ช่วงปลายปี 2015 เกิดเหตุฆาตกรรมผู้หญิงชาวสหรัฐอเมริกาชื่อ Connie Dabate เธอถูกยิงเสียชีวิตในบ้านของตัวเอง ด้วยปืน .357 ที่สามีของเธอเป็นเจ้าของ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงสถานที่เกิดเหตุ พบสามี Richard Dabate ถูกมัดขาและแขนติดอยู่กับเก้าอี้ เขาให้การว่าขับรถไปทำงานแต่นึกขึ้นได้ว่าลืมโน้ตบุ๊กเลยกลับมาเอา แต่พบชายสวมหน้ากากกำลังรื้อค้นบ้านและเข้ามาทำร้าย จากนั้นภรรยากลับบ้านมาพอดี ชายผู้บุกรุกแย่งปืนจากภรรยาและยิงเธอเข้าก่อนหลบหนีไป เขาจึงโทรแจ้งตำรวจ
เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการบุกรุกของบุคคลอื่น รอยเลือดในบ้านก็ไม่ตรงกับคำให้การของ Richard หลักฐานอย่างหนึ่งที่พบในคดีนี้คือผู้ตาย Connie สวม Fitbit ขณะถูกฆ่า และข้อมูลใน Fitbit ขัดแย้งกับคำให้การของ Richard
Richard ระบุว่า Connie ถูกยิงเวลาประมาณ 9 นาฬิกา แต่ข้อมูลใน Fitbit บ่งชี้ว่าเธอเดิน 1,217 ก้าวระหว่างเวลา 9.18-10.10 หรือประมาณ 1 ชั่วโมงหลังเวลาเสียชีวิตตามคำให้การของ Richard
หลังเหตุฆาตกรรม 5 วัน Richard พยายามยื่นขอเงินประกันชีวิต 475,000 ดอลลาร์ของภรรยาแต่ถูกบริษัทประกันปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม เขาถอนเงินสดจากบัญชีของภรรยาออกมาใช้งาน เจ้าหน้าที่ยังพบว่า Richard มีแฟนสาวอื่นที่กำลังตั้งครรภ์ และบอกเธอว่าเขากำลังจะหย่าจาก Connie ในขณะที่โทรศัพท์ของ Connie ก็มีบันทึกของเธอเองที่เขียนว่าต้องการหย่าจาก Richard เช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นฟ้อง Richard ต่อศาลในข้อหาฆาตกรรม ตอนนี้คดียังอยู่ระหว่างกระบวนการของศาล โดย Richard ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
Jonathan Rajewski ผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัล ให้สัมภาษณ์กับ NBC ว่า 99% ของคดีอาชญากรรมในปัจจุบัน มีองค์ประกอบด้านดิจิทัลมาเกี่ยวข้อง เซ็นเซอร์เหล่านี้อยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรืออยู่ที่ร่างกาย
ก่อนหน้านี้เคยมี คดีฆาตกรรมที่มีลำโพง Amazon Echo อยู่ในเหตุการณ์ และอาจบันทึกเสียงตอนเกิดเหตุเอาไว้
ที่มา - Naked Security, NBC
Comments
CNN สนุกกว่าครับ มีการไล่ digital footprint ของทั้งคู่
ตอน 9:01 สามีใช้ Outlook เช็คอีเมล์จากบ้าน และตอน 9:04 ดันส่งอีเมล์บอกนายว่า สัญญาณบุกรุกที่บ้านตัวเองดัง ขอกลับไปดูก่อน โดยส่งจากไอพีที่บ้าน
ภรรยาเองก็มี'เดิน'ตอน 9:23 ประตูโรงรถ-ครัวก็มีการเปิดเวลาเดียวกัน (แต่ไม่รู้ว่าใครและเดินจากไหนไปไหน) มีการอัพเฟสบุ๊คช่วง 9:40-9:46 บนไอโฟนด้วยไอพีที่บ้าน และสุดท้าย fitbit บันทึกว่าไม่มีการ'เดิน'อีกหลัง 10:05 (พบศพภรรยาที่ชั้นใต้ดิน)
แต่มันคนละเรื่องกับคำให้การสามีให้การว่า กลับมาสำรวจ เห็นคนร้ายใส่หน้ากากอยู่ชั้นสอง ร้องให้ภรรยาหนีไป ต่อสู้ดิ้นรนกัน ภรรยาโดนยิงตาย ตัวเองโดนคนร้ายมัด จะถูกเผา สู้กัน ทำร้ายมันจนหนีไป หลักจากนั้นจึงเรียก 911 ได้ ณ เวลา 10:11 (หลังจากที่ fitbit ของภรรยาบันทึกไว้ว่ามีการ'เดิน'ครั้งสุดท้ายอยู่ ไม่เกินหกนาที)
อีกทั้งระยะ 1,217 ก้าวที่ fitbit บันทึกได้ (9:18-10:05) น่าจะประมาณหนึ่งกิโลเมตรได้ ซึ่งไม่ใช่วิสัยคนปกติจะเดินภายในบ้านพักอาศัยภายหนึ่งชั่วโมง ปกติคนอยู่ในบ้านพักอาศัยชั่วโมงหนึ่ง เดินไม่ถึงร้อยก้าวด้วยซ้ำไป อย่างดีก็สามร้อย
โดนมัดมือมัดเท้า แล้วหลุดมาได้ยังไง น่าจะบอกด้วยนะ
1,217 ก้าวนี่ fibit มันนับตอนภรรยากำลังสับหมูอยู่รึเปล่าครับ :)
เมืองไทยน่าจะมีบ้างนะแบบนี้
นึกถึงคดีในซีรีย์ CSI CYBER เลยครับ
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
โคนันได้พล็อตเรื่องใหม่ละ
ส่วนตัวมองว่าพล็อตม้นดูง่ายไปครับ
ทำย้อนกลับสิครับ เช่นฆาตกรตัวจริงแอบเอา Fitbit ไปผูกกับแมวแล้วเอากลับมาใส่ที่ผู้ตายเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องเวลาการตาย
สุดท้ายแมวหายครับ fitbit ก็หายด้วย ขนาดเอา bluetooth tracker ไปผูกไว้ ยังไร้ประโยชน์เลย เหอๆ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
นี่ประสพการณ์ตรงสินะ !!
นึกถึงซีรี่ส์ CSI ขึ้้นมาทันที