เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายสำหรับเกมใหม่จากค่ายที่หากินกับซีรีส์เกมเดิมๆ มากว่า 20 ปีอย่าง Blizzard โดยเบื้องหลังความสำเร็จนี้ เกิดมาจากแนวคิดที่ต้องการสร้างเกมเชิงบวก (optimistic/positive) ของผู้กำกับอย่าง Jeff Kaplan และทีมพัฒนาที่ย้ายมาจาก Project Titan ที่ถูกยกเลิกไปในปี 2014
Kaplan เล่าว่าแนวคิดนี้ได้มาจากการที่เขาได้นั่งเล่นเกมกับภรรยาและลูกๆ ในบ้านด้วยกัน เขารู้สึกว่า เนื้อหาเกมที่รุนแรง มีภาษาหยาบคาย ตัวละครใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นดูจะไม่ค่อยเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ และเมื่อนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ก็ได้ข้อสรุปว่าเกมใหม่ของบริษัท จะต้องเป็นเกมที่เหมาะสมกับเด็กๆ และวัยรุ่น
ด้วยแนวคิดข้างต้นนี้ทำให้ทีมพัฒนามองว่าเกมยิงที่เน้นจำนวนคิล (kill) จะมีสภาพแวดล้อมการแข่งขันค่อนข้างสูงและชิงดีชิงเด่น ซึ่งจะเป็นการดึงเอา negativity ออกมามากกว่า ดังนั้นเราจึงเห็นว่า Overwatch ไม่ใช่เกมที่จะเน้นจำนวนคิลมากกว่าแล้วชนะเสมอไป แต่อาศัยความร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมและการทำภารกิจเป็นสำคัญ
Jeff Kaplan ผู้กำกับเกม Overwatch
นอกเหนือไปจากนั้น แนวคิดเชิงบวกยังถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทั้งเทรลเลอร์ภาพยนตร์ (Cinematic Trailer) ในรูปแบบของการมี "ความหวัง" โดยโครงการ Overwatch ในเนื้อเรื่องเปรียบเสมือนทีมซูเปอร์ฮีโร่ ที่ถูกตั้งคำถามและสูญเสียความน่าเชื่อถือจากนานาชาติ ก่อนที่จะถูกยุบลงไป โดยความหวัง (ของการปกป้องโลกโดย Overwatch) นั้นก็ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านตัวละครคนพี่ ที่ถอดฮู้ดออกในตอนจบของเทรลเลอร์ประหนึ่งกลับมามีความหวังอีกครั้ง หลังจากสวมฮู้ดและดูแคลน Overwatch มาตลอดว่าถูกยุบและเป็นเพียงทหารรับจ้างไปแล้วเท่านั้น
ขณะเดียวกันความหวังนี้ยังถูกส่งต่อมาให้โลกแห่งความเป็นจริงด้วย โดยเฉพาะกับคนพิการ จากโหมดสำหรับคนตาบอดสี หรือแม้แต่การปรับแต่งการควบคุมของเกมที่ค่อนข้างยืดหยุ่น จนทำให้ผู้ที่พิการทางสมอง (Cerebral Palsy) ยังสามารถเล่นเกมนี้ได้ด้วยเช่นกัน
Kaplan กล่าวปิดท้ายด้วยว่า การเล่น Overwatch คือการรู้จักทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งไม่ว่าคุณจะชนะหรือแพ้ คุณจะแชร์ประสบการณ์นี้ร่วมกัน
ที่มา - Wired
Comments
"Kaplan กล่าวปิดท้ายด้วยว่า การเล่น Overwatch คือการรู้จักทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งไม่ว่าคุณจะชนะหรือแพ้ คุณจะแชร์ประสบการณ์นี้ร่วมกัน"
This concept does not apply with DOTA2
ช่วย ขยายความหน่อยสิครับ ผมเห็นว่า dota 2 ก็น่าจะเหมือนกัน
Dota 2 solo public SEA server ถ้าเล่นจะรู้เลยครับว่าไม่มีความสามัคคีใดๆในทีมครับ
ผมก็เล่น solo บ่อยๆ นะครับ ส่วนใหญ่ก็โออยู่นะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
DOTA2 คงไม่ได้ถูกพัฒนาบนฐานคิดบวกแบบนี้ไงครับ เลยไม่ได้เห็นความสามัคคีอย่างชัดเจน
เข้า TF2 แล้วนั่งดูเกรียนนั่งส่องของกับตีลูกเบสบอลอยู่ในห้อง....
ตัวเกมมันเนือยๆ เหมือนเอา Medigun มายิงใส่ฝ่ายตรงข้ามนี่สิ
fast paced เกินไป แถม skill ceiling TF2 มีเหนือกว่า
สนุกจนหยุดไม่ได้ ใครชอบfpsแบบเล่นเป็นทีมแนะนำให้ลองครับ
ผมชอบตรงที่ไม่มี kill board หรือ K/D นี้แหละ ทำให้คนสนใจที่จะเล่นเป็นทีมมากขึ้น
พี่เลยเล่นบอดี้สูทบ้าง กางเกงแนบเนื้อบ้าง.....
ปล. แต่ก็ชอบนะ
อาจจะหมายถึง เขาอยู่เมืองหนาว เสื้อผ้าน้อยชิ้นเลยไม่เหมาะ ^__^
บรรทัดแรกของข่าวฮามากครับ
"จนทำให้ผู้ที่พิการทางสมอง (Cerebral Palsy) ยังสามารถเล่นเกมนี้ได้ด้วยเช่นกัน"
ถ้าเมื่อเกือบสองปีก่อนผมเฉยๆ กับคำนี้
แต่ตอนนี้ซึ่งใจกับคำนี้มาก คงซื้อด้วยเหตุผลนี้
กำลังเดินๆ จะไปดันรถ อยู่ๆ ก็มีเสียงนี้ดังขึ้น Ryu ga, Waga teki wo, Kurau !!!!
และก็จบลงด้วยเป็นศพยกทีม //แน่จริงยิงมาตรงๆ อย่ายิงผ่านกำแพงสิฟระะะะะะะะะะ
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
เห็นหนวดมังกรแว้บๆ Mei จังกด Shift แช่ตัวเองชิลๆ ละฮะ
ผมว่าไอ้นี่มัน Telephone Punch มากเลยนะ
ได้ยินนี้ผม Heroes never die เลย
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
ที่ Cubebrush ลาออกจาก Blizzard คงเพราะโปรเจคโดนแคนเซิล (และทำวิดีโอตัวเองก็พออยู่ได้) ล่ะมั้งเนี่ย ? (แกทำ Project Titan)
แต่ถ้าฆ่าเยอะ ๆ ติด ๆ กันจะได้ Play of the game
ตอนนี้ระบบมันยังไม่ฉลาดเท่าไหร่ ให้ความสำคัญdamage per secกับhealing per secมากเกินไป... เห็นข่าวdev blogว่าจะปรับในpatchหน้า เพิ่มเงื่อนไขเอื้อผู้เล่นที่ส่งผลต่อการชนะ
นั่นมัน Jack Fross ชัด ๆ ขาดแค่ไม้เท้า
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
Trailer รู้สึกถึงกลิ่นไอของ Big Hero6 มากๆเลยแฮะ
คนทำคนเดียวกัน?
รอดู TF3
คงต้องรออีกนานเลย เพราะค่ายนี้นับไม่ถึง 3 ซักที แต่ผมอยากให้ GabeN ปล่อย "3" ออกมาทีเดียว 3 เกมรวด ประมาณว่า HL3 TF3 P3 ในแพ็คเดียวครับ
L4D3
เห็นด้วยครับ เพื่อนผมได้ PotG บ่อยมาก แต่ตาที่ได้กลับแพ้เปนงี้หลายรอบล่ะ คือมันไล่ฆ่าอย่างเดียว
ยังไม่ได้ซื้อนะ เพราะถึงน่าสนุกแต่ไม่ใช่แนวผมเท่าไหร่
แต่ถ้าทำหนังออกมา ผมดูแน่นอน