By: BlackMiracle 
on 29 April 2017 - 14:22
Tags:
เมื่อสิ้นปีที่แล้ว Elon Musk ได้เปรยทางทวิตเตอร์ว่าเขาเบื่อหน่ายกับสภาพรถติดมากๆ และจะเปิดบริษัทขุดอุโมงค์ใต้ถนนเพื่อให้รถวิ่ง โดยตั้งชื่อบริษัทว่า The Boring Company หรือ บริษัทขุดเจาะ ซึ่งไปพ้องความหมายกับ boring ที่แปลว่าน่าเบื่อด้วย
ล่าสุด Elon Musk ได้ทวีตลิงค์เว็บไซต์บริษัทใหม่ของเขา boringcompany.com โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีเพียงโลโก้ของบริษัท และวิดีโอโชว์คอนเซ็ปต์ของเครือข่ายอุโมงค์ใต้ถนน ซึ่งรถยนต์เพียงขับมาจอดบน "แท่น" ริมถนน แล้วแท่นนั้นจะเคลื่อนลงใต้ดินเข้าสู่ระบบอุโมงค์ รถยนต์เพียงจอดอยู่เฉยๆ และแท่นจะวิ่งไปบนรางด้วยความเร็วถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งในช่วงต้นและท้ายของวิดีโอยังเผยให้เห็นรถขนส่งมวลชนที่ใช้ระบบอุโมงค์นี้ด้วย
นอกจากนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีพนักงานของ SpaceX คนหนึ่งได้โพสต์รูปเครื่องขุดอุโมงค์ขึ้นบัญชีอินสตาแกรมของเขาด้วย (ตอนนี้ลบไปแล้ว) โดยที่ผ่านมา The Boring Company ได้ทดลองขุดจริงใต้พื้นที่ลานจอดรถของ SpaceX แล้ว แต่หากต่อไปจะขุดในพื้นที่เมืองก็ต้องไปขออนุญาตกับหน่วยงานรัฐก่อน
สุดท้าย Elon Musk ยังกล่าวไว้ว่าเครื่องขุดอุโมงค์ของ The Boring Company จะขุดและวางเหล็กเสริมโครงสร้าง (reinforcement) ของอุโมงค์ไปพร้อมๆ กัน โดยปกติแล้วเวลาขุดอุโมงค์ เครื่องจะขุดไปก่อนแล้วค่อยถอยกลับมาวางโครงสร้าง ซึ่งกินเวลานานและเสียค่าใช้จ่ายเยอะโดยไม่จำเป็น
สำหรับคนที่สงสัยว่า Elon Musk เอาเวลามาจากไหนเยอะแยะ ถึงดูแลธุรกิจได้ทั้ง Tesla, SpaceX, SolarCity, Neuralink และตอนนี้ก็มี The Boring Company เข้ามาอีก เขาบอกว่าใช้เวลากับโปรเจ็คขุดอุโมงค์นี้เพียงแค่ 2-3% เท่านั้นเอง และให้เด็กฝึกงานกับพนักงาน Tesla ใช้เวลาบางส่วนมาทำโปรเจ็คนี้ด้วย
ที่มา - Business Insider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
เป็นโทนี่ที่สร้างความตื่นเต้นได้ตลอดเวลาจริงๆ ที่แรกก็คิดอยู่ว่าอุโมงศ์มันจะไม่ติดแต่ในไทยหรอ นี่แต่เอารถใส่ถาด แล้วให้ถาดวิ่งในรูแทน ยอมเลยจริงๆ XD
ใส่ถาดพร้อมชาร์ทด้วยจะดีมาก
นึกถึงคิวรถที่รอต่อแถวเข้าใช้บริการคงพารถติดเพิ่มขึ้นอีก อารมณ์เหมือนคิวหน้าที่จ่ายเงินทางด่วนบ้านเรา
จากวิดีโอนี่แนวคิดหลักคือจะสลับระหว่างระบบรางกับรถยนต์ไปมาได้ ขับรถปกติแล้วจะลัดเส้นทางหนีรถติดก็ขับขึ้นถาดไปวิ่งบนรางเท่านั้นเอง ไม่ต้องอุโมงก็ได้?
lewcpe.com, @wasonliw
ก็ทำได้ครับ ที่จริงเปลี่ยนทางด่วนให้กลายเป็นลู่/รางวิ่งของแท่นนี่ให้หมดก็น่าจะให้ผลใกล้เคียงกัน คือขับไปที่จุดจ่ายเงิน มีแท่น (ขึ้นมาจากใต้ดิน) รอรับไว้ ทำการจ่ายเงิน + เลือกจุดหมายปลายทาง แล้วแท่นวิ่งเองไปถึงด่านทางออก
แต่ถ้าเป็นในวิดีโอ มันคงสวยงามกว่า ปลอดภัยกว่า และจุดขึ้นลงครอบคลุมกว่าครับ
ถ้าอยู่ผิวดินก็ต้องระวังคนอีก แท่นเหล็กตรงกลางคงมีไว้จ่ายไฟ น่าจะอันตรายพอควร
ในแง่นี้ก็ไม่ต่างจากรถไฟฟ้า (BTS) ทุกวันนี้นะ คือก็มีเหตุผลบางกรณีจะสร้างใต้ดิน แต่จะสร้างบนดินก็ทำได้และเหมาะสมในหลายๆ กรณี ยิ่งหลายๆ เลนแบบเดียวกับทางด่วนนี่ยังไม่เคยเห็นเมืองไหนเลือกสร้างเป็นใต้ดินเลย
lewcpe.com, @wasonliw
ทำบนดินบดบังทัศนวิสัยของเมืองครับคงไม่สามารถทำได้ทุกเมือง ดูอย่าง BTS ได้ บังหมดทุกสิ่ง
ลองหาดูภาพกรุงเทพก่อนมี BTS กับหลังมี BTS ก่อนมีสวยงามกว่าเยอะเลยครับ
เรื่องความเหมาะสมนี่คงอีกเรื่องครับ (เราเอา BTS ไปวิ่งกลางเมืองก็ค่อนข้างแปลกหน่อย แต่หลายเมืองก็ทำกัน)
แต่ผมกำลังบอกว่าแนวคิดมันไม่เห็น "จำเป็น" ต้องอยู่ใต้ดินเลย พวกรถไฟฟ้าอย่าง BART ไปซานฟราน วิ่งไต้ดินในเมืองนอกเมืองก็ขึ้นบนดินกันปกติ
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องของลมหรือเปล่าครับ? เพราะใช้ความเร็วสูงด้วย
เหมือนเค้าเพิ่งพูดไปใน TED (คงต้องรอวิดีโอ) ว่าเรามีตึกสูงเสียดฟ้า แต่ถนนเป็นแค่ 2 มิติ พอคนออกมาจากตึกกันมันก็มาแออัดกันข้างนอก ถ้าใช้อุโมงค์มันจะกลายเป็น 3 มิติที่น่าจะกระจายคนได้ดีกว่า
ระบบรางเส้นทางมหาศาล ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ น่าจะลงไปทำใต้ดินดีแล้ว ถ้าบนฟ้านี่คงจะบังแสงแดดมิด
ข้อดีคือ ถ้าทำใด้จริง มันจะพร้อมใช้สำหรับทุกคนทันที ไม่ต้องเปลี่ยนรถใหม่
ยังกับซูชิสายพาน
เหมือนมีชินคันเซนเป็นของตัวเอง...
แล้วพวกอุโมงค์ รถไฟใต้ดินละ จะสร้างทับกันยังไง เพราะเห็นมีที่ลงอุโมงค์เกือบทุกที่จอดถนน
กล้าคิด กล้าทำ ดี
ทำรถไฟใต้ดิน 3D เห็นประโยชน์ ในด้านการขนส่งกว่านะ ในด้านปริมาณ
The Last Wizard Of Century.
ลงไปแล้วขึ้นไม่ได้ เพราะตรงทางขึ้นพวกมาจอดกระพริบไฟแล้วคนขับหายไปเลย
แนวคิดดีแต่ความเป็นจริงทำไม่ได้เลย
นำมาใช้กับ กทม. คงยาก หน้าฝนจะทำยังไงล่ะนี่ เปิดวาร์ปทีลงไปทั้งรถทั้งน้ำ(รอการระบาย) ???
ระบบรางจริงๆ คุ้มค่ากว่ามากในแง่ขนคนได้ทีละเยอะๆ แถมอันนี้น่าจะทำรถติดตรงทางเข้าอย่างที่ คห. บนๆ ว่าด้วย