Tags:
Node Thumbnail

SanDisk จับมือพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นเครือร้านค้าปลีกอย่าง Best Buy และ Wal-Mart กับค่ายเพลงได้แก่บิ๊กโฟร์ทั้งสี่ Sony BMG, EMI, Warner และ Universal ขายเพลงเป็นอัลบั้มที่อยู่ใน SD card โดยใช้ชื่อว่า slotMusic

เปรียบเทียบง่ายๆ slotMusic คือซีดีเพลงที่แปลงร่างมาเป็น SD card ขนาด 1GB ภายในจะมีเพลงในอัลบั้มที่เป็นไฟล์ MP3 แบบไร้ DRM บีบอัดที่ 320 kbps โดยแพกเกจที่ขายจะให้หัวเสียบ USB มาด้วย เผื่อในกรณีที่เครื่องไม่มีตัวอ่าน SD แต่น่าจะพอนึกภาพออกว่ากลุ่มเป้าหมายหลักคือโทรศัพท์มือถือที่มีตัวอ่าน SD ในตัว ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคา

สำนักข่าวหลายแห่งมีความเห็นตรงกันโดยไม่นัดหมายว่า ไม่น่ารอด

ที่มา - SanDisk, Engadget, TechCrunch, GigaOM

Get latest news from Blognone

Comments

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 23 September 2008 - 04:59 #65785

ไม่น่ารอดเหรอเนี่ย ผมว่าไอเดียเข้าท่านะ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 23 September 2008 - 05:25 #65786
put4558350's picture

slotMusic ... slotMusic ... SM

น่าจะคิดเผื่อเรื่องความหมายของตัวย่อมั้งนะ - -"


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: kasemsakk
ContributorAndroidSymbianWindows
on 24 September 2008 - 00:08 #65901 Reply to:65786
kasemsakk's picture

SM มันคืออะไรครับ

เกิดไม่ทัน เหอะๆ...

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 23 September 2008 - 06:45 #65788

เอา uSD มาใช้ต่อได้ด้วย แต่มันจะทำให้มี เยอะเกิน เหอๆ

By: obtheair on 23 September 2008 - 09:59 #65794

ไม่น่ารอดครับ เพราะต้นทุน sd card มันสูงกว่า cd นะเออ

ได้เพลงเท่ากัน จะจ่ายแพงกว่าทำไม

By: latesleeper
Android
on 23 September 2008 - 10:46 #65801 Reply to:65794

อาจจะเป็นแค่ต้นทุนในตำนานก็ได้นะครับการอัดหรือสร้างซีดีเพลงต้องอาศัยกระบวนการผลิตแบบแผ่นต่อแผ่นในขณะที่ SD card ใช้วิธีผลิตเท่าไรก็ได้ เปลี่ยนเพลงเป็นอะไรก็ได้ (ถ้าของส่งกลับมาแบบขายไม่หมด เอามาลบใส่เพลงชุดใหม่ เปลี่ยนสติ๊กเกอร์ ส่งกลับไปขายได้ ไม่เสียเปล่าเหมือน CD ที่ขายไม่หมด)เทียบจากเทคโนโลยีการสร้างชิ้นแรกอาจจะแพง แต่ในระยะยาวผมว่าการปรับเปลี่ยนเนื้อหาภายในได้อาจทำให้ SD card ชาคริต (เป็นต่อ) ขึ้นมาก็ได้นะครับ -..-ไม่รู้นะนั่งเทียนคิดเอาเอง แต่คิดว่า SanDisk อยู่ในธุรกิจตัวนี้จนเคยมือพอสมควรแล้ว ไม่น่าจะพลาดง่ายๆ

By: demon69gt on 24 September 2008 - 13:06 #66010 Reply to:65801

ถ้าไม่วงเล็บ "เป็นต่อ" มุขนี้ตามไม่ทันจริงๆ นะเนี่ย ไม่ได้ดูเสียด้วยดิ

By: 9AuM on 23 September 2008 - 11:42 #65818 Reply to:65794

ถ้าเปลี่ยนจาก SD เป็น flashdrive ล่ะครับ เห็นปัจจุบัน 1G ราคาก็ถูกมากแล้ว
ตัว content เพลงก็มองเป็นราคาเหมือน download all album

มองเหมือนขายพ่วง ผู้ซื้อเสมือนซื้อราคาเท่ากับ CD เพลง

แต่ได้ Flashdrive ไปใช้ฟรีๆ พร้อมเพลง

ในขณะที่คนขายเพลงก็ขายเพลงได้ คนขาย flashdrive ก็ขาย hardware ได้
ขายไม่หมด ก็เอามา ลบ file ทิ้ง load เพลงใหม่ได้

น่าคิดเหมือนกันครับ

By: gab
Windows PhoneAndroidWindows
on 23 September 2008 - 14:29 #65841 Reply to:65794
gab's picture

ไม่รู้ว่าเก็บรักษาได้ง่ายและนานกว่า CD แค่ไหน แต่ผมจะใช้ sd card ประมาณแบบนี้จริงๆ ใส่เพลงที่ชอบๆแล้วไม่เอาออก แต่ถ้าเย่อะขึ้นๆ นี่ไม่รู้ว่าจะแยกยังไงดีเหมือนกันนะ ถ้ามี sd card tower แบบ cd tower คงง่ายดีพิลึก น่าจะเก็บได้มากกว่า cd tower มากโข แล้วเลือกอัลบัมด้วยกลไกทางไฟฟ้าคงเร็วกว่ามากมาย

By: gab
Windows PhoneAndroidWindows
on 23 September 2008 - 14:47 #65846 Reply to:65794
gab's picture

จะว่าไปนอกจากเป็น sd card tower แล้ว ทำเป็นสล็อตแผงแนวเรียงกันแบบเรียงกระเบื้อง กว้างยาวประมาณกรอบรูปก็น่าจะสวยนะ เป็นคอเล็คชั่นเก็บ sd card เพลงไปในตัว มีรูปบนตัว card เวลาจะหยิบใช้ก็ง่าย แล้วตัวสล็อตนี้ถ้ายิ่งสามารถ ดึงข้อมูลมาเพลงออกมาเล่นได้ไปในตัวก็คงเจ๋งดีเหมือนกันนะ เวลาเล่นเพลงจาก sd card ไหนอยู่ก็มีไฟเรืองๆที่ sd card นั้นก็แจ่มเลย....คิดไปแล้วก็อยากมีแบบนี้ซักเครื่องจัง

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 23 September 2008 - 15:25 #65848 Reply to:65846

ออกแบบแล้วไปจดลิขสิทธิ์ จากนั้นก็หาโรงงานผลิตขายเลย น่าะจะขายได้นะ :)

By: latesleeper
Android
on 23 September 2008 - 16:49 #65854 Reply to:65848

+10

By: mp3wizard
iPhone
on 23 September 2008 - 11:48 #65819

ในแง่ การอนุรักษ์ธรรมชาติ ก็ช่วยได้เยอะเลย เป็นผมๆ ก็ซื้อนะ ต่อไปอาจจะมีกลยุทธ ซื้อแยกเป็นเพลงของศิลปิน แล้วบันทึกใส่ SD บริการส่งถึงบ้านก็ได้... มันเพิ่มช่องทางการขายได้อีกเยอะ

By: loptar on 23 September 2008 - 12:09 #65822
loptar's picture

ผมว่ามันอาจน่าซื้อสัก 2-3 ชิ้น แต่พอหลังจากนั้น จะเอา sd card มาเก็บไว้เยอะๆทำไม

By: tvchampion on 23 September 2008 - 12:38 #65825

ประเด็นจริงๆ คือ โลกเราพัฒนาจนถึงขึ้นขั้นขายออนไลน์ได้แล้วต่างหาก
การขายออนไลน์ได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำสต็อกสินค้าแล้ว และทำซ้ำได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
ในประเทศที่อินเตอร์เน็ทมีทุกที่ และหลายอุปกรณ์ แล้วจะมาซื้อเพลงออฟไลน์กันทำไม ?

ส่วนประเทศที่อินเตอร์เน็ทเข้าถึงไมได้ทั่วอย่างบ้านเราหรือที่อื่นๆ
cdละเมิดลิขสิทธิ์มันก็ขายกันเกลื่อนจนทำให้ตลาดพัง
เพราะของมีลิขสิทธิ์ยังไงก็แพงกว่าของละเมิดอยู่ดีไม่ว่าจะลดราคายังไงหรือ
ไมว่าคุณจะเปลี่ยนเป็น เก็บด้วยอะไรก็ตาม

ทั้งหมดนี้ มีข้อยกเว้นในกรณี กลุ่มหูทอง กับแฟนคลับนักร้อง เท่านั้นครับ

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 23 September 2008 - 15:27 #65849 Reply to:65825

อย่างน้อย นี่ก็อาจเป็นความพยายามดิ้นรนของร้านขายเพลงแบบออฟไลน์ด้วยละมั้ง
เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคด้วย เผื่อใครไม่มั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ ก็ยังมีทางเลือกแบบออฟไลน์ที่คุณภาพ/ราคาไม่แตกต่างกันมาก :)

By: Mr.JoH
Writer
on 23 September 2008 - 16:20 #65851

ลองนึกถึงซื้อโค้กแบบเป็นขวด เอาขวดไปคืนแล้วได้ส่วนลด

ซื้sd ที่มีเพลง ก็อปเสร็จ เอาsd ไปคืน ได้ส่วนลด 555

Lastest Science News @Jusci.net


Lastest Science News @Jusci.net

By: bankkung
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 24 September 2008 - 01:46 #65925 Reply to:65851

แถมสปายแวร์ลงเครื่องน่ะสิ
ปล.ถ้าทำจริง มีหวังคนแรกคือพนักงานขาย ทำเสร็จแพคเกจจิ้งใหม่ ขายบนร้านเหมือนเดิม

By: toandthen
WriterMEconomics
on 23 September 2008 - 17:13 #65861
toandthen's picture

ถ้าทำแบบนี้แต่เป็น Flashdrive 32GB อาจจะพอสู้ Blu-ray ได้มั้ง (หรือฝันไปเนี่ย 55)


@TonsTweetings

By: kohsija
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 23 September 2008 - 18:25 #65868
kohsija's picture

แต่ผมสนนะ ซื้อของแท้ แถมเล้กพกพาง่าย
อาจจะเหมาะกับประเทศที่ยังไม่มี iTunes Store ก็ได้นะ

Kohsija

By: akira on 24 September 2008 - 01:26 #65919

อยากได้หนัง ลงใน SD มากกว่า เวลาไปไหนมาไหน อยากดูก็เสียบในอุปกรณ์ เลยไม่ต้องมาแปลงไฟล์ในคอมพิวเตอร์อีก

By: mk
FounderAndroid
on 24 September 2008 - 01:41 #65924 Reply to:65919
mk's picture

UMD?