ในที่สุด ดีล Foxconn ซื้อหุ้น 66% ของ Sharp ที่ยืดเยื้อมานานก็จบลง โดย Foxconn จ่ายเงินให้ Sharp จำนวน 3.81 พันล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว
Kozo Takahashi ซีอีโอของ Sharp ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ และบอร์ดของ Sharp จะประชุมกันวันนี้เพื่อแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ ซึ่งคาดว่า Tai Jeng-wu มือขวาของ Terry Gou ประธานของ Foxconn จะมานั่งเป็นซีอีโอแทน
Terry Gou เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะผลักดันธุรกิจจอภาพของ Sharp ต่อไป โดยเฉพาะจอภาพแบบ OLED
ที่มา - Wall Street Journal
Comments
หมดกัน Sharp
Get ready to work from now on.
ต้องปล่อยให้ล้มละลาย?
ในฐานะ แฟนพันธ์แท้ของสินค้ายี่ห้อนึง ที่เลือกจะอยู่รอดโดยการขายกิจการให้คนอื่นที่ไม่มีความเข้าใจในแบรนด์นั้น บางทีการปล่อยให้ล้มละลายไปก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลว เพราะสุดท้ายแบรนด์ที่ผมว่านี่ก็โดนนายทุนใหม่จากจีนสั่งปิดโรงงานที่เดิมและย้ายฐานทั้งหมดไปจีน (พนง เดิมตกงานหมดอยู่ดี) และไม่สามารถรักษามาตรฐานที่สร้างมากว่า 50 ปีได้ เพราะหันไปผลิตแมสโดยไม่สนใจคุณภาพ (เขาคงนึกว่ามีแค่แบรนด์จะขายได้) จนปัจจุบันกลายเป็นของที่ไม่มีแม้แต่คุณค่าอะไรจะให้คนพูดถึงและก็คงรอวันปิดตัวอยู่ดี คราวนี้แม้แต่มูลค่าของแบรนด์ก็ไม่เหลือแล้ว
ลูกค้ามองแบบนั้นไม่ผิดครับ แต่หวังให้ผู้ถือหุ้นคิดแบบนั้นคงจะลำบาก
โน้ตบุ๊ค thi.....d สินะ
แล้วแฟนพันธุ์แท้ที่ว่า มีความรับผิดชอบอะไรต่อกิจการ พนักงาน ผู้ถือหุ้น ฯลฯ บ้างล่ะครับ หรือแค่ซื้อสินค้าปีละชิ้นสองชิ้น
แฟนพันธุ์แท้คงพิมพ์เอามันส์มากกว่าครับ
แต่ชอบประโยค "แค่ซื้อสินค้าปีละชิ้นสองชิ้น" เห็นภาพเลย แถมเป็นกันเยอะด้วย
ส่วนตัวไม่เป็นเพราะซื้อทุกยี่ห้อถ้าของมันดี ซึ่งดันมีอยู่แค่ยี่ห้อเดียวนี่สิ
ใช่อย่างที่เขาว่าครับ คือ ผมพิมพ์เอามันส์ไปยังงั้นเอง แล้วก็เฉลี่ยแล้วสงสัยจะซื้อน้อยกว่าที่คุณว่าอีกครับ 55555 แต่ก็ถ้าเอาเป็นสาระหน่อย แฟนพันธ์แท้ไม่ใช่มีประโยชน์แค่ว่าต้องเป็นคนที่ทุ่มทุนซื้อของทุกอย่างที่เขาผลิตออกมาหรอกนะครับ หากแต่ในเชิงการตลาดบริษัทจะต้องใช้งบในการหาลูกค้าใหม่ เยอะกว่า 4-10 เท่าของการขายของให้ลูกค้าที่มีความภักดีในสินค้า มิหนำซ้ำ ลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ยังช่วยหาลูกค้าใหม่ให้กับบริษัทฟรีๆอีกตะหาก และกรณีมีข่าวแง่ลบหรือมีความเข้าใจผิด ลูกค้าภักดียังออกโรงปกป้องบริษัทที่ตัวเองจ่ายเงินให้เขาด้วยซ้ำ(ก็ตามที่เห็นๆกันครับ)
นี่ตัวเลข 4-10 เอามาจากลิงก์นี้ครับ
https://www.linkedin.com/pulse/what-cost-customer-acquisition-vs-retention-ian-kingwill
เรื่อง goodwill ก็เป็นปัญหาหนึ่งครับ แต่ Sharp เป็นบริษัทใหญ่ ความรับผิดชอบเยอะ จะให้ล้มละลายทิ้งแล้วทิ้งความรับผิดชอบไปเฉยๆก็กระไรอยู่ เมื่อมันมีทางที่จะพอทำได้ ถึงจะไม่ได้ดีที่สุด เช่นอาจมี layoff ระลอกใหญ่อีกรอบแต่ก็คงดีกว่าโดนทั้งหมด เพราะที่ญี่ปุ่นนี่การถูก layoff ถือว่าเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายของชีวิตเลยครับ แถมในกรณีถูก layoff เยอะๆ คนที่โดนยังต้องมาแข่งขันกันหางานเองอีก
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นี่คือทางรอดทางเดียวเหรอครับ
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
แล้วจะมีมือถือ Sharp มาขายไทยไหมนะ (อาจจะพะแบรนด์โนเกียมาก็ได้ใครจะรู้)
Brand ญี่ปุ่นไม่ขลังเหมือนก่อน มีหลายบริษัทเกินไปควรควบรวมกันเหลือแค่ 2-3 บริษัทก็พอ
สู้ต่อไปทีม AQUOS Mobile
เหลืออุตสาหกรรมไหนบ้างครับในระดับโลก ที่เกาหลีและจีน ยังกิน ญี่ปุ่นไม่ลงเท่าไหร่ ผมนึกออกก็ รถยนต์
เท่าที่ผมนึกออกก็กล้องละมั้งครับ กล้องในตลาดตอนนี้ก็ Canon Nikon Sony Panasonic Olympus Fuji มีแต่แบรนด์ญี่ปุ่น แต่หลังๆเลนส์เกาหลีเลนส์จีนคุณภาพดีราคาย่อมเยาว์ก็เริ่มตีมากขึ้นเช่นกัน
อีกอย่างที่น่าจะครองได้อยู่น่าจะเป็นการ์ตูน.. แต่ถ้าดูดีๆจะเห็นว่าอนิเมะต่างๆมีทีมงานเกาหลีเยอะขึ้น 55+
วัฒนธรรมโมเอะสินะครับ หลายๆ ประเทศหลายๆ ที่ก็สร้างเองได้แล้วแต่ก็นั่นแหละ
อุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ กับเครื่องดนตรีครับ
ภาพยนต์ฮอลลีวู้ด Sony pictures แต่รู้สึกจีนจะบุกสักพักใหญ่ๆละร่วมหุ้นบ้าง ไปในนามตัวเองเลยก็มี อย่าง alibaba pictures เห็นโลโก้ครั้งแรกนี่อึ้งมาก!
มองแง่ดีอาจมีลุ้นได้เห็นนวัตกรรมหลายๆอย่างเช่นจอ Edgest มาสู่ตลาดโลกบ้าง
การที่คนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เริ่มจะส่งผลต่อการพัฒนาของบริษัทในญี่ปุ่น เพราะไม่สามารถหาพนักงานที่มีศักยภาพเพื่อจะแข่งขันในตลาดโลกได้
http://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/editors/2/20160809/
ก็แค่คู่แข่งในตลาดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์มันเยอะ...