Shazam ผู้บริการระบุชื่อเพลงโดยใช้การวิเคราะห์เสียงเพลง เตรียมจะออกอัพเดตแอพบน Mac เวอร์ชันใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากมีผู้ค้นพบว่าตัวแอพนั้นได้เปิดไมโครโฟนไว้เพื่อฟังเสียงตลอดเวลา แม้ว่าจะสั่งปิดไปแล้วก็ตาม

ปัญหานี้ Patrick Wardle ซึ่งเป็น R&D Director จาก Synack ที่สร้างแอพ OverSight สำหรับตรวจสอบว่าแอพไหนกำลังเข้าถึงเว็บแคมและไมโครโฟนในตัวเครื่อง เขาใช้แอพนี้ตรวจเจอว่า Shazam มีปัญหาดังกล่าว คือถ้าผู้ใช้ยังเปิดแอพอยู่แต่สั่งปิดไมโครโฟนไปแล้ว ตัวแอพก็จะยังใช้งานไมโครโฟนอยู่ ต้องปิดตัวแอพไปเลยจึงจะเลิกใช้จริง ๆ

Motherboard รายงานว่า จากการที่ได้พูดคุยกับตัว Wardle เอง และผู้สร้างแอพ Shazam แล้ว พบว่าแม้ตัวแอพจะฟังเสียงอยู่ แต่ Shazam นั้นไม่ได้เอาข้อมูลเสียงไปเก็บ, ประมวลผล หรืออัพโหลดขึ้นไปเมื่อปิดไมโครโฟน (คือหมายความว่า ไมโครโฟนนั้นเปิดตลอดเวลา แต่ว่าจะเริ่มส่งข้อมูลเมื่อผู้ใช้สั่งเปิดให้ค้นหาเพลงเท่านั้น)

Fabio Santini ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Shazam กล่าวกับ CNET ว่า ปัญหานี้เกิดเฉพาะแอพบน Mac เท่านั้น และยืนยันว่าข้อมูลที่ได้อัดไปไม่มีประโยชน์กับแฮกเกอร์ เนื่องจาก Shazam ใช้วิธีระบุชื่อเพลงโดยการทำ fingerprint ของเพลงโดยใช้การสุ่มตัวอย่างเพียงไม่กี่จุดจากเพลงเต็มเพื่อไปจับคู่กับเพลงบนฐานข้อมูลเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถทำการวิศวกรรมย้อนกลับเพื่อทำให้ได้เสียงต้นฉบับได้

ที่มา AppleInsider, CNET, Motherboard