วันนี้พลเอกประยุทธ์ จันโอชา หารือกับ Jack Ma เศรษฐีจีนผู้ก่อตั้งบริษัท Alibaba ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลก โดยหารือเรื่องการพัฒนาอีคอมเมิร์ซให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในไทย และการพัฒนาบุคคลากรด้านไอที
นอกจากนายกรัฐมนตรีไทยแล้ว Jack Ma ยังได้พบกับประธานาธิบดี Joko Widodo ของอินโดนีเซียในการประชุมเดียวกัน โดยประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ขอให้ Jack Ma มาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้ ขณะที่ Jack Ma ระบุว่ารูปแบบธุรกิจของ Alibaba น่าจะไปได้ดีกับตลาดอินโดนีเซีย
ผู้นำของไทยเคยไปเยี่ยมบริษัทขนาดใหญ่ของจีนหลายครั้ง ครั้งสำคัญๆ ก่อนหน้านี้ เช่น พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ไปเยี่ยมชมสำนักงาน Baidu และรองศาสตราจารย์นราพร จันทร์โอชา ภรรยาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็เคยไปเยี่ยมชมสำนักงาน Baidu เช่นกัน
ที่มา - @MFAThai
Comments
Jack Ma ยังได้พบกับประธานาธิบดี Joko Widodo ของอินโดนีเซียในการประชุมเดียวกับ
เดียวกับ >> เดียวกัน
จันโอชา => จันทร์โอชา
บุคคลากร => บุคลากร
Jack Ma ระบุว่ารูปแบบธุรกิจของ Alibaba น่าจะไปได้ดีกับตลาดอินโดนีเซีย
ดูงานก็ดูเฉยๆ 555
ต่อไปก็คุยกับแจ็คแม้วนะฮะ
"ไอซื้อ KFC แล้วนะ ยูสนใจทำธุระกิจกับไอไหม ?"
ได้ข่าวว่าเพิ่งซื้อ KFC ในจีนไป...
ดูๆไป ในภาพนี้ก็มีความฮาอยู่นิดนึงนะ
แบบนี้?

เครดิต : ไข่แมว https://www.facebook.com/cartooneggcat/photos/a.136226233446771.1073741828.136187606783967/228620387540688/?type=3
แว๊บแรกผมก็นึกว่าคืนดีกันแล้ว :P
อย่าไปหงุดหงิดใส่เค้าล่ะครับท่าน
ประยุทธ์ ปรึกษา Jack MA บอกว่าประเทศผมมีแต่หนูกับนก ออกจับมาหลายวันแล้ว หาที่ระบายให้ผมหน่อย
Jack MA บอกคุณต้องเปิด PokeRadar ไม่ใช่ว่าจะเดินหาจับไปมั่ว ๆ
อ้าว เจอทักษิณละเหรอ 5555
ดึงเข้ามาถ่วงอำนาจ CP :)
กลัวนักธุรกิจด้วยกัน ชวนไปทางเดียวกัน ยิ่งแล้วใหญ่
ห่างๆจีนบ้างก็ดี ขนาดไม่ไปคุยยังมาซื้อไปเยอะละ
ห่างๆ จีน แล้วได้อะไร?
ไม่ห่างจีน แล้วได้อะไร?
ห่างๆ จีน แล้วจะไปคบใคร?
ถามจริงๆ นะครับ ไม่ได้เจตนากวน โปรดช่วยชี้แนะ
ถ้าเค้ามาตอบเเล้วได้อะไร?
ทำไมไม่ไปหา google เอา
ผมก็มีคำตอบของผมอยู่แล้วครับ
ก็แค่สงสัยในคำตอบของคนอื่น
จะตอบหรือไม่ตอบ? นี่ไม่ใช่คำถาม คำตอบครับ ผมไม่ได้มีอำนาจจะบังคับให้ใครตอบ
แค่ขอความคิดเห็น ตามนี่นะครับ.
เเล้วจะถามทำไม รู้อยู่เเล้ว จะเเดกดันใครเค้าละ
เค้าก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นี่ครับ ทำไมเค้าถึงต้องแค่แดกดันกัน?
มันไม่ได้เเลกเปลี่ยนหรอก เค้าเรียกว่าเเดกดัน
พอถามก็ตอบว่า ผมมีคำตอบอยู่ในหัวอยู่เเล้ว คืออะไร
ถามในสิ่งที่ตัวเองรู้อยู่เเล้ว เเล้วอยากจะได้มุมมองเเบบไม่ตรงจริตตัวเอง
ไม่เรียกเเดกดัน เรียกว่าอะไร
มีสองอย่าง กวนบาทา กับ เเดกดัน
ผมก็ถามของผมดีๆ นะ ไม่ทราบไป "แดกดัน" อะไรคุณหรือไงครับ?
สำหรับผมเรียกว่าการรับฟังความคิดเห็นครับ ถ้าผู้ถามไม่ได้ไปพูดอะไรเสียหายหรือก่อกวนผู้อื่นนะครับ
แม้จะมีคำตอบอยู่แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะถูกต้องนะ ต้องให้คนอื่นมาตอบแล้วเอาไปวิเคราะห์เอาเอง
ถ้าเข้ามาก่อกวนและไม่ก่อประโยชน์อะไร มีแต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและโดนกวนประสาท นั่นหละครับคือการกวนบาทา
ถ้าเข้ามาแล้วฟังความเห็นแล้วประชดหรือไม่รับฟังผู้อื่นเลยนอกจากฝั่งตัวเอง นั่นหละครับคือการแดกดัน
Get ready to work from now on.
ขอบคุณครับ ผมก็แค่อยากฟังความเห็นอื่นๆ ที่อาจจะคิดต่างจากตัวเองบ้าง
ก็ไม่เข้าใจว่าจะมาหาเรื่องผมก่อนทำไม?
6555+
หล่อเลย
ของมันมีทั้งของที่เป็นข้อเท็จจริงที่ใครจะพูดอะไรมาก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ กับของที่เป็นความคิดของแต่ละคนครับ หลายๆ เรื่องผมก็มีสิ่งที่ผมคิดไว้แล้ว (และไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองรู้อยู่แล้วครับ คนละเรื่องกันเลย อันนั้นเอาไว้ใช้กับพวกข้อเท็จจริง) แต่ผมก็อยากรู้ความคิดคนอื่นอยากรู้มุมมองคนอื่นบ้างเพื่อดูว่าความคิดผมมันมีช่องโหว่ตรงไหนมั้ยผิดพลาดตรงไหนรึเปล่า ของเรามีตรงไหนต้องแก้ไขมั้ย ของเค้ามีตรงไหนพลาดรึเปล่า ถ้าของเราก็ไม่พลาด ของเค้าก็ไม่พลาด ยืนยันจะเชื่อกันตามเดิมก็ได้ครับ ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก เป็นเรื่องของความเห็นไม่ตรงกันรสนิยมไม่ตรงกันแค่นั้น ไม่ใช่ประเภทแบบ โอ้ย ผมรู้แล้วครับ ความคิดคนอื่นน่ะผิด ช่างมันเถอะ มันคนละเรื่องกันครับ
ถ้าคิดได้แค่สองอย่างทั้งที่มันมากกว่านั้นขอให้โลกแคบอยู่ตามสะดวกครับ แต่อย่ามาระรานลากคนอื่นเหมารวมไปกับตัวท่านด้วย
ตอบตามที่รู้นะครับ
หางจากจีนก็จะมีข้อดีตรงที่เราจะหาทางเลือกในการลงทุนและวัตถุดิบที่หลากหลายกว่า คุณภาพดีกว่าจีน แต่ก็ต้องแลกด้วยราคาที่แพง ที่สำคัญสำหรับเรา ก็คงไม่พ้นเรื่องรอดพ้นจากการผูกขาดที่เคยมีข่าวกันในช่วงหลังๆ ที่ส่วนใหญ่มาจากจีนนั่นหละครับ (แต่อาจจะไปเจอกับประเทศอื่นแทน ขึ้นอยู่กับเจตนาของทั้งคู่และผลประโยชน์ และสูญเสียแหล่งรายได้ขนาดใหญ่ของเราไปด้วยเช่นกัน)
แต่ถ้ายังอยู่คู่กับจีนอยู่ กำไรมหาศาลจากจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศและนักท่องเทียว รวมถึงผลประโยชน์ สัมปทาน และ MOU ที่ร่วมมือกับจีนด้วย แต่ก็มีปัญหาที่ชัดเจนคือ จีนมักจะกินผลประโยชน์และถ่วงอำนาจการต่อรองที่สูงมาก รวมถึงข้อกำหนดที่เขี้ยวพอสมควร ทำเราที่เป็นผู้ทำความร่วมมือกับจีกมักจะเสียเปรียบอยู่เสมอ หากอิงข่าวรถไฟความเร็วสูงที่เกิดขึ้นช่วงต้นปีเป็นตัวอย่าง
แต่ถ้าไม่เอาจีน ก็มีประเทศเพื่อนบ้านใน ASEAN, ญี่ปุ่น, อินเดีย, เวียดนาม, EU (อันนี้น่าจะยาก) และแน่นอน USA ที่เราเกลียดกันนักเนี่ยในช่วงนี้หละครับ ซึ่งที่กล่าวมาก็น่าจะร่วมทำธุรกิจกันได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าสถานการณ์ตอนนี้ คงจะเรียกร้องประชาธิปไตยจากประเทศเราเสียก่อน และไม่พ้นการร้องขอเรื่องต่างๆ เช่น คุณภาพ ผลการตรวจสอบ การแก้ไขปัญหา ฯลฯ ที่มีไม่รู้จักจบ
Get ready to work from now on.
ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นครับ
ส่วนตัวผมมองว่า ถึงเราไม่เอาจีน เขาก็คงไม่เดือดร้อนอะไร แง่เศรษฐกิจนะครับ
แต่ถ้าการเมืองก็อีกเรื่อง