สัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในหลายๆ เรื่อง เช่นการตัดพอร์ต USB แบบปกติออกหมดและแทนด้วย USB-C รวมถึงเอาปุ่ม ESC ออกและให้ใช้ Touch Bar แทน นอกจากนี้ยังตัดช่องเสียบ SD Card ออกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่วงการช่างภาพต้องใช้งานเป็นประจำ
ล่าสุด Phil Schiller ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Independent ว่าแอปเปิลตัดช่องเสียบ SD Card ทิ้งเพราะเวลาเสียบการ์ดเข้าไปแล้วจะมีส่วนท้ายของการ์ดยื่นออกมา ซึ่งแอปเปิลเห็นว่ามันรุงรัง (cumbersome) เขายังยกตัวอย่างสมัยที่ CompactFlash (CF Card) ยังได้รับความนิยมและเป็นช่วงที่ SD Card เริ่มเข้ามามีบทบาท ว่าตอนนั้นแอปเปิลก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง และแอปเปิลก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ขณะนี้ทุกคนสามารถใช้การ์ดได้ทั้งสองแบบด้วยเครื่องอ่านการ์ดที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
เขาเสริมว่ากล้องในปัจจุบันมีฟีเจอร์โอนถ่ายไฟล์แบบไร้สายกันเยอะแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้โอนไฟล์จากกล้องแบบไร้สายแทน หรือไม่ก็ซื้อเครื่องอ่านการ์ดแบบ USB-C มาใช้เสีย
นอกจากนี้เขายังเสริมว่าเหตุผลที่ MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ยังคงแจ็ค 3.5 มม. ไว้เพราะอุปกรณ์ด้านเสียงจำนวนมากยังไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย แต่ใน iPhone นั้นใช้แจ็ค 3.5 มม. เพื่อเสียบหูฟังเท่านั้น จึงสามารถตัดออกได้
ที่มา - 9to5Mac
Comments
สายต่อพ่วง ไม่รุงรังเลยครับท่าน - -"
ซื้อ Mac แล้วต้องซื้ออุปกรณ์รายล้อม (อย่างน้อยก็ในช่วงนี้) มันดูรุงรัง งั้นเลิกซื้อ Mac เลย เหตุผลเพราะซื้อพกไปไหนมาไหนแล้วมันรุงรัง -.-
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
จริงๆถ้าซื้อแล้วรุงรังคือไม่ได้ใช้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์เค้าออกแบบมาก็ไม่ควรใช้ครับ ปกติผมใช้แทบทุกอย่างเป็นไร้สาย ตัว external hdd ถ้าจะพกก็ใช้แบบไร้สาย นานๆพกไปที จะออกจอก็ใช้ airplay ซึ่งอุปกรณ์รองรับเยอะแยะแล้ว ถ้าต้องไปต่ออุปกรณ์ตามห้องประชุมที่อื่นก็อาจพกสายต่อไปบ้าง แต่ปกติก็ไม่เกินเดือนละครั้ง คือมันไม่รุงรังจริงๆครับปกติ USB เสียบปีนึงไม่เกิน 5 ครั้ง ถ้าจะเอา SD ถ่ายโอนจากกล้องตอนอยู่ข้างนอกคือเอามาโพส Facebook เล่น ลงมือถือก็เหลือๆ
ไม่ได้บอกว่าไม่ใช้แบบนี้คือผิดนะ แต่ของมันไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนเราก็ต้องเลือกใช้
ประเด็นมันคือ macbook pro ที่ทำตัวไม่สมกับเป็น pro เลย
นิยามของโปรคืออะไรหรอครับ
ต้องมีทุกพอร์ตไงคูณณณ ปั๊ดโถ่ววว VGA DVI HDMI ใส่มาไว้ก่อน ใช่ ไม่ใช้ อีกเรื่อง มีดีกว่าไม่มี,
จอต้องถอดมาเป็นแท็บเล็ตได้ พับไป หมุนไป หมุนมาได้ ทัชสกรีนต้องมา มีไว้ก่อน ใช่ ไม่ใช้ อีกเรื่อง มีดีกว่าไม่มี
มี VGA กับ DVI นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแล้ว อารมณ์เดียวกับที่อยากใหเ MB 12" มี USB A คือเครื่องหนาขึ้นแน่ๆพอร์ตมันหนากว่าเครื่องอีก ผมใช้เครื่องตลอดแต่ไม่ได้ใช้ VGA มาเป็นปีแล้ว ทำไมต้องแบกเครื่องที่แกะกะขึ้นครับ
MBP ถ้า HDMI นี่น่าจะพอได้อยู่แต่คิดว่าต้อง mini
ผมว่าคุณ por311 เห็นด้วยกับคุณนะครับ...เพียงแต่พิมพ์ประชดคนอื่น...น้ำเสียงประมาณว่าอยากทุ่มโพเดียม
ตามนั้นเลยครับ ^ ^
จริงๆผมไม่ได้สนหรอกครับว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แค่บรรยายสิ่งที่คิดไว้สมัยตอนจะซื้อ MB 12" ไว้พกไปเที่ยว ^_^
โทษที comment เมื่อวานเต็ม
Macbook Pro ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Pro คนที่เป็น Pro มันก็มีหลายสายงาน เช่น สาย Dev ที่ต้องใช้ function f1-12 ก็จะออกมาบ่น (ผมเห็นเพื่อนผมที่เป็น dev บ่นเรื่อง function row กับ keyboard แบบใหม่นี่แหละ) หรือพวกสาย ช่างภาพ ที่ต้องใช้ sd card ก็จะออกมาบ่น (ส่วนตัวผมอยู่สายนี้ และผมใช้ SD slot บ่อยมากๆๆๆๆๆๆ คือใช้จนรูแทบแหกอะ) ส่วนคนที่ไม่บ่น แล้วเห็นว่ามันใช้งานได้ ก็คงเป็นอีกสายงานหนึ่ง อาจจะไม่ได้เจาะจงว่า โปร ด้านไดด้านหนึ่ง อาจจะเอาไปทำงานออฟฟิส กระจุกกระจิก เล่นเฟส ทวิตเตอร์ อะไรพวกนี้ที่จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่
ส่วนตัวแล้วถ้า Apple ตั้งชื่อว่า MACBOOK 15" หรือ MACBOOK 13" นี่จะไม่มีอะไรให้ด่าเลย เพราะด่าไม่ออก แต่ถ้าเอาคำว่า PRO มาห้อยท้ายแล้วแบบนี้ผมก็ว่ามันไม่ถูก แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องซื้อ ซื้อเพราะจำเป็นต้องใช้เอามาทำงาน ไม่ได้ซื้อเพราะชอบใจ APPLE
แต่ราคานี่ตั้งมาซะโปรเหลือเกิน
มืออาชีพหลายคนก็ใช้ ต้องใช้ปากาออกแบบตัองใส่ไปด้วยมั้ย? บางคนต้องการเขียนซีดี บลูเรก็ต้องใส่มาด้วยมั้ย? บางคนทำงาน3d หนักๆก็ต้องใส่การ์ดจอเฉพาะทางมาให้ด้วยมั้ย? เพราะมีlaptopที่ใส่พวกนี้มาให้ด้วยจริงๆ แต่ทำไมappleไม่ทำน้า...... เพราะว่าเค้ามีแนวทางของเค้าไงครับ จะให้มาตามใจทุกคนก็เป้นไปไม่ได้หรอกครับ
Apple นะครับถ้าผลิดอะไรออกมาแล้วสาวกหรือคนใช้ต้องปรับตัวครับ ไม่งั้นก็ยังคงมี cd-rom อยู่ในเครื่อง มีพอท hdmi อยู่และอื่นๆ
เห็นด้วยครับ งานผมต้องใช้คอมพ์แรงๆ แต่ผมไม่ได้พก Fullframe ไปถ่ายรูปเล่นทุกวัน ถึงพกก็ไม่เอารูปลงคอมพ์ตอนอยู่ข้างนอกมานั่งแต่งรูปแน่ๆ วันไหนจะใช้ผมก็เลือกหยิบไปทำไมต้องแบกอะไรที่ไม่ได้ใช้ติดตัวทุกวัน
เสียดายอยู่อย่างเดียวคือปุ่ม Function เลือกหยิบ keyboard ติดตัวไปอีกอันในวันที่จะใช้นี่ก็เกินไปหน่อย
+1 จริงครับ มันไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ใครที่คิดว่าต้องทนใช้ อย่าซื้อครับ
+1 ครับ ไปอยู่ dell xps15 แล้วครับ
คงต้องถามพวก Dev ที่ต้องทำงานกับ Linux Console และ iOS ในเวลาเดียวกัันล่ะครับว่าจะทำยังไง ? จะหิ้วทีละสองเครื่องเลยแทนไหม อะไรแบบนี้
ถ้ามองมุมนี้แล้ว Dev ที่ต้องการคอมพ์แรงพร้อมกับบ่าที่ปวดขึ้นหัวเวลาแบกคอมพ์หนักๆนานๆแบบผมนี่ควรจะแก้ยังไงดีครับ อย่างอื่นถ้าทำแบบนี้ยังเลือกหยิบติดตัวในวันที่จะใช้ได้
เห็นด้วยเฉพาะ keyboard ไม่มีปัญญาพกอีกตัวไปวันที่จะเขียนโปรแกรมหนักๆ ใส่ปุ่มเพิ่มนิดนึงคงไม่ถึงขีดไม่น่าตัดเลย
ชื่อบอกแล้วว่ารุ่น Pro คือขายใคร
ส่วนผมต้องทนใช้ครับ ลงทุนไปหลายแสนแล้ว สายงานแบบผมจำเป็นต้องใช้ช่องพอร์ทต่างๆเวลาไปทำงานนอกสถานที่ เช่นUSB3.0ก็จำเป็นต้องต่อ external hdd เพื่อเก็บไฟล์วีดีโอเก็บทีก็900MB-1TB
ส่วน externalไร้สาย มันกากลงไฟล์ชาติหนึ่งจะเก็บเสร็จไหม
ส่วนอยู่ในห้องก็ต้องต่อ NAD ที่ใช้ TB2 ไฟล์จากการ์ดต่างๆอีกเน้นสะดวก
แต่ปัจจุบันบอกเลยว่าแอปเปิ้ลกำลังหลงทาง พอๆกับเคยหลงทางไปทำ FCPX เวอร์ชั่น10 ให้มันเหมือนกันiMovie จนลืมว่าคนใช้ โปร คือโปร ไม่ใช้มือสมัครเล่น นี่คงพึ่งจะคิดได้ พึ่งตาสว่างทำ FCPX เวอร์ชั่น10.3หายหลงทางซักที
ส่วนMacbook Pro ตอนนี้แอปเปิ้ลก็กำลังหลงทางอีกครั้งไม่รู้จะคิดได้จะตาสว่างอีกรึป่าว สิ่งที่คุ้มที่สุดตอนนี้ก็เป็น imac กลัวใจเหลือกันจะตัดพอร์ดออกหมดไปอีกตัว
Pro แต่ละประเภทมันไม่ได้ใช้เหมือนกันไงครับ อย่างผมต้องใช้คอมพ์แรงแต่พวกการ์ดกับ external ผมไม่เสียบเวลาออกไปข้างนอกทำไมถึงควรจะแบก อยู่ข้างนอกผมใช้ไร้สายหมดเพราะว่าอุปกรณ์อะไรๆก็คุยกันง่ายไม่มีสายมารุงรัง
แต่ถ้าดูแนวๆที่พิมพ์ คงจะขนาดเอาไปตัดต่อกองถ่ายนี่ของมันเยอะขนาดนั้นแล้วพกสาย Type-C ไปชีวิตมันไม่ลำบากขึ้นเท่าไหร่มั้ยครับ
ส่วนใหญ่ที่บ่นกันคงไม่ต้องถึงกับใส่มาครบทุกพอร์ตขอแค่ไม่ตัดออกจากตัวก่อนหน้านี้หรืออย่างน้อยๆ ก็มี solution ที่ดีกว่ามาให้ใช้ทดแทน และเรื่องน้ำหนักที่คุณพยายามพูดมา ผมว่า ณ ก่อนหน้านี้เครื่องมันก็เบาและบางมากแล้วนะครับ การตัดพอร์ตตัด sd card slot ออกก็ไม่ได้ดูคุ้มค่าหรือได้ประโยชน์ที่มากพอกับน้ำหนักที่หายไปหรือข้ออ้างที่ว่ามา
สำหรับผมถ้าประมาณ 2 ขีดคือมีผลแบบเห็นได้ชัดครับ อาการปวดหัวจากบ่าที่เกร็งเกิดห่างกันเป็นหลักชั่วโมง ผมใช้ของที่น้ำหนักประมาณนี้เทียบกันอยู่ครับ นอกนั้นก็เรื่องอารมณ์ส่วนตัวเวลาถือเครื่องบางๆรู้สึกดีอันนี้แล้วแต่คนคงไม่มีประเด็นเท่าไหร่
ถ้าจากในมุมของคนที่ต้องใช้สล็อต SD card อยู่เป็นปกติอย่างเช่นผม การที่ต้องแบกอุปกรณ์เสริมนี้ไปด้วยพร้อมกับความรุ่มร่ามที่เพิ่มขึ้นดูยังไงก็ไม่ได้เป็นทางออกที่ดี ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าชิ้นส่วนภายในของสลอตนี้ไม่ได้หนักถึง 2 ขีดแน่ๆ
ปัญหาคือ ถ้าไม่ตัดอันนี้แล้วอันอื่นควรตัดไหม งั้นก็สรุปคือตัดอะไรไม่ได้เลยเพราะทุกอันมีคนใช้แน่ๆ ผมว่าเค้าก็ต้องมีเหตุผลสนับสนุนที่เลือกแหละ มุมผมสนับสนุนให้ตัดให้หมดเลยเหลือส่วนแกนกลางที่พกเพิ่มในวันที่จำเป็นไม่ได้แบบแรงๆไว้พอ วันไหนผมอยากใช้อะไรผมเลือกพกเอา คิดว่าส่วนมากคงไม่ได้ใช้ทุกอย่างทุกวันแน่ๆ
ถ้าแบบนั้นทางเลือกคุณน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในไลน์อื่นมากกว่า Pro นะครับ
Notebook Apple มันไม่มีไลน์ไหนที่มี I7 6920 แล้วครับมีอยู่อันเดียว แล้วผมจำเป็นต้องใช้ CPU จะเลือกอะไรหละครับ
วันไปทำอะไรเบาๆผมพก 12" อยู่แล้วครับ ถ้าทำงานอยู่ห้องหนักๆก็ใช้ Desktop อยู่แล้วไม่ได้ใช้เครื่องเดียว แต่วันที่ต้องทำงานข้างนอกค่อนข้างหนักที่ไม่ได้ไปถ่ายรูป SD Card ผมก็ไม่ได้เสียบ ในมุมนี้มันเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับผมอยู่ครับ ถึงบอกว่าใครเหมาะสมก็ใช้เพราะผลิตภัณฑ์มันก็มีลักษณะเด่นของมัน
ผมว่าคุณ tstcnr2u เนี่ย คงเป็น target market ใหม่ของ Apple เค้าแหละครับ target market เก่าๆก็คงต้องทำใจ
ส่วนคุณ tstcnr1u ก็ต้องเข้าใจนะครับว่าในการทำงานหลายๆอย่าง เราไม่ได้ทำงานกับแค่ระบบของ Apple หรือ Apple solutions เท่านั้น การตัด'ความสามารถ'บางอย่างไปทำให้งานเหล่านั้นทำได้ยากลำบากมากขึ้น ซึ่งคนที่มาบ่นกันเนี่ยก็บ่นเพราะมันกระทบการทำงานพวกเค้า (แต่ไม่กระทบการทำงานของคุณ หรือกระทบแต่ไม่สำคัญก็แล้วแต่) และเค้าก็เลือกไม่ได้เพราะยังติดอยู่ใน ecosystem อยู่
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ก็คงตามที่คุณ McKay ว่ามาครับ จริงๆ ในส่วนของผมสิ่งที่เป็นปัญหามากกว่าคือเรื่องราคาครับ 555 จะตัดอะไรหรือจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นมา 4 ขีดก็ได้ครับ แต่ขอให้ลดราคาลงกว่าเดิมสักสองสามหมื่น
ขอแยกประเด็นที่ตอบนะครับ คือถ้าข้างบนจริงๆผมแค่แนะนำว่าลองเปลี่ยนใช้อย่างอื่นดูไหมอาจจะเหมาะสมกว่า ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็คงต้องทำใจครับ ผมก็ไม่รู้ว่า Apple เค้าวิจัยตลาดมายังไงก็เลยบอกได้แค่ว่ามุมผมมันเป็นยังไง
แน่นอน product อะไรก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ถ้ามันไม่ออกตัวเบาลงอันนี้มาผมรออยู่กำลังจะยอมลดสเปคเครื่องลงหน่อยแล้วหนีไปยี่ห้ออื่นแล้ว รอดูมันออกขายมาซักพักแล้ว น้ำหนักของเดิมร่างกายผมรับไม่ไหวแบบวัดผลได้จริงๆ ปัจจุบันก็ยังรอดูของจริงก่อนว่าแถบจอนั่นจะทำงานแทน function เดิมเวิร์คไหม
ส่วนข้างล่างเห็นมาตอบกันผมก็เลยตอบในมุมที่ผมใช้ คือผมสงสัยว่านิยามคำว่าโปรคืออะไรกัน ผมเห็นคนที่เรียกได้ว่าโปรหลายคนในหลายๆสายงานออกไปเดินข้างนอกพกคอมพ์เบาๆไปแค่พอทำงานที่จำเป็นได้นิดหน่อยด้วยซ้ำส่วนงานหนักแบกกลับมาทำที่ห้องทำงาน การต้องแบกห้องทำงานติดตัวตลอดเวลาไม่น่าใช้เป็นนิยามของคำว่าโปรนะครับ
คงไม่ต้องนิยามหรอกมั้งครับ เพราะแต่ละคนก็จะให้คำนิยามไปตามพื้นฐานของตัวเอง ส่วนผมคือต้องการใช้งานเครื่องเดียวครับไม่ได้มีหลายเครื่องซึ่งฟังก์ชั่นจากเครื่องที่ใช้งานปัจจุบันมันก็ตอบสนองต่อการใช้งานอยู่ ถ้าเครื่องนี้หมดอายุไขไปก็คงเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องใช้แมคต่อไป เรื่องการต้องปรับตัวอะไรก็คงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้ก็คงแค่บ่นๆ ไปตามเรื่องตามราว
เรื่องนั้นตามนั้นครับ ผมมีประเด็นกับคำว่าโปรที่เอามาใช้อ้างอิงกันแค่นั้น ส่วนถ้าไม่ถูกจริต ไม่เปลี่ยนก็ต้องบ่นไปยาวๆแหละครับอันนี้ไม่มีประเด็น ^_^
หลายอย่างมันเปลี่ยนได้ยากหน่ะครับ ถ้าอยู่ใน ecosystem นั้นแล้ว ทั้งตัว software เองหรือตัว solution ทั้ง learning curve ที่จะต้องมีหากต้องเปลี่ยนชุด software ใหม่
ส่วนใครอยู่ใน(กลุ่มทำงานแบบ) Pro อันนี้โดยส่วนตัวผมมองว่าคนทำงานที่มีแนวคิดเกี่ยวกับ time management เนี่ยน่าจะถือได้ว่าเป็น Pro(หรือเริ่มเป็น)หล่ะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อันนี้ความเห็นค่อนข้างตรงกันครับ ซึ่ง MBP ตัวนี้มันก็ไม่ได้จำกัดว่ารองรับตรงนี้ได้ไหม พอผมเห็นพิมพ์ว่าไม่สมเป็นโปรผมก็เลยตั้งคำถามสั้นๆว่า โปรคืออะไร
เห็นคุณให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำหนักมากๆ น่ะครับเลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับตัวอื่นมากกว่า และก่อนหน้านี้ Apple เองก็เหมือนแยกออกมาเป็น 2 สายค่อนข้างชัดเจนเป็น Air หรือ Macbook ที่เน้นด้านเรื่องน้ำหนัก กับสาย Pro ที่มีพอร์ตครบครันแยกออกมาต่างหาก ซึ่งผมมองว่าถ้าจะตัดพอร์ตนั่นพอร์ตนี่ออกไปจนหน้าตากับฟังก์ชั่นออกมาแทบจะคล้ายๆ กันขนาดนี้ ก็ไม่เข้าใจว่าแล้วจะมีการแยกรุ่นต่างๆ ออกมาทำไม ถ้าบอกว่าแยกรุ่นเพราะความต่างของ CPU แค่นั้นผมว่าแบบนี้คงไม่ใช่ละ
สะดวกดีออกครับ....
ตัวอักษรบนคีย์บอร์ดก็เยอะแยะดูรกรุงรัง รุ่นถัดพี่เอาเหลือปุ่มเดียวเหมือน iPhone เลยน:P
ด้วยความเคารพ! แว่วๆว่าปุ่มเดียวที่ว่าพี่แกก็อาจจะเอาออกเหมือนกันครับ
Mactini
https://www.youtube.com/watch?v=BGGOn-H7s3Q
อยากเสียบ sd หันไปทางซ้ายที่หมวดอุปกรณ์เสริม ซื้อได้เลยจร้า
win win
เหตุผลจริง ๆ คือคนสามารถซื้อแมคบุครุ่นล่างความจุต่ำได้ แล้วหาการ์ดเพิ่มพื้นที่เอาก็พอถูไถไปได้
เราเลยตัดออกไปซะ เพราะฉะนั้นจงซื้อรุ่นท๊อปถ้ากลัวพื้นที่ไม่พอ 555
สงสัยว่ามีคนที่ใช้การ์ดเพิ่มพื้นที่นั่นจริงๆ จังๆ สักเท่าไรเชียวครับ
ก็น่าจะพอๆกับคนที่ไม่ตังซื้อรุ่นที่แพงกว่าครับ:P
ก็ว่ากันไป.. แต่ก็คงจะมีบ้าง คนที่ยอมจ่ายเพิ่ม 1/2 เดียวแต่ได้ความเร็วต่ำกว่ามหาศาล
น่าจะน้อยกว่าเยอะครับ ส่วนมากที่เจอคือใช้รุ่นต่ำแล้วต่อ external เอา user ทั่วไปเค้าไม่รู้จักของแปลกๆหรอก
ผมว่าเหตุผลพี่แกรุงรังมากกว่านะ 55+
ฮาา
แนะนำให้ใช้ไร้สายโอนไฟล์แทน ..... ตลกสิ้นดีครับ ผมมี HDD Wireless และ Flashdrive Wireless ตัวที่คิดว่าดีที่สุด โอนไฟลรูป 2000 รูปใช้เวลา 1 ชั่วโมง...
"กรุณารอ AirPort Express รุ่นต่อไป" ฟิลไม่ได้ว่าไว้
แอปเปิลก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ขณะนี้ทุกคนสามารถใช้การ์ดได้ทั้งสองแบบด้วยเครื่องอ่านการ์ดที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป(หรือไมก็ซื้ออเดปเตอมาแปลงหัวครับ พก hdd ได้ก็พกตัวแปลงเถอะครับ)
ฟังไม่ขึ้น ออกแบบให้อยู่ใต้เครื่องตรงส่วนเว้าก็แทบจะสังเกตไม่เห็นละ
ถ้าคิดงั้นจริง ทำไมไม่ทำให้ Macbook ต่ออะไรก็ได้แบบไร้สายบ้าง ทั้งการชาร์จแบบไร้สาย ทั้งการส่งถ่ายข้อมูลแบบไร้สายคล้ายๆ S-Beam นั่นแหละพอจะเรียกว่านวัตกรรมได้บ้าง
เหตุผลแบบนี้เขาพูดเล่นรึเปล่าครับ
=_____=' Dongle ทั้งหลายไม่รุงรังเลยจ่ะพ่อ
Apple ตอน Jobs ยังอยู่ usability กับ design ต้องไปด้วยกัน แต่สมัยนี้ ทิ้ง usability ตามใจ designer
ถ้า Jobs ยังอยู่ designer คงโดนโด่ยับทั้งของฝั่ง iPhone 7 กับ MBP 2016 เพราะออกแบบแล้วอุปกรณ์ของตัวเองไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ครับ
Ive โดน Jobs ด่าอยู่เรื่อยๆนะครับ เคยอ่านบทสัมภาษณ์ แต่พอ Jobs ไม่อยู่ ไม่มีคนด่า เลยออกแบบตามใจตัวเองเลย
เห็นด้วย
ถ้า Jobs ยังอยู่นี่ผมว่า Ive โดนยับเยินแน่นอน คิดตามใจ Designer มากจนไม่คิดถึง End User
แต่ Jobs เวลาลองใช้ เขาจะแปลงตัวเองเป็น End User แล้วคอมเมนท์แบบ End User เลย
Apple อาจจะคิดว่าคนบ่นกันมุ้งมิ้งแต่ก็ซื้ออยู่ดีมั้ง
Sony ผมเสียบ SD card 128GB คาไว้เลย ไม่เห็นรู้สึกว่ารุงรังตรงไหน
มันจะรุงรังก็เพราะอุปกรณ์เสริมที่เสียบแยกนี่แหละฮะ
+1 กลายเป็นว่าของแกเอง (แอปเปิล) มันทำให้รุงรังกว่าเดิม
นิยามคำว่ารุงรังของแกคงต่างจากมนุษย์โลกไปไกลแล้ว
มี 3.5mm เพราะอุปกรณ์ด้านเสียงส่วนมากยังไม่รองรับ
ทั้งๆที่อุปกรณ์อีกหลายๆด้านยังต้องใช้ USB-A อีกเยอะ... แต่ตัด USB-A ออกแล้วใช้ USB-C แทน.. ฟังดูย้อนแย้งกับที่เหลือ 3.5mm ไว้พิกล (จะบอกว่า USB-A ต่อ Adapter ต่อจาก USB-C ได้... หูฟัง 3.5mm ก็ต่อออกมาได้เช่นกัน)
รู้สึกว่า Apple Device ปีนี้ มันทำให้ผู้ใช้ทำงานได้ช้าลงยังไงไม่รู้
คือผมใช้หูฟังกับมือถือ ... Apple ตัดออก
แต่ใช้ USB(Type A) DAC กับโนทบุค ไม่ฟังตรงจาก 3.5 ของ Sound Card ... Apple ตัด USB Type A ออก แต่เหลือ 3.5 ไว้
...
เหตุผลฟังไม่ขึ้น
เอาคำว่า Pro ออกจากชื่อ Macbook เถอะ ถ้าจะรองรับอะไรได้น้อยขนาดนี้ มันไม่ใช่ Professional Device
พวกตากล้องมืออาชีพเขาคงแฮปปี้ Transfer ไฟล์ Raw นับพันรูปผ่านไร้สาย
ARS เรียกว่าเป็น MBA แปลงร่างมาเลยครับ
Laptop เมื่อก่อนช่อง sd card เป็นแบบใส่แล้วหายเข้าไปเลย แล้วกดให้ Spring ดันออกมาก็ไม่รุงรัง
คงไม่หนากว่าเดิมเท่าไร
เอิ่ม เหตุผลจริงๆแล้วอยู่ที่นี่หรือเปล่า http://www.theminidrive.com/
มีเงินซื้อ แมค ก็ น่าจะมีเงินซื้อ สายพ่วงนะ
เรื่องซื้อสายพ่วงนี่เป็นอีกประเด็นครับ น่าจะเป็นประเด็นรองด้วยซ้ำ ที่บ่นๆ กันคือเหตุผลที่ให้มามันไม่สมเหตุสมผลอย่างรุนแรงครับ สล็อตเล็กๆ อันนั้นมันไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ารุงรังอย่างที่กล่าวอ้าง
ประเด็นคือ เราไม่น่าจะเสียเงินในส่วนนั้นมากกว่าซื้อได้หรือไม่ได้มากกว่าครับ
โอเค งั้นเอาการ์ดรีดเดอร์เก่าๆ ไปเสียบที่เร้าเตอร์แล้วโหลดมาทาง wifi ก็ได้ //นอนกอด 60D ผู้ซึ่งไม่มี wifi และไม่อยากซื้อการ์ด wifi T T
เขาต้องการให้ทุกอย่างเป็นไร้สายเพื่อคุมสินค้าที่เขาจะขายได้ครับ
ไม่รองรับ USB เพราะเดี๋ยว User ไม่ยอมซื้อ Magic Mouse ที่หงายหลัง Charge
ไม่รองรับ USB เพราะเดี๋ยว User ไม่ยอมซื้อ Magic Keyboard
ไม่รองรับ USB เพราะเดี๋ยวนี้ USB Flashdrive มันความจุเยอะขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวขาย Wireless External HDD ของตัวเองไม่ได้
ไม่รองรับอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ใช้ตัวต่อพ่วงที่เขาทำมาให้
เหตุผลง่ายดาย "กำไร" ครับ แต่เป็นกำไรจากการสร้างปัญหาแล้วขายวิธีแก้ ไม่ใช่กำไรจากการสร้างนวัตกรรมหรือการสร้าง Usablity
ขนาดนั้นเลยหรอ=.,=
ผมว่าหน้าเงินนะ มันไกลเกินกว่าคำว่าเอากำไรไปหลายขุมเลย
รู้จัก อุปกรณ์เสริมต่างๆของพี่จีนมั๊ยครับ? กำไรไหลไปนั่นหมด ส่วนพวกสาวกตัดไม่ตัดเค้าซื้อกันอยู่แล้วครับ
USB ก็ยังอยู่นะครับ .....
นี่ก็ล่อซะเว่อ ถ้ามันตัดของที่เป็น standard อย่าง bluetooth / wifi ออกไปใช้ของตัวเองก็ว่าไปอย่าง หรือคุณคิดว่าเมาส์ bluetooth อันละ 300 มันต่อกับ mac ไม่ได้ ?
usb-c นี่เดี๋ยวอีกหน่อยก็เป็นมาตรฐานครับ มันน่าด่าแค่ตรงมันตัด usb-a ออกหมดนี่แหละ
ถึงตอนนั้น usb-c ร้านเจ๊เล้งเพียบ เลือกเอาเลย
ที่ผมจะสื่อคือเรื่อง USB-A + Port ต่างๆ เนี่ยแหละครับ มันเร็วไปที่จะตัดทิ้งหมด เผื่อไว้ซักอันเผื่อ Compatible
ตอนนี้ USB-C มันไม่มี Mouse ระดับเกลื่อนตลาดครับ
การซื้อ Mouse bluetooth มันไม่ได้เป็น Option สำหรับทุกคนครับ ใช่ครับ มันต่อได้ แต่ถ้าต้องเอา Mouse USB-A ที่ใช้อยู่ออกแล้วไปซื้อ bluetooth มันก็ดูลำบากสำหรับ User ครับ การที่เราทำให้ Compatible ระดับนึงมันดีกว่าตัดหมดอยู่แล้ว
ตอนที่ Apple ตัด CD/DVD Drive ออกเพราะมันใช้ Flash drive กันเยอะมากจน CD กับ DVD เป็นกลุ่มเฉพาะไปแล้วครับ
mouse bluetooth มันก็มีทั้งแบบใช้ถ่านกับแบบ Charge ไฟ ซึ่งแบบ Charge ไฟมันก็ยังเป็น USB-A อยู่จำนวนมากกว่าที่จะเอาทิ้งออกหมด
แล้วที่บอกว่า USB-C มันมีตัวแปลงเต็มไปหมดมันก็มีครับ แต่ว่ามันจำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มด้วยหรือ ไม่ว่าจะมาจาก Apple หรือ ของที่อื่นๆก็ตาม
แล้วที่บอกว่ามีขายแต่เรื่องคุณภาพมันก็เป็นอีกเรื่องครับ หลายๆครั้งผมเลือกที่จะซื้อของจาก Apple เองมากกว่าที่จะไปซื้อจากกลุ่มนี้ด้วยเรื่องของความมั่นใจในคุณภาพมากกว่า
สิ่งที่ Apple ทำตอนนี้คือลดทางเลือกลงครับ ไม่ใช่เพราะแทบจะไม่มีคนใช้เลยตัดทิ้ง สำหรับผมผมมองในมุมมองของคนซื้อของไห้กับองค์กรครับ เพราะผมก็ทำหน้าที่จัดซื้ออยู่กลายๆ สั่งของมาแล้วพังใช้ไม่ได้มันเสียเวลาเยอะครับ ไม่มีใครบอกว่าซื้อของธรรมดามันไม่ได้เจอเสียบ่อยขนาดนั้นหรือซื้อของดีจะไม่มีวันเจอของเสีย แต่ถ้าเป็นไปได้การซื้อของที่มีคุณภาพดีกว่ามันเพิ่มโอกาสในการลดการเสียเวลาครับ
เป้าหมายของเขาที่ผมคิดผมยังยืนยันคำเดิมครับว่า มันคือ "กำไร" อย่างเดียวโดยไม่สน Usability
ผมเลิกใช้เมาส์มา 3-4 ปีละครับ แรกๆ ก็ต่อใช้กับแมคอยู่แต่หลังๆ พอใช้. Trackpad คล่องแล้วผมว่าดีกว่าใช้เมาส์เยอะเลย แต่ผมไม่ได้เล่นเกมกับทำกราฟฟิก มันคงแล้วแต่งานมั้งครับ
รวย
ดูแนวโน้ม โดน windows ยึดตลาดอีกรอบแน่. ย้าย กลับไป windows ดีกว่า
Apple ขาลงแน่นอนฟันธง
มีใครสามารถให้ตัวอย่างรุ่น notebook ฝั่ง วินโดว์ส ที่มี spec(ดีกว่าหรือเท่าเทียม) น้ำหนัก วัสดุ หน้าจอ แบบ macbook pro 15 ให้ได้หรือเปล่าครับ
เครื่องถัดไปผมคงย้ายไปวินโดวส์ล่ะ ไม่ไหวกับราคา
Dell Precision 15 5000 Series มีตั้งแต่ CPU i5 จนถึง Xeon E3 เลยครับ
แต่ราคาผมว่าแพงกว่ารุ่นล่างๆของ MBP แน่นอนครับ
surface book
เทียบ 15 นิ้ว surface book คือดี? ดู CPU ก่อนไหม คนละโลกเลย
VAIO Z
บอกตรงๆ ผมไม่ชอบ macbook pro รอบนี้มากๆ แต่ยังไงก็คงซื้อ
เพราะพูดกันตามเนื้อผ้า ไม่มีเลย notebook pc อะที่ทำได้ดีเท่า macbook pro ที่พิมพ์มานี่อ่านรีวิวหมดแล้วครับ
-battery ที่เคลมกับใช้งานจริงคนละเรื่อง
-พวกรุ่นที่ batt อึดๆก็ดีไซน์ห่วย จอไม่ได้เรื่องบ้าง ssd ช้าบ้าง
-เอาแค่จออย่างเดียว macbook pro กินขาดจริงๆ ไม่รุ้จะเอา notebook pc รุ่นไหนมาสู้
-น้ำหนักที่ส่วนใหญ่ notebook pc มันจะหนักกว่า macbook pro ส่วนตัวเบาๆก็ห่วยกว่ามาก จอห่วยบ้าง ssd ห่วยบ้าง อะไรบ้างสลับกันห่วย
ปัญหาของ notebook pc คือ spec บางอย่างดี แต่บางอย่างห่วย เช่น บางรุ่น batt อึด จอห่วย storage ห่วย
บางรุ่น จออย่างเทพ แต่แบตห่วย อะไรแบบนี้ มันไม่มีอะไรที่ top of the line ไปพร้อมๆกันทั้งหมด
DELL XPS 13/15 นี่ก็เกือบๆจะเทียบกับ Macbook Pro แล้วนะครับ
ติดแค่ BATT ห่วย (อ่านรีวิวใช้จริง 4-5 ชม. แต่ถ้า MBP มี 10 อัพ) จอก็น่าจะดีมากๆพอๆกัน (มั้ง)
เสียอย่างรุ่นที่ราคา 6-7 หมื่น ไม่มี SSD 512GB / RAM ก็แค่ 8
คือถ้าให้ไปเล่นตัว 9หมื่นถึงแสน ผมว่าไป MBP ไม่ดีกว่าเหรอ
บางทีก็ไม่เข้าใจทำไมไม่มีผู้ผลิต Notebook PC ทำโปรดักซ์เทพๆออกมาเป็น reference ซักตัว
แต่อย่างว่ามันเป็นที่ OS ด้วย เพราะไม่ได้ออกแบบเอง และใช้ Hardware ตัวเอง
+1
Razer Blade Stealth QHD สิครับตัวใหม่นะสเป็คโหดถ้าเล่นเกมส์ก็ซื้อ Razer Core อีก
แบตครับ...
ผมกลับคิดว่าถ้า9หมื่นถึงแสนผมไม่แตะmacbook proแน่ๆ เพราะรุ่นราคานั้นมันแพง"เว่อ"มากๆ
ปล.xps 13 มีram 16นะครับ มีssd 512ด้วย ราคาประมาณเกือบ8หมื่น แต่ไม่รู็เข้าไทยหรือเปล่า.........
dell xps 15 4k 2016
ความรู้สึกผมมันดูเหมือนถูกจัดอยู่ในกลุ่ม High-End Consumer มากกว่าที่จะอยู่ในกลุ่ม Professional แฮะ
Prosumer ไงครับ
Presumer?
สมมติว่าเกะกะ สมมติว่าโปรเค้าไม่ใช้ สมมติว่ารุ่นโปรไม่ควรมีฟังก์ชันพร้อม สมมติว่าขายอะไรสาวกก็ซื้อ
Prosumer คือ คนที่อยู่ระหว่างโปร กับ เกือบโปรน่ะครับ
ตัวอย่างของสินค้ากลุ่มนี้ก็พวก PowerShot G-series สมัยก่อน ที่ฟีเจอร์ก็แทบจะดีที่สุด แต่เซนเซอร์ไซส์ไม่เท่า และเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ เป็นต้น
เหตุผลนี้แบบ..... อืม ได้หรอ ได้จริงๆหรอ เอาแบบนี้จริงๆใช่ไหม 55555555
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
สัญญาณล่มสลายของจริงแล้วแหละงานนี้ เหลือสินค้าของแอปเปิลอย่างเดียวที่ผมยังเป็นสาวกเหนียวแน่นคือ iPhone แต่ก็ไม่แน่ถ้า pixel รุ่นหน้าออกแบบมาถูกใจมากกว่านี้
เอาที่สบายใจ...
นับวันยิ่งทำอะไรไม่เข้าท่าไปเรื่อย ๆ
นอกเหนือจาก MacOS ผมไม่มีอะไรที่ชอบบน Macbook Pro เลย
That is the way things are.
เฮ้อออ จะรอดมั้ยเนี่ย ฆ่าตัวตายเห็นๆเลย USB type A ไม่เท่าไหร่ แต่ card reader นี่ไม่ไหวอ่ะ
หันออกจากแมคมาดูโน้ตบุ๊ควินโดว์ทั่วไป มันไม่มีตัวไหนสู้ Macbook Pro ได้ครับ
คนที่ใช้ mac จะให้เปลี่ยนไปใช้ windows ก็คงยากหล่ะครับ
ที่บ่นๆกัน เดี๋ยวถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องก็ต้องซื้ออยู่ดี
apple ก็รู้ดีถึงความมี loyalty ใน brand ของตัวเอง นึกอยากจะตัดอะไร อย่างจะเปลี่ยนอะไรก็ทำไปเรื่อย
ก็ซื้อซอฟแวร์ฝั่งนี้ซะเยอะแล้วอ่ะครับ เศร้า
+1
หลายตัวซื้อมาดองด้วย...
ผมว่า MBP ของ Apple สุดท้ายแล้วก็เน้นพวกงานเบา ๆ งานที่เน้นเคลื่อนที่ อย่างพวกสายงานนักข่าว นักเขียน
ส่วนงานหนัก ๆ โหด ๆ Apple ก็คงไล่ให้ไปซื้อ MP แทน ... อะไรแบบนี้
ถ้าไม่ติดว่าต้องเขียน iOS ผมไม่ซื้อ T T
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
ตัวการใช้มันดีระดับนึงเลยนะ แต่เรื่อง Usability ให้ตกสุดๆ แต่ถ้าใครชอบความเป็น macOS ผมว่าซื้อไปก็ไม่ผิดหวังนะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
แมคนี่ดีทุกอย่างเว้นแต่เรื่องพอร์ตเนี่ยแหละ ขยันตัดจัง
แค่จะเอา iPhone 7 มาต่อ ยังรุงรังเลยครับ จะไปซื้อ pixel มาใช้แทนดีมั้ยเนี่ย
Logo Apple หลังจอ ก็ทำให้เครื่องหน้าขึ้น และ "รุงรัง" ด้วยนะท่าน
เครื่องมันบางลง ถ้ายังมีไฟโลโก้อยู่ มันรบกวนหน้าจออะครับ
ถ้าผมจำไม่ผิด โลโก้ตัวนั้น มันใช้แสงสว่าง (Backlight) จากพาแนลของจอ LCD นะครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ตัวใหม่นี้ ถ้าเราลดเเสงหน้าจอลงจนมืด เอาไปฉายส่องจากด้านหลัง นี้เห็นเเสงทะลุออกมาเลยครับ ลองหาดูคลิปในยูทูป
เป็นเช่นนี้เอง
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมสังหรณ์ใจว่า Macbook รุ่นหน้าจะเปลี่ยนไปใช้จอ OLED
เลยตัดไฟโลโก้มาลองเชิงลูกค้าก่อน
จากใจจริงสิ่งที่ผมคาดหวังว่าจะเห็นจาก Macbook Pro 2016 คือ
1 Touch Pad ให้ขึ้น แล้วใช้งานรวมมกับ Apple Pencil แทน Wacom ได้
2 เครื่องเบาบางลงเล็กน้อย
3 เพิ่ม USB Type C โดนไม่ตัด SD card / USB A / HDMI
4 แบตอึดขึ้นเล็กน้อย
5 สแกนลายนิ้วมือ
6 Siri
7 Main Ram 32 GB ในรุ่น top GPU Ram 4 GB ในรุ่น Top
8 SSD เริ่มต้นที่ 512 GB option 2 TB
9 ราคาใกล้เคียงราคาเก่า
10 ตัว 13 " แต่มีรุ่น top เป็น i7 Quad core อาจจะเป็นตัว Customs ลด Watt ลงจากตัวของ 15 " เล้กน้อยเพิ่มคุ้มความร้อน
11 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ intel Kabylake ในตลาด
ของผมนะครับ
Xeon ผมว่าเอาเป็น Option ของรุ่น 15 " ก็พอแล้วครับ เ
เสียใจด้วยนะครับ ทลายสิ้นเกือบทุกข้อ
ของผม
1. รุ่นใหม่...อัพเสปค...ราคาเดิม...เพิ่ม ชม. ใช้งาน (อยากได้ 12 ชม. เท่า macbook air)
2. รุ่นเก่า...ลดราคา
มีข้อสังเกตอีกอย่าง
Macbook pro เดิมตัวล่างสุดส่วนลดนักศึกษา ประมาณ 4000 บาท
แต่ 2016 ตัวล่างสุดลดแค่ 2000 บาท
ดูเหมือนว่านโบายของ apple ต่อการศึกษาเองก็เริ่มเปลี่ยนไป...ในทางที่แย่ลง
จุดเด่นอย่างนึงของแอปเปิ้ลคือ Eco system คือ อุปกรณ์ทุกอย่างทำงานสอดผสานกันแบบไร้รอยต่อ
เหมือนอย่าง ไอจูนที่ ซิงค์เพลงต่อกันได้ทุกอุปกรณ์ โทรศัพท์ที่เรียกไปทุกอุปกรณ์จะกดรับตรงไหนก็ได้
แต่ตอนนี้ไหงออกมาแบบนี้ ตัดนู่นนั่นนี่ จนอุปกรณ์ตัวเองก็ยังต่อกันเองไม่ได้
ประสบการณ์ใช้งานก็เลอะๆเทอะๆ หูฟังไอโฟน จะเอามาฟังเพลงบนแมคได้มั้ยก็ไม่ได้
งั้นก็ต่อกับไอโฟนฟังเอาไม่เป็นไร งั้นแต่ถ้าจะเสียบไอโฟนดึงเพลงจากแมคหล่ะ ฟังไม่ได้ ก็ไม่ได้อีก
จะเอาเพลงที่อยู่ใน usb ลงเข้าไอโฟนได้มั้ย ก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน
ก็ต้องหาส่วนเสริมนู่นนั่นนี่รุงรังไปหมด
ทำไปทำมา macbook pro จะไม่ต่างอะไรกับ ipad ต่อคีบอร์ดแล้ว
ตัดพอร์ตจนไม่เหลืออะไร จะต่อออกจอ จะอ่านข้อมูล จะบันทึกอะไรก็ลำบากไปหมด
เหมือนจะล้ำหน้าที่จริงๆแล้วกลายเป็น ลดต้นทุนซะมากกว่าละมั้ง ตัดออกแต่ไม่ได้เตรียมทางออกไว้ให้
ส่วนไอที่เพิ่มมา แถบสัมผัสอะไรนั่นน่ะ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะสร้างความสะดวกอะไรได้เท่าไหร่
ส่วนไอสแกนนิ้วมือผมว่ามีส่วนดีอยู่
เรื่องหูฟังนี่ผมเคืองจริงๆ
เพราะปกติใช้หูฟังไอโฟนเสียบ mac นั่งทำงาน...โทรศัพท์ดังก็รับและคุยจาก mac โดยตรง
แทบไม่ต้องควักโทรศัพท์ออกมา
แต่หูฟังไอโฟน 7 เสียบ macbook 2016 ไม่ได้...มันคืออะไร?
Eco system มันทำงานสอดคล้องเหมือนเดิม แต่มันบังคับให้เสียเงินเพิ่มขึ้นแบบกลายๆ มากกว่าครับ อยากสะดวกเพิ่มก็เสียเงินเพิ่ม -__-")
ประมาณว่า
หูฟัง ก็ซื้อ Apple wireless AirPods มาใช้สิ เปิดตัวไหนฟังได้เลย
iTunes ซิงค์ผ่าน Wireless ถ้าอยากให้ซิงค์เร็วๆ ก็ AirPort ซักตัว หรือไม่ก็ซื้อสายเพิ่มซักเส้นนึง
เหมือนตกพกหัวแปลง USB-C เป็น USB Type A, USB-C เป็น HDMI หรือ VGA ไว้ตลอดเวลา
แล้วยังตัด SD Card ออกด้วย ก็ต้องพกตัวใส่ SD Card ไปอีก
ต่อรุงรังไม่ว่า แต่ก็ต้องพกหัวแปลงไปหลายอัน ถ้าลืมนี่ทำไงเนี่ย 555
แล้วราคาเครื่องก็สูงขึ้นมาก แต่ก่อนคิดว่าราคา MacBook Pro ก็สมเหตุสมผลกับความคุ้มค่า แต่ตอนนี้ราคาสูงไปจริงๆ
ดูเหมือน apple จะชื่อใน โลกไร้สาย เอามากๆ และ พยายาม จะ เปลี่ยนพฤติกรรม ผู้บริโภค ให้ใช้ อุปกรณ์ไร้สายให้มากขึ้น
น่าจะทำ wireless charging สำหรับ iphone และ mac ออกมาด้วย...
เกรงจะไฟไหม้นะครับถ้าทำแบบนั้น :)
ความรับผิดชอบต่อลูกค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเองหายไปหมดแล้วครับ ขอไม่นับกลุ่มที่เงินเหลืออยู่แล้วพร้อมจ่าย
- iPhone 7 <=> MBP ออกปีเดียวกัน แต่เชื่อมด้วยกันโดยตรงไม่ได้ ,, คือไม่คิดจะแถม adapter เพื่อชดเชยส่วนนี้กันเลยหรอครับ ผลักภาระให้ลูกค้ากันชัดๆ
- Macsafe ที่เคยเป็นเอกลักษณ์การออกแบบอย่างลงรายละเอียดและใช้ได้จริงที่สุด
ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้ทั้ง iPhone 7 และไม่คิดจะซื้อ MBP รุ่นนี้(ใน 2-3 ปีนี้)แน่ๆ อยากรู้เหมือนกันว่า Pro ที่เขาใช้งานกันจริงๆจะโวยวายกันขนาดไหน
target market เปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
Razer Blade Stealth QHD >>> MacBook Pro
Dell XPS >>> MacBook Pro
Surface Book >> MacBook PRO
ASUS Zenbook 3>>MacBook Air
ซื้อกันเลยครับอย่าไปสน Macbookเลย
บางทีมันก็ไม่ได้เลือกเปลี่ยนไปมาง่ายๆ แบบนั้นเนื่องมาจากงานที่ทำครับ ถ้าเครื่องเหล่านั้นมันรัน macOS ได้หลายคนก็น่าจะแฮปปี้ในการไม่ต้องยึดติดอยู่กับแมค
คนไทยไม่ค่อยใช้แต่บ่นอย่างเดียว ข่าวว่ายอดจองทะลุเป้านะครับ
ก็ให้บ่นหน่อยเถอะทำสินค้าแบบมัดมือชกมาขนาดนี้ ผมใช้อยู่หมดเป็นแสนๆแล้วแต่ก็จำยอมต้องใช้ต่อไป จะไม่ให้บ่นเลยรึไง
คนไทยแค่บ่นนิดๆหน่อย ต่างประเทศนี่โจมตีกันแรงๆเยอะกว่าไทยอีกครับ
ส่วนยอดจองที่ทะลุเป้านี่คือข่าวจากไหนครับขออ่านหน่อย
Welcome to new generation of the MacBook Pro "Adapter for Adapter"
ลาก่อยครับ ผมกำเงินแปดหมื่นเครียมซื้อเต็มที่ รอมาปีนึง เงินรอนิ่งๆเลย พอเจอแบบนี้ตัดใจซื้อรุ่นเก่าแบบไม่ลังเล มันยังไม่พร้อมอะ คือ ถึงเราจะพยายามปรับตัวใช้ทุกอย่างไร้สาย แต่คนที่เราร่วมงานด้วยเค้าไม่ได้ไร้สายด้วย มันเป็นความรุงรังที่ต้องคอยพ่วงทุกอย่างเพื่อให้ support คนที่เราจะต้องทำงานด้วย
ซืออเดปเตอร์ครับ ถือเครือ่งได้ ถืออเดปเตอร์คงไม่ยาก
มันรกไงครับ และถ้าเทียบกันถ้าเครื่องมีพอร์ทมาให้เลยมันเบากว่าถืออแดปเตอร์เยอะนะครับ
เริ่มเห็นคนเอารุ่น 2015 มาปล่อยนี่ ผมว่ารอสอยพวกนี้คุ้มค่ากว่าเยอะเลยนะ พอร์ตก็มาครบ
อันอื่นพอไหวครับ แต่ติดตรงหูฟังใช้ระหว่าง MBP กับ iPhone 2016 เหมือนกันไม่ได้นี่แหละครับ
SD card slot ใน ThinkPad ผมเสียบแล้วไม่เห็นยื่นเลย ไร้สาระ