เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มธนาคารประกาศแบ่งเป็นสองกลุ่มเร่งติดตั้งเครื่องรับจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ตอนนี้ทางกลุ่มธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพก็ออกมายืนยันยืนยันว่าจะติดตั้งเครื่องรับจ่ายนี้ ให้ครบ 550,000 เครื่องภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
เครื่อง 550,000 เครื่อง จะรวมกับเครื่องรับบัตรเครดิตที่เคยติดตั้งไปก่อนหน้านี้แล้ว ความพิเศษหลังจากนี้คงเป็นกระบวนการขอติดตั้งที่ค่อนข้างง่าย ทางธนาคารกสิกรไทยระบุว่าสำหรับประชาชนทั่วไปใช้เพียงสำเนาบัตรประชาชน และนิติบุคคลก็ใช้สำเนาหนังสือจดทะเบียน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึงค่าประกันอุปกรณ์ (ซึ่งได้คืนหลังคืนเครื่อง) ก็สามารถนำเครื่องไปก่อนแล้วจ่ายค่าประกันอุปกรณ์ในวันที่ 1 มกราคม 2561
ค่าธรรมเนียมการรับจ่ายผ่าน EDC เหล่านี้ จะอยู่ที่ 0.55% สำหรับการรับบัตรเดบิต, 1.6% สำหรับบัตรเครดิตปกติ, และ 2.2% สำหรับบัตรพรีเมี่ยม ทางธนาคารระบุว่าค่าธรรมเนียมนี้เป็นอัตราพิเศษ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเปลี่ยนอัตราค่าธรรมเนียมเมื่อใด ในทางปฎิบัติก็เป็นไปได้ว่าจะใช้อัตรานี้กันไปเป็นเวลานาน
ตอนนี้ทางธนาคารเริ่มติดต่อลูกค้าแล้ว Blognone เอง ในฐานะบริษัทก็ได้รับติดต่อให้ติดเครื่องรับบัตรแล้ว ใครเริ่มนำเครื่องมาติดตั้งและเริ่มใช้งานก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ
ที่มา - จดหมายข่าวธนาคารกสิกรไทย
Comments
ปีนี้ 2560 ใช่มั้ยครับ?
แก้ไขแล้วครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เสริมนิดว่าผมไม่ได้กวนนะครับ แต่ผมมักจะจำปีผิด ±1 ปีอยู่เรื่อยด้วยเลยไม่ค่อยมั่นใจ -.-'
ร้านทั่วไปน่าจะทำได้อยู่นะ เพราะ ค่าธรรมเนียม 2.2 แต่พวกขายส่งนี่ ไม่ไหว ไม่เหลืออะไรเลย
ปกติ 3.3% ป่ะ แสดงว่าถูกลง
ปกติของ กสิกรผมใช้อยู่ ก้เท่านี้อยู่แล้วครับ
1.6-1.8%
แต่ของผมยอดรูด 1,000,000++ / เดือนนะ
มีของธนาคารกรุงเทพ ที่โดน 2.7% มานาน แม้จะยอดรุดเพิ่ม ก้ขอลด % ไม่ได้สักที ตอนนี้เลยเลิกใช้ของธ.กรุงเทพไปแล้วเพราะเสีย% เยอะไป
รองรับ Apple pay ไหม…
แต่ Samsung pay นี่ได้แน่นอน
รอตั้งแต่ iPhone 6 ตอนนี้ก็ยังรอ...
เพิ่งเริ่มทำทั้งที ทำไมไม่ทำแบบที่มันแตะจ่ายด้วยมือถือ/อุปกรณ์อื่นๆ ได้ไปเลยอ่ะครับ หรือว่าเครื่องนี้มันแตะจ่ายได้อยู่แล้วครับ?
ใช้ mPOS อยู่ ดีนับว่าสะดวกดีนะครับ ไม่มีบังคับยอด ได้เครื่องใหญ่มาน่าจะให้ร้านน่าเชื่อถือขึ้น ว่าแต่ประกันเครื่องเท่าไรครับเนี่ย? ขนาดตัว mPOS ง่อยๆ จีนๆ ยัง 2XXX
ยอกเรื่อง โฆษณา blognone กำลังจะรับบัตรเครดิตหรือครับเนี่ย...
เหมือนผมโดน 2.8
แล้วก็เคยขอเครื่อง EDC ที่ธนาคารกรุงเทพ นานหลายเดือนก็ยังไม่ได้ สุดท้ายไปขอที่กสิกร เปิดซิมไปไม่มีค่ารายเดือนให้แบงค์ แล้วก็ไทยพานิชย์ก็ฟรี
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ผมไม่แน่ใจ แต่เท่าที่เห็นจากในภาพ ไม่เห็นสัญลักษณ์ paywave นี่น่าจะเป็นแบบที่รองรับแถบแม่เหล็ก (swipe) เพียงอย่างเดียวใข่ไหมครับ?
ผมเห็นรองรับ chip ด้วยนะครับ
คิดว่าหลังจากที่ ธปท. ผลักดันให้ใช้บัตรเดบิตแบบ Chip เท่านั้นเมื่อ 1-2 ปีก่อน ตอนนี้เครื่อง EDC ทั้งหมดน่าจะรับชิปแล้วแหละครับ
ถ้าแถบแม่เหล็กจะรูดข้างเครื่อง แต่ถ้าต่อกับชิปก็เสียบครับ
แต่ถ้าไร้สายก็แตะบนเครื่องได้เลย
แค่จะแย้งตรง
น่ะครับ
คือบ้านเราเห็นแต่แบบรูดมานานครับ พอดีไปเห็นประเทศเพื่อนบ้านเค้าไป Paywave กันเกือบทุกที่แล้ว (ห้างสรรพสินค้า, ภัตตาคาร) ลืมไปว่าเค้ายังมีแบบเสียบด้วย
555 นั่นสิครับ
บัตรเครดิตปกติ และ บัตรเครดิตพรีเมี่ยม ต่างกันยังไงครับ
ทำไมถึงคิดค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน
ผมเข้าใจว่าบัตรเคตดิตปกติ คือ Classic, Silver, Gold เดิม ส่วนบัตรเครดิตพรีเมียม ก็ตั้งแต่พวก Titanium, Platinum ขึ้นไป
เป็นเรื่องการอยากได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นของธนาคารและ Visa, Mastercard ครับ นอกจากเรื่องการยกระด้บผลิตภัณฑ์ที่มีต่อลูกค้าให้สูงขึ้นแล้ว (สิทธิประโยชน์จากบัตรระดับบนๆ นั้นดีจริง) ก็ยังเป็นการตีเนียนขึ้นค่าธรรมเนียมที่ชาร์จร้านค้าให้มากขึ้นกว่ากลุ่มบัตรธรรมดาไปด้วย
เดี๋ยวนี้บัตรธรรมดาเริ่มหาไม่ได้แล้วครับ อย่างที่ว่าเพราะพวกแบงค์เค้าอยากขึ้นค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตใจจะขาด แต่หากจะมาขึ้นดื้อๆ กับร้านค้า ร้านก็คงไม่ยอมแน่ (อย่างในยุคแรกๆ ที่เริ่มมีบัตรพรีเมียมอย่าง Platinum ที่ค่าธรรมเนียมสูงกว่า บางร้านถึงกับไม่ยอมรับบัตรเครดิต Platinum ก็มี) แต่สถานการณ์ปัจจุบันคือแบงค์ตีเนียน โดยการค่อยๆ ทำให้บัตรเครดิตธรรมดา หายไปจากตลาด แล้วทยอยเปลี่ยนบัตรธรรมดา บัตรเงินบัตรทองของลูกค้า ให้กลายเป็นเริ่มต้นที่บัตร Platinum ซะงั้น (ซึ่งเป็นบัตรที่หักค่าธรรมเนียมร้านค้าสูงขึ้น) ลูกค้าเดิมก็ไม่บ่นอะไรสิเพราะเหมือนรู้สึกได้อัพเกรดบัตรสูงขึ้นเป็นแพลตินั่ม (ทั้งๆ ที่ถ้าดูดีๆ แล้ว สิทธิประโยชน์ไม่ได้ต่างจากบัตรเงินบัตรทองเดิมเลย พวกสิทธิประโยชน์ดีๆ จากแพลตินั่มสมัยก่อนมันก็โยกตามไปให้บัตรที่ระดับสูงขึ้นแล้ว) ส่วนลูกค้า Platinum เดิม ก็ยกระดับไปอีก กลายเป็น Ultra Platinum, Beyond Platinum, Preferred, Select, Signature อะไรก็สุดแล้วแต่แบงค์สรรหามาเรียกให้ดูเหนือระดับกว่า และให้สิทธิประโยชน์ที่ดีจริง
สรุปว่าไปๆ มาๆ ตอนนี้บัตรเคตดิตส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นที่ Platinum ก้นหมดแล้ว ยุคบัตรแพลตตินัมเกลื่อนเมือง บัตรเงินบัตรทองแทบหาไม่ได้ละ ส่วนพวกกลุ่มไฮเอนด์ที่ใช้แพลตินัมเดิม ก็สรรหาคำมาเรียกใหม่ให้ดูพรีเมียมขึ้นไปอีก
....คนที่ซวยคือร้านค้า เผลอแค่แป๊บเดียว ทั้งตลาดกลายเป็นบัตรแบบพรีเมียมเกลื่อนเมืองไปหมดแล้ว แทบทุกบัตรที่เจอมันพรีเมียมหมด (จะปฏิเสธไม่รับแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้) แบบนี้ก็จ่ายค่าธรรมเนียมสูงขึ้นหมด เจอมุกตีเนียนขึ้นค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตแบบนี้ร้านค้าก็คงจะโวยวายอะไรไม่ทันแล้วละครับ โดนแบงค์บีบด้วยวิธีนี้ได้แสบมากๆ
ตั้งชื่ออารมณ์เหมือนยุคของปลอมที่คลั่งตัว A ของมิเรอร์เกรด A เกรด A+ เกรด AAA เกรด AAAAA+
ขอแก้ไขนิดนึงครับวว่า ระดับของบัตรเครดิตมันต้องดูที่ระดับของ Visa ครับ ไม่ใช่ชื่อเรียกบัตร อย่างเช่น Visa จะมี VISA Classic, Gold, Platinum, Signature และ Infinite (บัตรประเภท cash back มีชื่อว่า VISA cash back) และ MasterCard จะมี Standard, Gold, Platinum, World และ World Elite MasterCard (บัตรประเภท cash back มีชื่อว่า Titanium MasterCard) ครับ (อ้างอิงจากกระทู้นี้) จะไปยกว่าเป็น Xtra Ultra Beyond มันก็คือบัตร Platinum ธรรมดาแหละครับ ธนาคารเอาไปซอยย่อยเอง (บางทีก็ต่างแค่ว่าเป็นบัตร Visa หรือ Master) ส่วนที่เป็นระดับบนอยู่แล้ว เช่น Signature มันก็อยู่บนอยู่แบบนั้นมาตลอดครับ แค่เมื่อก่อนลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะมีไม่เยอะเท่าไหร่
ทีนี้คำว่าบัตร "พรีเมี่ยม" ผมก็ไม่ทราบว่าตัดกันที่ระดับไหน ถ้าตัดกันที่ Platinum ก็คงจะมีกันเพียบจริงๆ อย่างที่คุณว่า แต่บัตรทั่วไปก็ยังสมัครกันได้นะครับ อย่างของ BBL ผมเห็นบัตรธรรมดา (ที่ไป Partner กับที่นั่นที่นี่) มีเต็มเลย
ผมเบื่อกับการซอยย่อยพวกนี้มากๆครับ ตอนนี้การแบ่งคลาสมีสองสเตปแล้ว แบ่งโดยธนาคาร และ แบ่งโดย Visa Master ยกตัวอย่างผมขอ'บัตร Master Card กับ อินออนไป ได้บัตรสีม่วง ซึ่งเป็นคลาสต่ำสุด ในฐานะของอิออน บัตรนี้คือคลาสสิก แต่มีพิมพ์ตัว P เพิ่มลงบัตร เพราะ Master Card มีข้อกำหนดว่า คลาสของ Master Card ถ้าเป็น Platinum ต้อง ระบุคำเต็ม หรือ ใส่ตัวย่อ เป็นตัว P
สรุปคือ เบเนฟิก ระหว่างผมกับอิออน คือ ลูกค้าคลาสต่ำสุด แต่เวลาร้านค้ารูด โดนชาร์จในเรต Platinum
บัตรพรีเมี่ยมบางร้านก็ไม่รับ เพราะค่าธรรมเนียมแพงนี่แหละ
บางคนถือคิดว่าพนักงานจะดูแลเป็นพิเศษ กลับโดนไม่สนใจเำราะบัตรพรีเมี่ยมนี่แหละ
ประเด็นหลักที่ร้านทั่วๆไปไม่ติดเพราะ
- ค่าเครื่องที่ต้องจ่ายให้ธนาคารเป็นรายปี (ในข่าวบอกจ่ายแล้วได้คืน แล้วปีอื่นๆต้องจ่ายอีกมั้ยหว่า)
- ค่าธรรมเนียมที่จะถูกหักจากเงินที่ลูกค้าจ่าย
- เงินไม่ได้เข้าบัญชีทันที
มันก็เป็นแบบนี้ทั่วโลกไม่ใช่แค่ในไทย
ผมก็เข้าใจว่าเค้าไม่ได้บอกว่าเฉพาะในไทยนี่ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ถึงเข้าวันถัดไป ไม่น่าจะนานที่จะเป็นประเด็นได้ แต่ค่าธรรมเนียมมากไปหน่อยครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เงินตัดยอดทุกเที่ยงคืน โอนเข้าบัญชีช่วงเช้าวันถัดไปครับ ทั้งยอดรูดผ่อนและรูดเต็ม อันนี้ผมใช้ mPOS KBank ไม่รู้ตัวอื่นจะเหมือนมั้ย
BTS ล่ะ
+1
เดี๋ยวนี้เปิด Merchant ง่ายขนาดนี้แล้วหรือ
อีกหน่อยคงต้องทำ app รับจ่ายผ่าน promptpay ได้อีก จะได้ครบวงจร
"...ยืนยันยืนยันว่าจะติดตั้งเครื่องรับจ่ายนี้ " => ยืนยัน
ดีแล้วครับ ที่เวียดนามนี่ Taxi มีที่รูดทุกคันเลย