Pokémon Sleep เกมโปเกมอนที่ใช้ข้อมูลการนอนหลับของผู้ใช้งานมาประกอบการเล่น ซึ่งเปิดให้เล่นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ออกอัปเดตโดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลการนอนหลับจากแอปของสมาร์ทวอทช์ได้แล้ว
ทาง Pokémon บอกว่าอัปเดตนี้น่าจะทำให้ประสบการณ์การเล่นและการใช้อุปกรณ์ตรวจจับการนอนหลับของแต่ละคน มีความสะดวกเชื่อมต่อข้อมูลได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม Pokémon Sleep รองรับข้อมูลการนอนหลับจากสมาร์ทวอทช์เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น ได้แก่ Apple Watch, Samsung Galaxy Watch, Google Pixel Watch และ Fitbit
ที่มา: Nintendo Life
กูเกิลประกาศว่าบรรจุภัณฑ์สินค้าฮาร์ดแวร์ของบริษัทได้แก่ Pixel, Fitbit และ Nest รุ่นใหม่ทั้งหมดปลอดจากชิ้นส่วนพลาสติกแล้ว (100% Plastic Free) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เร็วกว่าเป้าหมาย โดยกูเกิลเคยประกาศไว้ในปี 2020 ว่าบรรจุภัณฑ์สินค้าฮาร์ดแวร์ทั้งหมดจะปลอดพลาสติกในปี 2025
กูเกิลยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ปลอดจากพลาสติกโดยยังคงความสวยงาม ตั้งแต่กระดาษที่ใช้ซึ่งแข็งแรงกว่าเดิม 3 เท่า มีน้ำหนักเบาลง ทำให้ลดปริมาณคาร์บอนในการขนส่ง ส่วนกันกระแทกผลิตจากกระดาษหนังสือพิมพ์รีไซเคิล
Sandeep Waraich ผู้บริหารในทีม Pixel Wearables ของกูเกิล ยืนกับ Engadget ว่าเราจะไม่เห็นสมาร์ทวอทช์แบรนด์ Fitbit ออกสินค้าใหม่อีกแล้ว เพราะตลาดสมาร์ทวอทช์จะเป็นของ Pixel Watch
Waraich ยังบอกว่าสินค้าแบรนด์ Fitbit จะเหลือแต่สายรัดข้อมูล smart band / smart tracker แบรนด์ Fitbit Inspire ที่ใช้งานง่าย แบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนาน ซึ่งทีมงาน Fitbit ภูมิใจกับสินค้ากลุ่มนี้
กูเกิลเปิดตัว Fitbit Ace LTE สมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาสำหรับให้เด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไปใช้งาน มีฟังก์ชันที่ออกแบบมาบนสองแนวคิด ว่าเด็กชอบวิ่งเล่นเคลื่อนไหว และชอบเล่นวิดีโอเกม เลยนำสองสิ่งนี้มารวมกันใน Ace LTE
โดยสมาร์ทวอทช์จะเกม 3D ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาให้ผู้สวมใส่ต้องขยับร่างกายไปมาเพื่อเอาชนะผ่านด่าน ใช้ลูกเล่นทั้งการสั่งตอบสนอง ส่งเสียง วัดการเคลื่อนที่ นอกจากนี้เกมจะมีอัปเดตใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ผ่าน Fitbit Arcade
สเป็กของ Ace LTE มีหน้าปัดสี่เหลี่ยมมน OLED 333PPI, กระจก Gorilla Glass 3, แบตเตอรีอยู่ได้นาน 16 ชั่วโมง ในโหมดเชื่อมต่อ LTE, กันน้ำ 5 ATM (50 เมตร), แรม 2GB และหน่วยความจำ 32GB
กูเกิลประกาศแผนการย้ายบริการต่าง ๆ จาก Fitbit มาเป็นของกูเกิลเพิ่มเติม โดยบริการจ่ายเงิน Fitbit Pay จะไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ 29 กรกฎาคม 2024 เป็นต้นไป โดยให้ใช้ Google Wallet ตั้งค่าผ่านแอป Fitbit แทน เพื่อให้สามารถใช้งานจ่ายเงินผ่าน Fitbit ได้ต่อไป
Fitbit Pay เริ่มรองรับการใช้งานในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2018 โดยมีพาร์ตเนอร์ที่รองรับคือ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทบัตรกรุงไทย (KTC) รองรับใน Fitbit หลายรุ่นเช่น Charge 3/4/5/6, Versa 1/2/3/4
กูเกิลประกาศความคืบหน้าเรื่อง AI เพื่อการแพทย์หลายอย่าง โดยมีทั้งการใช้โมเดลรุ่นเดิม PaLM 2 และโมเดลรุ่นใหม่ Gemini
PaLM 2
ปีที่แล้วกูเกิลนำ PaLM 2 โมเดลภาษารุ่นของปี 2023 มาปรับแต่ง (fine-tune) เพื่อการแพทย์ในชื่อ Med-PaLM 2 แล้วพัฒนาต่อเป็นชุดของโมเดลหลายๆ ตัวชื่อ MedLM เปิดให้เช่าใช้งานบนบริการ Vertex AI ของ Google Cloud
ล่าสุดกูเกิลออก MedLM for Chest X-ray นำโมเดลไปช่วยอ่านฟิล์มเอกซเรย์หน้าอก (เช่น ปอดและหัวใจ) ตอนนี้เริ่มเปิดให้ลูกค้าทดสอบแบบจำกัดวงแล้ว
กูเกิลปรับโลโก้ของเว็บไซต์ Fitbit อย่างเงียบๆ โดยยังไม่มีประกาศใดๆ จากเดิมโลโก้ของ Fitbit เขียนด้วย f ตัวเล็ก และมีสัญลักษณ์รูปจุดสีฟ้าต่อกันเป็นสี่เหลี่ยม ตอนนี้กลายเป็นคำว่า Google Fitbit เขียนด้วย F ตัวใหญ่ ใช้ฟอนต์ Google Sans และเอาสัญลักษณ์สีฟ้าออกไปแล้ว
ช่วงที่กูเกิลซื้อกิจการ Fitbit เสร็จใหม่ๆ เลือกใช้ชื่อแบรนด์ว่า Fitbit by Google โดยยังใช้โลโก้แบบเดิม ตอนนี้เวลาผ่านมา 3 ปีกว่าก็ได้เวลาปรับแบรนด์แล้ว
กูเกิลยืนยันการปลดพนักงานรอบล่าสุด โดยการปลดพนักงานครั้งนี้ไม่ได้ระบุจำนวนที่ได้รับผลกระทบ แม้มีรายงานไม่ทางการว่าอยู่ที่หลายร้อยคน ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับบริการ Google Assistant ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
เบื้องต้นกูเกิลบอกว่าการปลดพนักงานครั้งนี้ เพื่อรองรับการโฟกัสเป้าหมายใหญ่ของบริษัทและโอกาสข้างหน้า พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลือเพื่อหาบทบาทหน้าที่ใหม่ภายในต่อไป
James Park และ Eric Friedman สองผู้ร่วมก่อตั้ง Fitbit ที่กูเกิลซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2019 ได้ลาออกจากบริษัทซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างองค์กรรอบนี้ด้วย
เมื่อปลายปี 2019 กูเกิลประกาศเข้าซื้อกิจการ Fitbit ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์และสายรัดข้อมือชื่อดัง และเข้าซื้อกิจการเสร็จสิ้นเมื่อต้นปี 2021 จากนั้นก็เริ่มนำเทคโนโลยีของ Fitbit เข้ามารวมกับ WearOS และออกมาเป็น Pixel Watch
อย่างไรก็ตาม มีผู้พบว่ากูเกิลได้ปล่อยเอกสารประกาศเลิกทำตลาด Fitbit ในหลายทวีปทั่วโลก ทั้งในยุโรป, อเมริกา และเอเชีย ดังนี้
กูเกิลได้ลงประกาศเลิกวางจำหน่ายสินค้ายี่ห้อ Fitbit ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ประกาศครั้งนี้จะมีผลกระทบเฉพาะการวางจำหน่วยสินค้ากับบริการต่ออายุ Fitbit Premium อัตโนมัติโดยให้สมัครต่ออายุใหม่หลังจากหมดการต่ออายุ ส่วนประกัน บริการหลังการขายยังคงมีอยู่ต่อไป
ประเทศที่กูเกิลประกาศหยุดวางจำหน่าย Fitbit ใน EU มีดังนี้ โครเอเชีย, ประเทศเช็กเกีย, เอสโตเนีย, ฮังการี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, โปแลนด์, โปรตุเกส, โรมาเนีย และ สโลวะเกีย
ส่วนประเทศ/เขตปกครองในเอเชียที่หยุดวางจำหน่าย Fitbit มีดังนี้ ประเทศไทย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และฟิลิปปินส์
กูเกิลเปิดตัว Fitbit Charge 6 ฟิตเนสแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ ที่กูเกิลบอกว่าสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำที่สุด รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลกับอุปกรณ์ออกกำลังกายที่รองรับ และยังมีฟีเจอร์เสริมทั้ง YouTube Music, Google Maps รวมถึงใช้เป็นอุปกรณ์จ่ายเงินผ่าน Wallet ได้ด้วย
โดยส่วนการวัดอัตราชีพจรนั้น Fitbit Charge 6 ใช้อัลกอริทึมเดียวกับที่ใช้ใน Pixel Watch โดยปรับแต่งการทำงานให้เข้ากับแทร็กเกอร์ เก็บข้อมูลได้แม่นยำมากขึ้น 60% ช่วยให้ผู้ใช้งานนำข้อมูลไปใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขณะออกกำลังกาย จนถึงขณะนอนหลับ
Fitbit ประกาศเปลี่ยนแปลง ให้ย้ายไปใช้งานบัญชีกูเกิลสำหรับการล็อกอินใช้งาน แทนที่บัญชีของ Fitbit เดิม มีผลตั้งแต่ช่วงฤดร้อนหรือกลางปีนี้ รวมทั้งมีผลกับบัญชีสมัครใหม่ต้องใช้บัญชีกูเกิลเท่านั้น โดยบัญชี Fitbit เดิมจะยังสามารถใช้งานต่อไปได้จนถึงปี 2025
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ผิดคาดมากนัก เพราะ Fitbit เป็นบริษัทในเครือของกูเกิลอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2021
กูเกิลจูงใจโดยบอกว่าการย้ายมาใช้บัญชีกูเกิล จะได้ระบบบริหารจัดการบัญชีเดียว ร่วมกับบริการอื่นของกูเกิล ที่มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง และยืนยันว่าข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้ Fitbit จะไม่ถูกนำไปใช้งานกับระบบโฆษณาของกูเกิล
Fitbit เริ่มรีแบรนด์ตัวเองเป็น "Fitbit by Google" พร้อมประกาศแนวทางใหม่หลังเข้ามาเป็นบริษัทลูกของกูเกิลตั้งแต่ปี 2021
Rick Osterloh หัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์ของกูเกิล ให้สัมภาษณ์ในโอกาสเปิดตัว Pixel Watch นาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของบริษัท เผยเบื้องหลังว่ากูเกิลอยากทำสมาร์ทวอทช์ของตัวเองมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่สามารถทำได้จนซื้อกิจการ Fitbit (ประกาศซื้อปลายปี 2019 ซื้อเสร็จต้นปี 2021) เพื่อมาเติมเต็มในฝั่งสุขภาพและฟิตเนส ซึ่งเขามองว่าเป็นแอพที่สำคัญของนาฬิกายุคนี้
Google เปิดตัว Google Pixel Watch สมาร์ทวอร์ชรุ่นแรก ตัวนาฬิกามีลักษณะโค้งมน ไร้ขอบ ตัวเรือนทำจากสแตนเลส ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.5 ความจุ 32GB สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Google Home ได้
Google ได้ร่วมมือกับ FitBit ในการพัฒนาฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย Google เผยว่าเทคโนโลยีจาก Fitbit ทำให้ Pixel Watch สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำทุก ๆ วินาที นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังกาย 40 โหมด มี GPS ในตัว และฟีเจอร์ Active Zone Minutes ที่ช่วยให้ออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง รวมถึงรองรับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ที่พอจะตรวจจับอาการหัวใจเต้นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) ได้ตามสมัยนิยม
กูเกิลเริ่มซื้อกิจการ Fitbit ช่วงปลายปี 2019 และซื้อเสร็จต้นปี 2021 แต่หลังจากนั้น การหลอมรวมผลิตภัณฑ์ของทั้งสองฝั่งก็เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ปัจจุบันการใช้งาน Fitbit ยังต้องใช้บัญชี Fitbit Account เท่านั้น
ล่าสุด Fitbit ประกาศรีแบรนด์ตัวเองเป็น Fitbit by Google และขึ้นข้อความบนหน้า Help ว่าเตรียมจะเปิดให้ใช้บัญชี Google Account บนฮาร์ดแวร์ของ Fitbit ในปี 2023 แต่ยังไม่ระบุเวลาชัดเจน แสดงให้เห็นทิศทางของ Fitbit ที่จะเข้ามาใกล้กับบริษัทแม่มากขึ้น แม้ยังไม่บังคับย้ายข้อมูลจาก Fitbit Account ก็ตาม
Fitbit เปิดตัวสมาร์ทวอทช์และสมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ Inspire 3, Versa 4 และ Sense 2 ซึ่งเป็นรุ่นอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าที่ทั้งหมดเปิดตัวเมื่อปี 2020
โดยสมาร์ทวอทช์ Sense 2 ชูจุดขายด้านการตรวจจับข้อมูลสุขภาพ แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 6 วัน รองรับการตรวจจับคลื่นหัวใจผิดปกติ ECG และอัลกอริทึม PPG, อัตราการเต้นหัวใจ, อุณหภูมิที่ผิวหนัง และฟีเจอร์ EDA ตรวจวัดระดับความเครียดจากการตอบสนองของร่างกาย ราคาขาย 299.95 ดอลลาร์
Fitbit อัพเดตข้อมูลในหน้าสนับสนุน โดยจะปิดการใช้งานโปรแกรมสำหรับเดสก์ทอป Fitbit Connect มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2022 เป็นต้นไป ซึ่งโปรแกรมนี้ใช้สำหรับการติดตั้ง Fitbit ครั้งแรก รวมทั้งการซิงก์ไฟล์เพลงไปที่อุปกรณ์
โดย Fitbit แนะนำให้ใช้การซิงก์ข้อมูลต่าง ๆ จากนี้ ผ่านแอปในสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS แทน
ส่วนที่อาจกระทบผู้ใช้งานมากที่สุดคือการตัดความสามารถซิงก์ไฟล์เพลงเพื่อฟังออฟไลน์บนอุปกรณ์ผ่านเดสก์ทอป โดย Fitbit บอกว่าให้เปลี่ยนมาใช้การซิงก์เพลงผ่านแอปที่รองรับ โดยตอนนี้มี 2 แอปคือ Deezer และ Pandora ส่วนไฟล์เพลงที่เคยซิงก์ไปก่อนหน้าจะยังฟังได้ต่อตามเดิม ส่วนคนที่ใช้งานแอปฟังเพลงอื่น อาจต้องรอจนกว่า Wear OS จะเข้ามาแทนที่
กูเกิลจับมือกับซัมซุง เปิดตัว Health Connect เป็นแพลตฟอร์มและ API สำหรับ Android ให้นักพัฒนาแอพสายสุขภาพ-ฟิตเนส สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ Android ได้จากที่เดียว
แนวคิดเรื่องแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลสุขภาพไม่ใช่เรื่องใหม่ และกูเกิลก็มี Google Fit ของตัวเองมานานแล้ว แต่ในโลก Android เดิมเป็นวิธีต่างคนต่างทำ แพลตฟอร์มของใครของมัน เช่น ซัมซุงมี Samsung Health ของตัวเอง หรือ Fitbit ในยุคก่อนโดนกูเกิลซื้อ
การมาถึงของ Health Connect เป็นความร่วมมือระหว่างผู้เล่นรายใหญ่บน Android คือ Samsung Health, Google Fit, Fitbit จะมาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน และมีนักพัฒนาบางรายอย่าง MyFitnessPal, Leap Fitness, Withings ประกาศร่วมสนับสนุนแล้ว
Fitbit ประกาศเรียกคืนสินค้าสมาร์ทวอทช์รุ่น Ionic ที่วางขายช่วงปี 2017-2020 (ปัจจุบันเลิกทำแล้ว เปลี่ยนเป็น Fitbit Sense) หลังพบปัญหาความร้อนที่แบตเตอรี่ และอาจเผาไหม้ผิวหนังขณะสวมใส่ได้
Fitbit แนะนำให้ลูกค้าเลิกใช้อุปกรณ์เหล่านี้โดยทันที โดยจะคืนเงินให้เต็มจำนวนคือ 299 ดอลลาร์ (กระบวนการอาจแตกต่างตามแต่ละประเทศ ซึ่งในหน้าเว็บขอคืนเงินก็มีประเทศไทยให้เลือก) ลูกค้ายังจะได้ส่วนลดค่าซื้อสินค้าอื่นของ Fitbit เพิ่มเติมด้วย
Fitbit Charge 5 เปิดตัวแล้ว หน้าจอ AMOLED พร้อมฟีเจอร์ always on เป็นครั้งแรกที่สปอร์ตแบนด์ตระกูล Charge เป็นจอสี มาพร้อมมี GPS ในตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 วัน และสมาชิก Fitbit Premium ฟรี 6 เดือน
Fitbit Charge 5 จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา หากใส่นอน ตัวเครื่องจะติดตามการนอนหลับ แสดง Sleep Score คุณภาพการนอน ระยะเวลาที่อยู่ในการนอนหลับระดับต่างๆ และมีฟีเจอร์ Smart Wake ช่วยปลุกผู้ใช้ในช่วงที่เหมาะกับการตื่น ทุกเช้าระบบจะประเมินคะแนน Daily Readiness คะแนนความอ่อนล้าของร่างกาย เพื่อนำไปแนะนำการออกกำลังกายประจำวันว่าควรอยู่ในโซนใดกี่นาที
Fitbit แบรนด์ฟิตเนสแทรกเกอร์เจ้าดังที่ปัจจุบัน Google เป็นเจ้าของ ออกอัพเดตใหม่ Fitbit OS 5.2 ให้กับฟิตเนสแทรกเกอร์รุ่น Fitbit Sense และ Fitbit Versa 3 มีฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้
9to5Google ได้ดีคอมไฟล์แอป Fitbit บน Android พบฟีเจอร์ใหม่ในโค้ดที่ยังไม่มีให้ใช้งานในแอปเวอร์ชันปัจจุบัน นั่นคือระบบตรวจจับการนอนกรนและเสียงโดยรอบ ซึ่งใช้ไมโครโฟนใน Fitbit รุ่นที่รองรับ ทำการเก็บข้อมูลเสียงเมื่อผู้สวมใส่นอนหลับ
Fitbit ระบุว่าฟีเจอร์นี้แยกการทำงานเป็นสองส่วน คือ ตรวจระดับเสียงโดยรอบเวลานอนเพื่อให้ได้ค่าระดับเสียงฐาน จากนั้นจึงจับค่าเสียงอื่นที่เข้ามา และแยกแยะว่าเป็นเสียงของการนอนกรน แล้วคำนวณเพื่อรายงานว่าผู้ใช้งานนอนกรนเป็นระยะเวลานานเท่าใด เทียบกับระยะเวลานอนทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลว่าอัตราการนอนกรนสามารถสะท้อนภาวะสุขภาพได้
กูเกิลประกาศซื้อกิจการ Fitbit มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 เวลาผ่านมาปีกว่า วันนี้กูเกิลประกาศว่ากระบวนการซื้อ Fitbit เสร็จสมบูรณ์แล้ว
เหตุผลที่กระบวนการซื้อกิจการล่าช้ามาขนาดนี้ คงเป็นเพราะหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศเริ่มเข้ามาจับตาการซื้อกิจการของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ โดยกรณีของ Fitbit ถูกจับตาจาก EU ในประเด็นเรื่องการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อไปใช้โฆษณา รวมถึงการผูกขาดด้วย
Fitbit สมาร์ทวอทช์สายฟิตเนส ออกรุ่นใหม่สองรุ่นคือ Firbit Sense และ Versa 3 กับสมาร์ทแบนด์เน้นการออกกำลังกาย Inspire 2
Fitbit Sense มาแทนตระกูล Fitbit Ionic เป็นรุ่นเรือธงใหม่ของ Fitbit หน้าจอ AMOLED พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงเพื่อปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ มี GPS ในตัว มีไมค์และลำโพงไว้รับโทรศัทพ์ได้ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth มีเซ็นเซอร์ EDA (elctro dermal activity) ใช้วัดความเครียดจากค่าความเหนี่ยวนำไฟฟ้าใต้ผิวหนังที่เกิดจากเหงื่อ มาพร้อมฟีเจอร์วัดความเครียดแบบใหม่ในแอป