Meta เพิ่มฟีเจอร์ Account Status ให้กับบริการโซเชียล Threads เปิดทางให้ผู้ใช้ดูได้ว่าทำผิดกฎอะไรบ้าง เช่น โพสต์หรือคอมเมนต์ที่โดนแพลตฟอร์มแบน, โพสต์ของเราที่ติดลิมิต ไม่สามารถขึ้นเป็นโพสต์แนะนำได้, ฟีเจอร์บางอย่างของระบบที่ถูกจำกัดไม่ให้ใช้งาน
ฟีเจอร์ Account Status จะแสดงในแอพ Threads โดยตรง (Settings > Account > Account status)
ฟีเจอร์นี้มีอยู่ก่อนแล้วใน Instagram และ Facebook
ที่มา - Threads
การไต่สวนคดีที่ FTC ฟ้อง Meta ข้อหาผูกขาดตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์คมีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมเมื่อ Adam Mosseri ซีอีโอ Instagram ที่เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2018 เข้าร่วมการในศาล
Mosseri มาให้การในฝั่ง Meta ข้อมูลของเขาจึงออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า Meta ยังต้องแข่งขันในตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะกับ TikTok
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดว่า Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือ มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 350 ล้านบัญชีแล้ว เพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบัญชีจากตัวเลขที่ให้เมื่อไตรมาสก่อนหน้านี้ 320 ล้านบัญชี
จำนวนที่เพิ่มมา 30 ล้านบัญชีนี้ถือว่าสูงมาก โดยเทียบกับ Bluesky ซึ่งตัวเลขล่าสุดที่มีจำนวนผู้สมัครใช้งานรวมทั้งหมดประมาณ 35 ล้านบัญชี อย่างไรก็ตามจำนวน 350 ล้านบัญชีของ Threads ยังถือเป็นแพลตฟอร์มที่เล็กเมื่อเทียบบริการอื่นของ Meta อย่าง Facebook, Instagram หรือ WhatsApp ที่มีผู้ใช้งานระดับพันล้าน
Evan Williams ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter ที่หลังจากนั้นมาเปิด Medium ในปี 2012 แล้วลงจากตำแหน่งซีอีโอในปี 2022
ล่าสุดเขากลับมาพร้อมโซเชียลเน็ตเวิร์คตัวใหม่ชื่อ Mozi ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ Mozilla (แค่ชื่อคล้าย)
The Verge อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายรายระบุว่า OpenAI มีโครงการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเน้นส่งเสริมการใช้เครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย AI ของ ChatGPT ซึ่งต้นแบบแรกนั้นลักษณะคล้ายกับ X หรือ Twitter เดิม
รายงานบอกว่า Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ได้นำเสนอต้นแบบโซเชียลเน็ตเวิร์กอันนี้กับบุคคลภายนอกบริษัท เพื่อสอบถามความคิดเห็นไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามต้นแบบดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ รวมทั้งแผนการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กนี้ก็อาจเป็นเพียงไอเดียเท่านั้น
Facebook ประกาศอัปเดตการแสดงเนื้อหาในฟีด โดยระบุว่าต้องการนำบรรยากาศต้นฉบับ (OG) ของ Facebook ยุคแรก ที่มีแต่โพสต์ของเพื่อน กลับมาอีกครั้ง ซึ่ง Facebook ก็ยอมรับว่าการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับดีทั้ง Groups, Video, Marketplace และอื่น ๆ ทำให้บรรยากาศโพสต์ของเพื่อนลดลงไปมาก
โดย Facebook จะปรับปรุงแท็บ Friends ซึ่งเดิมใช้สำหรับค้นหาเพื่อนที่อาจรู้จัก มาเป็นหน้าฟีดที่รวมเฉพาะโพสต์จากเพื่อนใน Facebook ทั้งโพสต์ปกติ, Reels, Stories, เตือนวันเกิด รวมทั้งคำขอเพิ่มเพื่อน ไม่มีการแสดงคอนเทนต์แนะนำจากเพจหรือเพื่อนที่ไม่ได้ติดตาม
Threads ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง โดย Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram และ Threads บอกว่าช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่ง Threads ได้ตามความพอใจและควบคุมประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
Discord เปิดตัว Social SDK ให้นักพัฒนาภายนอกเข้ามาเชื่อมต่อ เพื่อเข้าถึงเพื่อนของผู้ใช้งาน พูดคุยและเล่นเกมมัลติเพลเยอร์ร่วมกันได้
กลุ่มเป้าหมายของ Discord Social SDK คือผู้พัฒนาเกมที่อยากเข้าถึงเครือข่ายคนเล่นเกมโดยตรง (ประมาณ 200 ล้านคนที่ใช้งาน Discord เป็นประจำทุกเดือน) ผู้เล่นเข้าเกมแล้วนำเพื่อนจาก Discord มาเล่นเกมด้วยกันได้ทันที ตัวอย่างค่ายเกมที่ใช้งานแล้วคือ Theorycraft Games, Facepunch Studios, 1047 Games, Scopely, Mainframe Industries, Elodie Games, Tencent Games ตัวอย่างเกมที่นำไปใช้แล้วคือ Supervive และ Marvel Strike Force
Bluesky เผยแพร่ร่างข้อเสนอบน Github เกี่ยวกับการเพิ่มตัวเลือก ให้ผู้ใช้งานกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้โพสต์หรือข้อมูลสามารถถูกนำไปใช้ฝึกฝนด้าน AI อย่างไรได้บ้าง
ที่ผ่านมาการเติบโตของผู้ใช้งาน Bluesky ส่วนหนึ่ง เป็นผลจากการปรับนโยบายของ X ที่เปิดให้บริการภายนอกสามารถดึงข้อมูลไปฝึกฝน AI ได้ ถึงแม้จะสามารถ Opt-Out ได้ แต่ทำให้หลายคนเลือกย้ายบ้านไปเลย และ Bluesky ก็ย้ำแนวทางว่าจะไม่นำข้อมูลผู้ใช้งานไปฝึกฝน AI อย่างไรก็ตามเนื่องจากแพลตฟอร์มเป็นแบบเปิดเข้าถึงได้สาธารณะ ทำให้มีรายงานเรื่องการถูกดูดข้อมูลไปฝึกฝน AI อยู่ดี ซึ่ง Bluesky รับปากว่าจะหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้
BeReal แอปโซเชียลที่เคยเป็นกระแสช่วงหนึ่ง ด้วยแนวคิดให้ผู้ใช้งานแชร์ภาพในตอนนั้น แบบไม่มีการตกแต่งหรือจัดวางองค์ประกอบ ผ่านการแจ้งเตือนให้โพสต์แบบสุ่มเวลา เหมาะกับการแชร์ในกลุ่มเพื่อน แต่เมื่อความนิยมลดลง บริษัทก็ตัดสินใจขายกิจการให้บริษัทพัฒนาเกม Voodoo ของฝรั่งเศสไป
อย่างไรก็ตามกระแสของ BeReal ยังคงเติบโตอยู่ แต่เฉพาะพื้นที่ โดย Aymeric Roffe ซีอีโอ BeReal เปิดเผยว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการเติบโตของผู้ใช้งานตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของแพลตฟอร์มแล้ว
Jack Dorsey อดีตซีอีโอ Bluesky บอกว่าผู้ใช้งาน Bluesky รายใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม แต่แค่ต้องการหนีจากแพลตฟอร์ม X เท่านั้น โดยเฉพาะหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีผู้ใช้ใหม่รายวันเพิ่มขึ้นมาก
เขามองว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจ ผู้ใช้งานควรได้รับประโยชน์จาก Bluesky ซึ่งเป็นสิ่งที่หาจากที่อื่นไม่ได้ หรือแพลตฟอร์มต้องแก้ปัญหาที่ผู้ใช้พบเจอจริง ๆ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างเดียวอาจไม่พอ
จุดเริ่มต้นของการสร้าง Bluesky คือการทำแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกอัลกอริธึมเองได้ แม้ว่าตอนนี้ผู้ใช้งานอาจยังไม่สนใจเรื่องนี้ และโฟกัสแค่การหนีจากแพลตฟอร์ม X เท่านั้น แต่ Dorsey หวังว่าสักวันคนจะหันมาสนใจมากขึ้น
Meta เริ่มเปิดโครงการ Community Notes ตามที่ประกาศไว้เมื่อเดือน ม.ค. 2025 ว่าจะนำมาใช้แทนระบบ fact checking แบบเดิม
Community Notes เป็นการเปิดให้ "อาสาสมัคร" (แปลว่าไม่จ่ายเงิน) สมัครเข้ามาช่วย fact checking เนื้อหาในโพสต์ต่างๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ แบบเดียวกับที่ Twitter/X มีมาก่อนนานแล้ว ทิศทางของ Meta ในช่วงหลังชัดเจนว่าไม่ต้องการจ้างพนักงานเอาท์ซอร์สมาเช็คข้อมูลอีกต่อไป แม้ตอนนี้ Community Notes ยังเริ่มใช้งานเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวก่อน
Mastodon แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือแบบเดียวกับ X/Twitter ที่ทำงานแบบกระจายศูนย์ ประกาศว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานโควทโพสต์ข้อความได้ ซึ่งเหมือนกับที่ X/Twitter มีให้ใช้งานมานานแล้ว
Mastodon บอกว่าการโควทข้อความนั้นเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานเรียกร้องมานานมากแล้ว ทางผู้พัฒนาได้พูดคุยถึงข้อดีข้อเสียมาตลอดหลายปี โดยแง่ลบนั้นการโควทสามารถทำให้บทสนทนาถูกบิดเบือนนอกประเด็นได้ง่าย รวมทั้งใช้เป็นช่องทางการก่อกวนกันบนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่บนแพลตฟอร์มอื่น
Steve Huffman ซีอีโอของ Reddit เปิดเผยในงานตอบคำถาม Ask Me Anything (AMA) ช่วงการแถลงผลประกอบการของบริษัท
ประเด็นที่น่าสนใจคือ Huffman พูดถึงแผนการทำ Paid Subreddit ห้องเอ็กซ์คลูซีฟที่ต้องเสียเงินถึงจะใช้งานได้ ว่าตอนนี้กำลังทำอยู่ แม้ไม่บอกว่าจะได้เห็นกันเมื่อไร และยังไม่มีรายละเอียดอื่นๆ เช่น ราคา วิธีการใช้งาน
ที่ผ่านมา Reddit มีระบบห้องเฉพาะสมาชิกอยู่ก่อนแล้ว เช่น r/Lounge แต่จำกัดเฉพาะผู้ใช้ที่ซื้อแพ็กเกจ Reddit Premium ที่มีสิทธิประโยชน์อย่างอื่นร่วมด้วย รูปแบบอาจต่างไปจาก Paid Subreddit ที่น่าจะเป็นชุมชนเฉพาะทางมากกว่า
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta เปิดเผยข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดว่า Threads บริการโซเชียลเน้นตัวหนังสือที่แข่งกับ X และ Bluesky มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 320 ล้านบัญชีแล้ว เพิ่มจาก 300 ล้านบัญชีที่ให้ข้อมูลเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมบอกว่ามี 275 ล้านบัญชี
ตัวเลขนี้สะท้อนว่า Threads ยังคงรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ต่อเนื่อง ซึ่ง Zuckerberg ก็บอกอัตราว่ามีบัญชีสมัครใช้งานใหม่มากกว่า 1 ล้านบัญชีต่อวัน
Bluesky ออกรายงานการตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของปี 2024 (Moderation Report) ซึ่งเป็นปีที่ Bluesky มีการเติบโตสูงมาก เพราะมีผู้ใช้งานหลายคนที่ย้ายจาก X มา จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มจาก 2.89 ล้านบัญชีในปี 2023 เป็น 25.94 ล้านบัญชีในปี 2024
จำนวนผู้ใช้งานที่มากขึ้น ก็มาพร้อมการรายงานปัญหาเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในแพลตฟอร์มด้วย โดยปี 2024 มีคำร้องเรียน 6.48 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 17 เท่าจากปี 2023 ที่มีประมาณ 3.6 แสนครั้ง และคำร้องเรียนก็เพิ่งมาเพิ่มในช่วง 3-4 เดือนสุดท้ายของปี ตามปริมาณคนสมัครใช้งานที่มากขึ้นช่วงนั้น
กลุ่มนักเคลื่อนในวงการเทคโนโลยีประกาศแคมเปญ Free Our Feeds เพื่อระดมเงินบริจาคเป้าหมาย 30 ล้านดอลลาร์ ในการสร้างระบบนิเวศโซเชียลมีเดียที่เป็นอิสระจาก "การควบคุมของมหาเศรษฐี"
แคมเปญนี้ถูกนำเสนอออกมาหลังจาก Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศปรับแนวทางควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ซึ่งกลุ่มรณรงค์มองว่านี่เป็นสิ่งสะท้อนว่าโซเชียลมีเดียสามารถปรับทิศทางไปได้เสมอหากเจ้าของเปลี่ยนใจ แบบเดียวกับที่เกิดกับ X ของ Elon Musk ก่อนหน้านี้
MIXI บริษัทโซเชียลมีเดียในญี่ปุ่น เปิดตัวบริการโซเชียลใหม่ "mixi2" ซึ่งแยกออกมาจาก mixi โซเชียลมีเดียดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ปี 2004 เป็นที่นิยมสูงในญี่ปุ่น เคยมีผู้ใช้งานสูงสุดถึง 15 ล้านคนต่อเดือน ก่อนที่จะถูก Facebook, Instagram และ Twitter (ก่อนเป็น X) ดึงฐานผู้ใช้งานไป
mixi2 ให้บริการในฟอร์แมตเหมือนกับ X/Twitter แต่ผู้ใช้งานต้องสมัครบัญชีใหม่แยกจาก mixi เดิม, ใช้ระบบสมัครเมื่อได้รับคำเชิญ (Invitation) ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับ mixi ดั้งเดิม และต้องยืนยันด้วยหมายเลขโทรศัพท์ในญี่ปุ่น จึงเป็นรูปแบบที่แตกต่างไปจาก X หรือ Threads
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta โพสต์ข้อความว่า Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือที่ออกมาแข่งกับ X และ Bluesky มีตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs - Monthly Active Users) มากกว่า 300 ล้านบัญชีแล้ว
ที่น่าสนใจคือ Meta เปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs - Daily Active Users) เป็นครั้งแรกว่ามีมากกว่า 100 ล้านบัญชี
ตัวเลข DAUs นี้เป็นการย้ำกว่า Threads มีฐานผู้ใช้งานที่ใหญ่กว่า Bluesky มาก แต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับ X
ไมโครซอฟท์เป็นแบรนด์ไอทียักษ์ใหญ่รายล่าสุดที่เปิดบัญชี Bluesky ใช้ชื่อว่า Microsoft@microsoft.com โดยโพสต์แรกและโพสต์เดียวในตอนนี้คือ ภาพพื้นหลังของ Windows XP พร้อมคำบรรยายว่า We've always been a fan of blueskies.
Frank X. Shaw หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของไมโครซอฟท์ โพสต์อธิบายไว้ใน LinkedIn ว่าเป็นนโยบายของบริษัทที่จะสื่อสารกับลูกค้าบนทุกช่องทางโซเชียลอยู่แล้ว โดยปรับแต่งวิธีการสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม กรณีของ Bluesky มาพร้อมกับแนวคิดใหม่เรื่องการให้อำนาจผู้ใช้ควบคุมประสบการณ์ใช้งานของตัวเอง แนวทางกระจายศูนย์ของ Bluesky จะสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เชื่อมทุกคนเข้าด้วยกันได้
Threads โซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta ยังคงประกาศฟีเจอร์ใหม่กันแบบรายวัน คราวนี้เป็นการปรับปรุง Insights ตัววัดผลการติดตาม, การเข้าถึง, ประสิทธิภาพของโพสต์ในบัญชีนั้น
Bluesky โซเชียลมีเดียไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ที่มาแรง เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการหนีจาก X ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมาตลอดแต่ถึงตอนนี้แพลตฟอร์มก็ยังไม่มีโมเดลหารายได้ที่ชัดเจนนัก ทำให้ข้อสงสัยเริ่มเกิดตามมาว่า Bluesky จะต้องไปในทิศทางแสดงโฆษณาแบบโซเชียลอื่นหรือไม่?
Bluesky ปรับเกณฑ์การใช้งานแพลตฟอร์ม โดยบัญชีที่ล้อเลียนหรือปลอมเป็นบุคคลอื่น (impersonation) จะต้องแสดงข้อความให้ชัดเจนในชื่อและข้อมูลผู้ใช้งาน (name and bio) เพื่อให้ผู้ติดตามบัญชีเหล่านี้รับทราบแต่แรกว่าไม่ใช่ตัวจริง โดย Bluesky จะแปะป้าย impersonation ให้เห็นชัดๆ อีกทางด้วย
Bluesky ยังบอกว่าการเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ (identity churning) เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตาม เป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตให้ทำ และทีมงานได้เพิ่มกำลังการตรวจสอบเนื้อหา 4 เท่า เพื่อให้สามารถรับมือกับผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดปัญหาสแปม บ็อต และบัญชีปลอมตามมา
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ครีเอเตอร์หลายคนย้ายจาก X มาอยู่ Bluesky เพราะนโยบายเรื่องการนำข้อมูลไปเทรนปัญญาประดิษฐ์ ซึ่ง Bluesky ก็อ้าแขนรับพร้อมบอกว่าจะไม่มีการนำโพสต์เนื้อหาของผู้ใช้งานมาเทรน AI แบบ X
Microsoft Teams เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ (อีกแล้ว) ชื่อ Storyline มันคือการเขียนบล็อกหรือโพสต์ขนาดยาวแบบใส่รูปได้ ใส่วิดีโอได้ แท็กชื่อคนอื่นได้ จัดฟอร์แมตข้อความได้ ฯลฯ สำหรับการโพสต์เนื้อหายาวๆ เช่น สรุปยุทธศาสตร์ของบริษัท ประกาศแนะนำเพื่อนร่วมงานคนใหม่ หรือเขียนข้อความชื่นชมเพื่อนร่วมงาน ทั้งหมดทำได้จาก Teams โดยตรง (มองเป็นข้อความอีกประเภทของ Teams) ไม่ต้องไปเขียนในแอพภาพยนอกแล้วโยนลิงก์เข้ามาในภายหลัง
ฟีเจอร์ Storyline ยังรองรับการกดติดตาม (follow) เพื่อนร่วมงาน แบบเดียวกับบริการ social network ทั่วไปได้ด้วย ช่วยให้เราไม่พลาดการอัพเดตของเพื่อนร่วมงาน หรือผู้บริหารของบริษัทที่อาจโพสต์ข้อมูลสำคัญๆ ผ่าน Storyline
ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานแบบพรีวิวช่วงต้นปี 2025