เครื่องมือวัดชีพจรง่ายๆ อย่าง Fitbit Charge อาจจะได้ช่วยเหลือให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่มีผลต่อชีวิตของชายคนหนึ่งเอาไว้ได้ครับ
เคสผู้ป่วยรายหนึ่งที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Annals of Emergency Medicine รายงานว่าผู้ป่วยชายอายุ 42 ปีรายหนึ่งได้เข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Our Lady of Lourdes Medical Center ในสหรัฐหลังจากเขามีอาการชักเกร็ง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปพบผู้ป่วยนั้นพบว่าเขามีชีพจรเร็วและหัวใจเต้นผิดจังหวะ หลังจากที่ได้ส่งมายังห้องฉุกเฉินแล้วทางทีมแพทย์ก็ได้ให้ยารักษารวมทั้งพบว่าผู้ป่วยได้ใส่ Fitbit Charge HR ที่ข้อมืออยู่ จึงได้นำข้อมูลที่บันทึกไว้มาดูและพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้นนั้นเพิ่งเกิดมาเมื่อไม่เกิน 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่สามารถให้การช็อตไฟฟ้าหัวใจจะยังมีประโยชน์อยู่
ทางทีมแพทย์จึงได้ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยการช็อตไฟฟ้าหัวใจหนึ่งครั้งและพบว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ หลังจากนั้นผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้ ระหว่างการติดตามในภายหลังผู้ป่วยก็อยู่ในสภาวะปกติดี โดยอัตราการเต้นของหัวใจทั้งหมดนี้ถูกบันทึกไว้ได้อยู่ในเครื่อง Fitbit (ดูรูปประกอบ)
ผู้รายงานเคสได้ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงเครื่อง Fitbit รุ่นนี้วัดได้แต่ชีพจรไม่สามารถวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ แต่ก็ยังอาจจะมีประโยชน์ในบางสถานการณ์
ที่มา: Annals of Emergency Medicine
Comments
นาฬิกาแบบนี้ต้องใส่ตลอดเวลาหรือเปล่าครับ ตอนนอนต้องใส่หรือเปล่า ? เห็นข่าวแบบนี้รู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากเลยถ้าซื้อใส่
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
น่าจะต้องใส่ตลอดครับ แต่อย่าลืมครับว่า Fitbit ขายได้กี่เครื่องแล้วมีเคสที่ได้ประโยชน์แบบนี้เคสเดียว
ส่วนสำคัญคือ นี่อาจเป็น proof of concept ว่า fitbit / smart device อื่นๆ อาจมีประโยขน์มากกว่า log
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมสงสัยว่าปกติเค้าชาร์จกันตอนไหนอะครับ
MS Band ผมชาร์จตอนอาบน้ำรอบเย็นครับ จริงๆ ชาร์จแค่ 15 นาทีก็พอให้อยู่ได้ครบวันแล้ว
ผมชาร์จตอนอาบน้ำ ไม่ก็ตอนนั่งเล่นคอม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมใส่ตลอดยกเว้นตอนอาบน้ำนะครับ มันมีวัดการนอนด้วย ปกติใส่นอนกันแหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
หลักๆ ผมเน้นใส่ตอนนอนครับ มันจะมีบันทึกสภาพการนอนด้วย หลับลึก หลับตื้น กึ่งตื่น หัวใจขณะพัก ระยะเวลาอะไรพวกนี้ (ผมเน้นกว่านับก้าวเดินอีก :D) แต่ไม่ได้บังคับครับ อยากถอดตอนไหนก็ถอดได้ ไม่อยากใส่นอนก็ถอดได้เลย
แรกๆ ผมก็เห่อใช้บันทึกสภาพการนอนเพื่อดูการหลับ+ระยะเวลาการนอนหลับ แต่สุดท้ายก็เลิกเพราะดูไปก็เท่านั้นไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง นอนดึกเหมือนเดิม อิอิ
เหมือนกันครับ แต่พอดีสนุกเป็นใช้ของเล่นแหละ
ป.ล. นี่ก็ไม่ได้จับมาสองคืนแล้วครับ คืนแรกไม่ได้นอน คืนสองกลับไปบ้านพ่อ/แม่ ถอดไว้ในห้องก่อนไปอาบน้ำ ไปนอนอีกห้องนึงแล้วลืม orz
ดีมากครับผมแนะนำ fitbit เท่านั้นเลยมีมาตราฐานสูงสุดใน SmartWatch
แต่ถ้า lock เครื่องไว้ คนอื่นก็เปิดดูข้อมูลไม่ได้ กรณีเจ้าของไม่มีสตินะ
มี log มีข้อมูล ยังไงก็ดีกว่าไม่มีอยู่แล้วแหละ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
iOS กดตรง emergency เข้าดู medical id ได้โดยไม่ต้องปลดล็อคนะ แต่อันนี้ไม่รู้มันโชว์ด้วยรึเปล่า
ของ fitbit รู้สึกจะไม่ได้ sync เข้าของ Apple นะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็จับแสกนนิ้วตอนนั้นเลยครับ (เฉพาะรุ่นที่แสกนได้อ่ะนะ)
เจอด้วยความบังเอิญมั้งครับกรณีนี้ ปกติอุปกรณ์ที่มี HR แบบนี้ต้องกดให้มันอ่านค่า เช่นตอน workout มันไม่ได้อ่านเก็บข้อมูลตลอดเวลา
ไม่ได้อ่านตลอดเวลา แต่มักจะอ่านทุกๆ ช่วงระยะเวลาครับ เช่น ทุกสิบนาที ทุกครึ่งชั่วโมงอะไรแบบนี้ แต่แค่นั้นก็มากพอจะให้มองเห็นได้แล้วว่าอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นมาเป็นช่วงระยะเวลาแค่ไหน
ขอบคุณครับ ผมเข้าใจมาตลอดว่า จะอ่านเฉพาะตอน workout เท่านั้นครับ
อันนี้ใส่ Apple Watch ก่อนนอน จะมีการวัด HR เป็นช่วงเวลา
แต่บางอุปกรณ์เช่น Mi Band S1 ต้องสั่งวัดด้วยตัวเอง เป็นข้อจำกัดของบางอุปกรณ์นะ
ถ้าคุณใช้มือถือ Android แนะนำให้ซื้อ app "Mi Band Tools" ครับ แค่ 59 บาทเอง
ตั้งให้ mi band s1 จับอัตราเต้นหัวใจทุกกี่นาทีก็ได้ จะให้จับตลอดเวลาที่คุณออกกำลังกายก็ได้ จะให้สั่นเตือนเมื่อเต้นสูงเกินกำหนดก็ได้ ตั้งเตือนnotificationแยกตามappโดยระบุลักษณะการสั่นที่แตกต่างได้(ถ้าใช้กับ mi band รุ่นแรกที่ led หลายสี ก็กำหนดสีแยกได้ด้วย)
แรกๆก็เห่อตั้งทุก40นาที แต่เห็นการเต้นผิดปกติของตัวเองตอนนอนเหมือนกันเช่นเต้นตอนตี3(ไม่รู้ฝันอะไรเปล่า) หรือนอนดึกจนเพลียแต่ฝืนก็เต้นสูงเหมือนกัน
ปล ก็แค่กินไฟวันละ 4-5% มันก็อยู่ยาว20วัน
คุ้มกับการใช้นะ
ปล คนที่อยากรู้ว่าอุปกรณ์พวกนี้ใส่ตลอดมั๊ย ตลอดกระทั่งอาบน้ำ
และเคยเผลอว่ายน้ำก็ไม่เป็นไร
ปัญหาคือไม่มี Android ถ้าต้องซื้อเพิ่มมือถือ Android ก็น่าจะหมื่นอัพ เอาที่ว่าไปจัด Apple Watch มาซะเลย
ปล.ยังงงกับตัวเองไปซื้อมาทำไม - -
ตามข้างบนๆ ครับ ส่วนใหญ่จะวัดเป็นระยะๆ แต่จะมีโหมดวัดแบบเรียลไทม์ได้แต่แบตจะหมดในเวลาอันรวดเร็ว
Fitbit Charge ไม่มี feature วัดชีพจรนี่ครับ ต้องเป็น Fitbit Charge HR
https://www.fitbit.com/th/compare
นั่นสิ
ฮา เขียนเร็วไปหน่อย ขออภัยครับ แก้แล้วครับ
อันนี้กรณีตัวอย่างของ Apple Watch คุณพ่อของคุณ Klar Chirasanta