สิงคโปร์--1 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
-53% ของบริษัทในสิงคโปร์มีผลกำไรเพิ่มขึ้น หลังเริ่มใช้ระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น
Vodafone เปิดเผยผลสำรวจ Flexible: friend or foe? ซึ่งพบว่า 75% ของบริษัททั่วโลกเริ่มใช้นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถปรับเปลี่ยนเวลาทำงานและใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อทำงานทางไกล นอกจากนี้ การสำรวจบุคลากรในภาคธุรกิจ 8,000 คนใน 3 ทวีปยังเผยให้เห็นด้วยว่า 53% ของบริษัทในสิงคโปร์ที่ใช้ระบบการทำงานแบบยืดหยุ่นนั้น มีผลกำไรมากขึ้น นับตั้งแต่เริ่มนำแนวทางดังกล่าวมาปฏิบัติ
การศึกษาหัวในข้อ The Flexible: friend or foe? ได้ทำการสำรวจธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง องค์กรภาคเอกชน และบริษัทข้ามชาติ (MNCs) ใน 10 ประเทศ ซึ่งพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เชื่อว่าประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น เนื่องจากระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น:
- 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกระบุว่าผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น
- 81% รายงานถึงผลิตภาพที่ปรับตัวดีขึ้น และ
- 58% เชื่อว่านโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นมีผลกระทบเชิงบวกต่อชื่อเสียงขององค์กร
การใช้บริการโมบายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บรอดแบนด์พื้นฐาน และบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิวัติสถานที่ทำงาน โดย 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้บริการบรอดแบนด์ที่บ้านเพื่อเข้าถึงระบบงานต่างๆ ขณะที่อีก 24% ใช้การเชื่อมต่อข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน แท็บแล็ต หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อ dongle
บริษัทสิงคโปร์กว่า 3 ใน 4 มีการทำงานแบบยืดหยุ่น แม้จะยังพบอุปสรรคอยู่บ้าง
76% ขององค์กรที่ตอบแบบสอบถามในสิงคโปร์นำนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นมาใช้ในองค์กร ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 75% โดยการใช้นโยบายดังกล่าวนำมาซึ่งประโยชน์ต่างๆ ดังนี้:
- 53% ของบริษัทสิงคโปร์มีกำไรเพิ่มขึ้นหลังใช้นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น
- 77% ของบริษัทสิงคโปร์ที่ใช้นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นมีผลิตภาพของพนักงานเพิ่มสูงขึ้น
- 54% ขององค์กรในสิงคโปร์พบว่าการทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น
- 54% ของพนักงานในสิงคโปร์สนับสนุนการใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น เพื่อความสมดุลระหว่างชีวิตกับงาน
- พนักงานในองค์กร 75% ที่ใช้นโยบายนี้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น
Vodafone ยังสำรวจด้วยว่าเหตุใดผู้ตอบแบบสอบถาม 20% ทั่วโลก โดยเฉพาะในสิงคโปร์ ยังไม่มีการใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งผลสำรวจเฉพาะในสิงคโปร์พบว่า
- 27% ของบริษัทในสิงคโปร์ยังไม่มีการใช้นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น เนื่องจากกลัวว่าความสามารถในการทำงานเป็นทีมจะลดลง
- 57% ของพนักงานในบริษัทสิงคโปร์รู้สึกว่ายังไม่มีนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นที่สามารถใช้ได้กับตำแหน่งงานของตน
- 38% ของพนักงานในสิงคโปร์ไม่ได้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานแบบยืดหยุ่น
เบ็น เอล์มส์ ประธาน Vodafone Global Enterprise Asia Pacific กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้ทำให้เราพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างทั่วถึงและรวดเร็วในสถานที่ทำงานยุคใหม่ นายจ้างในสิงคโปร์บอกกับเราว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นช่วยเพิ่มผลกำไร ในขณะที่ลูกจ้างมองว่าตนเองทำผลงานได้มากขึ้น ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของทั้งหมดทั้งมวลนี้คือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของทุกภาคส่วน ตั้งแต่เครือข่ายโมบายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบรอดแบนด์พื้นฐาน ไปจนถึงบริการคลาวด์ล่าสุดที่เอื้อให้หลายฝ่ายทำงานร่วมกันได้ เรากำลังอยู่ในยุคที่การทำงานขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่ใช่สถานที่ที่ทำ"
สำหรับกองบรรณาธิการ
แบบสำรวจ The Flexible: friend or foe? จัดทำขึ้นระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม 2558 โดย Morar (เดิมชื่อ Redshift Research) ในนามของ Vodafone สำหรับประเทศที่ได้รับการสำรวจประกอบด้วย เยอรมนี ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยมีการสัมภาษณ์นายจ้างและลูกจ้างรวม 8,000 คนใน 10 ประเทศผ่านทางออนไลน์
ดาวน์โหลดแนวทางการทำงานแบบยืดหยุ่นได้ที่ www.vodafone.com/WorkFlexi
เกี่ยวกับ Vodafone Group
Vodafone เป็นหนึ่งในบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก และให้บริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริการสื่อสารทางเสียง ข้อความ ข้อมูล และการสื่อสารพื้นฐาน Vodafone ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน 26 ประเทศ เป็นพันธมิตรกับเครือข่ายมือถือในอีก 57 ประเทศ และให้บริการบรอดแบนด์พื้นฐานใน 17 ตลาด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 Vodafone มีลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ 461 ล้านราย และลูกค้าบรอดแบนด์พื้นฐาน 13 ล้านราย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vodafone.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
Vodafone Group
Media Relations
www.vodafone.com/media/contact
Text100 Singapore for Vodafone
Charlotte Tan
+65 6603 9000
singaporevodafone@text100.com