Tags:
Node Thumbnail

เป็นที่ทราบกันก่อนหน้านี้แล้ว ว่าการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดบางชนิด เช่น rhinovirus, influenza virus และ respiratory syncytial virus ทำให้อาการถุงลมโป่งพอง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) กำเริบมากขึ้น โดยมีความรุนแรง และระยะเวลาที่ยาวนานกว่าสาเหตุที่ทำให้กำเริบชนิดอื่น ๆ และก็ยังทำให้อาการของไข้หวัดในคนสูบบุหรี่ที่ยังแข็งแรงดี มีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป แต่ก็ยังไม่มีคำอธิบายของสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จนกระทั่งทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Yale ได้ค้นพบสาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าว

การทดลองทำในหนูทดลอง โดยเปรียบเทียบปริมาณของโมเลกุลที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบขึ้นในร่างกาย พบว่าในหนูที่ได้รับควันบุหรี่ 2 มวน/วัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีการเพิ่มขึ้นของโมเลกุลที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจงกับการติดเชื้อไวรัส และโมเลกุลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคถุงลมโป่งพอง ทำให้ร่างกายมีการกระตุ้นกลไกการอักเสบของทางเดินหายใจมากกว่าหนูที่ไม่ได้รับควันบุหรี่

การวิจัยนี้จึงเป็นการวิจัยแรกที่ให้คำอธิบายยืนยันในระดับโมเลกุลสำหรับอาการหวัดที่รุนแรงมากขึ้นสำหรับคนสูบบุหรี่ และการเกิดโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งจะนำไปสู่แนวทางการป้องกันรักษาโรคที่เกิดจากควันบุหรี่ต่อไป

แต่ก็อย่าลืมวิธีที่ง่ายที่สุดคือการหยุดสูบบุหรี่ และการให้คนรอบข้างหยุดสูบบุหรี่ครับ

ที่มา
eurekalert, Journal of Clinical Investigation (full article)

Get latest news from Blognone

Comments

By: jane
AndroidUbuntu
on 28 July 2008 - 12:28 #59811
jane's picture

เป็นกำลังใจให้ทุกๆ เลิกบุหรี่ครับ

อาจใช้ บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยในการลดก็ดีครับ จะได้ไม่ทรมาน

By: tomazzu
AndroidUbuntu
on 28 July 2008 - 19:18 #59838 Reply to:59811

เห็นด้วยครับว่า แต่ไอ้บุหรี่ไฟฟ้านี่จะช่วยได้จริงหรือฮะ...

เผื่อคนสงสัยเหมือนผม หน้าตามันเป็นแบบนี้

http://ecigarette.tarad.com/

http://tomazzu.exteen.com

By: rbus
ContributoriPhoneAndroidUbuntu
on 28 July 2008 - 18:23 #59836

สูบนิดสูบหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
แต่ผมว่าสมองคนเราควบคุมได้น่ะ
ไม่จำเป็นต้องพึงบุหรี่หรอกครับ

By: peakung087 on 7 October 2008 - 17:54 #67418

ราคาแพงมั้ยคับ เผื่อจะซื้อมาสูบมั่ง( อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้)