หลังจากวงการกล้องเงียบหายเรื่องเทคโนโลยีล้ำสมัยมาหลายปี ตอนนี้ฝั่งยักษ์ใหญ่อย่าง Canon ก็เริ่มขยับบ้างแล้ว หลังจากมีรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิบัตรตัวใหม่ที่เกี่ยวโยงกับกล้องในอนาคตของ Canon ที่สามารถเป็นได้ทั้ง DSLR และ Mirrorless ในตัวเดียว
ตามรายละเอียดสิทธิบัตรของ Canon ที่หลุดออกมา พูดถึงแนวทางการพัฒนากล้องดิจิทัลรุ่นใหม่ที่สามารถสลับการใช้งานระหว่าง DSLR และ Mirrorless ได้ในตัวเดียวด้วยการทำให้เซ็นเซอร์ขยับเปลี่ยนตำแหน่งได้ โดยสามารถเลือกใช้งานในโหมด DSLR เพื่อให้ใช้ช่องมองภาพได้ หรือจะขยับเซ็นเซอร์เข้าไปใกล้เลนส์เพื่อใช้งานแบบ Mirrorless ก็ได้เช่นกัน แม้ยังไม่มีข้อมูลว่าข้อดีของการเลือกระหว่างสองแบบนี้เป็นอย่างไร แต่ก็มีนักวิเคราะห์ออกมาคาดว่าการใช้เทคโนโลยีนี้น่าจะทำให้ขนาดของกล้อง DSLR เล็กลง และสามารถปรับไปใช้งานแบบทั่วไปได้ง่ายขึ้นผ่าน Mirrorless
แน่นอนว่ายังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าสิทธิบัตรนี้จะออกมาเป็นสินค้าจริงได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่ต้องการคำตอบตั้งแต่การรองรับเลนส์ของแต่ละโหมด และเคสการใช้งานจริงว่าการสลับโหมดได้นั้นจำเป็นหรือไม่
ที่มา - UberGizmo
Comments
ไม่รู้จะทำออกมาไหม แต่ที่แน่ๆ ถ้าทำออกมากระเป๋าฉีกแน่นวล
ข้อดีคือการเลื่อนระนาบให้เข้าใกล้ทำให้ใช้เลนสำหรับ range finder ได้ครับ
พวกเลน leica m ใส่ mirrorless เพราะระนาบ sensor มันเท่า range finder แต่ dslr ปัจจุบันใส่ไม่ได้
มันจะเล็กลงได้ยังไง ในเมื่อตอนปรับ Sensor เป็นแนวนอน
กล้องมันต้องกว้างอย่างน้อยน้อยเท่าความสูงของ Sensor อยู่ดี ซึ่งมันเป็นไปแทบไม่ได้เลย
เพราะต้องบวกความหนาของ Panel ด้านหลัง
โครงสร้างบอดี้ + กลไก + ระยะ Register สำหรับโหมด Mirrorless อีก
เห็นด้วยว่ามันจะเล็กลงได้ยังไง
สุดท้ายมันก็เป็นเทคโนโลยีที่ Canon คิดเพื่อที่จะอยู่อย่างถูๆ ไถๆ ในยุค Mirrorless แต่ไม่ได้ออกกล้องใหม่ที่นำข้อดีของ Mirrorless มาใช้
ถ้าซัก 4-5 ปีที่แล้วคงจะอื้อหือได้เพราะตอนนั้นพวก EVF ยังเน่า ๆ กันอยู่
แต่ ณ เวลานี้ EVF มันพัฒนาไปไกลมากแล้วน่ะ ความจำเป็นของ Optical View Finder มันไม่มากเหมือนแต่ก่อนแล้ว
เห็นด้วยเลย
แถมสำหรับมือใหม่หลายๆ คน (รวมถึงผม) ก็ชอบ EVF นะ
เพราะมันถ่ายง่าย เห็นภาพสุดท้ายเลย
ไม่แน่ใจว่า ปัจจุบันเรื่องการใช้พลังงานเป็นยังไงครับ?
ผมพูดได้เฉพาะจากกล้อง Sony นะ ค่ายอื่นผมไม่ทราบ
ยังคงกินพลังงานใกล้เคียงกับจอ LCD ครับ
A7ii ผม ถ่ายได้ประมาณ 500 shot (เปิดกันสั่น ปิด wifi, ปิดๆเปิดๆบ่อย ไม่ชอบเปิดค้าง, ไม่รัว เล็งปราณีตแล้วค่อยกดทีละช้อต, ย้ายการออโต้โฟกัสมาไว้ที่ปุ่มนิ้วโป้ง กดเมื่อจะโฟกัส ไม่ใช่โฟกัสก่อนถ่ายตลอด, ใช้แต่ evf)
สะดวกดีครับ ถ่ายสปอร์ตก็ปิด image review ทีนี้ delay, black out time จะสั้นมาก
ถ่ายทั่วไป ผมก็เปิด image review ไว้ ถ่ายเสร็จภาพก็ขึ้นมาให้ดูใน evf เลย ไม่ต้องละตาลงมามองจอ
ข้อสังเกตุอีกอย่างคือ live view ในกล้อง Sony กินพลังงานน้อยกว่า live view ใน 5dii มาก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม 5Dii เปิด live view แล้วแบตลดไวขนาดนั้น หรือเขาทำมาให้คนใช้ DSLR กลัวว่าเวลาไปใช้กล้องที่ต้องทำงานในโหมด live view ตลอดเวลาแบตจะแย่นะ?
อะไรที่เป็น Hybrid มักจะบำรุงรักษายากและราคาแพง
ผมเป็น Fanboy Sony นะ
อ่านย่อหน้าแรก "หลังจากวงการกล้องเงียบหายเรื่องเทคโนโลยีล้ำสมัยมาหลายปี"
อ้าว แล้วที่ Sony ทำกับ A7S/A7RII นี่ไม่ว๊าวเลยเหรอ เห็นปีนี้ A7RII กวาดรางวัลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย
จริงๆควรเปลี่ยนเป็น
ครับ.... จนผมเลิกถามหา DOF ไปแล้ว
มาบวกว่า sony ว้าวมากจริงๆ พวกกันสั่น 4k วิดีโอก็ตื่นเต้น
ทำไหมผมมองว่าไม่มีประโยชน์เท่าไรเลย
ถ้าเทียบ DSLR ก็ได้แค่ใช้ lens เก่าๆได้ แต่ต้องแลกมากลับความหนักของกลไกที่มากขึ้น ความหนาใหญ่ที่กว่า(อย่างน้อยก็ใหญ่กว่า DSLR ในช่วงเดิยวกัน)
ประโยชน์เท่าที่นึกออกก็คงเป็นการช่วยประหยัดแบตได้บ้างในโหมด DSLR เมื่อเทียบกับ EVF ใน MRL
เซ็นเซอร์อยู่ตรงนั้น (สีแดงๆ) มันใส่เลนส์ SLR ตรงๆไม่ได้นี่ครับ ระยะ flange distance ไม่ถูกต้อง
อันนี้เหมือนแค่ทำให้เลนส์ flange distance สั้น (เลนส์ mirrorless) ใช้ OVF ได้ แค่นั้นเอง แต่เซ็นเซอร์มันถอยหลังไปได้ไม่มากพอที่จะใช้เลนส์ DSLR ได้โดยตรง
แต่ก็เจ๋งอยู่ดี ผมเดาว่าแผนคือ
- ออก mount ใหม่ flange distance สั้นแบบนี้แหละ (หรือใช้ eos-m ไปเลย?)
- ออก กล้อง 2 ไลน์ ไลน์แรกมี ovf ตามสิทธิบัตรนี้เพื่อลูกค้าที่ชอบ ovf อีกไลน์เป็น mirrorless เต็มตัว ไม่มีกลไกพลิกกระจก และ ovf pentaprism จึงเล็กกว่า แต่ทั้ง 2 ไลน์ใช้เลนส์เหมือนกัน
- เลนส์ในอนาคต มาออกใน mount นี้หมด ออกแบบทีเดียวใช้ได้ทั้งบน ovf และ evf
ปล.ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ชิ้นสีเขียว ที่ส่งต่อภาพจากระยะเซ็นเซอร์ไปยังกระจกสะท้อนภาพ มันทำงานยังไง และเข้ากันได้กับทุกเลนส์หรือเปล่า?