MacBook Pro รุ่นที่มาพร้อม Touch Bar เริ่มส่งมอบให้ผู้ที่สั่งจองแล้ว ขณะที่สื่อไอทีในสหรัฐก็เริ่มปล่อยรีวิวของ MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ออกมาบ้างแล้ว
หลายรีวิวชมเป็นเสียงเดียวกัน ถืงดีไซน์ใหม่ของ MacBook Pro ที่แอปเปิลยังคงทำออกมาได้ดีเช่นเคย และที่ดีกว่าเดิมในแง่ของน้ำหนักและความบาง ขณะที่เสียงบ่นก็หนีไม่พ้นพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) ที่แอปเปิล (บังคับ) ให้มาเร็วเกินความพร้อมของตลาด
สำหรับ Touch Bar ที่เป็นของใหม่บน MacBook Pro แถบด้านขวาสุดของ Touch Bar จะเป็นพื้นที่สำหรับปรับแสงหน้าจอ ปรับเสียงและปุ่มเล่น/หยุดเพลง แรกๆ อาจจะกดฟังก์ชันบน Touch Bar ผิดๆ ถูกๆ ซึ่งต้องใช้เวลากับมันซักหน่อยถึงจะคุ้นชิน
โดยรวมหลายรีวิวมองว่าว่ามีประโยชน์มาก ช่วยให้การทำงานหลายๆ อย่างสะดวกและลื่นไหลมากขึ้น ทว่าตอนนี้มีเฉพาะแอพของแอปเปิลเท่านั้นที่รองรับ ก็ต้องรอดูการใช้งานบนแอพอื่นๆ ที่ประกาศรองรับ Touch Bar ถูกปล่อยออกมาก่อนอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียในตัวของมันเอง ด้วยความที่ Touch Bar จะเปลี่ยนฟังก์ชันไปตามแอพ หลายฟังก์ชันในหลายแอพก็ดูไม่มีประโยชน์ อาทิ Suggested Words ตอนพิมพ์
นอกจากนี้สำหรับบางคน Touch Bar อาจไม่สามารถทดแทนฟังก์ชันคีย์ลัดต่างๆ ที่เคยใช้งานมาได้ เพราะต้องคอยก้มหน้ามองและลากนิ้วบนหน้าจอ ขณะที่คุ้นชิ้นกับคีย์ลัดต่างๆ บนคีย์บอร์ดอยู่แล้ว อย่าง Miriam Nielsen นักเขียนและทีมตัดต่อของ The Verge บอกว่าตอนใช้ Touch Bar ให้อารมณ์เหมือนตอนฝึกพิมพ์สัมผัสใหม่ เพราะต้องคอยก้มหน้าลงไปดู แทนที่จะมองหน้าจอและใช้นิ้วกดคำสั่งตามปกติ
ส่วน Touch ID ไม่แตกต่างจากและไม่ได้ใช้บ่อยเท่ากับการใช้งานบน iPhone ขณะที่ Apple Pay มีไม่กี่เว็บไซต์เท่านั้นที่รองรับ
อีกหนึ่งคำชมที่หลายสำนักพูดเป็นเสียงเดียวกันคือหน้าจอ ที่สีสด สว่างและคมชัดกว่าเดิม (Wired บอกว่าดีที่สุดที่เคยใช้มาเลย) เช่นเดียวกับลำโพงที่ดัง กังวาลและชัดกว่าเดิม
สำหรับคีย์บอร์ด (ที่เป็นรุ่นอัพเกรดของคีย์บอร์ด Butterfly ใน MacBook) อยู่ในโซนตรงกลางค่อนข้างไปบวก ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ใช้งานได้ ให้ความรู้สึกของความเป็นปุ่ม แต่ก็ต้องอาศัยความคุ้นชิ้นและก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนอยู่ดี ส่วน TrackPad ได้รับคำชมแค่ว่ามีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ที่เหลือก็ให้ความรู้สึกเดิมๆ
สิ่งที่โดนติงมากที่สุดก็หนีไม่พ้นพอร์ตที่เปลี่ยนเป็น Thunderbolt 3 (USB-C) หมด ขณะที่ตลาดยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปยังมาตรฐานใหม่นี้ MagSafe ที่หายไปและสเปคภายในที่ไม่มีการอัพเกรดเท่าไหร่ อย่างซีพียูและแบตเตอรี่ แต่กลับเพิ่มราคาให้แพงกว่าเดิม
Comments
Apple ก็ USB-C ล้วน Microsoft ก็ไม่มีสักพอร์ต - -"
เชื่อแน่ว่ามันจะมีใน Surface รุ่นถัดไป (ก็ปรารถนาให้เป็นอย่างนั้น) รุ่นโปรอาจจะได้ช้า แต่รุ่นธรรมดาอาจได้เร็วกว่า เพราะเปลี่ยน Micro-USB เป็น USB-C ไม่เสียอะไรเท่าไหร่ ยกเว้นอแดปเตอร์ใช้ด้วยกันไม่ได้
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะออกตัวใหม่รึเปล่านี่สิครับ 555
ใช้ไซส์นี้แล้วติดด้วยสิครับ รู้สึก Pro/Book มันใหญ่ไปหนักไป
อ่านผ่านๆใน Reddit มีคนบอกว่าคุยกับทีมงานคนนึงบอกว่าจะไม่ใส่ USB-C มาเพราะพอร์ตชาร์จของ Surface ทำได้ใกล้เคียงอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ถึงขนาด 40Gbps
เพราะเหตุนั้นแหละครับ (และดูเหมือน MS จะภูมิใจหนักหนากับพอร์ตนี้เสียด้วย) ถึงไม่คิดว่าจะเห็นในตัวโปรในเร็วๆ นี้ แต่ตัวธรรมดา (Surface 3) พอร์ตชาร์จมันเป็น Micro-USB โอกาสที่มันจะเป็นเปลี่ยนเป็น USB-C จึงมีมากกว่า ...ถ้ามันมีโอกาสได้ออกมาละก็นะ กลัวจะดัน Pro x รุ่น i3 ลงมาแทน ซึ่งมันแพง
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
แต่มันเสียบอุปกรณ์ร่วมกับชาวบ้านเขาไม่ได้น่ะสิครับ
จริงๆผมก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับ microsoft เท่าไหร่หรอกนะครับ 5555 (จากใจคนเพิ่งซื้อ surface book)
ทีแรกผมก็เคืองไมโครซอฟท์อยู่หลายจุดนะครับ จนอ่านความเห็นนี้จบนี่ผมเคืองคุณ jul.1 แทนเลยครับ #มีความอิจฉาตาร้อน 5555
จะกด sleep ยังไงล่ะเนี่ย ในเมื่อปุ่ม power มันหายไปแล้ว
หรือกด Touch ID แทนได้เลย
กด sleep ในสถานการณ์ไรบ้างเหรอครับ ผมใช้แมคมาตั้งหลายปีไม่เคยกด sleep เลย พับหน้าจอ แล้วก็ใส่เป๋า ฮาๆ
กรณีที่ต้องการให้เครื่องมัน sleep แต่ไม่ต้องการพับหน้าจอลงครับ
ผมค่อนข้างหวงความเป็นส่วนตัวนิดนึงนะ เลยค่อนข้างระแวงว่าจะมีใครมายุ่งกับแล็ปท็อปตอนที่ไม่ได้อยู่กับโต๊ะ เวลาจะลุกไปไหนเลยมักจะกด sleep ไว้เสมอ และการกด control->shift->power มันง่ายกว่าการพับจอ ในกรณีที่ลุกไปที่อื่นแป๊ปเดียวนะ (ขี้เกียจพับขึ้นพับลงบ่อยๆ)
เขี่ยทัชแพดไปที่ Apple ก็ได้นี่ครับ
กดคีย์บอร์ดเอาไวกว่าไงครับ เลยเกิดสงสัยขึ้นมาเฉยๆ เพราะผมกดบ่อยซะด้วยสิ
Touch ID เป็นปุ่มจริง กดได้ครับ
ตั้ง Hot corner + กด command ค้าง ครับ
อย่างของผมตั้ง sleep ไว้มุมขวาบน
เวลาจะ sleep ก็แค่ใช้นิ้วชี้ กด command ค้างไว้ แล้วเอานิ้วโป้งลาก trackpad เข้ามุมขวาบน
(คล้ายหุบนิ้วเพื่อซูม) ลองดูครับ สะดวกสุดๆ
ผมใช้ปุ่มล็อคหน้าจออะครับ ที่เป็นรูปกุญแจ เพิ่งรู้ว่าปุ่ม power มันก็หลับได้เหมือนกัน
onedd.net
CMD+space ค้าง แล้วร่ายมนต์ว่า "พักเครื่อง"
:-)
แค่เปลี่ยนเป็น USB3.0 2 ports, USB-C 2 ports
แค่นี้ก็เพอร์เฟ็ค ไม่มีใครด่าแล้ว ง่ายๆกลับไม่ทำ
ชาร์จไฟไม่ได้กันพอดี ถึงต่อให้ทำที่ชาร์จแบบเดิมเชื่อเหอะโดนด่าอยู่ดี
เพราะไม่มีพอร์ดเชื่อมต่ออุปกรณ์ความเร็วสูงให้ใช้ รุ่นเก่าตอน Thunderbolt 1-2 ที่ผ่านมาคนก็ด่าเรื่องอุปกรณ์แพง พอเป็น Thunderbolt 3 (USB-C) อุปกรณ์ถูกกว่าเก่า แต่ก็โดนด่าเรื่องเอาพอร์ทเก่าออกแทน
ข้อเสียหลักๆที่เห็นทุกค่ายบอกคือแพงนี่แหละ
อันนั้นมันเป็น เอกลักษณ์!! ประจำตัวครับ ขาดไม่ได้
ทำงานแค่จ๊อป 2 จ๊อปก็คืนทุนแล้ว เทพดีไซน์เนอร์ในตำนานได้กล่าวไว้
ถ้าใช้เงินที่ทำงาน จะให้ซื้อ macbook pro
ถ้าใช้เงินตัวเอง จะซื้อ notebook gaming
i++;
คล้ายกันเลยครับ
ถ้าต้องซื้อเองก็ Surface เพราะอยากใช้
ถ้ามีคนออกตังค์ให้ก็ Macbook เพราะอยากได้
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ต้องคอยมองจอสองจอไม่ชอบเลย
ขาด USB Type A / HDMI / SD cards / Magsafe
แล้วมีหน้ามาเรียกตัวเองว่า Pro
ใช้งานจริง สายพ่วงเต็มกระเป๋า
ใช้ครับเอาจริงๆๆนะ ตอนแรกเลย Macboook Pro
ที่ผม คาดหวังคือ
1 สเปกใหม่
2. Touch pad ใหญ่ขึ้น รองรับ Apple pencil ใช้แทน Wacom ได้
3 USB Type C
4 แบตอึดขึ้น
5 keyboard กันน้ำ แบบ Thinkpad
6. สแกนลายนิ้วมือ (เป็น Optional)
7. ลำโพงที่คาดหวังได้มากขึ้น
8. บางขึ้นนิดเบาลงหน่อย
ส่วนตัวประทับใจกับ Keyboard ใหม่นะ
ตอนออกมากับตัว 12 นิ้ว ยี้มาก แบบยังไงก็ไม่เอาอะ
แต่อันนี้โอเค
ตรงที่ไม่โอเคนอกจากราคา ก็การ์ดจอตัว 15 นี่แหละ
Readon Pro 450 แทบจะไม่ต่างกับ 370X เลย
อย่างน้อยก็เป็น RX480M ไม่ได้หรอ
Redon pro มันเป้น กลุ่ม Pro นี้ครับไม่ใช่ Gameing ราคามันเลยแรง
ลองพิมพ์คีย์บอร์ดใหม่แล้ว รู้สึกสัมผัส แรงต้าน และความเด้งโอเคกว่าเดิม เวลาพิมพ์จะมั่นใจมากขึ้นว่าพิมพ์ไปแล้ว (ผมลองรุ่นไม่มี touch bar) แต่ก็นั้นแหละ แบบเก่าก็ยังให้ความรู้สึกดีกว่าอยู่ดี ใครพิมพ์รุ่นเก่าย้ายมาเครื่องรุ่นใหม่ อาจจะต้องปรับระยะการก้าวของนิ้วใหม่สักหน่อย ไม่งั้นพิมพ์ผิดบานแน่ๆ
อยากให้ Trackpad มันเป็น Touch screen มากกว่าอ่ะ ใหญ่ดีด้วย ขี้เกียจเอื้อมมือไปกดข้างบน -..-
ถ้าเริ่มต้นที่ 4 หมื่นก็โอนะ
ใช้บ่อยๆก็น่าจะชินหรือเปล่าไอ้ทัชบาร์เนี่ย เหมือนพวกพิมพ์สัมผัสว่าตัวอักษรไหนอยู่ตรงไหน แต่ละปุ่มมัน แต่ละฟังก์ชั่นมันไม่น่าจะเล็กจิ๋วเหมือนคีย์บอร์ดบนโทรศัพท์
ใช้คล่องๆ แค่แตะๆ ก็ทำงานแล้ว น่าจะโอเคดี
touchbar เนี่ย ใช้ไปนานๆมีโอกาสพังไหมครับ มันก็เหมือนพวกจอสัมผัสบนมือถือ โอกาสพังก็มีสูงเหมือนกัน น่าจะเป็นตัวเลือกมากกว่า แล้วอีกอย่างตัว USB นี่ก็ตัดหมดเลย ....
Thunderbolt มีใครใช้บ้างไหมครับ น่าจะให้มาสักช่องก็ยังดี อันนี้มัดมือชกมาก เท่ากับต้องซื้อ Adapter ใหม่หมดเลย
ปล. ผมยังใช้ Firewire 800 อยู่เลย ลองถาม Apple Support แล้วต้องต่อ Adapter วุ่นวายมาก
USB-C to Thunderbolt >> Thunderbolt to Firewire 800 >> Firewire 800 เศร้า
touchbar เนี่ย ใช้ไปนานๆมีโอกาสพังไหมครับ มันก็เหมือนพวกจอสัมผัสบนมือถือ โอกาสพังก็มีสูงเหมือนกัน น่าจะเป็นตัวเลือกมากกว่า แล้วอีกอย่างตัว USB นี่ก็ตัดหมดเลย ....
Thunderbolt มีใครใช้บ้างไหมครับ น่าจะให้มาสักช่องก็ยังดี อันนี้มัดมือชกมาก เท่ากับต้องซื้อ Adapter ใหม่หมดเลย
ปล. ผมยังใช้ Firewire 800 อยู่เลย ลองถาม Apple Support แล้วต้องต่อ Adapter วุ่นวายมาก
USB-C to Thunderbolt >> Thunderbolt to Firewire 800 >> Firewire 800 เศร้า
ถืง => ถึง
กังวาล => กังวาน