำไม่ได้ว่ากี่วันกว่าที่มันจะถูกแคชไว้ จนตอนนี้เปิดได้แบบไม่มีบัฟเฟอร์แล้วครับ stat for nerd ก็แจ้งว่าวิ่งเต็มท่อแล้ว

ผมไม่รู้ว่าทรูแคชให้หรือทาง YouTube ส่งมาไว้ DC ใกล้ๆ นะครับ แต่ก็นั่นแหละครับ คลิปไหนคนดูน้อยก็บัฟเฟอร์นานเหมือนกัน (แม้แต่ไม่ HD บางทีก็ยังต้องรอ)

By: ปลงนะเรา
Android
on 12 January 2016 - 18:49 #874621

เยี่ยมเลย ละเอียดเหมือนนั่งสมัครเองอยู่หน้าจออย่างไงอย่างงั้น

By: porple on 12 January 2016 - 19:06 #874622

ติด Proxy เหมือนปัญหาของ iFlix รึเปล่าคะ? (ตอนดูผ่านเว็บน่ะค่ะ) อยากรู้ข้อเดียว

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 12 January 2016 - 19:27 #874626 Reply to:874622
Blltz's picture

เพิ่งลองไปเมื่อกี้ ใช้ไม่ได้นะครับ

By: porple on 12 January 2016 - 19:40 #874628 Reply to:874626

ขอบคุณค่ะ ((คอตกอีกแระ))

By: langisser
In Love
on 12 January 2016 - 20:08 #874636 Reply to:874622

iFlix ผมดูได้ไม่ติด proxy นะครับ แอบลองที่ office

By: Noppon
iPhoneWindows
on 13 January 2016 - 09:03 #874760 Reply to:874636

iFlix ดูผ่าน proxy ไม่ได้แน่ ๆ ครับ confirm

By: porple on 17 January 2016 - 15:58 #876023 Reply to:874622

FYI ถ้าลงแอพ Netflix จาก Store บน Windows 10 ดูผ่าน Proxy ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ลองสดๆร้อนๆเมื่อกี้เลย

By: Mekokung
ContributorAndroidWindows
on 12 January 2016 - 19:50 #874630
Mekokung's picture

ตอนนี้ยังไม่มีซับไทยเลยใช่ไหมครับ ?


Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ

By: Lenkzler
iPhoneRed HatWindows
on 12 January 2016 - 20:23 #874640 Reply to:874630

สำคัญที่สุดสำหรับบางคนคือตอนนี้ Netflix ยังไม่มีภาพยนตร์ไทย และซับไตเติลไทยมาให้

By: MaxDOL
iPhoneWindows
on 12 January 2016 - 20:23 #874641

ซับไทย ไม่มี ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม ขอแค่มีซับEngก็พอ

แต่ราคาแพงกว่าคู่แข่ง ,ดู offline ก็ไม่ได้, series original บางเรื่องก็มีไม่ครบ. เช่น House of cards

นี่ปัญหาใหญ่เลยครับ

By: xxa
Android
on 13 January 2016 - 00:11 #874694

ระบบเสียงเจ้าไหนมีแบบ HD บ้างครับ Dolby Atmos, DTH-HD พวกนี้

By: zaturday
iPhoneAndroidBlackberryRed Hat
on 13 January 2016 - 07:02 #874730
zaturday's picture

ละเอียดดีมากครับ ขอบคุณครับผม

By: 100dej
AndroidWindows
on 13 January 2016 - 07:45 #874737

ทำไม Neflix ส่งสัญญาณเสียง 5.1 เข้า AVR ได้ในขณะที่ app android อื่น ๆ ส่งสัญญาณเสียง 5.1 มาไม่ได้

ปล.ผมดูผ่าน Nexus player ต่อ HDMI เข้า AVR Onkyo

By: pongkantaphon
ContributoriPhoneUbuntu
on 13 January 2016 - 09:07 #874764
pongkantaphon's picture

ผมใช้ docsis 3.0 50/5 Mbps

เจอปัญหากันไหมครับ

อย่างของผมกว่ามันจะปรับภาพเป็น 1080p นี้ใช้เวลานานมาก บางทีก็ไม่ปรับเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

แต่จะเป็นเฉพาะ android tv นะ มือถือกับ web มันปกติ


COBOL !!

By: TW
AndroidWindows
on 13 January 2016 - 10:49 #874832 Reply to:874764

แน่ใจหรอครับ? ว่า 1080p ของผมเจอสูงสุด 720p

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 13 January 2016 - 10:49 #874834 Reply to:874832
Blltz's picture

เท่าที่ผมสังเกต ถ้าซีรีส์จะเป็น 1080p แต่ถ้าเป็นหนังจะเหลือ 720p ครับ

By: EngineerRiddick
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 13 January 2016 - 22:46 #875053 Reply to:874764
EngineerRiddick's picture

ผม true adsl16 ผ่าน appletv4 ดูpacific rim ช่วง2-3ทุ่ม ใช้เวลาประมาณ 5-8s ครับ
ก่อนjumpไป108p (@Rangsit)

By: waroonh
Windows
on 13 January 2016 - 09:19 #874772

จริงๆ สำคัญมากเลยนะครับ offline
เพราะ net แถวบ้านบอกตรงๆว่า ถึงจะสมัคร 20Mbit/s ไว้
แต่มันไม่แรง พอจะดูดได้ 3GB/Hour (ราวๆ 8.5 Mbit) ได้จริงๆ นะ
โดยเฉพาะช่วง 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม

By: somphong.s
AndroidWindows
on 13 January 2016 - 11:45 #874868 Reply to:874772

ถ้าดูoffline ไม่ได้ ก็ ไม่เอา เช่นกันครับ

By: shipcake
Symbian
on 13 January 2016 - 10:07 #874806
shipcake's picture

ตอนแรกก็กะจะสมัคร ดีนะมีทดลองฟรี ตอนนี้ยกเลิกไปละ กลับไปดู primetime กับ iflix เหมือนเดิมดีกว่า เพราะตะลึงกับค้นหาหนังแล้วไม่ตรงใจเลย มีแต่หนังอะไรไม่รุ้ โคตรเซง

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 13 January 2016 - 10:11 #874811

ผมว่าแอพ และเว็ปดีกว่าเจ้าอื่นพอสมควร แถมดูผ่าน Apple TV ได้เจ้าเดียว (iflix ยัง AirPlay ไม่ได้เลย ต้อง Mirror ลำบากพอควร)

ไม่มีหนังไทย ไม่มีซับไทยผมเฉยๆ ฟังได้ แต่ Content น้อยแถมแพงอีก หมดทดลองคงไม่ต่อ ใช้ iflix บน iPad กับ AirPlay Mirror ต่อก็ได้

By: GodPapa
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 13 January 2016 - 10:30 #874820
GodPapa's picture

อยู่คนละบ้านใช้สมาชิกเดียวเปิดดูพร้อมกันได้ไหมครับ
(จะได้หาคนมาหารค่าสมาชิก)

By: pongkantaphon
ContributoriPhoneUbuntu
on 13 January 2016 - 11:04 #874843 Reply to:874820
By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 13 January 2016 - 10:33 #874823
Ford AntiTrust's picture

สมัครไทย แล้ว VPN ไป US หรือ JP ชีวิตจะมีความสุขขึ้นเยอะเลย ของเพียบ

By: EngineerRiddick
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 13 January 2016 - 17:45 #874991 Reply to:874823
EngineerRiddick's picture

+1 =v=)/ ลงท่อไปJP นี้ชีวิตดีๆ หนังญี่ปุ่นดีๆเพียบ (R-18ก็เพียบ เหอๆ)
เปิดกับApple TV 4 ภาพกับเสียงนี่จัดเต็ม
(ผม ADSL True 16 mb ได้content 1080p เสียง5.1 ลื่นๆฮะ)

By: angel13th
Android
on 13 January 2016 - 21:21 #875019 Reply to:874823
angel13th's picture

VPN JP ใช้เจ้าไหนอยู่อ่ะครับ มันได้เต็มสปีดเลยรึเปล่า

By: EngineerRiddick
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 13 January 2016 - 22:42 #875046 Reply to:875019
EngineerRiddick's picture

www.unblock-us.com ครับ ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
รองรับพวกดูรายการTVครับแต่ไม่เหมาะกับเกม
ส่วนdetailมีรีวิวการใช้งานและประเภทให้บริการ searchตามGoogleทั่วไปครับ
ทดลองใช้ฟรี7วัน ...ตอนใช้ปรับจากUSเป็นJP ก็จะได้ Content JPครับ (AKB พาเที่ยวก็มีนะ)
hula,HBO ก็รอบรับครับ

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 14 January 2016 - 17:05 #875217 Reply to:875019
Ford AntiTrust's picture

ผมสร้าง vm แยกๆ กัน (ใช้ทั้ง AWS, DO และ Vultr)
แล้ว config OpenVPN ใช้เองครับ

By: AK
iPhoneAndroid
on 13 January 2016 - 11:41 #874864

Netflix ใช้ CDN ใกล้ไทยที่สุดก็ Singapore ครับ ยังไม่มีในไทย เพราะฉะนั้นเน็ตบ้าน ช่วง peak time น่าจะดูได้ไม่ไหลลื่นเท่าไหร่
House of Card ไม่มี
หนังใหม่ ไม่มี (กดไปดูตรง New Arrivals แล้วแปลกใจ นี่คือหนังใหม่แล้วเรอะ)
ซับไทย ไม่มี
จบกันครับ สมัครทดลองเดือนเดียวแล้วคงเลิกละ

By: angel13th
Android
on 13 January 2016 - 12:22 #874881
angel13th's picture

ถ้าเป็นคนมีเพื่อน กด package 4 คนก็ค่อนข้างคุ้มอยู่ เพราะแชร์กันได้ (แม้แต่ CEO ยังสนับสนุน) ตกคนละร้อยบาทต่อเดือน

By: gampolt
Android
on 13 January 2016 - 14:11 #874918

ไม่ทราบว่ามีเจ้าไหนดูความเร็ว 1.5x หรือ 2x ได้บ้างครับ?

By: hive5 on 13 January 2016 - 15:01 #874941
hive5's picture

Sense8 จงเจริญ

By: maoIndie
Ubuntu
on 13 January 2016 - 16:18 #874964
maoIndie's picture

อยากดูซีรี่ 4k อ่ะ

ดู iflix แล้วภาพมันไม่ค่อยถึงใจถึงอารมณ์

By: dog.stupid
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 14 January 2016 - 10:46 #875131

บทความนี้กากมากๆครับ ที่ไปว่า netflix เป็นน้องใหม่ในเมืองไทยเหมือนดูถูกกันไงก้อไม่รู้
จริงๆ netflix ทำธุรกิจนี้มาก่อน แล้วคนไทยนี้แระ ก้อไป copy เค้ามาทำ
พอเจ้าตลาดจริงเข้ามาก้อไปบอกว่าเค้าเป็นน้องใหม่ ทั้งๆที่คุณภาพเค้าดีกว่าแน่นอน

อีกอย่างพอเมื่อก่อน netflix ยังไม่มาในเมืองไทยแต่มีเจ้าเล็กๆมาเปิด ก้อไปอวยว่า เจ้านี้แระเป็น netflix เมืองไทย
อ้างอิ้งบทความเดิม
Hollywood HD นี่แหละบริการดูหนังออนไลน์ที่ว่ากันว่าเป็น Netflix ของเมืองไทย
Ref : https://www.blognone.com/node/54620

อ่านแล้วทุเรศครับบอกตรงๆ

By: rattananen
AndroidWindows
on 14 January 2016 - 11:04 #875134 Reply to:875131

สงสัยจะมีคุณคนเดียวนะครับ ที่คิดว่าบทความนี้ดูถูก netflix
"netflix เป็นน้องใหม่ในเมืองไทย" มันเป็นคำดูถูกตรงไหนครับ? ก็มันเรื่องจริง

By: dog.stupid
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 14 January 2016 - 11:14 #875140 Reply to:875134

ต้องบอกว่า netflix เจ้าตลาด มาเปิดที่ไทยวันนี้ ....​ไอ้ควายยย

By: Elysium
ContributorWindows PhoneSymbianWindows
on 14 January 2016 - 12:05 #875152 Reply to:875140
By: nutchapon
iPhone
on 14 January 2016 - 15:15 #875206 Reply to:875140

มาเต็ม 55+

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 14 January 2016 - 16:26 #875216 Reply to:875140
lew's picture

ไปหัดเข้าสังคมอย่างสุภาพได้เมื่อไหร่แล้วค่อยสมัครใหม่นะครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: TW
AndroidWindows
on 5 February 2016 - 02:21 #881861 Reply to:875140

คิดว่ากำลังใช้ เฟะบุ้ค หรือ โซเชี่ย อยู่หรือไง?

้เหอ เหอ

By: nrml
ContributorIn Love
on 14 January 2016 - 15:59 #875211 Reply to:875134
nrml's picture

อย่าไปว่าอะไรเค้าเลยครับ ในหัวของเค้าคงไม่มีคำว่า "น้องใหม่" บัญญัติอยู่ในสารบบ

By: porple on 17 January 2016 - 21:14 #876047

มาให้ Feed back ค่ะ เมื่อกี้ดูไปเรื่องนึง inception
ดูผ่านช่องทาง แอพ จากสโตร์ของ windows 10
เน็ตที่ใช้ Cat ไฟเบอร์ 50/5
มีภาพดรอปบ้างเป็นบางช่วง
ตอนแรกดูไม่ได้เปิดซับ มาเปิดตอนกลางๆเรื่อง ต้องรอสักพักนึงซับถึงโหลดขึ้นมา

ที่ผิดหวังคือ หวังว่าจะมีซีรีส์ที่ iFlix ไม่มี อย่างเช่น Friday Night Lights ก็ไม่มี
Lost ยังไม่มีเลย คงต้องรอสักระยะ หรือว่าไม่มีอยู่แล้ว

สำหรับขาซีรี่ส์ ถ้าคิดจะเสียตังค์ให้ iFlix น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หนังก็น้อยนะ

By: readonly
iPhone
on 20 January 2016 - 11:07 #876840
readonly's picture

พอถึงบรรทัดที่บอกว่าไม่มีซับไทย... จบเลย 555

By: atip00800
iPhoneWindows
on 23 February 2016 - 11:42 #887138
atip00800's picture

ผมว่าไปรอดยาก อย่างแรกคือเรื่องของภาษา ยิ่งหนังไม่ไช่ภาษาไทยก็จบไปกว่าครึ่งแล้ว ยังมีเรื่องของโหลดเถื่อนที่ไม่ต้องเสียเงินอีก ต่อให้ยังไงก็ตามคนไทยส่วนใหญ่คงไม่เสียเงินเพื่อดูแบบถูกลิขสิทธิ์หรอกครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 23 February 2016 - 16:27 #887218 Reply to:887138
hisoft's picture

ใช้ว่าจำนวนมากไม่ว่ากันครับ แต่ใช้คำว่าส่วนใหญ่นี่ไม่กะให้พัฒนาขึ้นกันเลยเหรอครับ

By: nrml
ContributorIn Love
on 23 February 2016 - 20:06 #887298 Reply to:887138
nrml's picture

จากที่เห็นพัฒนาการด้านการใช้งาน Software กับ Content ของคนไทย ผมว่ามันไม่ได้ดูสิ้นหวังขนาดนั้นครับ