ปี 2016 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นของแว่น VR ในกระแสหลัก เราเห็นการวางขายสินค้าจริงของทั้ง Oculus Rift, HTC Vive และ PlayStation VR แต่ข้อจำกัดของแว่นสมรรถนะสูง (ที่ไม่ใช้จอมือถือเป็นจอแสดงผลแบบ Gear VR) คือเรื่อง "สาย" ที่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้เกะกะ ไม่สะดวกในการใช้งาน
ทิศทางของตลาด VR จึงเริ่มหมุนไปยังเทคโนโลยีที่ช่วยให้แว่น VR ทำงานแบบไร้สายได้ ฝั่งของ HTC Vive จึงเปิดตัวอุปกรณ์เสริม TPCAST ที่เสียบเข้ากับแว่น HTC Vive ของเดิม เพื่อส่งข้อมูลไร้สายไปยังพีซีได้ ตัวอุปกรณ์ทำงานได้นาน 90 นาที และจะเริ่มวางขายในไตรมาสแรกของปี 2017 ในราคา 220 ดอลลาร์
ฝั่งของ Oculus ก็มีอุปกรณ์ไร้สายอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยใช้โค้ดเนมว่า Santa Cruz และมีหลักการทำงานเหมือนกันคือเป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณไร้สายจากแว่นไปยังพีซี เพียงแต่กรณีของ Oculus จะไม่ต้องใช้เซ็นเซอร์ภายนอกช่วยติดตามตำแหน่งของแว่น การเซ็ตค่าก่อนเริ่มใช้งานจึงง่ายกว่า และแว่นจะสามารถรันในโหมด AR ได้ด้วยเพราะแว่นรู้ว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งไหนในห้อง
ปัญหาของแว่น VR ไร้สายในตอนนี้คือต้องส่งข้อมูลปริมาณมากๆ ไปกลับระหว่างแว่นกับพีซี ส่งผลให้มีปัญหาข้อมูลดีเลย์ได้ง่าย ซึ่งจะกระทบต่อภาพที่ปรากฏบนแว่น ตอนนี้จึงมีอีกบริษัทชื่อ Sulon Q ที่ใช้แนวคิดต่างออกไป นั่นคือยัดพีซีทั้งตัวลงในแว่นเลย ตอนนี้สินค้ายังไม่วางขาย แต่บริษัทก็โฆษณาว่าแบตเตอรี่จะสามารถอยู่ได้หลายชั่วโมงด้วย
ที่มา - The Register, Ars Technica
Comments
latency จะเพิ่มขนาดไหนนะ
อารมณ์แบบเดียวกับ HoloLens สินะครับ แค่เปลี่ยน AR -> VR เอ หรือถ้านับจริงๆ คือมันเหมือน Samsung Gear VR, Google Daydream View
ในอนาคต ยอดการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สิ่งของตกแต่งบ้านต้องลดลงแน่ๆ
ทำไมเหรอครับ
ไม่ลดหรอก ยังไงคนก็อยากเห็นสัมผัสของจริงอยู่
ผมเข้าว่าเล่นมุกนะ ห้องต้องโล่งเข้าไว้ เวลาเล่น VR จะได้ไม่เดินไปเตะ แขนไปฟาดอะไรเข้า
ตามนั้นครับ จะเล่น VR โดยเฉพาะ HTC Vive เนี่ยต้องเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย ไม่งั้นเฟอร์นิเจอร์ ตัวคนเล่น หรือคอนโทรลเลอร์ อย่างใดอย่างนึงนี่แหละที่จะพังซะก่อน
เจ๋งมาก ตอนนี้ตัวผมเองก็กำลังทำใจเข้าสู่โลก Wirless กับหูฟัง (เพราะ Apple)
ว่าแต่ว่าส่งข้อมูลด้วยอะไรนะ Bluetooth ไม่น่ารับไหว
ทำไมไม่ใช้เทคโนโลยีอย่างเช่นพวกเทคโนโลยี,wifi,3g,4gหรือ5gหว่า? เข้าใจว่าเทคโนโลยีมันเป็นคนละชนิดกันแต่น่าจะAdaptได้น่า
ไม่เชื่อเลยว่าจะทำไม่ได้ ==
เทคโนโลยีพวกนั้นมีความหน่วงมากเกินไปครับ ที่พูดว่า 3G-4G WiFi เร็ว มันไม่ได้เร็วครับมันมีแบรนด์วิธที่กว้างกว่า เหมือนรถบรรทุกที่ขนได้มากกว่าเฟอร์รารี่ เพราะตัวโปรโตคอลกว่าจะส่งกันได้การเช็คความถูกต้องของข้อมูล มีการหลีกเลี่ยงสัญญาณ check hand ฯลฯ มันดีเลย์เกินไป มันต้องหาเทคโนโลยีที่มีการส่งข้อมูลที่ส่งไปได้เร็วที่สุดโดยยังคงความถูกต้อง ซึ่งเทคโนโลยีที่คุณบอกยังไม่ตอบโจทย์ครับ
เทคโนโลยีไร้สายที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันความเร็วมันต่ำกว่าสายต่อจอภาพมากนัก
HDMI 2.0 : 14.4 Gbit/s
DisplayPort 1.3 : 25.92 Gbit/s
เทคโนโลยีไร้สายที่ความเร็วสูงก็มีออกมาบ้างแล้วนะ
เช่น IEEE 802.11ad up to 7 Gbit/s แต่ยังไม่เห็นผลิตภัณฑ์วางขายทั่วไป ถ้ามีแรกๆ คงแพงมาก
เดาว่า WiGig ทำได้(นานแล้ว)ครับ
https://en.wikipedia.org/wiki/Wireless_Gigabit_Alliance
มีแอพตัวนึง ชื่อ VRidge ใช้ wifi ส่งภาพมาออกที่มือถือ android ครับ
สำหรับเอามาใช้กับแว่น VR พวกตระกูล google cardboard
ต้องลง app ทั้งที่ที่ตัวมือถือ และ PC
ผมลองโหลดมาเล่นดู frame rate ค่อนข้างแย่ จนจัดว่าเล่นไม่ได้เลยแหละ
ใช้ย่านความถี่ไหนส่งเนี่ย
แนวคิดยัด PC ลงไปใน VR แบบย่อหน้าสุดท้ายนี่แหละที่ผมว่าเข้าท่าที่สุด แม้จะต้องแลกมาด้วยราคาโคตรแรงก็ตาม แต่ก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วล่ะทั้งการกำจัดสายรุงรัง ทั้งการตัดปัญหาเรื่อง latency
ผมแนวคิดสุดท้ายนี่ก็เหมือนคล้ายๆกับใช้มือถือเป็นตัวประมวลนะ
เอาเข้าจริงๆ ถ้าแลกราคาที่แรงก็คงจะขายลำบากอยู่มั้ง
เอ ที่จริงพี่จีนเค้าทำมาได้พักนึงแล้วนะ มีตั้งแต่ราคา 3000 ใช้ Allwinner+จอ 720p ยันราคา 20000 กว่าใช้ SD820 2จอ 1Kx1K
อยากรู้ว่าระยะส่งไกลแค่ไหน เพราะคอมตัวแรงอยู่ห้องโถง
ส่วนห้องที่อยากเล่นอยู่ชั้นสอง >3<