บริษัทวิเคราะห์และทำการตลาดแอพ SensorTower ประเมินรายได้ของเกม Pokemon Go ว่ากวาดรายได้รวมไปแล้ว 440 ล้านดอลลาร์ นับจากวันเปิดตัวเกมครั้งแรก 6 กรกฎาคม ผ่านมายังไม่ถึงสองเดือนดี
- ตัวเลขรายได้ 440 ล้านดอลลาร์ เยอะกว่ารายได้ของภาพยนตร์ WarCraft ทั้งเรื่อง และภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์ประจำปีนี้หลายเรื่อง
- ปัจจุบันเกมยังทำรายได้รวมมากกว่าวันละ 4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคงตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว และต้องไม่ลืมว่าเกมยังไม่มีให้เล่นในประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดียด้วย
- ยอดดาวน์โหลดรวมกัน 180 ล้านดาวน์โหลด
- สมาร์ทโฟนในสหรัฐ (นับเฉพาะที่ถูกใช้งานจริง) เกิน 12% ติดตั้งเกม Pokemon Go อยู่
- เวลาเล่นเฉลี่ยต่อครั้ง (เฉพาะ iOS ในสหรัฐ) อยู่ที่ 32 นาทีต่อวัน
ที่มา - SensorTower via Gamespot
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
รีบออกอัพเอตใหม่ไวๆ ดูดเงินต่อ
ทำเงินจากอะไรครับเนี่ย
ม่อนเพียบ แต่บอลหมด
กดเลยวุ้ยๆๆๆๆ
ช่อง Youtube ของผมครับ รีวิวและชวนคุยนู่นนี่
แถว ตจว. pokestop น้อยครับ คนที่ทำงานผมซื้อไป 500 บาท.....
ตจว.ใกล้ๆ เสาไม่ค่อยมี ไอเทมเลยจะไม่ค่อยได้ ถ้าได้เข้ากรุงเทพ เก็บแป๊บเดียวจะเต็ม เลยต้องเสียตังส์ขยายกระเป๋าเก็บไอเทมตุนไว้เล่นที่บ้าน พอบอลใกล้หมด ไม่มีไรทำก็เสียตังส์ซื้อที่ฟักไข่อะไรประมาณนี้หน่ะครับ หนุกหนาน ไม่คิดมาก สองสามร้อยเหมือนไปดูหนังเรื่อง
หัวร้อน เจอตัวเด็ดๆ ตอนโปเกบอลหมดพอดี
กดไปสองรอบ
อันนี้จริง
เดือนนี้มี Pokémon Go Plus อีก ถ้าขายไวกว่านี้อาจจะได้ยอดขายสูงกว่าตอนนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก ตักไม่ทัน
ผมแปลกใจตรงที่เอาเกมไปเทียบกับหนังนี่สิ
เป็นเพราะ รายได้มันเกินเกมส์อื่นๆไปไกลแล้วรึเปล่าครับ
บ่อยครั้งที่เกมถูกนำรายได้ไปเทียบกับภาพยนต์ครับ
เพราะมันทำให้เราเห็นภาพว่า เออ มันขายดีขนาดนั้นเลยเหรอ อะไรแบบนี้
GTA V หรือ COD ก็ถูกเอาไปเทียบกับหนังเหมือนกัน
ผมว่ามันจะดูดีกว่าถ้าเอาเกมที่ใกล้เคียงกัน 3 เกมกับหนัง 3 เรื่องมาเปรียบเทียบ เพราะอย่างน้อยก็มีการเอาเกมที่เป็นคู่แข่งโดยตรงมาเทียบครับ
ถ้ามองในแง่ของอุตสาหกรรมบันเทิงก็ไม่น่าแปลกใจที่จะมีการเอาไปเทียบ ซึ่งจริงๆ ส่วนหนึ่งก็ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนดีเหมือนที่ mrBrightside ว่าไว้ครับ
ทุนในการผลิต เวลาในการผลิต หนังบางเรื่องกับเกม บางเกมมันใกล้เคียงกันล่ะมั้ง
น่าเศร้าที่ประธานNintendoไม่มีโอกาสอยู่เห็นวันนี้
จะต่างจากนกโมโหมั้ย
เบื่อแล้วอะ เพราะชีวิตไม่ได้มีเวลาให้ออกเดินทางไปตามจับ และไม่ได้มีมือถือไว้เพื่อเปิดโปเกมอนค้าง
สุดท้ายก็เจอแต่อะไรเดิมๆ ไม่สนุกเลย
เห็นด้วยตามนั้นครับ มันคือการพยายามรวมโลกเสมือนกับโลกจริงเข้าไปด้วยกัน แต่วิธีการเล่นมันไม่สามารถกลมกลืนเนียนๆ ไปกับโลกจริงได้แบบที่ Facebook ทำ
ก็เล่นเกมอื่นที่ไม่ต้องออกบ้านไปครับ เอาตามที่ตัวเองสะดวกน่ะดีแล้ว
ที่จริงเกมนี้สนุกนะครับ เพราะโปเกมอนที่ปรากฏมันอิงข้อมูลหลายอย่างเช่น สภาพพื้นที่ สภาพอากาศ แล้วก็เวลาด้วย ที่เราเจออะไรเดิมๆ อาจเป็นเพราะเราออกบ้านเวลาเดิมๆมากกว่า
วันแรกที่เปิดให้เล่น ผมนี่ปั่นจักรยานขึ้นเขาเลยครับ หวังว่าจะได้เจอโปเกม่อนป่าหรือตัวแรร์ สรุปว่าเหนื่อยฟรี ไม่เจอแม้แต่หนอน แล้วก็หักล้างกับความเชื่อที่คิดว่ามันอิงกับเนื้อเรื่องอย่างที่มันควรจะเป็น มันไม่สนุกไม่สมจริงตรงที่จุดเกิดของโปเกม่อนมันกระจุกอยู่แต่ในเมืองนี่แหละครับ
เกมมันไม่เหมาะกับประเทศไทยครับ เพราะประเทศเราเน้นเดินทางด้วยรถ ทางเท้าก็ไม่เป็นมิตรกับคนเดิน