Tags:
Node Thumbnail

กลุ่มนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ทำนายว่าการแพร่หลายของรถยนต์ไร้คนขับจะเติบโตแบบก้าวกระโดดภายในช่วง 10 ปีนี้ และไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมรถยนต์โดยตรงเท่านั้น แต่เชื่อว่านี่จะส่งผลบวกต่อยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากถึง 98 พันล้านเหรียญต่อปี

สาเหตุที่ปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์น่าจะเพิ่มได้มากเมื่อรถยนต์ไร้คนขับแพร่หลายไปทั่วนั้น เป็นเพราะนักวิจัยคิดว่าเมื่อมีรถยนต์ไร้คนขับเข้ามาเป็นทางเลือกแล้ว หลายคนที่เคยงดดื่มเพราะต้องขับรถก็จะตัดสินใจดื่มได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และเมื่อประเมินว่าผู้คนในกลุ่มนี้มีอยู่หลายล้านคนแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตัวเลขมูลค่าที่ได้จากการประเมินจะสูงถึงเพียงนี้

Morgan Stanley เผยข้อมูลจากประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันว่ามีผู้คนดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลกราว 2.1 พันล้านคน ซึ่งรวมแล้วแต่ละปีดื่มกันไปรวม 1.14 ล้านล้านแก้ว เมื่อคำนวณจากราคาเฉลี่ยของเครื่องดื่ม (คิดเฉลี่ยราคาจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก) ตกราคาแก้วละ 1.33 ดอลลาร์แล้ว เท่ากับว่าในปัจจุบันยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

และเมื่อทำนายอนาคตโดยอิงจากข้อมูลในปัจจุบัน Morgan Stanley ตั้งข้อสมมติฐานว่าประมาณ 39% ของบรรดาผู้คน 2.10 พันล้านคนที่ดื่มแอลกฮอล์ทั่วโลกนั้น จะสามารถมีรถยนต์ไร้คนขับไว้ในครอบครองและทำให้พวกเขาตัดสินใจดื่มเพิ่มขึ้น 1 แก้วต่อสัปดาห์ นั่นจะทำให้มีปริมาณการบริโภคในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 42 พันล้านแก้วต่อปี เมื่อคิดราคาเฉลี่ยของเครื่องดื่มส่วนที่เพิ่มขึ้นมาแก้วละ 2.32 ดอลลาร์ (ราคาเฉลี่ยแพงขึ้นจากค่าเฉลี่ยปกติ เพราะกลุ่มคนที่มีรถยนต์ไร้คนขับก็มีแนวโน้มว่าจะเลือกดื่มเครื่องดื่มมีราคา) นั่นจึงทำให้ได้ตัวเลข 98 พันล้านดอลลาร์ตามที่กล่าวไปข้างต้น

อย่างไรก็ตามการทำนายผลกระทบนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่ากฎหมายจะอนุญาตให้ผู้ที่นั่งในรถยนต์ไร้คนขับสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เท่านั้น ในปัจจุบันกฎหมายในหลายประเทศและรวมถึงประเทศไทย ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จนมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกำหนดทำการขับขี่ยานพาหนะ และห้ามทำการดื่มในรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร ซึ่งรวมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์โดยสารสาธารณะ

แต่ใครจะรู้ เมื่อวันที่รถยนต์ไร้คนขับได้รับการยอมรับใช้งานกันแพร่หลายจริงทั่วโลกและในไทย วันนั้นกติกาสังคมและกฎหมายที่บังคับใช้ก็อาจเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีคมนาคมก็เป็นได้

ที่มา - Business Insider

alt="upic.me"

Get latest news from Blognone

Comments

By: sakuraba
Windows PhoneWindows
on 10 August 2016 - 22:59 #931876
sakuraba's picture

เมาไม่ขับ แล้วจะกลับยังไง

By: AdmOd
iPhoneWindows
on 10 August 2016 - 23:53 #931892

ฮือๆ....

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 11 August 2016 - 09:42 #931963

ถ้าชยก็ความผิดรถ
Moral Hazard อีกแล้วสินะ