เมื่อวานนี้ Evernote ปรับนโยบายความเป็นส่วนตัว อนุญาตให้พนักงานอ่านข้อมูลลูกค้าเพื่อทำ Machine Learning แต่หลังจากนโยบายใหม่ถูกประกาศออกมา บริษัทก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องปรับเปลี่ยนแนวทางแล้ว
เดิมที Evernote บังคับใช้นโยบายใหม่กับผู้ใช้ทุกคน ยกเว้นคนที่ไม่ต้องการสามารถกดยกเลิกเองได้ (opt-out) แต่รอบใหม่นี้ Evernote ประกาศยกเลิกแผนการเดิม และจะออกนโยบายใหม่ที่เป็นแบบ opt-in หรือผู้ใช้เป็นคนสมัครใจให้ข้อมูลเอง โดยบริษัทจะส่ง invite ให้ลูกค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการในภายหลัง
Chris O’Neill ซีอีโอของบริษัทประกาศยอมรับความผิดพลาดที่ออกนโยบายนี้ และบอกว่าบริษัทรับฟังความเห็นจากผู้ใช้และปรับแผนทันที พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีพนักงานคนใดอ่านข้อมูลของลูกค้าจนกว่าจะได้รับอนุญาตอย่างแน่นอน
ใครที่ยังเชื่อมั่นใน Evernote อยู่ ก็สบายใจขึ้นได้ครับ
ที่มา - Evernote
Comments
อ่าววว ยอมยกเลิกด้วยเหะ
แล้วค่ายอื่นๆละว่าไง
อ่อนแอจริงๆแค่นี้ก็ทนเสียงวิจารณ์ไม่ได้
อืม ดีแล้ว เดียวเจ๊งหรอก ขี้เกียจย้่้าย
evernote ต้องมาศึกษาดูงานกับรัฐบาลไทยแล้ว แข็งแกร่งขนาด 3 แสนเสียงค้านยังเมินเลย
กำลังจะเหน็บเหมือนกัน หุหุ
จะแน่ใจได้อย่างไร เพิ่งจะอัพเกรดแบบเสียตังไปแล้วแท้ๆ --
ตั้งแต่ใช้ Keep คล่อง ก็ทิ้งเจ้านี้ไปแล้ว
สิ่งที่ Evernote ไม่มี
- Banner
- API เอาไว้เขียนโปรแกรมเชื่อมต่อ
- element ตารางห่วยมาก แก้ไขยาก
- Machine Learning (เข้าใจว่าค่ายอื่นมีกันแล้ว)
- การปรับตัวเข้ากับยุคสมัย เนื่องจากแนวทางการตลาดให้ใช้งานฟรีแบบมีข้อจำกัด หากต้องการเพิ่มเติมต้อง
เสียตังค์ ทีนี้ในปัจจุบันแนวทางแบบเดิมมันฆ่าตัวตายชัดๆ เล่นจำกัดสิทธิ์ต่างๆ นาๆ พยายามทุกวิธีทางให้ผู้ใช้
Upgrade และจ่ายจังค์ให้ได้ มันจะเป็นไปได้ได้อย่างไรในเมื่อคู่แข่งรายใหญ่รายอื่นๆ เล่นแจกฟรีกันหมด ถึงแม้
จะเป็นแบบจ่ายตังค์ก็เป็นการให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น ลูกเล่นต่างๆ แทบเหมือนเดิมแทบจะไม่มีกั๊ก
พักหลังลูกเล่น Evernote แทบไม่มีเพิ่มมาเลย
สิ่งที่ Evernote และ(เกือบ)เป็นจุดแข็ง
- การค้นหาที่รวดเร็ว (google keep ก็เร็วนะ น่าจะเร็วกว่าด้วย)
- UI ทีสวย (แต่เทอะทะ)
- มี app หลาย platform
- ภายหลังเชื่อมโยงข้อมูลกับ google ได้ด้วย
เมื่อก่อนผมยอมเสียเงินใช้แบบ premium ด้วย ตอนนี้เปลี่ยนไปใช้ keep แล้ว
อยากทำอะไรก็เชิญ เอาที่สบายใจเลย