Walt Mossberg คอลัมนิสต์แห่งเว็บไซต์ The Verge เขียนข้อเขียนถึงแอปเปิล แสดงความคาดหวังต่อไอโฟน 7 โดยกล่าวว่าไอโฟน SE นั้นสมเหตุสมผลในทางธุรกิจ แต่ไม่มีก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี
คุณ Mossberg กล่าวถึงคู่แข่งอย่างซัมซุง โดยเฉพาะกาแล็กซี S7 ว่าระยะห่างระหว่างผลิตภัณฑ์จากทั้งสองค่ายกำลังลดลงเรื่อย ๆ เหลือเพียงประเด็นหลักของซัมซุง คือ เรื่องซอฟต์แวร์ หากจะรักษาตำแหน่ง “มือถือที่ควรซื้อที่สุด” แอปเปิลควรจะมีพัฒนาในหลายๆ ด้าน
ประเด็นที่คุณ Mossberg กล่าวถึงในบทความ ได้แก่
- แบตเตอรี่ แอปเปิลอาจจะต้องยอมแลกแบตเตอรี่กับเครื่องที่หนาขึ้น หรือหยุดลดความบางของเครื่องลง
- การชาร์จ ควรมีระบบชาร์จไร้สาย หรือ การชาร์จเร็ว
- ขอบจอ จุดขายของไอโฟน SE ไม่ได้อยู่ที่ขนาดจอ หากแต่อยู่ที่ขนาดเครื่อง การลดขนาดขอบจอจะทำให้สามารถใส่จอขนาดใหญ่ขึ้นได้ในขนาดตัวเครื่องที่เท่ากัน
- กล้อง การถ่ายภาพในที่แสงน้อย และความเร็วในการเปิดกล้อง เป็นอีกเรื่องที่คู่แข่งอย่างซัมซุงทำได้ดีมาก
- ความทนทาน และการกันน้ำ ความงามของไอโฟนอย่างในโฆษณาเห็นได้น้อยมากในชีวิตจริง เนื่องจากถูกบดบังด้วยเคส และฟิล์มที่ผู้ใช้ใช้ป้องกันตัวเครื่อง
- ความจุ ความจุ 16 GB ไม่เพียงพออีกต่อไป ไอโฟนควรเริ่มต้นความจุที่ 32 GB หรือแม้กระทั่ง 64 GB แม้จำเป็นต้องลดส่วนต่างกำไรของบริษัทลง
และสุดท้ายซอฟต์แวร์ ดังที่คุณ Mossberg เคยพูดถึงไว้แล้ว
ท้ายที่สุดแล้วไอโฟนรุ่นใหม่จะมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจไหม คงต้องรอดูกันต่อไปครับ
ที่มา - The Verge
Comments
พอประโยคสุดท้ายนึกออกแค่
"บางลง กล้องใหม่ เร็วขึ้น"
อีกเรื่อง ไม่ต้องแท็ก The Verge ครับ
"การลดขนาดขอบจอจะทำให้ผู้ใช้ได้จากหน้าจอใหญ่ขึ้นในขนาดเครื่องเดียวกัน"?
Dream high, work hard.
แก้ไขแล้วครับ
สุดท้าย ถ้า apple ยอมลดส่วนต่างกำไรลงบาง ทุกข้อนี้ก็จะได้หมด
+1
เห็นด้วยสุดๆ
ถึงเวลาเปลี่ยนก็ยังต้อง iPhone อยู่ดีเพราะไม่สามารถออกจากวังวนแห่ง iOS ได้
ถ้าจะแข็งใจออกวังวนนี้ก็ต้องมาเสียเงินซื้อทุกอย่างใหม่หมด เว้นเสียแต่ว่าให้โอนแอพข้ามไปยัง Android ได้ฟรีแบบนี้ยังพอหัวข้อพิจารณาได้บ้างนะ
ผมตัดใจออกเลยครับ
เพลงเอย แอพเอย หาใหม่หมด
มีเสียดายที่สุดตรงที่ iOS มีแอพพจนานุกรมภาษาญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ( ซื้อมาตั้ง 2,800 เยน )
กับเพลงตอนที่ผมซื้อนี่ เพลงของญี่ปุ่น 60% มี DRM อีกตะหาก ( เซ็งมาก )
แต่เพื่อความคล่องตัวที่ iPhone ให้ไม่ได้ เลยตัดใจย้ายค่าย
ขอชื่อด้วยครับ สนใจอยู่
พอดีไม่ได้ใช้หลายปี ลืมชื่อไปแล้วครับ
แต่อีกตัวที่ประทับใจ คือ Midori ( รู้สึกจะฟรี )
ตอนนี้ JED บนแอนดรอยด์
อิสรภาพไม่มีคำว่าแพงเกินไปหรอกครับ
ส่วนต่างค่าเครื่อง อาจจะพอจะซื้อแอพได้เลยล่ะครับ
เชื่อสิ Apple ไม่เล่นตามหรอก เพราะกระแสเหล่านี้มันเป็นกระแสหลักที่อุตสาหกรรมมือถือพยายามจะบีบให้เข้ากรอบเหล่านี้ทั้งนั้น ไอโฟนรุ่นใหม่ ควรจะมีนวัตกรรมใหม่ๆที่ใหม่และฉีกแนวไปเลยมากกว่า
คนที่เคยชมทุกวันยังหันกลับมาโวยใส่
ได้เวลาเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วครับ Apple
ปกติสาวกก็คาดหวัง แล้วก็โวยใส่ปกติอยู่แล้วนะ...ดูจากข่าวลือหลายๆปีที่ผ่านมา
เขาหมายถึงเว็บไซต์ The Verge ครับ ไซต์นี้อวยเวอร์สำหรับแอปเปิ้ล อะไรที่ออกมาใหม่ก็อวยตลอด ทั้งที่ของจริงกลับมีแต่คนใช้โวยกัน
โดยส่วนตัวแล้ว The Verge นี่แค่ระดับเอียงจนเกือบจะเทกระจาดครับ คือถ้าเป็นแนวเปรียบเทียบกันจะอวยให้ Apple เหนือกว่า และไม่ค่อยที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสียของผลิตภัณฑ์ของ Apple ให้เห็น
แต่ถ้าระดับบอกว่าต้องเริ่มเปลี่ยนแล้วนี่ผมว่าไม่ไหวแล้วล่ะ
สไตล์ Apple คือไปเพิ่มอะไรที่คู่แข่งยังไม่มี (หรือมีแล้วไม่ดัง) มากกว่า...
ปีนี้ก็คงเห็นกล้องคู่อะนะ...
ปล. ช่วงหลังๆ ยุคทิมมีแต่คนโวยใส่เนอะ เราเองก็ด่ารัวๆ หลายเรื่องเหมือนกัน รักหรอกจึงบอกนะป๋าทิม ( ; ___ ;
ตอนนี้ Oppo ครับ ผู้นำเทคโนโลยี ผมว่านะ
ผู้นำเทคโนโลยีเครี่องเล่นบูลเรย์ใช่ไหมครับ
ความจุ 16GB ที่ยังทำออกมา แทนที่จะเปลี่ยนเป็น 32GB อันนี้ผมว่าน่าเกลียดสุดแล้วล่ะ นึกว่าปี 2016 จะไม่มีแล้วซะอีก
ถ้าหนาขึ้นนิดหน่อยแต่แบตเยอะผมก็ยอมรับได้นะ
แต่ถ้าหนาแบบแบตเตอรี่เคส ผมก็รับไม่ได้นะ T.T
อันนั้น ปัญหาคือ มันไม่ได้หนาแค่อย่างเดียวกับครับ...
ผมก็รับไม่ได้เน้อ
ออกมาแบบ เนี่ย Design อย่างพิถีพิถันโดย Apple เชียวนะ
//Deskpalm
เดี๋ยวก็ตัด ช่องหูฟังทิ้งนี่ นั่นแหละนวัตกรรม
เพื่อที่จะได้บางลงไปอีก เอ้า เอาเข้าไป 555555
แบตเตอรี่เคสขายไม่ออกไง เลยทำบางลงไปอีก ลดแบตลงไป คนจะได้ซื้อ 5555
งดงามแค่ไหนก็ถูกบดบังด้วยเคส // ใช่เลย
ลุงทิมยังกินบุญเก่าได้เรี่อยๆ ระวังเป็นแบบ nintendo เน้อ
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดด หรือเรียกอีกอย่างว่า ตามหลังผู้ผลิตมือถือฝั่งแอนดรอยให้ทัน....... เพราะดูแต่ละประเด็นที่พูดแล้ว ฝั่งดรอยมีสักพักละ
ความจุ 16GB น้อยไปจริงๆ แต่ถ้าเพิ่มเป็น 32 รุ่น 64 ยอดขายอาจจะลดลงก็ได้มั้ง
รุ่น 16GB นี่ออกมาเพื่อบีบให้ไปซื้อรุ่น 64GB แบบไม่ต้องสงสัย
16GB น้อยเกินไปจริงๆ และตัดตัวเลือก 32GB ออกไป
เช่น ชาร์จแบตครั้งเดียวอยู่ได้ 1 อาทิตย์ ที่ไม่ใช่ stand by,
ซื้อสินค้าออนไลน์แล้ววาปมาอยู่ตรงหน้าในเวลาไม่กี่วินาทีอยากได้แบบนี้
ต้องพูดว่า "กลับมาก้าวกะรโดดเหมือนเมื่อก่อนมากกว่า" แต่ก่อนใครมีเทคโนโลยีอะไร แอปเปิ้ลกลับทำได้ดีกว่า จนยี่ห้ออื่นต้องรีบทำตามมแต่ก็สู้แอปเปิ้ลไม่ได้มาตลอด
ผมมองว่าก้าวกระโดดของ Apple นั้น ไม่มีอะไรว้าวจากของใหม่ แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว แล้วทำให้ดีกว่าคู่แข่งไง อย่างอนาคตแน่นอนกล้องคู่ มีข่าวหลุดซะขนาดนี้
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ไอ้เรื่องก้าวกระโดดผมว่าAppleกำลังทำอยู่แล้วละ
ที่ทุกวันนี้มันเหมือนจอดอยู่กับที่ ก็เพราะเทคโนโลยีมันตันแล้วมากกว่า เอาที่คนอื่นทำแล้วมาทยอยๆยัดลงในสินค้าปีละอย่างๆดีกว่า อย่างน้อยรุ่นใหม่ที่ออกมามันก็ยังพอที่จะมีอะไรเพิ่มมาจากรุ่นก่อนบ้าง
ลองนึกดูสิว่า ถ้าiPhone 7 ยัดทุกอย่างมาครบหมด แล้วนวัตกรรมใหม่ยังไม่เสร็จ รุ่นหน้าก็คงไม่มีอะไรมานำเสนอสิ จริงมั้ย 555
ที่พูดมาทั้งหมดนี้มันซัมซุงชัด
ไม่กล้าใช้ กลัวติดวังวนซอฟแวร์แล้วต้องซื้อเครื่องแพงๆไปเรื่อยๆ
สิ่งนึงที่ แอปเปิ้ล ไม่ว้าวแล้วอาจจะเป็นเพราะสิ่งที่คนอื่นทำ มันว้าวไปแล้วหรือเปล่าครับ
เมื่อก่อนก็มีการวิจัย แล้วก็เก็บขึ้นหิ้งไว้ หรือนำเสนอออกมาก็ไม่สุด คือวิจัยไม่ครบทุกด้าน ด้านการตลาดไม่ได้วิจัยให้ดี อย่างไมโครซอฟท์เปิดตัวแท็บเล็ตก็ไม่มีใครใส่ใจ
แต่ทุกวันนี้ อาจจะด้วยการแข่งขันสูงมาก และตลาดที่ซ้อนทับกัน ผู้เล่นใหญ่อย่างซัมซุง ไมโครซอฟท์ หรืออื่น ๆ ต่างลงทุนในงานวิจัยมากกว่าเดิม และไม่ใช่วิจัยแค่ว่ามันทำได้ แต่วิจัยจนถึงจุดที่เรียกว่ามันขายได้
พอออกมาแล้วมันก็คืออาจจะไม่ว้าวมาก แต่ก็โอเคล่ะเรารับรู้ถึงมันแล้ว
พอแอปเปิ้ลจะเอาไปใช้มั่งทำให้มันว้าว (จริง ๆ มันก็พอว้าวนะครับ แต่มันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราว้าวเพราะคิดว่าไม่มีใครทำมาก่อน ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ มันมีนะเพียงแต่เราไม่ได้รับรู้ถือมัน)
จุดที่ดีขึ้นมันเป็นของที่จับต้องได้ยากกว่า ดีขึ้นจริงแต่ impact มันน้อย หลายอย่างก็ดีขึ้นจากรุ่นที่แล้วก็เคยเจ๋งขึ้นจากรุ่นก่อนหน้ามาแล้วมันเลยไม่รู้สึกว้าวแบบเมื่อก่อน มันไม่มีอะไรแหวกแนวว้าวที่เคยว้าวมาก่อนเท่าไหร่ด้วย
คือ ที่ผ่านมามันเป็นแค่การอัพเดทสินค้ามากกว่า มันเลยไม่ ว้าว เท่าไหร่
ต้องรอพี่แกหาสินค้าใหม่มาบุกเบิกตลาดใหม่ให้เจอก่อน นั่นอาจจะ ว้าว ก็ได้
ก่อนมี iPod เราก็มีเครื่องเล่นเพลงพกพาที่ฟังได้แค่ทีละอัลบั้ม เพราะต้องพึ่งพาแผ่นไม่ก็ม้วนเทป พวกที่ใส่SDการ์ดได้ เวลาหาเพลงก็ต้องกดๆรัวๆ จนเป็นสาเหตุให้ปุ่มพัง(ใครเกิดทันสมัยที่ต้องกังวลเรื่องความทนของปุ่มมือถือบ้างยกมือ) iPod ก็เข้ามาตอบโจท์ด้วยความจุที่มหาศาลในขนาดกระทัดรัด + Click Wheel
ก่อนมี iPhone เราก็มีแค่ฟีเจอร์โฟนปุ่มกดใช้ พวกจอสัมผัสก็ความสามารถไม่ได้ต่างกับฟีเจอร์โฟนเท่าไหร่เลย แค่มีลูกเล่นในการสัมผัสเข้ามาทำหน้าที่แทนการกดปุ่ม มีไม่มีก็ไม่เดือดร้อน แต่iPhoneได้ย้ายการจากการใช้ปุ่มไปสู่การสัมผัสอย่างเต็มตัว(และทำได้ดีมากซะด้วย)
ก่อนมี iPad เราก็มีแค่คอมพิวเตอร์พกพาจอเล็กๆที่เรียกกันว่า สมาร์ทโฟน ซึ่งถ้าควักออกมาเล่นบ่อยๆ แบตมันก็จะหมดเร็ว iPad ก็เข้ามาชดเชยจุดนี้ ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ และ อายุแบตเตอรี่มหาอึด
ที่ผ่านมามัน ว้าว เพราะAppleเห็นความยากในชีวิตประจำวันของเรา และเอามาทำให้ง่ายขึ้น
แค่ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่อะไรๆก็สะดวกสบายไปหมด ผมว่าเปิดตัวอะไรมามันก็คงไม่ว้าวเท่าเมื่อก่อนแล้วละ เพราะมันหาความยากไม่เจอ
ถ้าAppleจะทำอะไรให้มันง่ายนะ แนะอย่างนึง ช่วยหาอะไรที่มันสร้างรายได้ให้ง่ายๆหน่อยก็ดี 555
สำหรับผมนี่ ก็มี Touch ID เนี่ยแหละครับที่ว้าว เพราะมันสะดวกจริง ๆ ตั้งแต่แรกเห็นเลย แล้วตอนนี้หลาย ๆ เจ้าก็ทำมาตามนั้นแล้วด้วย
แนวคิดเรื่องลายนิ้วมืออาจจะไม่ใหม่ แต่การสแกนได้เร็วแบบที่ Touch ID ทำได้ผมว่ามันว้าวเลยล่ะ
เพียงแต่ ตอนที่มันออกมาทีแรกมันทำได้แค่ปลดล็อก (ใช่เปล่าหว่า แต่ตอนนี้มันทำได้เยอะขึ้นละ ผมว่าถ้าเปิดตัวมาทำได้เหมือนปัจจุบันคงว้าวไปละ)
iPod ผมไม่ได้ใช้ ตอนนั้นผมใช้ MP3 Player ซึ่งราคาถูกกว่ามาก แต่ผมคิดว่ามันมาพร้อม ๆ กับ iPod นะ เพียงแต่ iPod เหมือนจะใช้ง่ายกว่าตรงปุ่มกลม ๆ ของมันอ่ะครับ (เรียกว่าไรหว่า?)
ส่วน iPhone ผมคิดว่าสิ่งที่มันเจ๋งไม่ใช่เพราะมัน Touch ได้ แต่เพราะมัน Tap (ใช้นิ้วแตะ) ได้ทั้งหมด ทุกอย่างออกมาให้ใช้แค่นิ้วทำได้หมดเลยซึ่งเป็นอะไรที่สมาร์ทโฟนสมัยก่อนไม่มีทางทำได้เพราะติดปัญหาว่าจอเล็ก และต้องโชว์ทุกอย่างบนหน้าจอให้ครบ (การออกแบบ UI ใหม่ เป็นส่วนช่วยให้ iPhone ว้าวสุด ๆ)
สำหรับ iPad นี่ผมว่ามันเป็นที่สุดแห่งคอมพิวเตอร์พกพาแล้วล่ะครับ ก่อนจะมีมัน เรามี Netbook PC ขนาดเล็กไว้เล่นเน็ต แต่ปัญหาคือ ต้องเล่นบนโต๊ะ จะเล่นผ่าน Smartphone ก็จอเล็กแล้วพอ iPad มาคือ มันใช่อ่ะ มันเป็นสิ่งที่เราต้องการ Netbook มันไม่ใช่อะไรที่เราอยากได้เลยสักนิด
แต่ทุกวันนี้ผมว่า Smartphone กับ Tablet มันทำอะไรได้มากกว่าเล่นเน็ตแล้ว มันสามารถทำงานได้แล้วด้วย แล้วงานหลายชิ้นก็ต้องการคีย์บอร์ด
แต่ผมว่า Tablet + Keyboard มันก็ยังไม่เวิร์คจริง ๆ นะ แต่ถ้าไม่มีมันก็แบบทำงานลำบากมาก
ปล. อีกอย่างที่ผมชอบคือ 3D Touch นะครับ ใช้ยากแต่พอใช้แล้วคือว่ารู้สึกดี
เรื่องว้าว Factor นี่ สมัยก่อนแค่ iPhone 3GS ถ่ายวิดีโอได้ + ตัดต่อยังว้าวเลยนะ จำได้ ยุคสมัยมันเปลี่ยนด้วยแหละ เราคาดหวังจะเห็นอะไร completely new กันมากขึ้น
กำลังสงสัยว่าเจ้าอื่นเค้าว้าวยังไงกันเหรอ ในช่วง 1-2 ปีนี้ เพราะดูอาการแต่ละค่ายออกมาก็ไม่มีอะไรว้าวนะ แต่กลายเป็นว่า apple โดนหนักสุด ทั้งๆที่คือๆกันทุกเจ้า
เห็นด้วยว่าตอนนี้นวัตกรรม mobile device มันตันๆพิกล
+1
That is the way things are.
สี Rose Gold ในการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกแบบ iphone 5s สวยมากเลยครับ
The Last Wizard Of Century.