ข่าว BlackBerry ออกมาประกาศว่าเลิกพัฒนาฮาร์ดแวร์เอง แล้วเปลี่ยนไปเอาท์ซอร์สให้บริษัทอื่นกลายเป็นเรื่องที่สร้างความสับสนว่าตกลง BlackBerry วางตัวอย่างไรในตลาดสมาร์ทโฟน วันนี้ John Chen ซีอีโอของบริษัท ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงเพิ่มเติมกับ BNN สถานีข่าวท้องถิ่นของแคนาดาแล้ว
Chen ยอมรับว่า Priv เป็นความผิดพลาดของบริษัท ส่วนหนึ่งเพราะเกิดจากการกระจายสินค้า ทำให้เลือกจะเปลี่ยนแนวทางที่ใช้ระบบการให้สิทธิ (licensing) ทำให้เรื่องของการออกแบบเครื่องและประสิทธิภาพของเครื่องเป็นหน้าที่ของบริษัทอื่น ขณะที่ BlackBerry ยังดูแลเรื่องซอฟต์แวร์เป็นหลัก (และยังมีสิทธิบัตรเป็นตัวสนับสนุน) ทำให้บริษัทสามารถยังอยู่ในอุตสาหกรรมมือถือได้และไม่ทำให้บริษัทขาดทุน โดยเขามองว่าอนาคตสมาร์ทโฟนต่อไปจะไม่ต่างกัน แต่ไปต่างกันที่เรื่องของซอฟต์แวร์เป็นหลัก แผนนี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป
ทั้งนี้ Chen ยังระบุว่ารุ่นต่อไปที่จะจำหน่ายในอนาคตจะยังมีแป้นพิมพ์เหมือนเดิม ส่วนที่ลงนามไปแล้วกับบริษัทในอินโดนีเซียจะเป็นรุ่นเฉพาะตลาด
Comments
โอย ยังมองว่ามือถือจะต่างกันที่ซอฟต์แวร์อีกเหรอ แต่ละเจ้าตอนนี้ทำ HW แตกต่างกันไปตาม Position สินค้า แต่กลับใช้ Software ชุดเดียวกันด้วยซ้ำ การ R&D HW ใหม่ๆ กลายเป็นกิมมิคที่ขาดไม่ได้แล้ว P9 เน้นกล้องก็มีจุดยืน บ้างก็จอกระจกโค้ง เน้นปากกากันไป คิดแบบนี้มิน่า .. -..-' #คือแอบเชียร์อ่านแล้วแผ่วเลย
my blog
ในมุมมองของเขาผมว่าก็ถูกแล้วครับ ตอนนี้ตลาดมือถือมันตันในด้านฮาร์ดแวร์มาสักพักแล้ว การจะลงมาเล่นสงครามตรงนี้มันก็มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ตราบใดที่ยังไม่สามารถหาจุดขายที่มีความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
มันก็ไม่ผิดนะครับ ดูอย่างแอปเปิลสิครับ ip ไม่มีอะไรว้าวมาหลายรุ่นแล้ว มีแค่ดีไซน์นั่นแหละที่เปลี่ยน ส่วนพวกปากการึจอใหญ่มันก็มีมานานแล้ว การลงไปเสี่ยงในตลาดที่ตัวเองไม่ได้เปรียบเป็นเรื่องอันตรายนะครับ เพราะก็ลองเสี่ยงไปแล้วและเจ็บมาเยอะแล้ว
เค้าก็พูดถูกแล้ว เวลาที่ผ่านมา มันก็พิสูจน์ว่ามือถือที่เป็นเอกลักษณ์อย่างที่คุณคิด มันล้มเหลวขนาดไหน ยอดขายสองสามปีเป็นยังไง
เค้ากลับตัว หันไปทำเฉพาะ software ก็ถูกแล้ว
ข่าวล่าสุดเมื่อวานก็มีรายละเอียดชัด ว่ารายได้จาก software hardware เป็นยังไง ทำไมเค้าถึงเลือกทำแบบนี้
Priv มันคือความผิดพลาดหรอ ผมกลับชอบมันมากเลยนะ (ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อ)
มี Hard Keyboard ไสลด์ มาสวยๆ เท่ๆ เลย
คิดว่าเพราะราคามันสูงไป กับสเปคใกล้ตกรอบแล้ว
เอาตัวมาโชว์ต้นปี (ตอนนั้นไส้ในยังเป็นBB10) แต่กว่าจะวางขายนี่ Snapdragon 820ก็ใกล้ออกแล้ว
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมมองว่า Hardware กับ Software มันส่งเสริมและเติมเต็มกันและกัน
จะทิ้งส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ BlackBerry จุดแข็งมาจาก Hardware เช่นปุ่มกดหรือแป้นพิมพ์
ส่วนของ Software ก็คือ Messenger (มันดีเพราะเป็นระบบปิด)
ดูแล่วมันเจ๋ง(ไม่ใช่เจ้งนะ^_^)ทั้ง Hardware และ Software นะครับ จุดอ่อนคือ BlackBerry
ปรับตัวช้าไปมากกว่า ช้าก็ Microsoft มาก
จุดแข็งด้าน Software ของ BB ที่เด่นมากอย่างหนึ่งคือ Security ครับ และได้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วในการออกอัพเดตที่ไวมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา
ผมกลับชอบ PRIV นะ ออกแบบสวยดี แค่รู้สึก HW มันหลงยุคเฉยๆ ก็เลยไม่ซื้อเก็บไว้
เพราะคิดว่าจุดแข็งคือ software ถึงได้ดันทุรังไม่ใช้ Android จนตลาดวายหมด แม้สุดท้ายจะเปลี่ยนมาใช้ Android ก็สายเกินไป กระนั้นด้าน hardware ก็มีความล้มเหลวอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะเรื่องกล้องที่ทำออกมาแย่ได้ทุกรุ่น ไม่เข้าใจว่าประเมินตลาดอย่างไรถึงได้มองข้ามความสำคัญของกล้องบนโทรศัพท์มือถือไป
จริง ๆ ส่วนตัวผมว่าถ้าปรับปรุงเรื่อง multimedia ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นด้านการถ่ายรูปหรือคุณภาพเสียง ด้วย design แบบ BlackBerry ผมว่ามันยังขายได้นะ
แต่ ... ต้องตัด physical keyboard ทิ้งไปเลยก่อน อย่าพยายามเหยียบเรือหลายแคม จอก็จะใหญ่ physical keyboard มันฝืนเกินไป Palm Pre ก็ออกแบบมาก่อนแบบนี้แล้วก็เจ๊งไปเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว
That is the way things are.