ออราเคิลประกาศขึ้นราคาซอฟต์แวร์ 15-20% โดยฐานข้อมูล Oracle Enterprise Edition ที่คิดตามจำนวนซีพียูนั้นจากเดิมคิด 40,000 ดอลลาร์ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 47,500 ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ อย่าง Oracle E-Business Suite และซอฟต์แวร์ของ BEA ที่เพิ่งซื้อมาอย่าง BEA WebLogic Server Enterprise Edition ก็ขึ้นราคาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จาก Forrester Research มองว่าการขึ้นราคาครั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการต่อรองราคาของออราเคิลต่อลูกค้ามากกว่า เพราะในความเป็นจริงแล้ว การซื้อซอฟต์แวร์ในองค์กรเป็นจำนวนมากนั้นได้ส่วนลดอยู่แล้ว เรียกว่าถ้าต่อรองเก่งๆ หน่อยก็อาจจะยังได้ราคาเดิม
ในทางกลับกัน คู่แข่งในตลาดฐานข้อมูลองค์กรอย่าง IBM DB2 นั้นอาจประกาศโอเพนซอร์สในเร็วๆ นี้ - CNET
ที่มา - InfoWorld
Comments
ถ้า DB2 opensource นี่จะดีมากเลย ความสามารถไม่แพ้ oracle
สำหรับองค์กรใหญ่ๆ DB2 จะ opensource หรือไม่ก็ไม่ใช่ปัญหา
เพราะอย่างไรปัจจุบัน DB2 ก็แทบจะแถมไปกับฮาร์ดแวร์ IBM อยู่แล้ว
ไม่นับค่า Software Maintainance นั้นอีกส่วน ซึ่งอันนั้นไม่ฟรี (คร่าวๆ ราวๆ 20% ต่อปี)
ในมุมกลับ ผมว่ากลับจะดีเสียอีก ทำให้ community ใช้ IBM DB2 ได้ หรือช่วยมีคนรีวิว/พัฒนาโค้ดมากขึ้น
แต่ผมว่ามันยังอีกยาว IBM อาจจะโยนหินทางถามดู คงต้องรอจนกว่า IBM จะศึกษาผลกระทบโดยเฉพาะโมเดลทางธุรกิจให้เรียบร้อยก่อน แล้วประกาศโมเดลมา ถึงตอนนั้นจะเป็นข่าวกันอีกที
IBM มีประสบการณ์โอเพนซอร์สมาเยอะมาก (Apache, Eclipse) คงไม่ยากเท่าไรครับ
Apache ไม่ใช่เป็นของ IBM นะครับ
แต่ก็จริงครับ IBM มีคอมมูนนิตี้ Open Source หรือที่ใกล้เคียงอยู่เยอะจริงๆ
อืม ผมหมายถึง contribution ของ IBM ในโครงการ Apache น่ะครับ เผอิญเขียนสั้นไปหน่อย แต่จะเอาจริงๆ ก็มีอย่าง Websphere
วันก่อนพึ่งฟัง sun พูดถึงทิศทางของ mysql แล้ว db ที่มีอยู่ในมือ(อีก 2-3 ตัว)
ถ้า sun ทำให้ mysql เป็นที่ยอมรับได้ในวงการเท่าๆกับที่ solaris ได้รับนี่จะเป็นผลดีมากๆเลย
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
Oracle ซื้อ InnoDB ไป (storage engine หนึ่งของ MySQL ที่ดีมากตัวหนึ่ง) เล่นเอา MySQL รวนไปนิดหน่อย ยังดีที่มีตัวอื่นมาแทน
Informix IBM ยังซื้อไปฆ่าทิ้งเลย :)
ลอง Opensource Informix และ DB2 พร้อมๆ กันดูสิ
เพิ่งรู้ว่า Oracle มันแพงขนาดนี้ 47 500 U.S. dollars = 1.5653836 million Thai baht
BioLawCom.De
จุ๊ๆๆ อย่าเอ็ดไป นั่นเป็นราคาขายปลีกแบบไม่คิดส่วนลดฐานข้อมูลรุ่นแพงสุด Enterprise Edition สำหรับ Intel Dual Core ตัวเดียวครับ ถ้าเป็นซีพียูแบบ Quad Core ตัวเดียวก็สองหน่วยครับผม!
ถ้าหันไปใช้ Open Source ตัวโปรแกรมก็ฟรีอยู่หรอก แต่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่ทันนึกถึงอีกเพียบ อาจจะไม่คุ้มเท่ากับจ่ายเงินให้ Oracle ก็ได้... ผมว่าราคานี้ไม่แพงนะ สำหรับลูกค้าที่สามารถจ่ายเงินจำนวนเท่านี้ได้
ยังไงในตลาด Enterprise ... Closed Source ก็น่าสนใจกว่าอยู่ดี
ไม่เชื่อดู SAP สิ!
ค่าใช้จ่ายที่ไม่ทันนึกถึงนี่ มีอะไรบ้างครับ ผมไม่ได้ทำงานด้านนี้โดยตรงเลยไม่ทราบครับ
BioLawCom.De
ตัวโปรแกรมเอง...ความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ คุณสมบัติต่างๆ โปรแกรมจัดการ
Document...คู่มือการติดตั้งการใช้งาน
Support...การแก้ปัญหา การอัพเกรด การไมเกรท
ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหมด สำหรับ Open Source ค่าคน ค่าเวลาที่เสียไป ค่าซื้อโน่นซื้อนี่เพิ่ม
ถ้าทำเองบอกได้เลยว่า "Painful" ครับ โลกของ Open Source จึงอยู่ได้ด้วยการขาย Support กะ Document อาจจะมีโมเดลธุรกิจแบบอื่น แต่นี่คือหลักๆ
ถึงจะอย่างนั้นก็ตาม บอกได้เลยว่าความสมบูรณ์ของตัวโปรแกรมที่ขายย่อมมีมากกว่าอยู่แล้ว (ไม่ทั้งหมด แต่ก็ส่วนใหญ่ ณ ตอนนี้) นอกจากนี้นึกภาพคนทำงานฟรีๆ กับคนที่ทำงานแล้วได้เงิน จึงไม่แปลกเลยที่ตัว Commercial จะมี Innovative มากกว่า (ก็มีข้อยกเว้น แต่ไม่มาก...)
เท่าที่ใช้มาผมยังไม่รู้สึก painful ขนาดนั้นเลยครับ (แต่ผมทำเป็นแนวขำ ๆ ครับ คงเทียบงานระดับ Enterprise ไม่ได้)
โปรเซสที่คุณ anu ยกตัวอย่างมา จริง ๆ ในโลกโอเพนซอร์สเขาก็มีเอกสาร มีการซัพพอร์ทอยู่เหมือนกันครับ เพียงแต่ต้องขวนขวายเอง (ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งดังที่ว่ามา) แต่คงไม่ถึงขนาด painful มั้งครับ และไม่สะดวกสบายเหมือนซื้อเขาใช้
เรื่อง innovation ผมเองไม่แน่ใจครับ ว่าการทำด้วยความสมัครใจ กับทำเพื่อเงิน อย่างไหน creativity จะมากกว่ากัน
BioLawCom.De
อ่าว หลอกถาม :P
ไม่ได้ทำงานด้านคอมพิวเตอร์โดยตรงเหมือนกันครับ แต่สำหรับผม "Painful" เลยทีเดียว ไม่ได้ Anti-FOSS นะครับ ตรงข้ามชอบซะด้วยซ้ำ ซาดิสต์อยู่พอตัว... Document ต่างๆถ้าหลุดออกจาก FOSS ที่เป็น Mainstream ไม่ได้เรื่องเลยครับ เขียนกันย้ำแล้วย้ำอีก This FREE software provides AS-IS...
สมมติภาพตัวเองเป็นเจ้าของบริษัท หากต้องเลือก Solution สำหรับบริษัทมาซักอัน การตัดสินใจจะง่ายขึ้น ถ้าหันไปมองภาพรวมๆ ระหว่าง OpenSource กับ Commercial แล้ว ผมว่า Commercial ที่มีทุกอย่างครบในตัวก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอยู่ดี (ในเมื่อ OpenSource ไม่ได้ฟรี)
ส่วนเรื่อง Innovation กับเรื่อง Creativity ก็คนละอันกันครับ ถ้า Creativity บอกได้เลยว่าสมัครใจย่อมสร้างสรรค์กว่าอยู่แล้ว ไม่ต้องสืบ แต่ถ้ามันจะมีแรงจูงใจพอที่จะเปลี่ยนแปลงจนเป็น Innovation ได้ ก็คงสู้ทาง Commercial ไม่ได้ (ในตอนนี้)
ไม่งั้นเราก็จะเห็น OpenOffice.org ที่ดีกว่า Microsoft Office
GIMP ที่ดีกว่า Photoshop
MySQL ที่ดีกว่า Oracle DB
และอื่นๆ อีกมากมาย
Red Hat ก็ไปได้ดีนิครับ
ส่วนใหญ่ยอมจ่ายเพื่อซื้อความมั่นใจ ไม่เกี่ยวกับบริการนะ บริการหลังการขายมันก็คิดเงินแต่มาในรูปแบบของการจ้างเป็นโครงการแยก
บริษัทส่วนใหญ่มีงานหลายขนาด ใหญ่ๆ ก็ซื้อได้ ถ้าใช้ SAP 20 ล้าน แต่ขี้เหนียวไม่ซื้อ Oracle 2 ล้านก็แปลกละ ดีไม่ดีแถมมาให้ซะด้วยซ้ำ นอกจากงานใหญ่งานเดียวก็ยังมีงานเล็กๆ อีกเพียบ จะซื้อ Oracle อีกก็ใช่ที่ ถ้า Sun ทำให้ MySQL ดูน่าเชื่อถือได้มากขึ้นก็เป็นการดีกับทุกฝ่าย สุดท้ายจะมี DBA สำหรับ MySQL โดยเฉพาะอยู่ดี เรื่องค่าใช้จ่ายภายหลังส่วนใหญ่ก็ตกอยู่กับ DBA นี่แหละมั๊งครับ
DBA ที่เป็นงานส่วน MySQL ในไทยยังมีน้อยครับ ในฐานะที่เป็น DBA ของ MySQL มาก่อนนี่รู้เลยว่าค่าตอบแทนของ DBA ของ MySQL ในไทยก็ไม่ต่ำมาก ถือว่า ok มากเลยหล่ะ เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจ หรืออยากรับมาทำงานแบบตรง ๆ ครับ อาจจะเพราะว่ามันผูก programming skill มาด้วยมั้ง -_-' แต่งานด้านนี้ต้องขยันหน่อยเพราะหนังสือระดับลึก ๆ ของ DBA ของ MySQL มันหายากมาก ใช้พลังงานเยอะ อีกอย่าง MySQL ระดับ Enterprise หรือ Commercial used ก็ไม่ฟรีครับ ;P (แน่ในไทยมองว่ามันฟรีเพราะโหลดมาลงเองได้แบบ full version) เจอราคาเข้าไปแล้วแทบหง่ายหลัง แต่ก็ต้องจ่าย (per CPU ด้วย) เพราะเจ้านายเก่าเค้าไม่อยากมีปัญหากับ BSA (ที่ us)
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ผมก็เคยเห็น Oracle Database Enterprise Edition ราคา 199 ล่ะ -_-;
อันที่จริง Oracle ก็ให้นักพัฒนาดาวน์โหลดมาจาก otn.oracle.com ได้เลยฟรีๆ เรียกว่าถ้าที่บ้านเป็นบรอดแบนด์แค่ชั่วโมงก็ได้แล้ว เอาไปพัฒนา แค่ถ้าไปใช้เชิงพาณิชย์ก็ต้องซื้อเค้าอะน่ะ