SoftBank ประกาศซื้อกิจการ Ampere Computing บริษัทออกแบบชิปบนสถาปัตยกรรม Arm สำหรับใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและสำหรับงาน AI ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดยดีลนี้ SoftBank จ่ายเป็นเงินสด 6,500 ล้านดอลลาร์ หลังดีลเสร็จสิ้น Ampere จะมีสถานะเป็นบริษัทลูกของ SoftBank Group โดยไม่มีการเปลี่ยนชื่อบริษัท

ข้อตกลงนี้ SoftBank จะซื้อหุ้นทั้งหมดของ Ampere จากผู้ถือหุ้นเดิมรวมทั้ง Carlyle และ Oracle ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนอยู่ก่อนหน้านี้

กูเกิลประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Wiz บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มความปลอดภัยบนคลาวด์ ด้วยมูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท อย่างเป็นทางการ โดยดีลทั้งหมดจ่ายเป็นเงินสด เมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น Wiz จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Google Cloud

Wiz เป็นสตาร์ทอัปจากอิสราเอลที่ให้บริการโซลูชันความปลอดภัยบนคลาวด์ มูลค่ากิจการล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์ จากการซื้อหุ้นคืนบางส่วนจากพนักงาน หลังจากบริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขายกิจการให้กูเกิลได้เมื่อปีที่แล้ว โดยมีรายงานว่าเป็นความกังวลเรื่องการผูกขาดธุรกิจ ซึ่งมูลค่าที่กูเกิลเสนอซื้อกิจการปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 23,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับว่ากูเกิลกลับมาเจรจาใหม่ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 40%

xAI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของ Elon Musk ซื้อกิจการ Hotshot สตาร์ทอัปพัฒนาเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI แบบเดียวกับ Sora ของ OpenAI โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีลนี้

การยืนยันเรื่องซื้อกิจการนี้มาจากฝั่งของ Hotshot โดย Aakash Sastry แจ้งข่าวว่าหลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาโมเดล AI สร้างวิดีโอออกมา 3 ตัวคือ Hotshot-XL, Hotshot Act One และ Hotshot ตอนนี้ถึงเวลาที่จะสเกลการทำงานไปบนคลัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Colossus ของ xAI แล้ว

ปัจจุบัน xAI ยังไม่มีโมเดลสร้างวิดีโอให้บริการ แต่ Elon Musk เคยบอกก่อนหน้านี้ว่าจะมี Grok Video ออกมาเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งจากการซื้อกิจการ Hotshot นั่นเอง

เมื่อกลางปีที่แล้ว มีรายงานข่าวว่า Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลได้เจรจาเพื่อซื้อกิจการบริษัทด้านความปลอดภัย Wiz ที่มูลค่า 23,000 ล้านดอลลาร์ แต่ในที่สุดดีลนี้ก็ยกเลิกไปด้วยเหตุผลกังวลการถูกตรวจสอบจากหน่วยงาน เรื่องผูกขาดทางธุรกิจ

ล่าสุด The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า Alphabet กลับมาเจรจาซื้อกิจการ Wiz อีกครั้งแล้ว คราวนี้มาด้วยข้อเสนอที่สูงขึ้นเป็น 30,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะปิดดีลนี้พร้อมประกาศเป็นทางการในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องประเมินว่าสถานการณ์ปัจจุบัน น่าจะทำให้ดีลนี้ถูกตรวจสอบน้อยลง

เป็นข่าวจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg ที่ไม่ใช่แอปเปิลแต่เป็นกูเกิล เขาอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่ากูเกิลเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย เพื่อซื้อกิจการ AdHawk Microsystems บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีติดตามตำแหน่งดวงตา (eye-tracking) สำหรับใช้ในเฮดเซตหรือแว่นตาอัจฉริยะ

ดีลนี้คาดว่ามีมูลค่าที่ประมาณ 115 ล้านดอลลาร์ และอาจประกาศได้ภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ตัวแทนของกูเกิลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานดังกล่าว

จากข่าวลือ Niantic เจ้าของเกม Pokémon Go กำลังเจรจาขายกิจการที่มูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ วันนี้ข่าวอย่างเป็นทางการมาแล้ว มีพลิกโผจากข่าวลืออยู่บ้าง เพราะไม่ได้เป็นการขายทั้งบริษัท

Niantic จะขายธุรกิจเกมจำนวน 3 เกมคือ Pokémon GO, Pikmin Bloom, Monster Hunter Now และทีมงาน ให้กับบริษัทเกมมือถือ Scopely เจ้าของเกมเศรษฐี Monopoly Go ในราคา 3.5 พันล้านดอลลาร์ บวกกับเงินสดที่ Niantic มีอีก 350 ล้านดอลลาร์ รวมมูลค่า 3.85 พันล้านดอลลาร์

ServiceNow บริษัทซอฟต์แวร์จัดการเวิร์กโฟลว์ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Moveworks ที่มูลค่า 2,850 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายในรูปแบบเงินสดและหุ้นของ ServiceNow ตรงตามข่าวลือที่ออกมาเมื่อวันก่อน

ServiceNow บอกว่าการซื้อกิจการ Moveworks ซึ่งพัฒนา AI Agent นี้ จะนำมาเสริมกับบริการผู้ช่วย AI ของ ServiceNow ที่มีอยู่ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ให้กับลูกค้าองค์กรและพนักงานในองค์กร

Bhavin Shah ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Moveworks รวมทั้งพนักงานทั้งหมดจะเข้าร่วมทีมกับ ServiceNow เพื่อพัฒนาแชทบอตและ AI ผู้ช่วยบนแพลตฟอร์มของ ServiceNow

มีรายงานว่า ServiceNow บริษัทซอฟต์แวร์จัดการเวิร์กโฟลว์สำหรับลูกค้าองค์กร เตรียมประกาศแผนซื้อกิจการ Moveworks ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมูลค่าอาจสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์

Moveworks เป็นบริษัทที่พัฒนาระบบผู้ช่วย AI สำหรับจัดการรีเควสของพนักงานในองค์กร ซึ่งมีลูกค้ารายใหญ่อาทิ Unilever, GitHub, Broadcom ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ากิจการประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์ จากการเพิ่มทุนเมื่อปี 2021 โดยมีบริษัทที่ลงทุนเช่น Kleiner Perkins, Lightspeed Venture และ Bain Capital

คาดว่าดีลนี้ ServiceNow ต้องการนำความสามารถของ Moveworks มาเสริมในผลิตภัณฑ์บริษัท เพื่อให้ฟีเจอร์ด้าน AI เพิ่มมากขึ้น

Rockstar ประกาศซื้อกิจการสตูดิโอเกม Video Games Deluxe ที่ช่วยงานพอร์ต-รีมาสเตอร์เกมเก่าของค่ายหลายเกม เช่น L.A. Noire และ Grand Theft Auto: The Trilogy – The Definitive Edition (แม้พอร์ตได้ไม่ดีและโดนด่ายับ)

Video Games Deluxe เป็นสตูดิโอเกมจากออสเตรเลีย ตั้งอยู่ในเมืองซิดนีย์ ผู้ก่อตั้งคือ Brendan McNamara ซึ่งเคยเป็นผู้ก่อตั้ง Team Bondi ผู้สร้างเกมนักสืบ L.A. Noire ที่ Rockstar เป็นผู้จัดจำหน่ายนั่นเอง

หลังการซื้อกิจการ Video Games Deluxe จะเปลี่ยนชื่อเป็น Rockstar Australia และช่วยสนับสนุนงานพัฒนาเกมอื่นๆ ของค่ายต่อไป

ไอบีเอ็มประกาศว่ากระบวนการซื้อกิจการ HashiCorp เจ้าของซอฟต์แวร์จัดการทรัพยากรบนคลาวด์ Terraform, Vault และอื่น ๆ ได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยจากนี้ HashiCorp มีสถานะเป็นบริษัทลูกในเครือไอบีเอ็ม

ดีลไอบีเอ็มซื้อกิจการ HashiCorp ประกาศมาตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว ด้วยมูลค่า 6,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งที่ผ่านมาไอบีเอ็มต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทั้ง FTC ของอเมริกาและ CMA ของสหราชอาณาจักร โดยหลังจากทั้ง FTC และ CMA อนุมัติเมื่อต้นสัปดาห์ ไอบีเอ็มก็ประกาศเสร็จสิ้นขั้นตอนในสองวัน

IBM ประกาศซื้อกิจการ DataStax บริษัทเจ้าของฐานข้อมูล Astra DB แนว NoSQL ที่พัฒนาต่อจาก Apache Cassandra

DataStax ก่อตั้งในปี 2010 โดยอดีตทีมพัฒนา Apache Cassandra ที่เคยเป็นพนักงานของ Rackspace โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ DataStax Enterprise (Cassandra เวอร์ชันองค์กร) และ Astra DB (บริการ Cassandra แบบ DBaaS ที่ DataStax บริหารจัดการให้) นอกจากนี้บริษัทยังสนับสนุนโครงการโอเพนซอร์สด้านอื่นอย่าง Langflow เครื่องมือพัฒนาแบบ low-code สำหรับงาน AI Agent ด้วย

Baidu ประกาศซื้อธุรกิจไลฟ์สตรีมมิ่งในจีนจากบริษัท JOYY Inc ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ YY Live ด้วยมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์

ดีลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะ Baidu เคยทำข้อตกลงซื้อ YY Live มาตั้งแต่ปี 2020 ที่มูลค่า 3,600 ล้านดอลลาร์ แต่สองฝ่ายไม่สามารถหาข้อตกลงได้ จึงประกาศล้มดีลเมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อมาตกลงซื้อขายกันได้อีกครั้งในปีนี้ มูลค่าของ YY Live ก็ลดลง

Baidu บอกว่าข้อตกลงใหม่ทำให้บริษัทได้เงินที่วางประกันไว้สำหรับการซื้อกิจการนี้คืนมา จำนวนเท่ากับส่วนต่างของข้อตกลงเดิม ซึ่งบริษัทจะนำไปใช้ลงทุนด้านคลาวด์และ AI

ที่มา: Baidu

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีดีลซื้อกิจการที่น่าสนใจคือ HP ได้ซื้อธุรกิจบางส่วนของ Humane บริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์ติดเสื้อ AI Pin ซึ่งประสบปัญหานับตั้งแต่เปิดตัว ดีลนี้อาจสะท้อนว่าฮาร์ดแวร์ AI โดยลำพังยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ขณะเดียวกันรายละเอียดของดีลนี้ก็บอกได้ว่า HP สนใจอะไร

บริษัทการลงทุนจากเนเธอร์แลนด์ ที่เน้นบริษัทด้านเทคโนโลยี Prosus ประกาศซื้อกิจการ Just Eat Takeaway.com บริษัทให้บริการเดลิเวอรีในยุโรป ด้วยมูลค่า 4,100 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.44 แสนล้านบาท โดยจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมดเนื่องจากต้องซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย มูลค่าที่ซื้อนี้สูงกว่าราคาหุ้นเฉลี่ย 3 เดือนของ Just Eat Takeaway.com ประมาณ 49%

Fabricio Bloisi ซีอีโอ Prosus มองว่าดีลนี้จะนำมาเสริมกับพอร์ตโฟลิการลงทุนของบริษัท เพื่อสร้างบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำในยุโรป ขณะที่ Jitse Groen ซีอีโอ Just Eat Takeaway.com มองว่าความร่วมมือกับ Prosus จะส่งเสริมกลยุทธ์บริษัทในการขยายกิจการทั้งนอกยุโรป และไปสู่ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องทั้ง การส่งอาหาร สินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต ฟินเทค และอื่น ๆ

Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายรายว่า Niantic บริษัทผู้พัฒนาเกมบนมือถือแบบ AR รวมทั้งเกมฮิตอย่าง Pokémon Go กำลังเจรจาขายธุรกิจวิดีโอเกมให้กับ Scopely บริษัทผู้พัฒนาและจัดหน่ายเกมบนมือถือรายใหญ่ โดยมูลค่าที่คุยกันเบื้องต้นอยู่ที่ 3,500 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ Scopely เป็นบริษัทในเครือของ Savvy Games Group ซึ่งมีกองทุนการลงทุนสาธารณะของประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าของ

Humane สตาร์ทอัปที่พัฒนาอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์ผู้ช่วยติดเสื้อ AI Pin ประกาศว่า HP ได้ทำข้อตกลงซื้อส่วนการทำงานหลักของ AI มูลค่าดีล 116 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีทั้งแพลตฟอร์มหลัก Cosmos, พนักงานบางส่วนรวมทั้งกลุ่มผู้ก่อตั้ง และสิทธิบัตรกว่า 300 รายการของบริษัท

ผลจากการขายกิจการนี้ AI Pin จะหยุดการทำงานทั้งหมดหลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ข้อมูลผู้ใช้งานจะถูกลบ โดย Humane จะคืนเงินเต็มจำนวนให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าไม่เกิน 90 วันตามข้อกำหนด ส่วนลูกค้าที่รอเปลี่ยนเคสชาร์จไฟ บริษัทจะคืนเงินให้ตามอัตราส่วน

The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Broadcom กำลังพิจารณาซื้อธุรกิจบางส่วนของอินเทล โดยสนใจธุรกิจออกแบบชิปและส่วนการตลาด ซึ่งตอนนี้การเจรจาเป็นเพียงขั้นต้น เพราะ Broadcom อาจต้องหาพันธมิตรที่จะซื้อส่วนโรงงานผลิตชิปของอินเทลไปด้วย

อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงนึกถึงข่าวเมื่อวันก่อนที่ TSMC กำลังพิจารณาซื้อส่วนโรงงานผลิตชิปของอินเทล ตามข้อเสนอจากทีมงานของรัฐบาล Donald Trump อย่างไรก็ตามรายงานบอกว่าการเจรจาตอนนี้เกิดขึ้นแยกกัน ยังไม่มีทางการ มีโอกาสที่ดีลจะไม่เกิดขึ้น และทั้งสองบริษัทยังไม่ได้พูดคุยร่วมกันตอนนี้

บริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ CyberArk ประกาศซื้อกิจการ Zilla Security ผู้พัฒนาโซลูชันบริหารจัดการเครื่องมือระบุตัวตนสำหรับองค์กร (Identity Governance and Administration - IGA) ที่มูลค่ากิจการ 165 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มเติมอีก 10 ล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานหลังควบรวมกิจการ

Zilla ให้บริการเครื่องมือ IGA ในรูปแบบทำงานผ่านคลาวด์ ซึ่งต่างจากแนวคิดเดิมที่ IGA ต้องรันแบบออสพรีมิส ทำให้รองรับการทำงานร่วมกับ SaaS ได้ดี ตอบสนองรวดเร็วกว่า รวมถึงเพิ่มความสามารถด้าน AI ได้ด้วย

Zilla บอกว่าจากข้อมูลที่ผ่านมา ลูกค้าสามารถดีพลอย IGA ได้เร็วกว่าแพลตฟอร์มแบบเดิม 5 เท่า โดยใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 100 ราย

การประกาศเสนอซื้อ OpenAI ของ Elon Musk และกลุ่มเพื่อนนักลงทุนที่มูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ถึงแม้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI จะปฏิเสธทันที จนดูเหมือนเป็นเกมป่วนครั้งใหม่ของ Musk มากกว่าจะตั้งใจซื้อจริง แต่เพราะคำเสนอซื้อนี้มีการออกเอกสารเป็นทางการ เรื่องนี้จึงเป็นการกระทำที่หวังผลบางอย่างแน่นอน และทำให้ Sam Altman ลำบากขึ้นด้วย

Altman ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าคำเสนอซื้อนี้ Musk หวังทำให้ OpenAI เดินช้าลงเพราะเขาก็มีบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาแข่งกับ OpenAI เรื่องเหล่านี้เป็นเทคนิคทางกฎหมายที่ทำเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ยุ่งยากขึ้น

ดราม่า Elon Musk ปะทะ Sam Altman ประจำวัน รอบนี้มาแบบยิ่งใหญ่เพราะ Elon Musk และพันธมิตร เข้าเสนอซื้อกิจการอย่างไม่เป็นมิตร (hostile takeover) ต่อ OpenAI ในราคาสูงถึง 9.76 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.3 ล้านล้านบาท) โดย Elon ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าเขาต้องการให้ OpenAI กลับมาเป็นโอเพนซอร์สอีกครั้ง ซึ่งเขาแสดงให้โลกเห็นแล้วกับ Grok ของ xAI

แน่นอนว่า Sam Altman ย่อมปฏิเสธ และตอบโต้ผ่าน X/Twitter ว่า "no thank you but we will buy twitter for $9.74 billion if you want" และฝั่ง Elon เข้ามาด่ากลับว่า "swindler" (พวกขี้โกง)

EA Sports ประกาศการซื้อบริษัท TRACAB Technologies เจ้าของเทคโนโลยีแปลงภาพ-วิดีโอ แล้วนำมาแปลงเป็นโมเดลนักกีฬา (optical tracking and analysis)

ปัจจุบัน EA ใช้เทคโนโลยีของ TRACAB อยู่แล้ว ในตัวอย่างที่โชว์มีทั้งการแปลงวิดีโอนักฟุตบอลแต่ละคนมาเป็นโมเดล, การเคลื่อนไหวนักฟุตบอลตามจุดต่างๆ ในสนาม และแปลงภาพบรรยากาศของทั้งสนามแข่งขัน กองเชียร์ มาเป็นโมเดล ในความเร็วที่เกือบเรียลไทม์ (จากภาพการแข่งขันจริง) ทำให้ EA ซื้อทั้งบริษัทเพื่อนำเทคโนโลยีแปลงข้อมูลมาใช้ร่วมกับเอนจินเกมของตัวเอง

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (Department of Justice) ยื่นคำร้องต่อศาล คัดค้านดีล Hewlett Packard Enterprise ซื้อบริษัทอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย Juniper ในราคา 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์

กระทรวงยุติธรรมให้เหตุผลว่า HPE และ Juniper เป็นเบอร์ 2 และ 3 ในตลาดอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย (WLAN) ในสหรัฐ การควบรวมกันจะทำให้เหลือผู้เล่นรายใหญ่ 2 รายที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 70% การแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันน้อยอยู่แล้วยิ่งลดลง และจะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กต้องจ่ายค่าอุปกรณ์เหล่านี้แพงขึ้น

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปี 2017-2018 กูเกิลซื้อตัวพนักงานฝ่ายมือถือของ HTC จำนวนมากถึง 2 พันคน เข้ามาอยู่ในทีมพัฒนา Pixel โดยอาศัยประสบการณ์ของทีม HTC ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนมายาวนาน ส่วนฝั่ง HTC เป็นการปลดเปลื้องธุรกิจสมาร์ทโฟนที่แข่งขันไม่ได้ออกไป และผันตัวมาทำธุรกิจแว่น VR/AR ตระกูล Vive แทน

เวลาผ่านมาอีกหลายปี กูเกิลประกาศซื้อตัววิศวกรทีม HTC Vive จำนวนหนึ่ง (ไม่ระบุตัวเลข) เพื่อนำมาร่วมทีม Android XR ที่กูเกิลกลับมาสนใจใหม่อีกครั้ง

กูเกิลบอกสั้นๆ ว่าซื้อตัวทีม HTC Vive บางส่วนเพราะมีประสบการณ์ด้าน VR โชกโชน และเตรียมนำมาร่วมทีม Android XR เพื่อพัฒนาแว่นตาและแว่นสวมหัวต่อไป

Perplexity ยืนยันการซื้อกิจการ Read.cv โซเชียลมีเดียสำหรับคนทำงานสไตล์ LinkedIn โดยไม่เปิดเผยมูลค่ากิจการที่เข้าซื้อ ส่วนผู้ใช้งาน Read.cv สามารถดาวน์โหลดข้อมูลออกมาได้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม

Aravind Srinivas ซีอีโอ Perplexity บอกว่าทีมงานของ Read.cv มีผลงานเด่นในการออกแบบและสร้างประสบการณ์โซเชียลให้ผู้ใช้งาน ตอนนี้พวกเราพร้อมทำงานบนทิศทางหลายอย่างที่น่าสนใจต่อไป

มีรายงานจากเว็บจดหมายข่าว SemiAccurate บอกว่าเขาเห็นอีเมลของบริษัทแห่งหนึ่ง มีความสนใจซื้อกิจการทั้งหมดของอินเทล โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อบริษัทแห่งนี้

รายงานข่าวนี้อาจไม่เกินความคาดหมายนัก (แต่จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็อีกเรื่อง) เพราะราคาหุ้นของอินเทลปรับลดลงมาถึง 60% เมื่อปีที่แล้ว มูลค่ากิจการปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซีอีโอก็เพิ่งถูกไล่ออก มูลค่าที่ลดลงนี้จึงทำให้บริษัทเป็นเป้าหมายของกลุ่มทุนที่ต้องการซื้อกิจการ เพราะมองว่าเป็นราคาที่มีโอกาสปรับโครงสร้างเพื่อขายทำกำไรได้