ช่วงนี้มีแอพแชทให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้งานกันอย่างมากมาย โดยแต่ละเจ้าก็งัดฟีเจอร์ทีเด็ดของตัวเองเข้ามาแข่งขันกันอย่างดุเดือด ล่าสุดมีแอพแชทน้องใหม่สัญชาติยุโรปนามว่า PitPut มีฟีเจอร์เด็ดอยู่ที่การเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพิมพ์ข้อความอะไรอยู่
ปกติการทำงานของแอพแชททั่วไปคือการส่งข้อความโต้ตอบกัน โดยบางแอพก็สามารถเห็นได้ว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์ข้อความมาหาเราแต่ไม่รู้ว่าพิมพ์อะไร ซึ่งแอพ PitPut นำฟีเจอร์นี้มาเป็นจุดเด่นของแอพ การทำงานคือผู้ใช้สามารถเห็นว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์ข้อความอะไรอยู่ในห้องแชทแบบเรียลไทม์ ทำให้การแชทมีความรวดเร็วกว่าเดิม สามารถตอบข้อความได้ทันทีก่อนที่อีกฝั่งจะกดส่งข้อความ โดยผู้พัฒนาแอพบอกว่ามันจะเหมือนการพูดคุยกันต่อหน้าและตัวแอพไม่มีการเก็บข้อความไว้แต่อย่างใด ทำให้การแชทดูเป็นธรรมชาติและผู้ใช้มีความกระตือรือร้นระหว่างใช้งานตลอดเวลา
PitPut เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานกันได้แล้วบนมือถือระบบ iOS และ Android หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pitput.eu ครับ
ที่มา : Product Hunt
Comments
Google Wave did this a really, really long time ago.
Blog | Twitter
ผมเกลียด Google wave เพราะเรื่องนี้เลยครับ ไม่ work อย่างแรง
ICQ did this a really, really long time ago more.
Google Wave???
อื้อหือ...เราแอบชอบเธอมานาน(กำลังพิมพ์)...เปลี่ยนใจไม่พิมพ์ละ เป็นการบอกอ้อมๆ ได้นะเนี่ย
ต่อไปการแชทจะไม่มีหลักฐานอะไรไว้แล้วเพราะ ไม่กดส่งกันแล้ว
+1 พิมพ์ปุ๊ป พออ่านเสร็จก็ลบปั๊ป ทำลายหลักฐาน
อัดหน้าจอไว้สิครับ ฮา
"หวัดดี"
"คิดถึงนะ" [ลบ] "ทำไรอยู่อะ"
ทีนี้ละ กว่าจะพิมพ์อะไรได้ก็ต้องคิดกันดีๆเลยทีเดียว เพราะฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าเรากำลังจะพิมพ์อะไรอยู่
ไลน์ เอาบ้างสิ อิอิ
เปลืองดาต้าไม๊เนี๊ยะ
ไม่เห็นด้วยกับฟีเจอร์นี้เลยครับ
เพราะบางครั้ง พิมพ์แล้ว เปลี่ยนใจ ไม่กดส่ง ไม่มีปัญหา
แต่ระบบนี้ พังสถานเดียว เจอระบบ auto complete หรือลืมสลับภาษา กลายเป็นคำลามกโดยไม่ตั้งใจ
ลองนึกภาพดู ผมไม่ได้ลามกนะ แค่คุณจะพิมพ์คำว่า super แล้วลืมเปลี่ยนภาษา
ถ้าระบบเก่า คุณเห็น คุณแก้ เรื่องเสียหายก็ยังไม่เกิด
แต่ถ้าคุณพิมพ์คุยกะลูกค้า หรือผู้ใหญ่ แล้วไอ้ตัวอย่างนี้ มันขึ้นบนหน้าจอ ผู้ใหญ่เห็น ลูกค้าเห็น ก่อนที่คุณจะแก้
จะมีกี่คน ที่รู้ว่าคุณลืมสลับภาษา
บางคน คิดว่าคุณลามปาม ลามก ตัดสินคุณไปแล้วด้วยซ้ำ
สรุป ไม่เห็นประโยชน์ของระบบนี้เลย มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แค่รอกดส่งอีกไม่กี่วินาที มันไม่ได้ช้าอะไร
แต่ความเสียหาย มันหนักกว่านั้นเยอะ
หียำพ <<< แล้วมันทำไมเหรอครับ?
เวลาพิมพ์กดปุ่มเดียวขึ้นห้าตัวรึเปล่าล่ะครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ปรกติ คุณอ่าน คำๆ เดียวแล้ว ตีความเลยเหรอครับ? หรือรอจบประโยคก่อน?
ผมพิมพ์สัมผัสได้ครับ เวลาพิมพ์ผมจะมองจอ ถ้าเป็นคำนี้จริงๆ ผมคงกดไปแล้วสองสามปุ่มเห็นเป็น su(แบบไทย) แล้วรีบลบ อีกฝั่งไม่มีทางรู้คำเต็มครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อ่านทุกครั้งที่มันเปลี่ยนครับ เด้งมาสองตัวแรกก็สะดุ้งก่อน แล้วตีความใหม่ไปเรื่อยๆ
เวลาพิมพ์ ถ้ามัน real time แบบนั้น มันก็ค่อย ๆ ขึ้นทีละตัว
แล้วคนทั่วไป จะเริ่มรู้ตัวได้ตอนอักษรตัวที่สองที่สาม
คราวนี้ คนอ่านคุณ ก็จะเห็นสองตัวแรก ที่คุณพิมพ์อย่างชัดเจนเลยครับ
มันไม่ใช่เต็มคำอย่างที่คุณเขียน
เข้าใจสิ่งที่ผมจะสื่อแล้วใช่ไม๊ครับ
คุณพิม แค่ Su แล้วแช่ไว้ เป็นนาทีรึเปล่าล่ะครับ? ถ้าใช่ก็สมควรโดนเค้าด่าครับ แต่ถ้าพิมปรกติยังไงก็ดูออกว่าลืมเปลี่ยนภาษาครับ
คนจิ้มดีดมีนะครับ บางครั้งมีส่งไปจริงๆด้วย
จะโยนความผิดไปที่คนใช้อย่างเดียวมันก็ไม่ถูก
ระบบที่ดีควรจะป้องกันความผิดพลาดระดับหนึ่ง
ยกตัวอย่างกูเกิลเล่นApril fool ที่เอาปุ่มวางไมค์ไว้ใกล้ปุ่มส่ง
ผู้ใช้งานกดผิดก็เป็นความผิดของผู้ใช้งานจริง ถ้ายังจะตะแบงตำหนิแต่ผู้ใช้งานก็ทำได้ แต่สุดท้ายก็ต้องเอาออก
ต้อง เอส(s) ตัวเล็กหรือเปล่าครับ ฮ่าๆ
คุ้นๆว่าเคยใช้ระบบประมาณนี้ที่ไหน ใช่ MS messenger รึป่าว รึ ICQ เนี่ยแหล่ะ
ก็ว่ามันคุ้นๆ อยู่เหมือนกัน
นี่มันเรียกว่าจุดขายเหรอ?
ผมใช้ talk
ดูแล้วไม่น่าจะเวิร์ค
มันจะเจ๊งเพราะไอ้นี่แหละ
ขอไม่ใช้แน่นอน เพราะตอนพิมพ์มีเปลี่ยนใจบ่อย
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ไม่ชอบเลย
นึกไม่ออกว่าจะมีผลดียังไง
ขนาดแบบที่ส่งปกติแล้วส่งไปผิดเพราะพิมพ์ผิด รีบส่ง หรือไม่เข้าใจอารมณ์ที่อีกฝ่ายต้องการสื่อหรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม บางทียังต้องเคลียร์กันนานกว่าจะเข้าใจกัน อันนี้คือแบบแทบจะไม่มีโอกาสให้ได้คิดก่อนส่งเลย คนที่จะใช้งานคงต้องคิดนานกว่าปกติก่อนที่จะพิมพ์อะไรลงไป ดูแล้วมันช่วยส่งเสริมให้แอพน่าใช้งานยังไงล่ะเนี่ย
finger @au.ac.th
ผมว่ามันดีในแง่หนึ่ง คือเรา "ใส่ใจ" กับทุกข้อความที่เรากำลังจะพิมพ์มากขึ้น มันเหมือนกับการคุยกันจริงๆ ตามที่ผู้พัฒนาบอกไว้ ซึ่งผมมองว่าจริงๆ แล้วมนุษย์เราควรจะเป็นแบบนั้น คือใส่ใจในทุกสิ่งที่จะคิด พูด ทำ ซึ่งผมรู้สึกว่าคนในยุคนี้ขาดสิ่งนี้ไป (รวมทั้งผมด้วย)
แต่ก็นะ คนเราก็เลือกเปลี่ยนอย่างอื่นมากกว่าเปลี่ยนตัวเองอยู่แล้ว
ผมก็เช่นกัน
แม้ว่าจะใส่ใจมากๆ แล้ว แต่ความผิดพลาดก็ยังเกิดขึ้นได้ กระทั่ง Gmail ยังเข้าใจถึงจุดนี้จนต้องทำฟังก์ชั่น Undo Send ขึ้นมาให้ใช้กันเลยครับ