หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ ประกาศเลิกโพสต์ข่าวอัพเดตบน Twitter/X ด้วยเหตุผลว่าแพลตฟอร์มมีคอนเทนต์ที่เป็นพิษเป็นภัย (X is a toxic media platform) เช่น ทฤษฎีสมคบคิดของฝ่ายขวาสุดขั้ว การเหยียดเชื้อชาติ และตัวเจ้าของคือ Elon Musk ก็ใช้แพลตฟอร์มเพื่อสร้างอิทธิพลทางการเมือง
The Guardian บอกว่านโยบายนี้จะมีผลเฉพาะบัญชีอย่างเป็นทางการของ The Guardian ทั้งหมดจะหยุดโพสต์ข่าวเท่านั้น จะไม่มีการบล็อคการเข้าถึงลิงก์ที่แชร์จาก Twitter/X แต่อย่างใด ทางนักข่าวยังอาจแปะลิงก์ Twitter/X ในเนื้อหาข่าวได้ตามความเหมาะสม และนักข่าวมีอิสระในการใช้งาน Twitter/X เช่นเดียวกับโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ
X ประกาศเริ่มทยอยอัปเดตเงื่อนไขการใช้งานใหม่ ส่วนของระบบการบล็อกบัญชี ซึ่งเคยประกาศเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน โดยบัญชีที่ถูกบล็อก ยังสามารถเข้ามาดูโพสต์ต่าง ๆ ได้ หากโพสต์ของบัญชีนั้นเปิดเป็นสาธารณะ รวมทั้งดูรายชื่อบัญชีที่ติดตาม-กดติดตามได้ด้วย ที่ทำไม่ได้คือการโต้ตอบกับโพสต์นั้นไม่ว่าจะเป็นรีพลาย, โควท, กดถูกใจ ไปจนถึงระดับบัญชี DM, เพิ่มบัญชีในลิสต์ หรือแท็ก
การบล็อกในแบบเดิมนั้น ผู้ใช้งานที่โดนบล็อกจะไม่สามารถดูโพสต์หรือข้อมูลอื่นของบัญชีที่บล็อกได้เลย ทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้ของ X ถูกมองว่าเป็นการบล็อกที่ไม่น่าเรียกว่าบล็อกตามชื่อได้อีก
The Wall Street Journal มีรายงานพิเศษเกี่ยวกับปัญหาในยุคโซเชียล-อินฟลูเอนเซอร์ เมื่อคู่รักที่แต่งงานและสร้างบัญชีโซเชียลสำหรับลงคอนเทนต์ร่วมกัน จนมีฐานแฟนผู้ติดตาม สามารถทำเงินได้จำนวนมาก แต่เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจหย่าร้างกัน การแย่งชิงบัญชีโซเชียลที่เป็นเครื่องมือทำเงินสร้างรายได้จึงเกิดขึ้น
Otis Chandler ผู้ร่วมก่อตั้ง Goodreads แพลตฟอร์มชุมชนแนะนำอ่านหนังสือ เปิดตัวแอปใหม่ Smashing ซึ่งอธิบายได้ง่าย ๆ ว่าเป็น Goodreads เวอร์ชันรวมคอนเทนต์ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น ข่าว บทความ โพสต์ในโซเชียล พอดคาสต์ หรืออื่น ๆ
จุดขายหนึ่งของ Smashing คือระบบปัญญาประดิษฐ์ Smashing AI ที่ช่วยให้ผู้อ่านทำความเข้าใจเนื้อหานั้นได้มุมมองที่แตกต่างออกไป เช่น สรุปข้อดีข้อเสีย, นำเสนอในมุมมองคนละด้านหากเป็นบทความการเมือง เป็นต้น
Smashing ยังอาศัยระบบการแนะนำเนื้อคอนเทนต์จากชุมชน ว่ามีคนแนะนำหรือไม่แนะนำบทความนี้จำนวนเท่าใด
Bluesky ประกาศว่าแพลตฟอร์มกำลังพัฒนาบริการ Subscription สำหรับผู้ใช้งาน แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นระบบซื้อติ๊กฟ้าเพิ่มการมองเห็น เพราะ Bluesky บอกว่าฟีเจอร์ที่ได้จะเป็น การอัปโหลดวิดีโอความละเอียดสูง, ปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ได้มากขึ้น เป็นต้น การแสดงโพสต์ของผู้ใช้งานบนฟีดยังใช้รูปแบบเดิม ไม่มีการเพิ่มน้ำหนักการมองเห็นให้บัญชีที่เป็น Subscription
Bluesky ยังประกาศความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มอีกหลายอย่างได้แก่
Bluesky ยังคงได้อานิสงส์จากการประกาศนโยบายใหม่ของ X โดยล่าสุดแพลตฟอร์มประกาศจำนวนผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบัญชี ภายในระยะเวลาสองวัน (เมื่อวานหนึ่งวัน 5 แสน) ทำให้จำนวนผู้สมัครใช้งานรวมทะลุ 12 ล้านบัญชีแล้ว
กระแสนี้ทำให้ Bluesky ขึ้นเป็นแอปดาวน์โหลดยอดนิยมในสโตร์หลายประเทศ ส่วนประเทศไทยอันดับล่าสุดอ้างอิงจาก App Figures นั้น iOS App Store อยู่ในอันดับที่ 4 และ Google Play อยู่ในอันดับที่ 6
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ เปิดเผยว่ามีผู้สมัครใช้งานใหม่ภายในวันเดียวถึง 500,000 บัญชี ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการประกาศนโยบายใหม่ของ X หลายอย่าง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ใช้งาน X ได้รับการแจ้งในแอปถึงการเปลี่ยนแปลง ว่าโพสต์ที่เป็นสาธารณะ บัญชีที่ผู้ใช้งานบล็อกก็ยังสามารถอ่านเนื้อหาโพสต์ได้ แต่จะโต้ตอบไม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจ เพราะมองว่าทำให้ฟังก์ชันบล็อกไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น
Elon Musk ประกาศผ่านบัญชี X ของเขาว่า ต่อจากนี้ไป โพสต์บน X ที่ใช้ข้อความตัวหนา ตัวเอียง หรือฟอร์แมตพิเศษอื่นๆ (ซึ่งโพสต์ได้เฉพาะคนที่มีติ๊กฟ้า X Premium) จะถูกแสดงเป็นข้อความธรรมดา plaintext ในหน้า Timeline หลักของแพลตฟอร์ม เนื่องจากถูกใช้งานในทางที่ผิด เขียนตัวหนาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้อ่าน โดย Elon บอกว่าเขาอ่านจนเจ็บตาแล้ว (My eyes are bleeding)
ข้อความที่มีฟอร์แมตตัวหนา ตัวเอียงเหล่านี้ จะยังแสดงผลเหมือนเดิมเมื่อกดเข้าไปยังหน้าของโพสต์นั้นๆ
แน่นอนว่าขณะที่การเปลี่ยนแปลงยังไม่เกิดขึ้น ก็มีชาวติ๊กฟ้าไปลองดู เขียนตัวหนาตัวเอียงใต้โพสต์ของ Elon กันมากมาย
X เตรียมปรับวิธีการแสดงโพสต์ให้กับบัญชีที่ผู้ใช้งานบล็อกไว้ โดยถ้าโพสต์นั้นเป็นโพสต์สาธารณะ จากเดิมบัญชีที่ถูกบล็อกจะไม่สามารถดูโพสต์ได้เลย จะเปลี่ยนเป็นสามารถดูเนื้อหาของโพสต์ได้ แต่ไม่สามารถโต้ตอบกับโพสต์นั้นได้ (Engage) ทั้งรีพลาย, โควท, ถูกใจ หรือรีโพสต์
ข้อมูลนี้ถูกรายงานโดยนักวิจัยแอป Nima Owji ซึ่งต่อมา Elon Musk เจ้าของ X มาโพสต์ตอบยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ ว่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ที่คำสั่งบล็อกจะเป็นการบล็อกไม่ให้บัญชีนั้นโต้ตอบได้เท่านั้น แต่ไม่ได้บล็อกการเห็นโพสต์สาธารณะ
ผลจากคำสั่งที่บราซิลสั่งบล็อกการเข้าถึง X ในประเทศ (แม้ตอนนี้จะใช้งานได้ชั่วคราว) ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลอื่นน่าจะมีคนย้ายไปใช้งานมากขึ้น ที่ได้อานิสงส์อย่างชัดเจนคือ Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งที่มีลักษณะคล้ายกับ X แต่ไม่ใช่แค่ Bluesky เท่านั้น
Tumblr เปิดเผยว่าแพลตฟอร์มมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 349.55% ในวันที่บราซิลออกคำสั่งบล็อก X โดยก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งออกมา จำนวนผู้ใช้งานในบราซิลก็เพิ่มขึ้นมาก่อนถึง 30%
Mozilla ประกาศปิดบริการแพลตฟอร์มโซเชียลกระจายศูนย์บน Fediverse โดเมน Mozilla.Social มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมเป็นต้นไป โดยแนะนำให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดข้อมูลของตนเองออกมา หรือย้ายข้อมูลไปอยู่ที่บริการอื่นบน Fediverse เช่น Mastodon แทน ซึ่งสามารถทำได้เพราะ Fediverse เป็นระบบเปิด
Mozilla.Social เป็นโครงการสร้างโซเชียลแบบกระจายศูนย์ ที่มีสถานะโครงการทดลอง เริ่มทดสอบในปี 2023 จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำมีไม่ถึงพันคน ทำให้มีข่าวก่อนหน้านี้แล้วว่า Mozilla.Social จะถูกยกเลิกโครงการตามแผนลดการลงทุนโครงการที่ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์หลักของ Mozilla
ไม่ต้องรอกันนาน Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ ที่กำลังมาแรงโดยเฉพาะในบราซิล ประกาศรองรับการโพสต์คอนเทนต์แบบวิดีโอแล้ว
อย่างไรก็ตามวิดีโอบน Bluesky ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างหากเทียบกับ X โดยหนึ่งโพสต์ลงวิดีโอได้เพียง 1 คลิป แต่ละคลิปยาวไม่เกิน 60 วินาที สามารถใส่ซับไตเติ้ลในวิดีโอได้ รวมทั้งมีลิมิตโพสต์วิดีโอได้วันละไม่เกิน 25 วิดีโอ ขนาดไฟล์รวมกันไม่เกิน 10GB ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้จะได้รับการปรับปรุงในอนาคต
Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ ยังคงได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากการที่บราซิลสั่งบล็อก X โดยล่าสุดบริษัทประกาศว่าจำนวนผู้สมัครใช้งานในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 3 ล้านบัญชีแล้ว จำนวนผู้ใช้งานรวมทั้งแพลตฟอร์มมากกว่า 9 ล้านบัญชี
ข้อมูลล่าสุดทั้ง App Store และ Play Store ในบราซิล Bluesky มีจำนวนดาวน์โหลดสูงสุดเป็นอันดับ 1 โดย Threads แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งของ Meta อยู่ในอันดับ 2
Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งที่กลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้งาน X ในบราซิล หลังจากศาลรัฐบาลกลางบราซิลออกคำสั่งบล็อก ยังคงมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด Bluesky เปิดเผยว่าจำนวนผู้สมัครใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 2 ล้านบัญชี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ Bluesky บอกว่าผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านบัญชี ภายในเวลา 3 วัน และจำนวนกิจกรรมในบราซิลก็ทำสถิติสูงสุดของแพลตฟอร์ม
Bloomberg รายงานข้อสังเกต ถึงการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลเนตเวิร์กแบบเฉพาะกลุ่มความสนใจ โดยเริ่มเพิ่มขึ้นสูงในช่วงการระบาดของโควิด 19 และยังเติบโตมาถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจสะท้อนพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป
แพลตฟอร์มแรกคือ Letterboxd โซเชียลสำหรับคนชอบดูภาพยนตร์ จำนวนผู้ใช้งานปี 2020 มี 1.8 ล้านบัญชี แต่ล่าสุดอยู่ที่ 14 ล้านบัญชี เฉพาะปีที่ผ่านมาเติบโต 55% ส่วน AllTrails โซเชียลสำหรับคนชอบปีนเขา ผู้ใช้งานเพิ่ม 10% เป็น 60 ล้านบัญชี และ Strava แอปของนักวิ่ง-ปั่นจักรยาน ผู้ใช้งานเพิ่ม 20% เป็น 120 ล้านบัญชี ซึ่งการเติบโตก็ก้าวกระโดดในช่วงโควิดเช่นกัน
Bluesky โซเชียลเนตเวิร์กไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ เปิดเผยว่าจำนวนกิจกรรมการใช้งานบนแพลตฟอร์ม จากผู้ใช้งานในประเทศบราซิลทำสถิติใหม่สูงสุด ซึ่งน่าจะเป็นผลจากคำสั่งแบน X ในประเทศที่ออกมาเมื่อวานนี้ ขณะที่ภาพรวมของแพลตฟอร์มมีผู้สมัครใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 1 ล้านบัญชีภายในเวลาสามวัน
Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta ประกาศเพิ่มการรองรับ Fediverse ที่มากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่ Threads ประกาศตั้งแต่ต้น
ก่อนหน้านี้ Threads รองรับการแสดง Like และ Reply จากแพลตฟอร์มอื่นบน Fediverse โดยดูได้จากโพสต์ใน Threads เลย แต่ได้เฉพาะเจ้าของโพสต์ ในอัปเดตเพิ่มเติมนี้เปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถดู Like และ Reply ที่เกิดจาก Fediverse ของโพสต์ต่าง ๆ ได้แล้ว ทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายกว้างมากขึ้น
ทั้งนี้ผู้ใช้งานต้องเปิดการเชื่อมต่อให้บัญชี Threads เชื่อมต่อกับ Fediverse ก่อน จึงจะสามารถใช้งานคุณสมบัติดังกล่าวได้
ที่มา: Threads
หลังจากทดสอบกับผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งมาหลายเดือน Meta ประกาศว่าตอนนี้ผู้ใช้งาน Facebook และ Instagram ทั่วโลกสามารถโพสต์เนื้อหาข้ามแพลตฟอร์ม ไปที่ Threads ได้แล้ว (หากประเทศนั้นให้บริการ)
ก่อนหน้านี้ Instagram ทดสอบให้โพสต์ข้ามแพลตฟอร์มไปที่ Threads แล้วจึงขยายการทดสอบมาที่ Facebook ซึ่งแนวทางนี้อาจเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Threads มีคอนเทนต์ที่มากขึ้น เพิ่มฐานผู้ใช้งานได้ โดยอาศัยเครือข่ายโซเชียลของ Meta นั่นเอง
ในการแชร์โพสต์ข้ามไปที่ Threads จะมีตัวเลือกปิด-เปิด ว่าให้ลงโพสต์ที่ด้วยหรือไม่ในหน้าการโพสต์ของทั้ง Instagram และ Facebook
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram โพสต์ข้อความว่า Threads โซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta ตอนนี้มีผู้ใช้งานเป็นประจำมากกว่า 200 ล้านบัญชีแล้ว ซึ่งเป็นเวลา 13 เดือน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ก็เพิ่งให้ข้อมูลหลังการแถลงผลประกอบการไตรมาสว่า Threads มีจำนวนผู้ใช้งานใกล้แตะ 200 ล้านบัญชี
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศว่า Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือ ตอนนี้มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 175 ล้านบัญชีแล้ว ซึ่ง Threads จะมีอายุครบ 1 ปี ในอีกกี่ไม่กี่วันข้างหน้า
ก่อนหน้านี้ Elon Musk เจ้าของ X หรือ Twitter เดิม ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ Threads หวังมาแข่งขัน เปิดเผยตัวเลขผู้ใช้งานว่ามี MAUs แตะ 600 ล้านบัญชี และถ้าเป็นผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) ก็คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่ง หากเป็นตามนี้หนทางของ Threads ก็คงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
Meta เตรียมลดขอบเขตการแบนเนื้อหาเกี่ยวกับคำว่า ‘ชะฮีด (Shaheed)’ คำใช้เรียกการพลีชีพในสงครามศาสนาตามหลักศาสนาอิสลาม หลังจาก Oversight Board (คณะกรรมการอิสระตรวจสอบการใช้อำนาจนโยบายของ Meta) แนะนำให้ Meta ปรับขอบเขตการแบนเนื้อหาเกี่ยวกับคำว่าชะฮีด เพราะการแบนเนื้อหาทั้งหมดมันเกินเหตุไปหน่อย
ก่อนหน้านี้ Meta ได้รับคำวิจารณ์การจัดการคอนเทนต์เกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางช่วงปี 2021 ก่อนจะบานปลายขึ้นเรื่อย ๆ หลัง Meta จำกัดการมองเห็นโพสต์เกี่ยวกับความขัดแย้งของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสช่วงปีที่แล้ว
Threads ประกาศอัปเดตความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Fediverse หลังจากทดสอบในสถานะเบต้าแบบจำกัดบางประเทศ เมื่อเดือนมีนาคม
โดยผู้ใช้งาน Threads สามารถเห็นการโต้ตอบจากแพลตฟอร์มอื่นบน Threads ได้โดยตรง ทั้งการ Like และข้อความ Reply อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่สามารถ Reply ให้ข้ามไปแพลตฟอร์มอื่นใน Fediverse ได้ แต่ Threads จะเพิ่มความสามารถนี้ในอนาคต
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ยังบอกว่าการเชื่อมต่อ Fediverse นี้ ได้ขยายเพิ่มเติมไปอีกมากกว่า 100 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย
Kathy Hochul ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ลงนามรับรองกฎหมายด้านโซเชียลมีเดียกับเยาวชน 2 ฉบับ หลังจากสภาของรัฐนิวยอร์กโหวตผ่านกฎหมาย เมื่อต้นเดือนนี้
Butterflies โซเชียลเนตเวิร์กใหม่ที่ระบุว่าเป็นการนำโลกของ AI มาสู่ผู้ใช้งาน ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ หลังจากทดสอบในสถานะเบต้ามา 5 เดือน สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง Android และ iOS
Butterflies ก่อตั้งโดย Vu Tran อดีตผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมที่ Snap ซึ่งไอเดียเริ่มต้นของเขามาจากการพบว่า ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ด้าน AI ที่มีผู้ใช้งานทั่วไปให้ความสนใจ มากไปกว่าแชทบอต Generative AI ซึ่งเน้นตัวหนังสือ คุยผ่านกล่องข้อความ จึงมองหาแนวทางใหม่ที่สามารถนำโลกของงานสร้างสรรค์ ปฏิสัมพันธ์ของผู้คน และ AI มาเชื่อมต่อกัน
BeReal แอปโซเชียลที่มีลูกเล่นให้ผู้ใช้งานแชร์ภาพของตนกับเพื่อน ๆ โดยไม่ต้องตกแต่งภาพ ประกาศขายกิจการให้กับ Voodoo บริษัทผู้พัฒนาแอปและเกมของฝรั่งเศส ด้วยมูลค่าดีล 500 ล้านยูโร
BeReal ก่อตั้งในปี 2020 ก่อนแอปเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่ปี 2022 ด้วยลูกเล่นสุ่มเวลาโพสต์ภาพ แต่กระแสนี้ก็มาและไปในเวลาไม่นาน จากผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคนเมื่อปี 2023 ตัวเลขเหลือไม่กี่ล้านคน แม้พยายามออกฟีเจอร์มาดึงดูดผู้ใช้งานก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าอดีต
เมื่อเดือนมีนาคมมีรายงานว่า BeReal ประสบปัญหาการเพิ่มทุนรอบใหม่ และมีนักลงทุนบางรายเสนอให้ขายกิจการไปเลย จึงมาจบที่ดีลกับ Voodoo นี้