มีผู้ใช้แอพจดโน้ต Evernote พบข้อความแจ้งเตือนในแอพ ระบุว่าบัญชีแบบฟรีจะถูกจำกัดจำนวนโน้ตเหลือเพียง 50 รายการ จากเดิมที่ไม่จำกัดจำนวนโน้ต แต่จำกัดปริมาณข้อมูลซิงก์ขึ้นคลาวด์ที่ 60MB ต่อเดือน และจำกัดจำนวนเครื่องที่ใช้งาน

ข้อความโฆษณานี้เชิญชวนให้ผู้ใช้ Evernote จ่ายเงินซื้อแพ็กเกจพรีเมียมที่สร้างโน้ตได้ไม่จำกัด โดยช่วงนี้ลดราคา 40% จาก 129.99 ดอลลาร์ต่อปี ลงมาเหลือ 77.99 ดอลลาร์ต่อปี

โฆษกของ Evernote ระบุว่ายังไม่ได้ประกาศนโยบายใหม่บนหน้าเว็บ เพราะอยู่ในช่วงทดสอบกับผู้ใช้บางส่วน และยังไม่ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าตามแผนนี้หรือไม่ แต่แน่นอนว่าข่าวนี้ย่อมทำให้ผู้ใช้ Evernote เดิมไม่พอใจที่ถูกจำกัดสิทธิมากขึ้นเรื่อยๆ

Evernote แอปจดบันทึกยอดนิยมในช่วงเวลาหนึ่ง ประกาศปลดพนักงานเกือบทั้งหมดในสำนักงานที่สหรัฐอเมริกาและชิลี หลังจากบริษัทขายกิจการให้ Bending Spoons บริษัทพัฒนาแอปแต่งวิดีโอ-รูปภาพจากอิตาลี เมื่อปลายปีที่แล้ว

Luca Ferrari ซีอีโอ Bending Spoons บอกว่าการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ของ Evernote นี้ จะย้ายสำนักงานทั้งหมดไปรวมอยู่ที่ยุโรปเพื่อควบคุมต้นทุน

Evernote เคยปลดพนักงานมาแล้วในปี 2015, 2018 และในปีนี้อีก 129 คน จนมาถึงรอบล่าสุดนี้ที่ปลดพนักงานเกือบทั้งหมด

Evernote แอปจดบันทึกที่เพิ่งขายกิจการให้บริษัททำแอปตัดต่อวิดีโอ ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Offline Notes มีคุณสมบัติการทำงานตามชื่อ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดูเนื้อหาจดบันทึกในแอปมือถือได้ แม้ขณะนั้นไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่ากำหนดได้ว่าบันทึกใดที่ต้องการบันทึกเก็บไว้ดูตอนออฟไลน์ได้ แอปจึงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลทุกบันทึกที่เราอาจไม่ได้จำเป็นจะดูเวลาออฟไลน์

อย่างไรก็ตามฟีเจอร์เข้าถึงบันทึกแบบออฟไลน์ รองรับเฉพาะผู้ใช้งานที่เสียเงิน subscription เท่านั้น

ที่มา: 9to5Mac

Evernote แอปจดบันทึก ที่เคยเป็นที่นิยมในช่วงเวลาหนึ่ง ประกาศว่า Bending Spoons บริษัทผู้พัฒนาแอปแต่งวิดีโอ-รูปภาพจากอิตาลี ตกลงเข้าซื้อกิจการทั้งหมด โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีล ทั้งนี้ Evernote บอกว่าข้อมูลผู้ใช้งานทั้งหมดยังคงเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย และให้บริการต่อไปตามเดิม

Bending Spoons เป็นผู้พัฒนาแอปตัดต่อวิดีโอ Splice และแอปแต่งรูปภาพ Remini ซึ่งแม้ดูแล้วอาจไม่ตรงกับบริการของ Evernote นัก แต่ทาง Evernote ก็บอกว่า Bending Spoons มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแอปสำหรับใช้งานผ่านมือถือ มีฐานผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคน และมีสถานะการเงินที่ดี ซึ่งสามารถช่วยเหลือ Evernote ได้

Evernote ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ อาทิ Tasks สำหรับสร้างลิสต์ To-Do และแชร์ให้ผู้ใช้งานคนอื่นได้, Calendar เพิ่มความสามารถเชื่อมต่อกับ Google Calendar, รองรับการใช้งานบน Linux (สถานะเบต้า) และเพิ่มเสิร์ชแบบบูลีน

แม้มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มมา แต่ Evernote ก็ประกาศปรับแผนในการใช้งานด้วย ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีอาจเข้าถึงบางคุณสมบัติไม่ได้ รายละเอียดดังนี้

Evernote ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สำหรับผู้ใช้งานบน iOS และ Android โดยสามารถสร้าง แก้ไข และจัดการตาราง (Table) ได้ผ่านแอปบนมือถือ เหมือนกับที่ใช้งานในเวอร์ชันบน Windows, Mac และผ่านเว็บ

Evernote บอกว่าฟีเจอร์นี้มีลูกค้าเรียกร้องเข้ามามาก ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีแอปออกมาบน iPhone ซึ่ง Evernote ก็เคลมว่าการใช้งานแก้ไขตารางผ่านแอปมือถือนี้ ดีที่สุดในบรรดาแอปจดบันทึกประเภทเดียวกัน

ฟีเจอร์ดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้ใช้งานไม่เกิน 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยผู้ใช้ Evernote ต้องอัพเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อน

ที่มา: Evernote

Evernote ประกาศยกเครื่องแอปใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มการเปลี่ยนแปลงแล้วสำหรับ iOS เป็นแพลตฟอร์มแรก ส่วน Android, Windows และ Mac จะออกตามมาในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

แอป Evernote แบบใหม่บน iOS ดูเรียบง่ายสะอาดตามากขึ้นกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า รวมทั้งปรับ UI หลายอย่าง พร้อมฟีเจอร์อย่างเช่น เสิร์ชเรียลไทม์, ระบบจัดการแท็ก และอื่น ๆ

Erin Griffith แห่ง The New York Times เขียนรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์อันยากลำบากของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น (มูลค่ากิจการมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์) อย่าง Evernote แพลตฟอร์มจดบันทึกข้อมูลที่หลายคนน่าจะเคยใช้ หรือยังใช้อยู่

Evernote แอปจดบันทึก ที่สถานการณ์ในช่วงหลังมีข่าวไม่ค่อยดีมาเป็นระยะ ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงทยอยลาออก จนถึงปลดพนักงาน ล่าสุด Evernote ประกาศว่า Chris O’Neill ซีอีโอได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ Ian Small ขึ้นมาแทน

Ian Small เขียนบล็อกถึงแนวทางที่เขาจะทำต่อไปกับ Evernote โดยพูดถึงช่วงที่เขาทำงานกับผู้ก่อตั้ง Stepan Pachikov ว่าแนวทางของ Evernote คือสร้างเครื่องมือช่วยจดจำ ซึ่งถึงตอนนี้แอปประสบความสำเร็จและมาไกลจากจุดเริ่มต้นมาก เขาจึงอยากให้ Evernote เป็นบริการที่ทุกคนต้องใช้งานมันต่อไป และจะศึกษาแนวทางเพิ่มเติมจากทุกคน

สถานการณ์ของ Evernote ในช่วงหลังไม่ค่อยดีนัก ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งมีข่าว ผู้บริหารระดับสูงลาออกกันชุดใหญ่ ล่าสุดมีเอกสารหลุดออกมาว่า Evernote ปลดพนักงานออกราว 15% หรือคิดเป็นจำนวนคือ 54 คน

ในเอกสารนี้ ซีอีโอ Chris O’Neill ยังให้ข้อมูลว่าบริษัทเติบโตขึ้น 20% ในครึ่งแรกของปีนี้ (ไม่ระบุว่าตัวเลขไหนที่เติบโต) บริษัทมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีเงินสดในมือประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ รายได้ในไตรมาสที่สามจะอยู่ประมาณ 27 ล้านดอลลาร์ และปี 2018 จะจบด้วยกำไร

TechCrunch รายงานว่าสถานการณ์ภายในของ Evernote แอปจดบันทึกที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก 225 ล้านคน กำลังอยู่ในช่วงยากลำบาก เนื่องจากในเดือนที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงได้ทยอยลาออกกันหลายคน ตั้งแต่ระดับ CTO (เทคโนโลยี), CFO (การเงิน), CPO (ผลิตภัณฑ์) ตลอดจนหัวหน้าฝ่าย HR โดยตัวแทนของ Evernote ได้ยืนยันข่าวดังกล่าวว่าเป็นความจริง

โดย Evernote ได้แก้ปัญหาผู้บริหารระดับสูงลาออกพร้อมกันหลายคน โดยให้ผู้บริหารใหม่ที่รับเข้ามาใหม่ในตำแแหน่งอื่น เข้ามาช่วยรับภาระงานที่ว่างลงเพิ่มเติม เช่นหัวหน้าฝ่ายการตลาด ก็ให้ดูแลผลิตภัณฑ์ด้วย เป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจคือ Evernote กำลังเจรจาเตรียมปิดดีลรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ผู้บริหารระดับสูงลาออกหลายคน

Evernote ประกาศปรับโฉมแบรนด์ใหม่ โดยมีสิ่งเปลี่ยนแปลงสำคัญคือโลโก้ช้าง เปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีเขียว พื้นหลังสลับมาเป็นสีขาวแทน (ช้างตัวนี้ชื่อว่า Mads)

นอกจากโลโก้ใหม่ Evernote ยังบอกว่าบริการจดบันทึกนี้ เริ่มเปิดตัวตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 10 ปี สิ่งที่เปลี่ยนไปคือตอนนั้น Evernote มีแอปบนมือถือเพื่อจดกันลืม และให้เข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา แต่ในปัจจุบันเป็นยุค Mobile First ตัวบริการ Evernote จึงต้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้อง

โดย Evernote ให้นิยามกว้าง ๆ ว่า จากนี้จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสในสิ่งที่สำคัญ โดยจะเพิ่มความสามารถอย่าง เครื่องมือสำหรับการทำงานเป็นทีม, เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอื่น ๆ และจะมีคุณสมบัติใหม่เพิ่มเติมอีกในอนาคต

Evernote ขยายตลาดเข้าไปในจีนตั้งแต่ปี 2012 ด้วยชื่อ Yinxiang Biji โดยตั้งทีมวิศวกรและทีมบริการลูกค้าและศูนย์ข้อมูลในปักกิ่ง การบริการก็แยกขาดจาก Evernote ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดย Yinxiang Biji จะขยับไปสู่การบริหารแบบเป็นอิสระเลย มีผู้ถือหุ้นรายย่อยและมีทีมผู้บริหารคนจีนคอยควบคุม นอกจากนี้ Yinxiang Biji ยังได้รับเงินระดมทุนจากกองทุน Sequoia CBC Cross-border Digital Industry ในซีรีส์ A ด้วย แต่ไม่เปิดเผยจำนวนเงิน

Evernote ประกาศว่าทางบริษัทจะเลิกสนับสนุนแอพสำหรับแพลตฟอร์ม BlackBerry และ Windows Phone ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยการเลิกสนับสนุนในครั้งนี้คือการหยุดให้ดาวน์โหลดและอัพเดตแอพเพื่อแก้ปัญหาหรือเพิ่มฟีเจอร์ในอนาคต แต่ตัวแอพที่ผู้ใช้ติดตั้งอยู่จะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ

ส่วนข้อมูลของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตหรือโน้ตบุคจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดยโน้ตที่บันทึกและซิงค์ไปยัง Evernote จะยังคงสามารถใช้งานบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อยู่เช่นเดิม

ทั้งนี้ Evernote ให้เหตุผลว่าการหยุดสนับสนุนแพลตฟอร์มทั้งสองนี้เพื่อเป็นการนำเวลาและทรัพยากรของบริษัทไปโฟกัสที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญ คือ Evernote Web รวมถึงแอพบน iOS, Android, Windows

Evernote ได้ออกแอพใหม่สำหรับ iOS เวอร์ชัน 8.0 โดยรอบนี้มาพร้อมกับการออกแบบตัวแอพใหม่ทั้งหมด สามารถสร้างโน้ตและค้นหาได้ง่ายขึ้น และเปลี่ยนจากสีดำบนสีเขียว ไปใช้สีขาวดำแทน โดยมีฟีเจอร์ที่ Evernote อธิบายไว้ดังนี้

ค้นหาง่ายขึ้น: ปรับปรุงส่วน navigation ของแอพใหม่ทั้งหมด นำหน้าโฮมออกไปแทนที่ด้วยโน้ตล่าสุด, ดูโน้ตทั้งหมดคร่าว ๆ ได้ไวขึ้น, notebook ก็สามารถแตะเลือกด้านบนโน้ตใดก็ได้ ไม่ต้องเปลี่ยน notebook ไปมาเพื่อหาโน๊ต, แตะที่นาฬิกาบนโน้ตใดก็ได้เพื่อแสดงโน้ตที่ตั้ง reminders ไว้ หรือถ้าต้องการแสดงตามแท็กของโน้ต ก็แตะที่แท็กได้เลย

หลัง Evernote ปรับเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัว และถูกถล่มเละ จนต้องยกเลิกแผนการเดิม

ล่าสุดบริษัทออกมาประกาศยุทธศาสตร์ระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมซ้ำอีก ดังนี้

เมื่อวานนี้ Evernote ปรับนโยบายความเป็นส่วนตัว อนุญาตให้พนักงานอ่านข้อมูลลูกค้าเพื่อทำ Machine Learning แต่หลังจากนโยบายใหม่ถูกประกาศออกมา บริษัทก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องปรับเปลี่ยนแนวทางแล้ว

เดิมที Evernote บังคับใช้นโยบายใหม่กับผู้ใช้ทุกคน ยกเว้นคนที่ไม่ต้องการสามารถกดยกเลิกเองได้ (opt-out) แต่รอบใหม่นี้ Evernote ประกาศยกเลิกแผนการเดิม และจะออกนโยบายใหม่ที่เป็นแบบ opt-in หรือผู้ใช้เป็นคนสมัครใจให้ข้อมูลเอง โดยบริษัทจะส่ง invite ให้ลูกค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการในภายหลัง

Evernote ประกาศปรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ใหม่ อนุญาตให้พนักงานบางคนของบริษัทสามารถเข้าถึง "ข้อมูล" ในโน้ตของผู้ใช้ เพื่อนำไปพัฒนาระบบ machine learning ได้

Evernote ระบุว่าเป้าหมายคือปรับปรุงเทคโนโลยี machine learning ของตัวเองให้แม่นยำยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้พนักงานที่เป็นมนุษย์เข้ามาตรวจสอบความแม่นยำของ machine learning อีกชั้น บริษัทยืนยันว่าจะจำกัดจำนวนพนักงานที่เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้เท่าที่จำเป็น ตรวจสอบประวัติของพนักงาน เก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าที่นำมาใช้อย่างเคร่งครัด

หลังจากที่ปล่อยเวอร์ชัน Windows มาตั้งแต่เดือนมีนาคม พร้อมสัญญาว่าจะออกเวอร์ชันสำหรับ Mac ในเร็วๆ นี้ หลังจากที่ได้รับเสียงตอบรับมาจำนวนหนึ่ง ล่าสุด ทางไมโครซอฟท์ได้ปล่อย OneNote Importer tool for Mac แล้ว พร้อมชูจุดเด่นในราคาที่ถูกกว่า Evernote สำหรับเวอร์ชันเสียเงิน

ตัวโปรแกรมสามารถใช้ได้บน Mac OS X 10.11 (El Capitan) ขึ้นไป และจะทำงานได้เร็วขึ้น หากลงโปรแกรม Evernote ไว้ในเครื่องและซิงค์ข้อมูลไว้เรียบร้อย

นอกจากนี้ ทางไมโครซอฟท์เผยว่า สำหรับเวอร์ชัน Windows ได้มีการย้ายบันทึกจาก Evernote มายัง OneNote กว่า 71 ล้านหน้า

ปัจจุบัน Evernote มีแอพเวอร์ชันบนวินโดวส์ 2 ตัวคือ Evernote Desktop รุ่น Win32 และ Evernote Touch ที่เป็นแอพบน Windows Store มาตั้งแต่ยุค Windows 8

ล่าสุด Evernote ประกาศยกเลิกแอพ Evernote Touch แล้ว โดยจะเหลือ Evernote for Windows เพียงตัวเดียว ซึ่งบริษัทก็จะอัพเกรดจากแอพเดสก์ท็อปแบบดั้งเดิม ให้เป็นแอพแบบ Universal บน Windows Store ด้วย

สำหรับผู้ใช้ Evernote ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเงื่อนไขการใช้งานใหม่ และกำลังมองหาทางออก Microsoft ได้ออกเครื่องมือสำหรับช่วยย้ายบันทึกจาก Evernote มาสู่ Onenote แล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงก์นี้

สามารถดูวิดีโอวิธีการใช้งานได้ที่ท้ายข่าว

ที่มา MSPoweruser

Evernote ประกาศเปลี่ยนแปลงการให้บริการสำหรับแผน Basic (ใช้ฟรี) และปรับราคาใหม่สำหรับแผนเสียเงิน (Plus และ Premium) มีรายละเอียดดังนี้

• Evernote Basic ใช้งานฟรีเหมือนเดิม แต่จำกัดอุปกรณ์เชื่อมต่อเหลือ 2 อุปกรณ์ (เดิมไม่จำกัด) โดยนับรวมหมดทั้งแอพในสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป ยกเว้น Evernote Web, Evernote บน Apple Watch, Evernote บน Windows Touch, Web Clipper, Skitch และ Penultimate รวมถึงแอพที่ใช้ API โดยผู้ที่ปัจจุบันใช้มากกว่า 2 อุปกรณ์จะได้รับอีเมลแจ้งเตือนให้แก้ไข
• Evernote Plus และ Evernote Premium ปรับค่าบริการในสกุลดอลลาร์เป็น 34.99 และ 69.99 ดอลลาร์ต่อปีตามลำดับ (เดิม 24.99 และ 49.99 ดอลลาร์) ส่วนราคาในสกุลเงินบาท ณ ตอนที่เขียนข่าวนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง คือ 400 และ 800 บาทต่อปี

Evernote ระบุสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลงบริการและราคาว่าเนื่องจากธุรกิจ Evernote โฟกัสที่การทำแอพบันทึกให้ดีที่สุดเท่านั้น โดยไม่มีรายได้จากการโฆษณาหรือขายข้อมูลผู้ใช้งานเลย จึงต้องปรับเงื่อนไขดังกล่าว

ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 และ Windows 10 Mobile รุ่นทดสอบ 14372 ให้ Windows Insider กลุ่ม Fast ring แล้ว

รุ่นทดสอบนี้เน้นแก้บั๊กเป็นหลัก มี known issue ฝั่งพีซี คือ คลิกการเชื่อมต่อเครือข่ายหรือ VPN ที่ทาสก์บาร์แล้วไม่เข้าหน้าตั้งค่า และเมื่อเปิดใช้โหมดนักพัฒนาจะเจอ error ส่วน known issue ฝั่งโมบายนั้น คือ มีการปรับฟอร์แมตของไฟล์สำรองข้อมูล หากถอยกลับไป Windows 10 Mobile ตัวจริง (รุ่น 10586) แล้วกู้คืนข้อมูลจะไม่คืนค่า Start screen รวมถึงมีปัญหาแบตเตอรี่บนเครื่องใช้ชิปรุ่น 8974 อย่าง Lumia 830, 930 และ 1520 หมดเร็ว และการเชื่อมต่อไวไฟหลุดเอง

ฟีเจอร์สำคัญอันหนึ่งของ Evernote Plus/Premium คือการใส่รหัสผ่านเพื่อปกป้องความลับของโน้ตที่เราบันทึกไว้ (เช่น บางครั้งจดรหัสลับ หรือข้อมูลสำคัญ) ก่อนหน้านี้มีเฉพาะผู้ใช้ที่จ่ายเงินซื้อรุ่นพรีเมียมเท่านั้น ที่มีสิทธิใช้งาน

แต่วันนี้ Evernote ประกาศเปิดฟีเจอร์นี้ให้กับผู้ใช้งานทุกคนแล้ว ผู้ใช้แอพบน Android, iOS, Windows Phone สามารถตั้งรหัส passcode เป็นตัวเลข 4 หลักเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้โน้ตของเราได้แล้ววันนี้

Chris O'Neill ซีอีโอคนใหม่ของ Evernote (มาแทนผู้ก่อตั้งเดิมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015) ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ถึงทิศทางของบริษัท หลังจากทำงานมาได้ 10 เดือน