พ.อ. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค. และรองประธาน กสทช. เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์แนวหน้าว่า ที่ผ่านมา ทรู-กลุ่มจัสมิน ยังไม่ได้เดินทางมาจำหน่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกแต่อย่างใด ส่วนตัวก็เข้าใจว่าที่สามารถดำเนินการได้ช้าเพราะสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการออกเงินกู้ แต่ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนวันครบกำหนด
หนังสือพิมพ์แนวหน้ารายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันการเงินหลายแห่งกลับเพิ่มความเข้มงวดในการออกเงินกู้มากขึ้นกว่าครั้งที่ออกเงินกู้ของรอบ 1800 MHz ให้อย่างเห็นได้ชัด โดยสถาบันการเงินชี้ว่าผู้ชนะบางรายมีกระแสเงินสดในมือที่ต่ำกว่าเกณฑ์รวมถึงมีภาระหนี้สิ้นจากค่าใบอนุญาตและค่าลงทุนในระบบสาธารณูปโภคด้านโครงข่ายที่สูงมาก ซึ่งก็เกรงว่าผู้ชนะบางรายจะไม่สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงสถาบันการเงินบางรายเพิ่งจะมีบทเรียนครั้งใหญ่ในธุรกิจทีวีดิจิทัล ทำให้มีผลต่อการอนุมัติเงินกู้ในรอบนี้เพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้สถาบันการเงินบางรายได้ยื่นหนังสือขอแผนการประมูลคลื่นอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับสำนักงาน กสทช. เป็นการเพิ่มเติมด้วย โดยให้เหตุผลในการขอแผนนี้ว่าต้องการนำไปใช้ในการพิจารณาและนำไปปรึกษาหารือกับคณะกรรมการของแต่ละสถาบัน เพื่อที่จะได้ทำแผนรองรับในการออกเงินกู้ล็อตถัดๆ ไปด้วยครับ
ที่มา - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Comments
นึกถึงละครญี่ปุ่น Hanzawa Naoki เลยครับ ธนาคารต้องแน่ใจว่าผู้กู้จะต้องมีเงินมาคืน ไม่งั้นธนาคารเดือดร้อน
ใช่เลยครับ พูดแล้วอยากดูอีก 55
ThaiPBS กำลังฉายอยู่นะครับ ส.-อ. 20.15 น. ถึงตอนเข้าโตเกียวแล้วพอดี :)
ป่านนี้ธนาคารคงทำงานกันวุ่นน่าดูเหมือนกันครับ ดูหนังแล้วรู้ว่ามันไม่ง่าย
ผู้บริหาร jas เคยมีประวัติไม่ดีกับธนาคารมาก่อน รึเปล่า
ถ้าประมูลใหม่นี่ AIS ยิ้มเลยนะครับ
ยิ้มกันทุกเจ้าละครับ เพราะมั่นใจได้ว่าถูกลงแน่นอน
ช่วงแรกมีแต่คนบอกว่ารีบจ่ายแน่นอน AIS จะได้ซิมดับ สุดท้ายคือยังไม่มีตังจ่ายนะครับ ต้องไปหาตังก่อน ถถถถ
กสทช. บอกเองนะครับ ว่าถ้าจะประมูลใหม่ ราคาเริ่มต้น จะเป็นราคาสุดท้ายที่ปิดประมูล ก็คือไม่มีทางถูกลงแน่นอนครับ
ขอแหล่งอ้างอิงหน่อยครับ
นายฐากรกล่าวว่า หากเกิดกรณีที่มีผู้ชนะการประมูลไม่มาจ่ายเงินงวดแรกภายในกำหนด สิ่งที่ กสทช.จะต้องดำเนินการคือจัดประมูลใหม่ ไม่สามารถเรียกผู้เสนอราคาลำดับถัดไปมาเจรจาได้ และเพื่อไม่ให้รัฐเสียหาย การเริ่มต้นประมูลอาจจะใช้ราคาสุดท้ายของการประมูลครั้งก่อน คือ 75,654 ล้านบาท สำหรับใบอนุญาตในช่วงคลื่นที่ 1 ซึ่งทางบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล และ 76,298 ล้านบาท สำหรับใบอนุญาตในช่วงคลื่นที่ 2 ที่บริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ดังนั้นจะไม่มีการเปิดประมูลคลื่นย่านนี้ใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าเดิม
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1454324540
การเริ่มต้นประมูลอาจจะใช้ราคาสุดท้ายของการประมูลครั้งก่อน
lewcpe.com, @wasonliw
งั้นคงมีโอกาสที่จะไม่มีไครเอา
ถ้าผมไปประมูลไว้ 3 ล้านล้านล้าน แสดงว่าคนมาประมูลรอบใหม่ต้องเริ่มจากตรงนั้นเหรอครับ? ผมคิดว่าไม่น่าใช่นา
ถ้าเริ่มราคาต่ำกว่าแล้วราคาประมูลไปปิดที่ต่ำกว่ากว่าผู้ที่เคยกดเล่นกดได้
ผู้จัดจะไปฟ้องเรียกค่าเสียหายกับผู้ที่กดเล่นให้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อให้เท่ามูลเดิมที่กดเอาไว้ครับ
ถ้าไม่มีใครเข้าประมูลต่อ
คือปรับ Jas เต็ม ๆ 75,000 ล้าน เลยสินะครับ
//ยิ้มแบบชั่วร้าย
ยังไม่มีใครบอกฟันธงแบบนั้นนะครับ ผมหาดูมีเพียง "แหล่งข่าว" (ซึ่งเป็นใครไม่รู้) ระบุกับ Bangkok Post หรือก่อนหน้านี้เคยมีข่าวระบุ "ทางเลือกที่เป็นไปได้"
lewcpe.com, @wasonliw
จำหน่ายค่าใบอนุญาต => จ่ายค่าใบอนุญาต
ธนาคารกำลังอ่านข่าวกสท. ลงมติให้ธนาคารกรุงเทพจ่ายหลักทรัพย์ค้ำประกันของไทยทีวี มูลค่า 1.63 พันล้านบาทประกอบการตัดสินใจอยู่
ยิ่งอ่านยิ่งเสียว
เป็นบทเรียนที่ต้องกลับมามองกันใหม่ครับทั้งความเข้าใจของผู้บริโภค(ที่ชอบบอกว่ามันถูกไปฮั่วแน่นอน!!!) กับผู้ประกอบการ(ได้คลื่นมาก่อนเดียวก็หาตังได้) เพราะราคามันแพงเกินจริงไปมากๆ แล้วต้องถามว่าประชาชนได้อะไรจากการที่ได้ราคาแล้วสุดท้ายไม่มีปัญญาจ่ายกัน สุดท้ายก็ปล่อยว่างและเสียเวลา เพราะราคาขนาดนี้ถ้า AIS ได้ไปคงไม่มีธนาคารไหนมีปัญหา ที่มีปัญหาเพราะ JAS เนี่ยแหละ