คุณเริ่มหัดเขียนโปรแกรมกันตอนไหนครับ
ผมคิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเริ่มหัดเขียนโปรแกรมกันตอน ม.ปลาย หรือไม่ก็เพิ่งมาเขียนจริงๆ จังๆ ตอนเข้ามหาวิทยาลัย อาจมีอาจารย์หรือรุ่นพี่มาสอนให้ หรือมีโปรเจคที่ถูกบังคับให้ทำแต่อาจารย์ไม่สอน ต้องไปงมหาเอาเองในกูเกิลหรือ Stack Overflow แทน ไม่ว่าจะเรียนกันมาแบบไหน สิ่งที่ได้กลับไปนอกเหนือจากเกรดรายวิชา หรือโปรเจคที่ทำไปแล้ว ก็คือประสบการณ์การเขียนโปรแกรมที่ได้รับระหว่างเรียนนั่นเอง
วันนี้ ผมจะพามารู้จักกับโรงเรียน 42 (ใช่แล้วครับ ชื่อโรงเรียนเป็นแบบนี้จริงๆ) ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกให้นักเรียนเขียนโปรแกรม แต่ความแปลกของโรงเรียนนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อของมันเพียงอย่างเดียว กระบวนการสอนก็มีความแปลกไม่แพ้กัน เพราะที่นี่ไม่มีการเรียนการสอน ไม่มีอาจารย์หรือเมนเทอร์คอยให้คำแนะนำ มีแต่โปรเจคที่ให้ทำร่วมกันกับเพื่อนๆ เท่านั้น
ภาพจำลองโรงเรียน 42 (ที่มาภาพ: 42 บน Facebook)
โรงเรียน 42 ก่อตั้งขึ้นในกรุงปารีสเมื่อปี 2013 โดยมี Xavier Niel เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง เขาเป็นมหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส เป็นเจ้าของกิจการโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศ และเป็นหนึ่งในเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์รายวัน Le Monde ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
เหตุผลที่ Xavier ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ ก็เพราะว่าตัวเขาร่ำรวยจากการเป็นเจ้าของกิจการด้านเทคโนโลยีในฝรั่งเศส จึงอยากจะทำโครงการการกุศลเพื่อตอบแทนบ้านเกิด โดยนักเรียนที่นี่ก็จะได้เรียนฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด Xavier บอกว่า ครั้งหนึ่งเคยมีเด็กจากสหรัฐฯ ข้ามประเทศมาเพื่อเรียนที่นี่ เพราะจ่ายค่าเทอมที่ประเทศตัวเองไม่ไหว
ทีมผู้ก่อตั้งโรงเรียน 42 ในประเทศฝรั่งเศส (ซ้าย) Xavier Neil, (บน) Florian Bucher, (ขวา) Nicolas Sadirac, (ล่าง) Kwame Yamgnane (ที่มาภาพ: 42 บน Facebook)
ผู้ที่สนใจสมัครเรียนต้องมีอายุ 18 - 30 ปี ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาใดๆ ไม่เคยเขียนโปรแกรมมาก่อนก็สมัครได้ เมื่อสมัครแล้วจะต้องทำการทดสอบสองขั้น ขั้นแรกเป็นการทดสอบออนไลน์เกี่ยวกับความรู้ด้านการใช้ความคิดเชิงตรรกะ ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 4,000 คนจะได้รับบัตรเชิญให้ไปโรงเรียนเพื่อทดสอบในขั้นต่อไปที่เรียกว่า La Piscine (แปลว่า “สระว่ายน้ำ”) ในขั้นนี้ ผู้สมัครจะต้องทำโปรเจคและเขียนโปรแกรมแบบเข้มข้นทุกวัน วันละ 15 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เดือน โรงเรียนจะคัดนักเรียนเหลือเพียง 1,000 คนที่ฉายแวว พร้อมที่จะเรียนรู้การเป็นโปรแกรมเมอร์เข้ามาเรียนในหลักสูตร ผู้ที่ผ่านการทดสอบในขั้นนี้จะมีความรู้เทียบเท่ากับการศึกษาระยะเวลา 2 ปีในหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส
นักเรียนที่นี่จะต้องเข้าโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะเปิดให้เข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะให้ใช้ มีอินเตอร์เน็ตไว้ให้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องเรียนถูกออกแบบมาให้นักเรียนใช้พื้นที่ทำโปรเจคหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ การเรียนจะเป็นลักษณะของ peer-to-peer คือนักเรียนจะเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และตัดเกรดกันเอง ครูและชั่วโมงเลกเชอร์จึงไม่มีความจำเป็นสำหรับที่นี่
บรรยากาศภายในห้องเรียนของโรงเรียน 42 นักเรียนกำลังจัดแข่งทัวร์นาเมนต์ Hearthstone กันอยู่ (ที่มาภาพ: 42 บน Facebook)
หลักสูตรการเรียนการสอนจะแบ่งออกเป็น 21 เลเวล ในช่วงแรก นักเรียนจะต้องเรียนทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นเหมือนๆ กัน โดยมีทั้งงานเดี่ยวหรืองานกลุ่ม และจะต้องนำเสนอโปรเจคเพื่อขอเลื่อนชั้น เมื่อเลื่อนชั้นมาได้สักพัก นักเรียนจะสามารถเลือกทำโปรเจคตามความสนใจของตนเองได้ เช่น ถ้าสนใจงานด้านกราฟิกดีไซน์ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการฐานข้อมูล ก็สามารถเลือกทำโปรเจคในด้านนั้นๆ ได้ และในบางเลเวลก็จะให้นักเรียนไปฝึกงานกับบริษัทข้างนอก เมื่อทำโปรเจคสำเร็จก็มีแต้มให้สะสม หากเก็บแต้มได้มากพอก็จะสามารถขอเลื่อนชั้นไปเลเวลถัดไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งจบการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเรียนจบกันภายใน 3 - 5 ปี
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Xavier มีแผนจะเปิดสาขาสองที่เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งทาง VentureBeat มีบทสัมภาษณ์ของเขาเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งนี้ ผู้ที่สนใจอยากศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงเรียน หรือความเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปอ่านได้ อาจจะได้ไอเดียอะไรบางอย่างจากบทสัมภาษณ์นี้ครับ
อ้อ… Xavier บอกว่าชื่อ 42 มาจากหนังเรื่อง The Hitchhiker's Guide to the Galaxy แต่ผมไม่เคยดูแฮะ
ที่มา - VentureBeat, TechCrunch, 42
Comments
ควรเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น Xavier's School for Gifted Youngsters
55 เห็นภาพเลย
โรงเรียนคงจะเปิดบังหน้า ลองดูใต้โรงเรียนน่าจะเป็นที่จอดยานครับ
อ่านสองสามย่อหน้าแรกนี่ รูป Prof.X ลอยขึ้นมาเลย แล้วฝันก้สลายเมื่อเห็นรูปที่สอง....
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
วิธีการเรียนเถื่อนไปนิดนะ ถ้ามาเมืองไทยคงต้องมี mentor ในชั้นต้นหน่อยล่ะมั้ง ไม่งั้นจะเป็นอะไรที่กดดัน แต่ชอบที่ทำงาน/เรียนบนฐานของโปรเจ็คนี่ล่ะ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
...อ่านเเว๊บแรกนึกถึง Battle Royale เกมนรกโรงเรียนพันธุ์โหด
+1
สำหรับผม การเรียนรู้ในแบบเก่าๆมันจบลงไปแล้ว
มนุษย์มีเสรีภาพในการศึกษาโดยไม่ต้องไปยึดติดกับวิธีการแบบเดิมๆอีกต่อไป
โลกนี้คือเกมแบบ Open World ของจริง
เขียนโค้ดวันละ 15 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน
เชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านมาบ้าง
นึกว่า 42 มาจากคำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง :P
Blog | Twitter
ทำแบบนี้ กลับไปที่เลเวล 1 ซะ
Jusci - Google Plus - Twitter
เพิ่งไปหาเพิ่มมา และเพิ่งรู้ว่าวลี "the answer to life the universe and everything" มันก็มาจากเรื่อง The Hitchhiker's Guide to the Galaxy ;____;
Blog | Twitter
ตอนพวกพระเอกรู้คำตอบนี่ผมเงิบไปเลย
อูยยย อยากสมัครบ้างแฮะ
RPG สุดๆ ถ้าคนที่ชอบ น่าจะไปได้ไกลมาก
ดูรูป เหมือนเกิน 30 ไปหลายคน อยากไปบ้าง
การเล่น HearthStone เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็ตสินะ
แสดงว่าเราเข้าใจถูกต้องมาตลอด 555
The Hitchhiker's นี่เจ๋งมากครับ ลองหามาดู
เรียนรู้เองไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเราพอมีพื้นฐานการมีคนสอนก็เหมือนใส่สูตรไปได้ไวขึ้น ไม่ต้องเสียเวลา
The number 42 is, in The Hitchhiker's Guide to the Galaxy by Douglas Adams, " Answer to the Ultimate Question of Life, the Universe, and Everything", calculated by an enormous supercomputer named Deep Thought over a period of 7.5 million years
จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/42_(number)#The_Hitchhiker.27s_Guide_to_the_Galaxy
คนทำงานสายนี้ก็น่าจะเรียนด้วยตัวเองกันทั้งนั้นรึเปล่า
ในไทย ถ้าไม่ใช่ ม.ดังๆ อาจารย์เกินครึ่ง เขียนโปรแกรมกันไม่เป็นด้วยซ้ำ
การไม่มีอาจารย์บางทีอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แต่การตัดเกรดกันเองในกลุ่ม geek ถ้าไม่เก่งจริง ท่าทางจะอยู่ยาก 555
เดือนหน้าจะมีนักเรียนสาวสวยจากโรงเรียนนี้มา Intern เป็น Node.js Dev ที่ GetLinks ครับ ใครอยากเจอมาหาเราได้ :)
XD
Blog | Twitter
มีใครสอบผ่านและสนใจไปเรียนที่นี่ไหมครับ
พอดีผมไปลองสอบดูแล้วผ่านของสาขา usa อยากไปเหมือนกัน
เผื่อจะได้คุยกัน และช่วยๆกันดู/หาข้อมูลครับ
ส่วนท่านใดมีประสบการณ์ รบกวนสอบถามเรื่องการทำ visa ครับ ควรทำตัวไหนยังไงดีครับ เพราะเหมือนว่าเขาจะออก I-20 ให้เราไม่ได้