ในช่วงที่กระแส SSD (solid state drive) กำลังเริ่มมาแรงอย่างตอนนี้ หนึ่งในคำโฆษณาของโน้ตบุ๊กที่ใช้ SSD คือประหยัดพลังงานกว่ารุ่นที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ เนื่องจาก SSD ไม่มีส่วนที่เคลื่อนไหวเหมือนกับฮาร์ดดิสก์ ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า
Tom's Hardware เว็บไซต์ฮาร์ดแวร์ชื่อดังได้ทำการทดสอบ SSD ในท้องตลาดหลายรุ่น และพบว่ามันไม่จริง SSD กลับเปลืองแบตเตอรี่มากกว่าฮาร์ดดิสก์ด้วยซ้ำ (ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพในการอ่าน-เขียนข้อมูลจะดีกว่าฮาร์ดดิสก์ก็ตาม)
สาเหตุสำคัญที่ Tom's Hardware สรุปก็คือ ถึงแม้อัตราการกินไฟช่วง peak ของฮาร์ดดิสก์จะสูงกว่าถ้านับเป็นวัตต์ แต่ว่าในการใช้งานจริงแล้ว ฮาร์ดดิสก์ไม่ได้ทำงานที่ peak เยอะนัก (ถ้าไม่โชคร้ายจริงๆ จนต้องหมุนจานเพื่ออ่านข้อมูลใหม่หมด) ส่วน SSD ตัวเลขการกินไฟดูน้อยกว่า แต่มันมีแค่ 2 สถานะเท่านั้นคือ idle และ active (กินไฟน้อยแต่สม่ำเสมอ)
เมื่อคิดประสิทธิภาพต่อพลังงานแล้ว ฮาร์ดดิสก์ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอยู่ (ยังไม่คิดเรื่องราคาและพื้นที่ใช้สอย) แต่ SSD เองเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังพัฒนาต่อได้อีก โดยทิศทางการพัฒนาจะเปลี่ยนจาก SLC (single-level cell) มาเป็น MLC (multi-level cell) เพื่อเพิ่มความจุ และพัฒนากลไกช่วยประหยัดพลังงานขึ้นมาเช่นเดียวกับฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบัน
ที่มา - Tom's Hardware (ผลเบนช์มาร์คเริ่มที่หน้า 8)
Comments
SSD ผมว่ายังเหมาะสำหรับตลาด Notebook อยู่ดี เร็วกว่า HD 7200RPM 2.5" และไม่มี Moving Parts ด้วย
แต่ในตลาด Desktop เมื่อดูในราคาแล้ว เล่นพวก Raptor 10kRPM หรือ SAS 15kRPM ยังคุ้มค่ากว่า และประสิทธิภาพก็อยู่ในระดับเดียวๆกันด้วย
ยัดแรมให้เต็มที่ 3 หรือ 4G แล้วไปปิด paging space ซะ
น่าจะช่วยประหยัดได้อีกหน่อย
ใน linux ทำได้ครับ แต่ใน windows ปิดไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะมันจะไปสร้างเป็น temp files เล็กๆ แทน pagefile ทำให้ fragment เยอะเข้าไปอีก เขียนอ่านก็เยอะด้วย
ใน windows ตั้งให้มันเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้จะดีกว่าการปิดครับ
ทำร้ายจิตใจแฟน Eee PC 701 มาก
Kohsija
SSD ก็ยังมีจุดขายเรื่องความทน ไม่กลัวการสั้น ความเล็ก ความเร็ว การไม่ต้อง defrag
นอกจากนั้นถ้ามีปัญหาไปไม่ใด้จริงๆ ก็หันกลับไปเป็น page space (ต้องการความเร็วสูง random access ทั้งนั้น) แปลงร่างเป็น disk cache (peak เยอะ) ในช่วงรอกลไกประหยัดพลังงานก็ใด้
^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo