อินเดียนั้นได้ชื่อว่าเป็นแหล่งแรงงานไอทีขนาดใหญ่ให้กับบริษัทจำนวนมากในโลก แต่ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ทำให้วงการไอทีอินเดียอาจจะต้องหาทางออกใหม่ๆ เมื่อสามชาติสำคัญ คือ สหรัฐฯ, อังกฤษ, และสิงคโปร์ เริ่มกีดกันแรงงานไอทีอินเดีย
สหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีท่าทีกีดกันแรงงานต่างชาติมากขึ้น วิซ่าทำงาน H-1B ล่าสุดระบุว่าตำแหน่งโปรแกรมเมอร์จะไม่เข้าข่ายอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เข้าข่ายวีซ่านี้อีกต่อไป ส่วนอังกฤษเพิ่งยกเลิกวีซ่า Tier-2 สำหรับการส่งคนไปทำงานข้ามบริษัทแบบระยะสั้น บังคับให้บริษัทที่จะขอวีซ่าทำงานต้องเป็นวีซ่าระยะยาวที่มีข้อกำหนดเงินเดือนขั้นต่ำ 73,900 ปอนด์ต่อปี ส่วนสิงคโปร์แม้จะไม่มีมาตรการอะไรออกมาชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ให้วีซ่าทำงานกับวิศวกรอินเดียตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา และบริษัทไอทีอินเดียที่เปิดสาขาในสิงคโปร์ได้รับคำแนะนำให้จ้างคนท้องถิ่นแทน
กรณีของสิงคโปร์อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลอินเดียอย่างหนัก โดยมีข่าวจากแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่าอินเดียหยุดการพิจารณาการขยายข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอินเดียกับสิงคโปร์ไว้ก่อน จากการที่สิงคโปร์ไม่ยอมให้วีซ่ากับโปรแกรมเมอร์อินเดีย
ที่มา - Economic Times, Channel News Asia, Times of India
Comments
เอ เค้ามีปัญหาอะไรกับโปรแกรมเมอร์อินเดียเหรอครัย
แย่งงานคนประเทสตัวเองครับ เพราะค่าแรงอินเดียถูกกว่าจ้างคนในประเทศเขาเอง อีกหน่อยคงเลี่ยงด้วยการตั้งสาขาที่อินเดียเลยแล้วส่งโค๊ดกลับประเทศหนักกว่าเดิม!!!
หลายบริษัทก็ทำอยู่นะครับ
ผมว่าไม่มีใครว่านะถ้าไปตั้งที่อินเดียเลยครับ
จริงๆ ที่ผ่านมาก็ตั้งแล้วรับงานกันที่ล่ะครับ แต่ในโลกความเป็นจริงการทำงานยังไงเสียก็ต้องมีการเจอหน้ากันบ้าง จะให้บินไปครึ่งโลกประชุมไม่กี่วันแล้วกลับทุกรอบก็ไม่ไหว เลยมีความพยายามจะอิมพอร์ตโปรแกรมเมอร์เข้าไปทำงานในประเทศปลายทาง อาจจะระยะยาวหรือสั้นก็แล้วแต่โอกาสของแต่ละประเทศ แต่ก็อยู่กันแบบใช้วีซ่าทำงานเป็นระยะเวลานานกว่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าธุรกิจปกติแน่นอน
lewcpe.com, @wasonliw
เหตุผลน่าจะเหมือนกับทรัมป์นะครับ คือเพิ่มอัตราจ้างงานในประเทศ
อ่านเหตุผลของสองท่านแล้วผมว่าก็ยังไม่สมน้ำสมเนื้อนะครับ ถึงขั้นประกาศว่าไม่เอาแรงงานประเทศนั้นประเทศนี้มันเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศเลยนะ แล้วมีผลตามมาอีกเยอะเลย เหตุผลมันไม่สมน้ำสมเนื้อเลยครับ
ไม่ได้เกี่ยวกับข่าว แต่สำเนียงคนที่นี่ฟังยากมากครับ ทำงานด้วยกันทีไรอยากร้องไห้
อยู่ที่ความเคยชินครับ อีกอย่างสำเนียงฟังยากไม่แย่เท่าไม่รู้ศัพท์นะครับ
อินเดียมะกันยังพอว่า อินเดียที่อยู่อินเดียเลยนี่แทบร้อง
ไม่มีปัญหาสำเนียงอินเดียเท่าสำเนียงญี่ปุ่น (นั่นภาษาอังกฤษเรอะ!) และสำเนียงอังกฤษบางพื้นที่
+1 เลย
The Last Wizard Of Century.
สำหรับผม ผมผมอยากร้องไห้กับสำเนียงสิงคโปร์ มากกว่าสำเนียงอินเดียครับ T_T
ผมหลงนึกว่าแรงงานไอทีเป็นสาขาที่ขาดแคลนซะอีก
เรื่องมันซับซ้อนหลายประเด็นมาก
แต่พื้นฐานต้องเข้าใจข้อมูลพื้นฐาน ที่ให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องนี้
เงินโอนจากงานแรงงานอินเดีย คิดเป็นสัดส่วน 4% ของ GDP อินเดีย
สถิติปี 2015
http://economictimes.indiatimes.com/nri/forex-and-remittance/migrant-workers-remittances-to-india-to-remain-steady/articleshow/51185617.cms
72 Billion USD
โอ้โห อันนี้ฟังเข้าท่า
เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย
..: เรื่อยไป
เริ่มๆจะเป็นสงครามการค้ากันกลายๆละ