ในยุคที่ข้อมูลอะไรก็หาง่าย เราจึงควรระวังให้มากเรื่องการโพสต์อะไรต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ เพราะมันอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราในภายหลัง อย่างเช่นกรณีของชายผู้นี้ ที่เข้าทำงานกับ Twitter ได้เพียง 1 วันก็โดนไล่ออกเพราะสิ่งที่เขาเคยโพสต์ไว้หลายปีก่อน
Gregory Gopman เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ตอัพชื่อ AngelHack ซึ่ง Twitter เพิ่งรับเขาเข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้าทีม VR เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม แต่เพียงวันเดียวหลังจากนั้น เขาก็ถูกไล่ออก เนื่องจากเว็บไซต์ TechCrunch ขุดเรื่องที่เขาเคยโพสต์ลง Facebook ส่วนตัวเมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นโพสต์ที่เขาเขียนดูถูกคนไร้บ้านที่อยู่ในซานฟรานซิสโก รวมถึงเรียกพวกเขาว่า "พวกจิตไม่ปกติ" (degenerates) ขณะนี้โพสต์ดังกล่าวถูกลบทิ้งไปแล้ว แต่ยังดูได้จากที่มา
หลังโดนไล่ออก Gopman โพสต์บน Facebook ว่า "แล้วผมก็ถูกไล่ออก ขอบคุณนะ TechCrunch" (Anddd I'm fired. Thanks TechCrunch.)
ที่มา - Business Insider
Comments
Techcrunch, better background check than Twitter.
Deserved it.
Get ready to work from now on.
ขำหน้าวอลเค้า เพิ่งแชร์ว่ามีข่าว Twitter รับเขาเข้าทำงาน แล้วอีกโพสต์คือโดนไล่ออกแล้ว
เร็วเกิ๊นนน
คนไร้บ้านก็ไม่ใช่ว่าจะเลวนี่ผมเคยสัมผัสมากับตัวเอง
คนที่ดีๆก็มีเยอะคุยกันสนุกสนานเป็นกันเองไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ
ไปพูดดูถูกแบบเหมารวมก็สมควรแล้วล่ะ
คือจริงๆที่ SF โดยเฉพาะใน downtown ก็เสื่อมโทรม มีพวกคนไร้บ้านให้เห็นพอสมควรนะ บางคนก็แย่จริงๆ (เจอมาคนหนึ่ง นั่งจับจองที่นั่งข้างๆป้ายรถเมล์ สะสมของ กลิ่นตัวหึ่ง ส่งเสียงโวยวาย ไล่ขอเงิน) แต่ส่วนมากก็เฉยๆ เค้าอยู่ของเค้า
แต่จะว่าไปการเอาพฤติกรรมตัวอย่างที่แย่ๆบางคนไปแปะป้ายแบบเหมารวมแบบนี้ก็คงไม่งามเท่าไร
แต่จริงๆขุดเอาที่โพสตั้งแต่ปี 2013 มันก็ไม่ค่อยแฟร์รึเปล่า
+1
เขาคงดูที่สัน.. น่ะครับ ว่าขุดไม่ได้ เลยให้ออก(มั้ง?)
น่ากลัวมาก ถ้าโพสไว้ปีนี้แล้วอีกห้าสิบปีได้เข้าทำงาน ถึงแม้จะกลับตัวกลับใจช่วยเหลือคนตลอดในช่วงห้าสิบปี ก็คงไม่รอดเช่นกัน
มันก็คงเป็นส่ิงที่ตอกย้ำในเรื่องของการระวังในการแสดงออกให้มากๆ ต้องคิดให้ดีก่อนที่จะพูดหรือว่าแสดงความเห็นใดๆ ออกมาในสังคม และเคสนี้ก็ไม่ใช่เคสแรกกับเรื่องทำนองนี้ เรื่องแฟร์ไม่แฟร์ตรงนี้ก็คงขึ้นอยู่กับนโยบายขององค์กรในการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน
มันต้องมองหลายด้านประกอบกันครับ ประสบการณ์ตรงของผมคือเคยโดนให้ออกจากงานเพราะมีทัศนคติบางอย่างที่ไม่ตรงกัน ด้วยเหตุผลที่ดูไร้สาระมากกว่านี้ด้วยซ้ำครับ แต่ถึงยังไงจะว่าไปนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมเพราะถ้าแค่เรื่องขนาดนั้นยังเอามาเป็นประเด็นได้ก็คงทำงานร่วมกันได้อย่างอึดอัดแน่ๆ และหลังจากนั้นไม่กี่วันผมก็ได้งานใหม่ที่ดีกว่ารวมถึงทัศนคติกับวัฒนธรรมองค์กรที่คลิ๊กกันมากกว่า
จะได้ช่วยตอกย้ำไงว่าคำพูดที่พูด(พิมพ์)ออกไปแล้วมันเป็นนายเรา
เรื่องแฟร์กับไม่แฟร์มันแล้วแต่องค์กร ถ้าเขาจะใช้ตรงนี้ตัดสินบุคคลที่เขาจะรับเข้าทำงาน มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ถ้าคิดว่าไม่แฟร์ก็ฟ้องศาล จบ
+1 ครับให้เขาขอโทษในสิ่งที่กระทำก็ได้ ถ้าไล่คนออกด้วยเรื่องแบบนี้คนที่เคยผ่านคุกมาแล้วจะหวังให้เขากลับเป็นคนดีในสังคมได้ยังไง ไม่ให้โอกาสคนอื่นแบบนั้น?
แล้วต้องไม่เกินกี่ปีถึงจะแฟร์ครับ ?
แฟร์นะ เพราะคนที่ไม่โพสอะไรแบบนี้ ยังไงก็หาได้ เพราะทุกที่ก็คงอยากได้คนดีๆ มาร่วมงาน
อย่าลืมว่า ถ้าวันนึง TW โดนเล่นข่าวเพราะคนนี้เคยโพสอะไรแบบนี้ไว้ มันจะแย่ได้
คิดว่าไม่แฟร์เหมือนกัน คนเราเวลาเปลี่ยนบางทีความคิดก็เปลี่ยน จริงๆเคสนี้ถ้าหากตาคนนี้ไม่โดนขุดขึ้นมาเป็นข่าว ก็อาจไม่ถึงกับโดนไล่ออกเพื่อตัดปัญหาดื้อๆแบบนี้หรอก
ถ้าพูดถึงความแฟร์โดยเฉพาะในเรื่องธุรกิจมันไม่เคยมีความแฟร์อยู่แล้วครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนิยามของแต่ละคน
ถ้าเป็นเมืองไทย คงต้องมีคนออกมาโวยวายเรื่อง free speech
แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมกรณีแบบนี้ ไม่มีคนเรียกร้องเรื่อง free speech
สงสัยอยากได้ free speech เฉพาะ "บางเรื่อง" มั้งครับ
free speech หมายถึงต่อรัฐอย่างเดียวไม่ใช่เหรอครับ
อีกอย่าง นี่มัน hate speech นี่?
free speech หมายความว่าพูดได้โดยไม่ถูกขัดขวาง แต่ผลกระทบจากคำพูดนั้นไม่เกี่ยวกันครับ คืออยากสื่ออะไรก็สื่อไป แต่ต้องรับผลจากมันด้วย
พอโดนผลที่ได้กลับมา ก็ร้องไห้จ้าบอกว่าโดนล่าแม่มด ไม่ควรได้รับผล
.. สรุป ตรูจะพูด แล้วต้องไม่โดนผลอะไรด้วย!!
เป็นได้แค่ลิเบอร์รัลกากๆ ที่เรียกร้องสิทธิ แต่ไม่ยอมรับผล ...
เมื่ออยากที่จะยึด free speech ก็ต้องรับให้ได้กับการ free to fire
เขาก็ free speech นิ ไม่เห็นโดนจับ หรือมีใครมาล้อมบ้าน มาตบปาก มาเตะก้านคอซักหน่อย?
จากที่โพสตอบ ดูเหมือนยังไม่สำนึก
จะว่า Twitter เช็ค background สู้ TechCrunch ไม่ได้มันก็แปลกๆนะครับ คือปกติเวลาจะรับคนเข้าทำงานไม่น่าจะมีใครเขามาไล่ดูว่าเคยโพสอะไรในโซเชียลกันหรอก โดยเฉพาะกรณีนี้ก็ตั้งแต่ปี 2013 ตั้ง 3 ปีแล้ว
ส่วน TechCrunch มันเป็นเวบข่าวอยู่แล้ว จะขุดคุ้นเก่งก็ไม่แปลก เพราะมันเป็นหน้าที่ของมัน
แต่ไล่ออกทันที เมื่อเรื่องแดง (แทนที่จะให้ขอโทษแบบที่ความเห็นอื่นบอก) แสดงว่าให้ความสำคัญกับการแสดงความเห็นบนโลกโซเชียล ทำให้สงสัยครับ ว่าทำไมไม่เช็คเองก่อน
ผมว่าเพราะ Twitter เองก็เป็น Social media
ทัศนคติไม่ดีก็เรื่องนึง แต่ที่สำคัญคือการรับคนที่ "ใช้ social media แบบไม่ระมัดระวัง" น่าจะส่งผลเสียหายในภายหลังได้มากกว่า
ฉันมาจากอนาคต อิอิ
โพสเยอะ ๆ โอกาสพลาดมันก็เยอะตาม
นี่เป็นเหตุผลนึงที่ผมแทบไม่โพสอะไรใน facebook เลย
Happiness only real when shared.
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ปกป้องนะครับ
อันนี้น่าจะเป็นกรณีที่โพสต์ของเค้ามันไม่รัดกุมรึเปล่าครับ ผมเองยังเคยโดนรุมด่าเลย เพราะโพสต์แนวๆ ว่า "คนไทยเลวๆ งี่เง่าๆ" ซึ่งผมหมายถึงคนไทยที่ทำตัวเลว และงี่เง่า แต่ส่วนนึงของคนที่อ่าน ดันเอาไปตีความว่า ผมด่าว่าคนไทยทั้งหมดเป็นคนเลว และคนงี่เง่า
ก็ตามคาดครับ ผมถูกไล่ไปอยู่นอกประเทศ ออกไปประเทศอื่น พูดอะไรไปก็เหมือนแก้ตัว
ออกตัวอีกว่าผมอ่านโพสต์ของเค้ามาแล้ว แล้วก็พยายามตีความแล้วนะครับ แต่อาจจะเป็นเพราะผมพยายามปกป้องการกระทำที่คล้ายๆ กับตัวเองก็ได้ครับ
ผมมีกฎส่วนตัวอย่างหนึ่งคือถ้าจะโพสต์อะไรที่มันเป็น negative บนโลกออนไลน์ก็จะคิดให้มากกว่าเดิมก่อนที่จะโพสต์ ถ้าพิจารณาแล้วคิดว่ายอมรับกับผลที่จะตามมาในภายหลังได้ก็ลุยเลย
มันก็ไม่เชิงลบนะครับ เพราะในโพสต์ของเค้า เค้าพูดถึงพวกค้ายาเสพติด แล้วก็พวกขโมยเล็ก ขโมยน้อยด้วย สำหรับผม มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา เพียงแต่ไม่รัดกุมมากกว่า
ถ้ามันเป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ ผมว่าทวิตเตอร์ก็ทำเกินกว่าเหตุมากๆ ด่าคนหลายกลุ่ม แต่ทวิตเตอร์ไม่พอใจแค่กลุ่มเดียว ก็ไล่ออกเลย
ซึ่งผมอาจจะผิดก็ได้ เพราะอันนี้เห็นต้นโพสต์อย่างเดียว อาจมีเม้นคุยแล้วมันชัดเจนว่าเค้าด่าคนจรก็ได้
ปล. ถ้าผมไม่มาตอบอย่าว่าผมนะ โควต้าหมด
Founder บางบริษัทถึงขนาดไม่ยอมรับเพศที่สาม ก็ยังไล่คนที่โพสต่อต้านออกก็มีมาแล้ว
https://en.wikipedia.org/wiki/Chick-fil-A_same-sex_marriage_controversy
มันขึ้นอยู่กับว่าสภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยู่ว่าพวกเค้ายอมรับหรือไม่ยอมรับอะไร ถ้าเกิดคุณโพสเหยียดผิวในพื้นที่ของคนที่เป็น kkk คุณก็อาจจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเป็นที่อื่นก็โดนยำ
ขอบคุณครับ น่าจะเป็นแบบที่คุณว่าครับ
ในอดีตคิดแบบนี้ พอผ่านมาหลายปีแนวคิดเปลี่ยนงี้ ทำไงละเนี่ย
ก็อาจจะแถลงขอโทษเหมือนกรณี Alan Turing ครับ
สังคมคุณภาพ