นาฬิกาอัจฉริยะและ Fitness Tracker บนข้อมือ อาจจะไม่ปลอดภัยและส่งผลเสียมากกว่าที่คิด เมื่อทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Binghamton ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยี Stevens (Stevens Institute of Technology) เขียนเปเปอร์หัวข้อ Friend or Foe?: Your Wearable Devices Reveal Your Personal PIN ที่ชี้ให้เห็นช่องโหว่ในการใช้วิศวกรรมย้อนกลับ เพื่อวิเคราะห์รหัส PIN โดยอาศัยข้อมูลการเคลื่อนไหวจากเซ็นเซอร์บนอุปกรณ์
ทีมวิจัยได้เขียนอัลกอริทึม ที่สามารถถอดรหัสจากการเคลื่อนไหวได้ในระดับมิลลิเมตร และนำข้อมูลการเคลื่อนไหวนั้น ไปวิเคราะห์เป็นรหัส PIN ที่เหยื่อน่าจะกด ซึ่งสามารถคาดเดารหัสได้ถูกต้องกว่า 80% จากความพยายามเพียงครั้งเดียว โดยแฮ็กเกอร์สามารถแฮ็กข้อมูลเหล่านี้จากการฝังมัลแวร์หรือดักข้อมูลผ่านบลูทูธ
ถึงแม้ทีมวิจัยจะยอมรับว่าวิธีการยังค่อนข้างล้ำ แต่ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งทีมวิจัยยังไม่สามารถหาวิธีป้องกันหรือแก้ไขได้ แต่ก็ได้แนะนำให้นักพัฒนาสร้าง noise สำหรับข้อมูลบนสมาร์ทวอทช์ รวมถึงวิธีบ้านๆ อย่างการใช้มือข้างที่ไม่ใส่อุปกรณ์เวลากดพาสเวิร์ด
Comments
ต่อไปจะกรอกรหัสผ่าน หรือข้อมูลสำคัญต่างๆ ต้องถอดพวก smart watch หรือ sport band ออกก่อน
หรือขณะกดรหัส ก็เต้นไปกดไป ทำมือหลอกล่อว่าจะจิ้มแป้นหรือไม่จิ้ม
แค่นึกว่าต้องสวมวิญญาณไมเคิล แจ็กสัน ตอนกด ATM แค่นึกก็เหนื่อยละ
ผมใส่ Smart Watch ข้างซ้าย แต่กดด้วยข้างขวาเป็นปกติอยู่ละ
มุ้งมิ้ง~*
นั่นสิครับ แล้วมันใช้ข้างที่ใส่กดยังไงนอกจากตอนถอด
เหมือนกันครับ ใส่ซ้าย กดรหัส Pin ด้านขวา คิดว่าคนทั่วไปส่วนใหญ่ก็แบบนี้นะ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ผมใส่ซ้ายบ้างขวาบ้างแล้วแต่โชคชะตาครับ - -" ต้องระวังไว้บ้างแล้ว
เหมือนกันครับ
แถมข้างที่กด ใช้ 4 นิ้วในการกด ข้อมือแทบไม่ขยับ ผมคงจะอยู่ใน 20% ที่เหลือนะ
ปล. ข้างที่ใส่ ทำหน้าที่ถือกระเป๋าตังค์ บังคีย์ไว้ด้วย