กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมออกประกาศกระทรวงอ้างคำสั่งศาลอาญา เรื่องการระงับการแพร่เนื้อหาข้อมูลที่ไม่เหมาะสมตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ฉบับ 2550 โดยเรียกร้องให้ประชาชนทั่วไปเลิกติดตาม (follow) ติดต่อและเผยแพร่เนื้อหาจากบุคคล 3 คนบนเฟซบุ๊กได้แก่
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมสอบถามจากเพื่อนที่เป็นนักกฎหมายแล้ว สรุปว่าประกาศกระทรวงฉบับนี้เป็นเหมือนการแจ้งเตือนและแนะนำมากกว่า เนื่องจากไม่ครบองค์ประกอบของการเป็นกฎหมาย เพราะไม่มีการอ้างความตามพระราชบัญญัติหรือกฎหมายฉบับอื่น และไม่มีการประกาศใช้ผ่านราชกิจจานุเบกษา
ที่มา - มติชน
Comments
อ่านแล้วรู้สึกโดยนัยยะเหมือนเชิญชวนให้ติดตามบุคคลทั้ง 3 คนเสียมากกว่า
บอกชื่อพร้อมเลยครับ น่าไปติดตามมากกว่าเดิมอีก
ถ้าติดตามเขา เราจะติดตามคุณ
คงเตือนประมาณนี้
เป็นเอกสารที่รีบมากเลย ถึงกับใช้มือถือถ่ายเพื่อเผยแพร่
ไม่รู้คนจะไปตามหาข้อมูลจากคนเหล่านี้อ่านเพิ่มเติมหรือเปล่า
ด่วนจัด คงหยุดสงกรานต์กันหมดแบ้ว
คงใช้ Office Lens ละมั้ง
เดี๋ยวนะ facebook เปิดเผยรายชื่อผู้ follow ด้วยหรอ ? สมมุติว่ายังมีคนไม่ปฏิบัติตาม ทางกระทรวงจะสามารถตามหาผู้ใช้ facebook ที่ follow บุคคลข้างต้นได้มั้ย
ของเจ้าตัวไม่เปิดหรอกครับว่าใครฟอลมา (ยกเว้นของ ปวิน ที่ยังไม่ได้ปิดครับ Update: 13/04/60 00:33)
แต่คนฟอลไปจะไม่ปิดอ่ะครับ อันนี้ปัญหา
สิทธิความเป็นส่วนตัวมันตั้งกันได้ครับ ขึ้นอยู่ว่าตั้งยังไง
(ว่าแล้วก็เปิดลิงก์แก้ไขความเป็นส่วนตัว: https://www.facebook.com/me/following)
เพื่อนถึงจะเห็นว่าเพื่อนติดตามใคร ไม่เห็นนอกจากตั้ง privacy ไม่ให้เห็นว่าติดตามใครซึ่งควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง
ซ้ำ ขออภัย
ปัญหานี้แก้ง่ายมากทั้ง3คน โจมตีไปในเรื่องเดียวกันทั้งหมด รัฐบาลก็แค่เอาหลักฐานมายืนยันว่าทั้ง3คนใส่ร้าย บิดเบือนก็จบและ 3คนนี่จะหมดค่าทันที....เหมือนกรณี BBC เปะ แต่รัฐบาลดันเลือกที่จะไปปิดกั้นแทนซะงั้น??? งงๆๆๆมันยากตรงไหนเนี่ย
ผม follow อ.เจียมอยู่จะโดนไหมเนี่ย แค่กดไลย์ก็ไม่ได้เลยหรือป่าวนะ
ต้องไปกล่าวว่าติเตียนครับ อุ๊บป
ถ้างั้น... การเผยแพร่ประกาศนี้ผิดไหม
แล้ว Node นี้จะผิดไหม :D
ผิดเซปชั่น :o
ผมblock สมเจียมไปนานแล้วครับ
เคยเผลอไปfollow โดยที่ลืมไปว่าไม่ได้ปกปิด follow แล้วมันไปขึ้นให้ชาวบ้านเห็นจนหลายคนมาทัก เหวอมาก ตั้งแต่นั้นก็blockไปเลย ถ้าจะอ่านต้องlogout ก่อนมาเปิดอ่าน
ผมไม่สนใจคนรอบข้างขนาดนั้นนะ แค่เรื่องการแสดงความเห็น การรับข้อมูล
ดูชีวิตท่าทางจะลำบากนะครับ
เอาอย่างงี้เลยนะ....
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
ผิดเหรอ ที่ชอบแมวของอาจารย์?
คงเป็นเรื่องเดิม แต่เพิ่มเติมคือขยับได้
มาเป็นคลิป
ถ้าเฟสบุคมาเร็วกว่านี้หลายสิบปีคงได้มี "อย่ากดติดตามหรือกดไลค์หลวงประดิษฐ์มนูญธรรรม หรือ นายปรีดี พนมยงค์"
คนละบริบท นายปรีดี พนมยงค์ ก่อตั้ง ธรรมศาสตร์ เสรีไทย ไม่เคยเซ็นโอนที่ดินให้มหาลัยเหมือนที่ จอมพล ป. พิบูลสงครามเซ็นโอนที่ดิน ที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของจุฬา ให้กลายเป็กรรมสิทธิจุฬาเพื่อหาผลประโยชน์
แต่บุคคลทั้ง 3 ไม่เคยสร้างคุณาประโยชน์ใดๆให้กับชาติ นอกจากการออกมาเรียกร้อง และแสดงความเห็นต่างเท่านั้น
เอามือทาบอก ... ทำไมเอาประเด็นมาโยงกันอีรุงตุงนังขนาดนั้น
นี่พูดแค่ประเด็นว่า "ถ้ามีเฟสบุคมานานศาลมีคำสั่งห้าม" เฉยๆ นะครับ ข้อความของผมมันไปห้ามคุณนั่งท้ายกระบะหรือ ทำไมดูเดือดดาลจนเสียสติขนาดนี้
ว๊าย ประกาศยังผิดเลย ลุงแอนดรูไปเป็นหม่อมราชวงศ์ตั้งแต่ตอนไหนนะนั่น
Mr. = นาย
MR. = หม่อมราชวงศ์
คนทำเอกสารพลาดละ 555555
ที่ผมเข้าใจนะครับ
หม่อมราชวงศ์ หรือ Mom Rajawongse คำย่อในภาษาอังกฤษใช้คำว่า M.R.
ส่วน Mister คำย่อใช้เป็น Mr. หรือ MR. ก็ได้
ปกติถ้าสากลจะย่อกัน Mr. กันครับ ไม่ได้ย่อแบบนี้
ผมไม่มีใครในไทยย่อ นาย ด้วย MR นะครับ
ถ้าผิดกฏหมายนี่คงไม่ค่อยเหลือเสรีภาพอะไรแล้ว การที่ไม่มี free speech ก็อาจจะยังพอเข้าใจได้(มั๊ง) แต่ถ้าไม่ให้แม้แต่จะรับข้อมูล ซึ่งถ้ามันกลายเป็นกฏหมายได้ ต่อไปการห้ามอ่าน ห้ามคิด คงเป็นเรื่องธรรมดา
Free Speech นี่คือการพูดอะไรก็ได้สินะ ด่าใครก็ได้ยิ่งปวินไปอ่านดูเฟซแกไม่มีอะไร
ใช้แต่คำหยาบด่าคนเห็นต่างด่าสถาบัน เป็นครูบาอาจารย์แบบนี้ผมก็ไม่อยากให้ลูกเรียนด้วยหรอก ของเจียมประเด็นในหลวงทั้งร.9และร.10 ผมเห็นวิจารณ์กันสนุกปากแบบไร้สาระมากๆ ยิ่งช่วงร.9ก่อนท่านสวรรคต แต่ละคนเขียนนี่ไม่อยากพูด ลองคิดว่าเป็นพ่อแม่ตัวมีคนเขียนแบบนี้สมควรไหม
ผมว่าเรื่องเรื่องที่คุณว่ามาในช่วงแรกๆ นี่ผมโอเคนะ ถูกผิดอะไรก็ว่าไปตามนั้นแล้วแต่วิจารณญาน แต่เรื่องที่มีหลายคนชอบเอาความเป็นพ่อแม่ยกมาเกี่ยวข้อง อย่างเช่นคุณที่ยกมาในท้ายประโยค ผมว่าอันนี้มันต้องแยกแยะนะ ความเป็นพ่อแม่กับเรื่องที่มันจะถูกหรือผิดนี่มันเป็นคนละเรื่องครับ ส่วนการพูดถึงหรือการพาดพิงก็ต้องไปดูอีกทีว่ามันมีการละเมิดอะไรหรือไม่ ตรงนั้นก็ค่อยจัดการกันไปอีกที
ผมจะบอกว่าช่วงในหลวงร.9 ใกล้สวรรคต เพจเจียมลูกเพจเขียนสนุกมือ ไม่ได้แคร์ความรู้สึกคนอื่น ถ้าเป็นพ่อแม่ตัวเองใกล้เสียมีคนมาเขียนออกแนวยินดี ตัวเองจะรับได้ไหม เจียมเองก็เหมือนกัน ถ้าพ่อแม่ใกล้เสียแล้วมีคนมาเขียนรายงานสถานการณ์ทุกนาทีเจียมจะรับได้ไหม สำหรับบางคนในหลวงเขาก็รักเหมือนพ่อแม่เขานะ ผมไม่อยากยกตัวอย่างหรอกครับ การวิจารณ์ทำได้แต่เจียมและลูกเพจผมไม่เรียกวิจารณ์ เข้าขั้นด่าเลยใช้ความรู้สึกเกลียดชังเขียน โดยใช้ความเป็นอาจารย์บังหน้าเอาไว้
อาจารย์แกแม่เสียไปแล้วครับ เพิ่งเสียเลย แกเจ็บปวดมากที่ไม่ได้มาร่วมงานศพ และไม่ได้มาดูใจเพราะแกรักแม่ ก็มีคนไปด่าแม่ ล้อเลียนแม่แกเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าครับพอแกไม่ตอบโต้ ไม่โกรธ ก็ด่าแกว่าไม่รักแม่ อกตัญญูอีก
ถามบ้าง คุณคิดว่าแกอกตัญญูที่ไม่โมโหคนที่ด่า และล้อเลียนความตายของแม่แกรึเปล่าครับ?
เรื่องแม่แกเสียผมไม่เคยดีใจหรือไปว่าแกนะตอนในหลวงร.9สวรรคตพวกลูกเพจแกก็ล้อหรือแสดงความยินดีผมก็ไม่ว่า แปลว่าผมไม่รักท่านหรือ ผมไม่เคยว่าแกนะส่วนคนอื่นผมห้ามไม่ได้ แล้วคุณคิดว่ามันเป็น free speech ไหมครับ ถ้าคุณว่าคนที่ไปล้อแกหรือแสดงความยินดีที่แม่เสียไม่ใช่ free speech เหมือนลูกเพจแกเขียนตอนในหลวงร.9สวรรคต อันนั้นก็ไม่ใช่freespechเหมือนกัน ส่วนตัวผมว่าเจียมนะเก็บความรู้สึกได้ดี ตอนปกติก็ถูกด่าก็ไม่เคยไปด่าหรือบล๊อกใครเลยถ้าเป็นปวินละ ด่าเสียผู้เสียคนแล้ว อันนี้ต้องชมแก ผมยังนับถือแกตรงนี้
คุณแยกฟรีสปีชกับเฮทสปีชไม่ออกครับ แล้วพอคนอื่นใช้เฮทสปีชเค้าก็อ้างว่าเป็นฟรีสปีช คุณก็ไปเชื่อเค้าแล้วพาลเกลียดฟรีสปีช และด่าอย่างสาดเสียเทเสีย ทั้งๆ ที่มันคือเฮทสปีช
ส่วนที่คุณไม่เคยดีใจหรือจะดีใจ ผมคงไม่สนเท่าไร ผมแค่อยากบอกให้คุณรู้ว่าแม่แกเพิ่งเสีย และแกก็ไม่ได้ตามลบเม้น หรือไล่ด่าคนที่ล้อแม่แก
คือคุณถามมาน่ะ ว่าถ้าแม่แกเสียแล้วมีคนมาทำแบบเดียวกัน แกจะว่าไง
คุณจะมาบอกทำไมครับ ว่าคุณดีใจหรือเสียใจกับเหตุการณ์ไหน พ่อหรือแม่ใครเสีย
คุณกำลังเอาตัวเองไปเทียบกับลูกเพจทั้งสามเพจ ที่มีทั้งดีและไม่ดี ร้อยพ่อพันแม่ แล้วยกมาแต่ส่วนที่แย่ (ผมยังยืนยันลูกเพจสมเจียม แบบพวกด่าหยาบๆ สาดเสียเทเสีย น้อยมากๆ เมื่อเที่ยบกับจำนวนคนที่ติดตามแกทั้งหมด) แล้วคุณก็บอกว่าตัวคุณไม่เคยทำแบบนั้นนะ เพื่อความสุขหรืออะไรผมก็ไม่รู้แหละ
ผมว่าตอนนี้คุณอาจจะต้อง adjust นิยามของคำว่า free speech กับ hate speech ในความคิดของคุณใหม่ เพราะจริงๆ การรายงานอะไรแบบนี้มันก็มีอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะในข่าว เช่นเมื่อมีคนดังป่วยหรือประสบเหตุอะไร หลายครั้งก็เห็นมีการรายงานหรือแม้กระทั่งมีการแถลงออกมาเป็นปกตินะครับ อยากถามความเห็นคุณเหมือนกันว่าแบบนี้คุณคิดว่ามันเข้าข่ายไหนครับ
ปวิณ (หรือปวิณ หรือปวีน หรือปวีณ ผมเคยบเห็นแต่ชื่อแกภาษาอังกฤษ) นี่ตลกดี เหมือนอ่านทีวีพูล แกเป็นคนนึงที่ผมมองว่าไม่มั่นคงในแนวทางที่ตัวเองพูด
ส่วนฟรีสปีช ผมว่าก็เหมือนเกม ที่คนหลายคนยังมีแค่ 2 สี ไม่ดำก็ขาว กลุ่มนึงบอกเกมนี่โคตรดี แล้วก็ยกมาแต่ข้อดี อีกลุ่มบอกเกมนี่เลวร้าย แล้วก็ยกมาแต่ข้อเสีย
ซึ่งก็มีคนทำแบบเดียวกันเมื่อพูดถึงฟรีสปีชที่มักจะยกเคสสุดโต่งของปลายแต่ละด้าน
ดีว่าสังคมเราอาการยังไม่หนักถึงขั้นออกมาเถียงกันเรื่องยาพารา ที่กลุ่มนึงยกมาแต่ข้อดีเพราะบรรเทาอาการปวดสารพัดและไม่เกิดอาการแพ้ยา อีกลุ่มนึงยกมาแต่ข้อเสีย เพราะเห็นว่าคนชอบกินยาพาราฯ เพื่อปลิดชีพตัวเอง
เลิกคิดอะไรแบบสุดโต่งไปทางด้านใดด้านนึงกันได้แล้วครับ ที่เค้าบอกว่าควรใช้วิจารณญาณก็คือแบบนี้แหละ ควรเห็นข้อดีข้อเสีย รู้จักชั่งน้ำหนัก ไม่ใช่ว่าเห็นแต่ข้อดีหรือข้อเสีย เหมือนชีวิตมีแต่ #ffffff กับ #000000
ผมตามอ่านตลอดนะ พวกที่ด่าแบบสาดเสียเทเสีย นี่เพจสมเจียมน้อยมากๆ คุณไปผิดเพจป่าว
ถ้าเพจจารปวินก็มีแต่แกด่า และแกด่าในประเด็นที่มันชัดเจนจริงๆ ลูกเพจไม่มีด่าแน่นอน ปกติคนคอมเม้นเพจอาจารปวินน้อยมาก อยู่แล้วเพราะไม่ใช่สไตลดิสคัส เน้นตั้งสเตตัสเอามันส์
แน่ใจว่าลูกคุณจะมีโอกาสเรียนกะอาจารย์ปวินหรือ สมเจียม ?
อ่านดีๆครับเพจเจียมผมบอกตอนในหลวงร.9สวรรคตลูกเพจเขียนแสดงความสะใจทั้งนั้น ผมไม่เคยว่าแกด่าอะไรใครเลย ส่วนเรื่องลูกผมจะมีโอกาสเรียนไหมก็เรื่องนึง แต่ผมในฐานะพ่อก็มีสิทธิ์จะห้ามไม่ใช่เหรอ
อยากรู้ว่าคุณได้อ่านความเห็นของตัวเองบ้างมั้ยครับ? เหมือนว่ามันไปคนละทางเลยนะ
Free speech จริงๆก็คงหมายถึงพูดอะไรก็ได้ครับ แต่ผมว่าโลกมันโหดร้ายเกินกว่าจะมี free speech จริงๆได้ ดังนั้นมันเลยถูกกำหนดด้วยกฏหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย อันนี้ก็แล้วแต่บริบทของแต่ละประเทศ ว่าฟรีได้แค่ไหน ถึงจะไม่ผิดกฏหมาย ผมคิดว่า การขู่ การใส่ร้ายป้ายสี อะไรพวกนี้มันไม่มีที่ไหนในโลกทำได้ โดยไม่มีผลกระทบทางกฏหมายครับ บ้านเราอาจจะฟรีน้อยกว่าประเทศเสรีประชาธิปไตยอื่นๆ แค่นั้น ถ้าคนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ก็อยู่กันไปได้ อาจารย์แกก็มีอุดมการณ์แน่วแน่ จนอยู่ประเทศบ้านเกิดไม่ได้ ต้องหนีไปอยู่ประเทศที่มี free speech มากกว่า
ถ้าถามผมว่าใครมาด่าพ่อแม่ จะโกรธไหม ผมไม่โกรธนะ ยกเว้นแต่ชู่หรือใส่ร้าย ป้ายสี อันนี้คงต้องเป็นเรื่องของกฏหมายไป แต่ถ้ามาด่าหยาบๆคายๆ อันนั้นแสดงถึงสติและวุฒิภาวะของคนๆนั้นชัดเจนอยู่แล้ว เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามานั่งอ่าน อะไรพวกนี้ให้บั่นทอนสติปัญญา
เห็นต่างเรื่อง ร.9 ครับ ตอนนั้นไม่มีใครกล้าอัพเดตเลยว่าสถานะพระองค์เป็นยังไงบ้าง มีแต่เพจเจียมที่คอยอัพเดตข่าว พอประกาศข่าวตอนเย็นแล้วก็ไม่มีสำนักไหนกล้าให้ข้อมูลเลยว่าหลังจากนี้จะต้องทำยังไงอีก รัชกาลต่อไปจะต้องมีพิธีอะไรบ้าง หรือจะขึ้นครองราชย์เมื่อไหร่ มีแต่เพจเจียมที่คอยอัพเดตและให้ข้อมูลเรื่องพวกนี้ตลอดเวลา
ผมว่าถ้าได้อ่านหรือฟังแกจริงๆจังๆตรงช่วงนี้น่าจะเข้าใจ ที่หลายๆคนบอกว่าเจียมรู้เรื่องเจ้ามากกว่าพวกรักเจ้าซะอีก มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้จัก
กดติดตามทันที
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1