วันนี้ ASUS ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวแผนธุรกิจปี 2016 โดยคุณเจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการของ ASUS ประเทศไทยเป็นผู้มานำเสนอด้วยตัวเอง
ผมเขียนถึงตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในงานคือ ZenFone Zoom และ ZenFone Max ไปแล้ว บทความนี้เป็นเรื่องยอดขาย ยุทธศาสตร์ และแผนธุรกิจครับ ความน่าสนใจคือ ASUS เป็นอีกบริษัทที่ต้องปรับตัวอย่างหนักในการเปลี่ยนผ่านจากพีซีเข้าสู่อุปกรณ์พกพา และพระเอกไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจาก ZenFone นั่นเอง
คุณเจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ ASUS Thailand
ผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อและรายได้ให้ ASUS อย่างมากยังเป็น "โน้ตบุ๊ก" โดยปัจจุบัน ASUS นับเป็นผู้ผลิตโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์อันดับ 3 ของโลก (เป็นรองแค่ Lenovo กับ HP ยอดขายชนะแอปเปิลด้วยซ้ำ)
สำหรับประเทศที่ ASUS มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งก็ตามภาพ มีหลายประเทศอยู่ในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ส่วนประเทศไทย ถึงแม้ ASUS ไม่ได้มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็อยู่ในอันดับสอง ร่วมกับอีกหลายประเทศ
ยอดขายพีซีของ ASUS ปี 2015 สูงขึ้นจากปี 2014 เล็กน้อย จุดที่น่าสนใจคือ ASUS เริ่มมาลุยตลาดเดสก์ท็อป และขายได้ 2 ล้านเครื่อง ส่วนเป้าหมายปี 2016 ก็จะขยับเป้าให้สูงขึ้นอีก 26% จากปี 2015
รากเหง้าของ ASUS มาจากพีซี ดังนั้นรายได้และยอดขายจึงมาจากฝั่งพีซีเป็นหลัก แต่ด้วยสภาพอุตสาหกรรมแล้ว ยังไงอุปกรณ์พกพาจะต้องแซงอยู่แล้ว ซึ่งในปี 2015 ที่ผ่านมา ยอดขายอุปกรณ์พกพาของ ASUS แซงพีซีไปเรียบร้อยแล้วในแง่จำนวน แต่เรื่องรายได้ บริษัทคาดว่าจะแซงกันในปี 2018
ASUS ยอมรับว่าตัวเองเริ่มต้นช้ากับสมาร์ทโฟน แต่ยอดขายของ ZenFone ก็ทำให้บริษัทเริ่มเจาะตลาดโลกได้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายอยู่อันดับ 14 ของโลก (อันดับ 5 ถ้าไม่นับแบรนด์จีน) เป้าหมายปี 2016 ต้องการติดอันดับ Top 10 ของโลก และขึ้นเป็นอันดับสองของอาเซียน
ปี 2014 บริษัทเริ่มขาย ZenFone ตัวแรก ทำยอดขายได้ 7.5 ล้านเครื่อง ส่วนปี 2015 ยอดขายเพิ่มมาเป็น 20 ล้านเครื่อง และในปี 2016 บริษัทตั้งเป้า 36 ล้านเครื่อง
ข่าวดีสำหรับแฟนๆ ZenFone ในไทยคือบริษัทวางขายมาได้ประมาณเกือบสองปี มียอดขาย ZenFone ในไทยเกิน 2 ล้านเครื่องแล้ว
ASUS วางเป้าหมายยอดขายในไทยปี 2016 ว่าจะต้องเติบโตขึ้นเท่าตัว (100%) โดยพระเอกคือสมาร์ทโฟนที่จะต้องโตแบบก้าวกระโดด ส่วนแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊กจะต้องเติบโตด้วยเช่นกัน
เป้าหมายของตลาดทั้งโลกในปี 2016
ยอดขายของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2015 จะเห็นว่าตลาดอาเซียนมีส่วนแบ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งก็จะเป็นตลาดที่ ASUS เน้นมากที่สุดด้วย
ส่วนยุทธศาสตร์ว่าทำยังไงจะเติบโตได้ถึงเป้าหมาย ASUS ใช้คำว่า "Attacking" บุกตลาดด้วยผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ที่มีนวัตกรรมแตกต่าง (บริษัทเรียกว่า Hero Innovation) ดังที่บริษัทประสบความสำเร็จมาแล้วกับ Eee PC, Transformer Pad และ ZenFone
ผลิตภัณฑ์สองตัวแรกที่บริษัทส่งมาลุยตลาดไทยช่วงต้นปีคือ ZenFone Zoom และ ZenFone Max แต่ก็จะมีตัวอื่นๆ ตามมาในภายหลัง
เรื่องบริการก็ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างความประทับใจกับลูกค้าเพิ่มจากเดิม (ยุทธศาสตร์ Wow Experience) โดยบริษัทจะปรับปรุงช็อปให้ดีกว่าเดิม ก่อนจะขึ้นไปเทียบชั้น Brand S และ Brand A ต่อไป
Comments
ถ้าให้ถอดแอพของ Zen ได้จะกลับมาใช้ใหม่
ใช้มานานค่อนข้างดี แต่เกลียดแอพที่มากับเครื่อง
ปัญหาเดียวกับ samsung ส่วนตัวถ้าไม่นับ nexus ชอบ sony สุดแล้ว คล้าย stock android มากสุด
+1 ผมชอบ ZenFone ทุกอย่างยกเว้นแอพขยะมหาศาลที่แถมมาแล้วเอาออกไม่ได้ (ตัวที่เอาออกได้ไม่ว่ากัน)
อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า preload มาได้ แต่ให้เอาออกได้ด้วยได้มั้ย แต่เดาว่าเป็นข้อตกลงทางการค้าละมั้ง เลยเป็นแบบนี้ ได้แต่ทำใจ...
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
app zenfone ก็ดีหนิ ผมยังใช้อยุ่ตั้งหลาย app เครื่องก็ไม่ได้ช้าอะไร zenfone2 นะ
ขอศูนย์มือถือเยอะๆหน่อย จะได้กล้าซื้อใช้
ปรัปปรุงพนักงาน และระบบหลังเคลม/ซ่อม ด้วยครับ บอกจะส่ง SMS มา ผ่านไปจริงๆ เดือนนึงยังไม่ส่งมา แต่เครื่องเสร็จตั้งแต่อาทิตย์แรก
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
ยอดขายสูงมากกว่าที่คิด สงสัยเป็นเพราะราคาที่เหมาะสม
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ZenFone นี่มาถูกทางแล้วครับ ผมเห็นคนรอบตัวใช้กันเยอะมากเลย แสดงว่าของมันน่าใช้จริง คุ้มค่าจริง
และเป็นเครื่องที่เวลาถือใช้แล้ว ดูดีเลยนะครับ อย่างว่าไม่ต้องแพง แต่ถ้าเครื่องมันภาพลักษณ์ดี มันก็ดูดีได้ (ส่วนตัวผม มองว่าภาพลักษณ์แบรนด์นี้ คือของดีราคาคุ้มค่า ผู้ใช้ก็ดูเป็นคนฉลาดเลือกไปด้วย)
เป็นแบรนด์ที่เวลาถ้าคนอื่นมาถามก็จะแนะนำให้ซื้อเลย ทั้ง ZenFone และ Notebook แต่ถ้าให้ใช้เองคงไม่ เพราะ PC นี่ผมเป็นสาวก Dell ส่วนมือถือนี่ยังกังวลเรื่องความเข้ากันได้ของแอพ (เพราะเป็น Intel x86)
เอาใจช่วยละกันครับ อยากเห็น ZenFone โตกว่านี้อีก มันโอเคเลยทั้งคุณภาพ สเป็ค และราคา แถมยังดูดีกว่าแบรนด์จีนแน่ๆ แค่ต้องยอมรับเรื่องมันเป็น x86 แค่นั้นเอง
เป็นสิ่งที่ HTC เพื่อนร่วมชาติควรทำตามแนวทางนี้มากถ้าอยากรอด คือต้องขายความต่าง (ใส่ x86 ไปเลย แล้วดัมพ์ราคาลงมาถูกๆ ไปเลยเพราะ Intel ช่วย แต่ยังมีสเป็คที่ดี เครื่องวัสดุและคุณภาพดีอยู่) แต่รายนั้นท่าจะรอดยากละ อาการหนัก อนาคต Asus สดใสกว่าเยอะ
ZenfoneMax เครื่องนึง ซื้อเพราะแบตเลยนะเนี่ย
ของผม Zenfone 4 ยังใช้งานได้ดี
อย่าตั้งเป้าแต่ยอดขายอย่างเดียวอยากให้ปรับปรุงเรื่องบริการด้วย ใน pantip คนด่ากันเยอะเป็นอันดับต้นๆเลย
จุดติดจริงๆกับเซนโฟนเลยนะ เห็นได้จากศูนย์บริการเอซุสเมื่อก่อนพนักงานตบยุงมีคนมา ชม.ละ2-3คนได้ เดี๋ยวนี้คนแน่นเชียว แต่ส่วนตัวอยากรอดูรุ่นที่ใช้อะตอม x5/x7
คงเพราะสเป็คและราคาเหมาะสม Samsung ก็เคยอยู่จุดนี้มาก่อน อีกหน่อยคงขึ้นราคาแบบ Samsung
เป็นแฟน ASUS มาตั้งแต่ใช้ Hardware ใน PC แล้วนะ
แล้วก็มา NoteBook ก็ใช้ มามือถือ Zenphone ก็ใช้ รู้สึกว่าคุณภาพคุ้มราคา
ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ดีที่สุด แพงที่สุด แต่ผมว่าคุ้มค่าคุ้มราคาดี
อยากให้พี่ลงมาตรวจงานศูนย์บริการบ้างจัง
เป็นตัวเลือกแรกในการหาซื้อมือถือที่เน้นความคุ้มค่าในช่วงก่อนหน้านี้ของผมเลย ชอบทั้งสเป็คหน้าตาแล้วก็ UI เสียดายที่หาซื้อแทบจะพลิกแผ่นดินแล้วก็ยังหาไม่ได้ แต่สิ่งที่มักจะเห็นบ่อยๆ คือคนถือ Zenphone หน้าจอตแตกๆ ตรงนี้รู้สึกว่าผิดปกติมาก เหมือนหน้าจอมันแตกง่ายกว่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า และไม่รู้ว่าตอนนี้แก้ปัญหานี้ไปแล้วหรือยัง
ผมว่าเป็นด้วยความถูกของมัน คนซื้อเลยกล้าหยิบจับเสี่ยงๆมากกว่า
สังเกตดูคนใช้มือถือเรือธงส่วนใหญ่จะระวังสุดๆ พวกใช้ Lava นี่แทบจะโยนเล่น
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
คือแบบว่า อย่าให้หล่นเป็นอันขาดครับ