Asus ออกแถลงการณ์ต่อข่าวลือ ที่มีออกมาก่อนหน้านี้ว่าบริษัทจะยุบแผนก Zenfone โดย Zenfone 10 เป็นรุ่นสุดท้ายก่อนปิดตัวว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง

Asus บอกว่าบริษัทยังคงดำเนินงานธุรกิจสมาร์ทโฟนในสองรุ่นหลักคือ Zenfone และ ROG Phone ต่อไป รวมทั้งยืนยันว่ายังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจสมาร์ทโฟนนี้

ที่มา: Asus

Technews สื่อไต้หวันรายงานข่าวลือว่า ASUS ปรับลดพนักงานในธุรกิจพีซีและสมาร์ทโฟนลง โดยอาจส่งผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนตระกูล Zenfone ด้วย

ปัจจุบัน ASUS มีสมาร์ทโฟนอยู่ 2 แบรนด์คือ Zenfone และ ROG โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้อาจกระทบแบรนด์ Zenfone ที่เพิ่งออก Zenfone 10 ซึ่งอาจเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว พนักงานในทีม Zenfone อาจถูกย้ายไปรวมกับฝ่ายมือถือ ROG หรือฝ่ายอื่นๆ แทน

ที่มา - Technews, 9to5google

หลังจาก Zenfone 10 ถูกเปิดตัว ได้ไม่นาน สื่อไอทีหลายเจ้าเริ่มออกมารีวิวแล้ว

ภาพรวมที่สื่อหลายเจ้ายอมรับ คือ ขนาดเครื่องที่พอดีมือ กะทะรัด พกพาสะดวก ทำให้โดดเด่นต่างจากเรือธงยี่ห้ออื่นในตลาดที่ขนาดใหญ่กว่า (Zenfone 10 จอแค่ 5.9 นิ้ว) ถัดมาคือ Refresh rate สูงสุดของจอขณะใช้งานทั่วไปที่ 120Hz และจะถูกปรับเป็น 144Hz ขณะเล่นเกม

Zenfone 10 สามารถเลือกแอป Drawer หน้าโฮม ได้ว่าอยากได้คลีน ๆ แบบ stock android (คล้าย ๆ ของ Pixel) หรือเป็นธีมของ ASUS รวมถึงยังคงมีแจ๊คหูฟัง 3.5 มม. มาให้ ที่ไม่ค่อยพบได้แล้วในเรือธงปัจจุบัน

Evan Blass นักปล่อยข่าวหลุดทวีตภาพเรนเดอร์ตัวเครื่อง Zenfone 10 ผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ (เป็นบัญชีส่วนตัวที่ถูกป้องกันไว้) ซึ่งเป็นภาพดีไซน์ตัวเครื่องในสีต่าง ๆ ของ Zenfone 10

ภาพเรนเดอร์ที่เผยให้เห็นโทนสีใหม่อย่าง Sea green สีต่อมาจาก Bright red และสีเข้มอื่น ๆ ที่เคยมีใน Zenfone 9 รวมถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่กะทะรัดและเป็นเอกลักษณ์ ทั้งขอบเหลี่ยมและมุมโค้งมน ขนาดจอ 5.9 นิ้ว ปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านขวา และมีกล้องหน้าและกล้องหลังตำแหน่งเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ขณะที่ขอบด้านหน้าของเครื่องจะเล็กและบางกว่าเล็กน้อย

ASUS จะเปิดตัว Zenfone 10 เป็นทางการในวันที่ 29 มิถุนายน นี้

แม้จะดูเงียบ ๆ ในตลาดสมาร์ทโฟนไทยและโลก แต่เหมือน ASUS ยังคงทำ ZenFone อยู่อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็แง้มภาพตัวอย่าง และเผยว่าจะเปิดตัว Zenfone 10 ในช่วงวันที่ 29 มิถุนายนนี้ เวลา 2 ทุ่มตามเวลาในไทย

ASUS เผยคอนเซ็ปของงานคือ “All On Hand” ซึ่งสเปคบางส่วนที่เปิดเผยออกมาตอนนี้ คือจะมาพร้อมหน้าขนาด 5.9 นิ้ว มีระบบกันสั่นแบบ 6-axis hybrid gimbal stabilizer ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 พร้อมดีไซน์แบบ Max style และสีใหม่

ที่มา: ASUS

ASUS เปิดตัว Zenfone 8 ที่รอบนี้ฉีกแนวจากของเดิม หันมาชูแนวคิด "สเปกเรือธง ในขนาดเครื่องเล็ก" (Big on Performance. Compact in Size) ด้วยหน้าจอขนาด 5.9" แทน (Zenfone 7 ใช้จอ 6.67") น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 169 กรัม

ส่วนที่ว่าสเปกแรงคือ

วันนี้ Asus เปิดตัว Zenfone 7 และ 7 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธง แต่ไม่ได้เน้นด้านเกมมิ่งแบบตระกูล ROG ทั้งสองรุ่นมีกล้องสามตัว เพิ่มเลนส์ซูมเข้ามาจากที่เคยมีแค่เลนส์ปกติและอัลตร้าไวด์ ใน Zenfone 6

Zenfone 7 Pro ใช้แพแนลจอ AMOLED จากซัมซุง ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080p+ อัตราส่วน 20:9 รีเฟรชเรต 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 865+ แรม LPDDR5 เริ่มต้นที่ 8GB หน่วยความจำภายใน 256GB แบบ UFS 3.1 รองรับ 5G (แค่ sub-6GHz ไม่รองรับ mmWave) ใส่สองซิมได้ (แต่ไม่รองรับซิมคู่แบบ 5G+5G) รองรับ microSD card ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ประกบด้วย Gorilla Glass 6 ด้านหน้า และ Gorilla Glass 3 ด้านหลัง

จากกรณี ศาลอินเดียตัดสิน ASUS ไม่สามารถใช้แบรนด์ ZenFone, ZenBook ทำตลาดในประเทศได้ หลายคนอาจสงสัยกันว่า ASUS จะรับมือปัญหานี้อย่างไร และใช้แบรนด์อะไรทำตลาดแทน

ตอนนี้คำตอบออกมาแล้ว โดยหน้าเพจของ ASUS ZenFone 6z บนเว็บอีคอมเมิร์ซอินเดีย ได้ตัดคำว่า "ZenFone" ออก และใช้เพียงชื่อ "ASUS 6z" สั้นๆ อย่างไรก็ตาม ใน URL ของเว็บเพจยังมีคำว่า zenfone ของเดิมติดอยู่

ศาลสูงในกรุงเดลีย์มีคำตัดสินไม่ให้ ASUS ใช้แบรนด์ Zen ไม่ว่าจะ ZenFone หรือ ZenBook ในผลิตภัณฑ์ใดๆ ของตัวเองตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมเป็นต้นไป หลังบริษัท Telecare Network ยื่นฟ้องว่าตนเองถือสิทธิ์ใช้แบรนด์ ZEN และ ZENMOBILE ในอินเดียอยู่ก่อนแล้ว

Telecare อ้างว่าจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตั้งแต่ปี 2008 ส่วน ASUS เข้ามาทำตลาดทีหลังในปี 2014 รวมถึงทั้งสองแบรนด์ทำสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคาเดียวกัน ทำให้ผู้บริโภคอาจสับสนได้ด้าน ASUS แย้งว่า Zen ที่เอามาใช้นำมาจากปรัชญาของนิกายเซน (Zen) ทำให้คำว่า Zen เป็นคำทั่วไป (generic) อยู่แล้ว รวมถึงว่า ZenFone มักมาคู่กับแบรนด์ ASUS อยู่แล้ว ไม่น่าทำให้ผู้บริโภคสับสน

กลางเดือนที่ผ่านมา ASUS เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Zenfone 6 แบบมาเงียบๆ โดยไฮไลท์ก็หนีไม่พ้นกล้องที่พับขึ้นมาจากกล้องหลังเป็นกล้องหน้า ทำให้หน้าจอด้านหน้าไม่มีติ่ง ไม่มีรอยบากใดๆ ทั้งสิ้น โดยสเปคแน่นอนว่าระดับเรือธงแต่ราคาเริ่มที่ไม่ถึง 20,000 บาท ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย

ผมมีโอกาสได้ไปลองเล่น Zenfone 6 ที่งาน Computex เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยเก็บมาฝากกันหน่อยครับ

ASUS เปิดตัวเรือธงตัวล่าสุด Zenfone 6 แล้ว ที่น่าสนใจคือความพยายามในการนำเสนอแมคคานิกกล้องแบบพลิกกลับหลังได้ เพื่อให้หน้าจอด้านหน้าสามารถขยายได้เต็มพื้นที่ โดยไม่มีรูหรือติ่งใดๆ

ด้วยแมคคานิกดังกล่าว ทำให้ Zenfone 6 มีแค่กล้องหลัง 2 กล้องเท่านั้น และเมื่อต้องการเปิดกล้องหน้า กล้องหลังจะพลิกขึ้นมา 180 องศาให้สำหรับเซลฟี่ โดยความละเอียดของตัวกล้องอยู่ที่ 48 ล้านพิกเซลร่วมกับเลนส์ไวด์ 13 ล้านพิกเซลบนเซ็นเซอร์ IMX586

ปลายปีที่ผ่านมาผู้เขียนเพิ่งรีวิว Zenfone Max (M2) สมาร์ทโฟนจอใหญ่, Pure Android ในราคาไม่ถึงหกพันบาท รอบนี้มีอีกรุ่นมารีวิว คือ ASUS Zenfone Max Pro (M2) มากับดีไซน์แบบเรียบหรู พร้อมจุดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มา 5000 mAh สามารถใช้งานข้ามวันได้สบายๆ และที่สำคัญยังเป็นสมาร์ทโฟนในราคาไม่ถึงหมื่นบาทอีกด้วย

ASUS ประกาศข่าวว่า Jerry Shen ซีอีโอของบริษัทจะลงจากตำแหน่งในช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ และบริษัทจะปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ รวมถึงปรับโฟกัสของธุรกิจสมาร์ทโฟนด้วย

คนที่มาแทน Jerry Shen จะเป็นระบบซีอีโอคู่โดย SY Hsu ที่เคยดูแลธุรกิจพีซี และ Samson Hu ที่เคยดูแลฝ่ายบริการลูกค้า

ส่วนสมาร์ทโฟน ZenFone จะถูกเปลี่ยนยุทธศาสตร์ไปเน้นที่เกมมิ่งและกลุ่มผู้ใช้ power user แทน รวมถึงจะตัดบัญชีมูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ เป็นการขาดทุนของมูลค่าสต๊อกสินค้าเก่าที่ค้างอยู่และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย

ASUS บอกว่าธุรกิจเกมมิ่งโน้ตบุ๊กยังไปได้ดี ส่วนปี 2019 บริษัทจะเน้นการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น

ASUS เปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รันด้วย Android Go ในชื่อ Zenfone Live

สเปคก็เรียบๆ ตามสไตล์สมาร์ทโฟนราคาถูกที่รัน Android Go ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 425 (น่าสนใจว่าไม่ได้ใช้ MediaTek เหมือน Go รุ่นอื่นๆ) แรม 1GB หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS ความละเอียด HD สัดส่วน 18:9 ความจุ 16GB รองรับ microSD กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 3,000 mAh รองรับสองซิม โดยแอนดรอยด์เป็นเวอร์ชัน 8.1 Go Edition

ราคาก็แน่นอนว่าต่ำตามสไตล์ Android Go อยู่ที่ 109.99 เหรียญ หรือราว 3,630 บาท

ที่มา - Android Police

อย่างที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android คงทราบดีว่า มีโอกาสสูงที่จะถูกลอยแพ ไม่ได้ไปต่อกับ Android เวอร์ชันใหม่ๆ แต่สำหรับใครที่ใช้ ASUS ZenFone 3 Max คงต้องบอกว่ายินดีด้วย เพราะรุ่นดังกล่าวได้ไปต่อกับ Android 8.1 Oreo แล้ว ส่วนรุ่นอื่นๆ ในตระกูล ZenFone ต้องรอติดตามกันต่อไป

ในช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของสมาร์ทโฟนกลุ่มเรือธงที่ชัดที่สุดคือเรื่องราคา ที่กระโดดจากช่วง 2-3 หมื่นขึ้นไปเป็นช่วง 3-4 หมื่น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสเปคและดีไซน์ที่ไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก

อย่างไรก็ตามมีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่วางขายในไทย 3 เจ้าที่แหวกขนบด้วยการเปิดตัวเรือธงในราคาต่ำ 2 หมื่นได้แก่ Mi Mix 2s, Zenfone 5z และ OnePlus 6 ซึ่ง Mi Mix 2s เราได้รีวิวไปแล้ว ขณะที่ Zenfone 5z และ OnePlus 6 วางขายในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งผมก็มีโอกาสได้ทดลองใช้งานทั้งสองรุ่นพร้อมๆ กัน เลยนำมารีวิวเปรียบเทียบพร้อมกันเลยครับ

หลังจากส่งรุ่นเล็กกว่าอย่าง Zenfone 5 มาแล้ว วันนี้ ASUS ไทยเปิดตัว Zenfone 5z รุ่นเรือธง นำมาด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 845 แรม 6GB และ 8GB หน้าจอ 6.2 นิ้ว FHD+ หน่วยความจุเป็น UFS2.1 ความจุ 128GB และ 256GB

สิ่งที่ ASUS ชูคือความเป็นสมาร์ทโฟน AI ที่เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้และปรับการใช้งานให้เหมาะสมแทน เช่นการชาร์จ Zenfone 5z จะเรียนรู้ช่วงเวลาตื่นของผู้ใช้ และจะรักษาระดับแบตเตอรีตลอดคืนเอาไว้ที่ราว 80% ก่อนจะปล่อยไฟเพิ่มให้อีก 20% ในช่วงเวลาใกล้ตื่น เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี หรือริงโทนที่จะส่งเสียงดังกว่าเมื่ออยู่ภายนอกอาคาร

Asus เปิดตัว Asus Zenfone 5 ในงาน MWC 2018 และกำลังจะเข้ามาขายในไทย โดยตัว Zenfone 5 ชูจุดเด่น AI ที่ช่วยการทำงานในหลายด้าน โดยเฉพาะกล้องถ่ายรูป และยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 636 (เป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง) Blognone มีโอกาสได้ลองจับถือ จึงทำมินิรีวิวมาฝาก

ASUS เปิดตัว Zenfone Max Pro (M1) มาตั้งแต่ปีที่แล้ว (อ่านรีวิวได้ที่นี่) ล่าสุดเปิดตัวอีกรุ่น แต่รันด้วย Android Oreo รุ่นไม่ปรับแต่ง โดยทาง ASUS รับรองการอัพเดตถึง Android Q ด้วย ถึงแม้รุ่นนี้จะไม่ได้เข้าโครงการ Android One ก็ตาม

ส่วนสเปคก็มีการอัพเดตจากปีที่แล้วให้ หน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด 2160x1080 ชิปเซ็ต Snapdragon 636 กล้องหลัง 13+5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้าน แบตเตอรี่ยังจัดเต็มเหมือนเดิมที่ 5,000 mAh พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ASUS เปิดตัวมือถือหลายรุ่นที่งาน MWC 2018 แต่ที่น่าจับตาที่สุดหนีไม่พ้นเรือธง ASUS ZenFone 5Z ที่ใช้หน้าจอเกือบไร้ขอบ และมี "ร่อง" (notch) แบบเดียวกับ iPhone X พร้อมกล้องคู่ด้านหลัง เรียงกล้องในแนวตั้ง และระบบอีโมจิเคลื่อนไหวตามใบหน้า เรียกได้ว่าเก็บครบทุกแรงบันดาลใจ ในราคาเริ่มต้นประมาณ 18,500 บาท

ปีนี้ ASUS เข็นไลน์ผลิตภัณฑ์ ZenFone ด้วยแนวคิด We Love Photo ทำให้ ASUS พยายมขายความสามารถของกล้องในทุกรุ่นย่อย ไม่เว้นแม้แต่รุ่นเล็กอย่าง ZenFone Max Pro ก็ยังมาพร้อมกล้องคู่ โดยมีเลนส์หนึ่งเป็นเลนส์ไวด์ 120 องศา

ZenFone Max Pro จัดอยู่ในรุ่นล่างที่สุดของไลน์ เรื่องสเปคก็ตามราคา นอกจากกล้องคู่แล้ว จุดเด่นของรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นแบตเตอรี่ที่ให้มา 5,000 mAh สามารถใช้งานข้ามวันได้สบายๆ ไปจนถึงตัว ZenFone Max Pro เองสามารถทำตัวเป็นแบตเตอรีี่สำรองจ่ายไฟให้เครื่องอื่นด้วยฟีเจอร์ Reverse Charging ด้วย

นอกจาก Zenfone 4 และ Zenfone 4 Pro แล้ว ยังมีอีก 2 รุ่นใหญ่ (4 รุ่นย่อย) ที่เปิดตัวพร้อมกันคือ Zenfone 4 Selfie, Zenfone 4 Selfie Pro, Zenfone 4 Max และ Zenfone 4 Max Pro

สำหรับ Zenfone 4 Selfie หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แพแนล IPS ครอบด้วยกระจก 2.5D รัน Snapdragon 430 แรม 4GB กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล แฟลชคู่

กล้องหน้าเป็นกล้องคู่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมแฟลช Softlight รองรับการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ความละเอียดสูงสุด FHD 30fps พร้อม EIS 3 แกน ส่วนอีกกล้องเป็นเลนส์ไวด์ 120 องศา

ASUS จัดงานเปิดตัวซีรีส์ Zenfone 4 ใหม่ แบ่งออกมาทั้งหมดเป็น 3 รุ่นใหญ่ได้แก่ Zenfone 4 ที่เน้นความเป็นกล้องหลังคู่,  Zenfone 4 Selfie เน้นกล้องหน้า และ Zenfone 4 Max ที่เน้นความอึดและการจัดการแบตเตอรี่ ก่อนที่แต่ละรุ่นจะมีรุ่นย่อยเป็นรุ่น Pro ที่สเปคมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทุกรุ่น ASUS ยืนยันจะได้รับแอนดรอยด์ O