เว็บไซต์ Bangkok Post รายงานว่าตำรวจกำลังเพ่งเล็งคนที่ดูรูปและอ่านคอนเทนต์ผิดกฎหมาย แม้ไม่ได้กดไลค์กดแชร์ ก็อาจมีความผิดเช่นกัน
พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกเพิ่มเติมกับนักข่าวว่า ตัวกฎหมายจะรวมผู้กระทำผิดในสามส่วนด้วยกันคือ ผู้ผลิตคอนเทนต์นั้นๆ ผู้ที่เข้าไปคอมเมนท์ ไลค์ แชร์ และผู้ที่อ่านคอนเทนต์นั้นแม้ไม่ได้กดไลค์กดแชร์ แต่เบื้องต้นจะยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายต่อบุคคลกลุ่มที่สามนี้ เพียงแต่จะเข้าไปตักเตือนและทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำให้ตัวเองไปอยู่ในกลุ่มที่สองซึ่งมีความผิด
พล.ต.ท. ฐิติราช ระบุอีกว่า ทางตำรวจจะจัดหาเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อระบุบุคคลในกลุ่มที่สาม และตรวจสอบสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงดูเนื้อหาดังกล่าว
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงดีอีประกาศเตือนประชาชนให้งดติดตามและติดต่อกับ 3 บุคคล คือ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต และ นาย Andrew MacGregor Marshall นักเขียนและนักหนังสือพิมพ์
ที่มา - Bangkok Post
Comments
พล.ต.ท. ฐิติรัตน์ => พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์
เขาไป => เข้าไป
บ้าไปแล้วครับ
คนออกไอเดียเขารู้มั้ยเนี่ยว่าความพยายามปกป้อง (รึเปล่า?) ของเขาเนี่ยกำลังสร้างความหวาดกลัว/เกลียดชังให้เกิดขึ้นต่อผู้ที่เขาต้องการปกป้อง ซึ่งเมื่อมันสูงขึ้นมากพอสุดท้ายมันก็จะพังลงมาทำลายสิ่งที่ต้องการปกป้องนั่นแหละให้ล่มสลายลงไป น่าจะหัดจ้างนักการตลาดเก่งๆ มาบ้างนะ (หรือเขาอาจจะคิดว่าสามารถ Balance ความรู้สึกของประชาชนให้เหมาะสมได้กันนะ)
สรุปเรื่องนี้ผมโทษกระทรวงศึกษาครับ ไม่สนับสนุนให้ประชาชนมีความคิดสร้างสรรค์ ขนาดระดับคนออกนโยบายยังเป็น lol
พูดไปก็เหนื่อยเปล่า ดู MV ของ Justin Bieber หาไอเดียดีกว่า
ปัญหาอยู่ที่ "เนื้อหาที่เป็นตัวอักษร" ซึ่งเป็นการใส่ความ ใช้กลวิธีทางภาษา เพียวๆ.
คนทั่วไปที่ไม่ค่อยชอบเรื่องภาษา อาจจะไม่ทราบว่าการใช้คำพูด การเล่นกับการรับสาสน์
มันสามารถบิดเบือนไปได้ทีละน้อยๆ จนเมื่อถึงที่สุดก็จะเกิดสภาวะ fallacy ในจิตใจคนอ่าน .
และเป็นเหตุผลว่าเหตุใด คนอ่านนิยาย จึงด่ามัลฟอย์ ด่าโวลเดอร์มอร์ ทั้งที่ทั้งหมดเป็นเรื่องแต่ง
ในทางจิตวิทยา การที่มนุษย์อ่านเรื่องแต่งพวกนี้ เป็นเพราะคนอ่านต้องการก่ออาชญากรรม ผ่านการจำลองตัวละครร้าย
ข้อนี้ใครเคยเรียนเกี่ยวกับการประพันธ์ หรือเขียนบทภาพยนตร์จะมีหลักการพื้นฐาณ
ความสำเร็จของภาพยนต์ บทละคร เรื่องแต่ง อยู่ที่ "การสร้างตัวละครร้าย"
ไม่ได้อยู่ที่การสร้าง "ตัวเอก"
เพราะ "คนอ่าน" จะจำลองตัวเองเป็น "ตัวร้าย" (เช่น ดาร์ธ เวเดอร์) และกระทำอาชญากรรมผ่านตัวละครนั้นๆ
เมื่อคนอ่านต้องการ "มุดออกจากความฝัน" กลับมาสู่ความจริง
ก็ต้องทำการจำลองตนเองเป็น "ตัวเอก" เพราะความจำเป็นในการ ดำรงชีวิตในกรอบของสังคม
ในบางครั้ง บางกรณี ก็อาจเกิดเหตุการ "ล้มเหลว ในการจำลองตนเองกลับคืน"
จนเป็นที่มาของการก่ออาชญากรรมเลียนแบบวรรณกรรม การ์ตูน ภาพยนต์
ในสังคมไทยซึ่งแม้แต่คนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ยัง "ด้อยทาง ตรรกศาสตร์"
ยิ่งกว่า บุคคลทั่วๆไปในสังคมญี่ปุ่น (ซึ่งเป็นสังคมที่มีตรรกศาสตร์ทางสังคมซึมซับเป็น default decision)
ก็จะเข้าสู่สภาวะที่จิตใจอยู่ในห้วงของวรรณกรรม และเกิดสภาวะเสพติดการก่ออาชญากรรมในฝันขึ้น
การ " ก่ออาชญากรรมด้วยการจำลองตนเอง" ผ่านอินเตอร์เนต กลายเป็นวัฒนธรรมซึ่งกำลังกัดกร่อนคนไทยลงช้าๆ
ทั้งที่สุดท้ายนั้น "ความชั่วทั้งหลาย" เป็นเพียงเงาสะท้อน "ความปรารถนาในการก่ออาชญากรรม" ของตัวผู้ประพันธ์เองเท่านั้น
ผมรู้สึก เพลิดเพลิน กับ การอ่าน ความเห็นนี้ อย่างบอกไม่ถูก
ทำไมผมนึกถึงการสร้างตัวร้ายตัวนึง
ที่ฝ่ายนึงสร้างกันมายาวนานมีอะไรก็โทษไปเถอะโทษให้หมด.....
อื้อหือ ขอถวายตัวเป็นแฟนคลับ
นักเขียนมาเองใช่มั้ย เขียนสื่อความและภาษาดี อ่านเพลินจริงๆ
ทำไมผมอ่านแล้วนึกถึง "เลียนแบบเกม" ถ้าเปรียบการจำลองตัวเองเป็นตัวร้าย หรือทำอะไรไม่ดีทำอาชญากรรมผ่านตัวละครนั้นๆ หน่ะนะ ทั้งๆที่เพิ่งมีงานวิจัยออกมาว่ามันไม่เกี่ยวกัน หรือบางกลุ่มก็บอกว่ามันเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของคนนั้น
ดังนั้นปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ย่อหน้าแรก ที่บอกว่าปัญหาอยู่ที่ "เนื้อหาที่เป็นตัวอักษรหรือเนื้อหาเกมภาพยนต์" ที่ต่างคนก็ต่างเซ็นเซอร์กันแม้กระทั้งหน้าอกชิสุกะหรือนักมวย แต่เป็นย่อหน้าสุดท้าย ปัญหามันอยู่ที่ "ความด้อยทางตรรกศาสตร์ของคนไทย" ที่เป็นมาตั้งแต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยันเด็กรุ่นใหม่ต่างหากครับ
จัสตินยุคปัจจุบันผมดูทีเดียวเลิกเลยครับ ก็ไม่เข้าใจนะครับว่าแฟนๆเพลงของเขา ทำไมยังชื่นชอบนักร้องคนนี้นัก หรือเพราะบุญเก่าสมัยเป็นยูทูปเปอร์กันนะ
นับแค่เสียงร้องผมโอเคนะ ถ้าไม่ยึดติดกับอดีตละนะ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
จริงๆ จัสตินเองก็สร้างข้อเสียของตัวเองหลายอย่างเลย อาจจะเพราะดังตอนเป็นเด็กด้วยมั้ง แต่เพลงก็เพราะจริงๆ
//จัสติน บีเบอร์นะ
จัสตินบริบทนี้มาจากเพจกระทำความแมสครับ ซึ่ง....
จัสตินเค้าเข้าคุกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ
จัสติน ลี น่ะ
อยากให้กฎหมายครอบคลุมไกลไปถึงผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดครับ แบบว่าแค่ผู้พิพากษาอ่านข้อความที่ผิดม.112 เพื่อวินิจฉัยก็ผิดแล้ว และต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน พอท่านใหม่มาวินิจฉัยก็ต้องดำเนินคดีต่อไป และตำรวจที่เป็นผู้ดำเนินคดี เมื่อได้อ่านก็ต้องโทษเช่นกัน
แบบนี้จะได้ไม่มีข้อครหานินทาว่ามีหลายมาตรฐานครับ
ม.112 ception
ประสาท
ไอ้ย่อหน้าสุดท้ายนี่ทำให้คนรู้จักสามคนนั้นมากขึ้นด้วยซ้ำ
เห็นคนรู้จักหลายๆคนที่ไม่รู้จักสามคนนั้นพยายามหาข้อมูลกันใหญ่
อิ่มอร่อยถึงบ้าน
อร่อยถึงบ้านแบบไม่ต้องสัั่ง
แค่หันมามองก็อิ่มอร่อย ขยันทำโปรโมชั่นจริงๆเจ้านี้
สมมติ ผมส่งข้อความผิด ม.112 ให้ พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ทาง Line
แล้วรอให้ท่านเปิดอ่าน แล้ว cap หน้าจอที่ read เอาไว้
อย่างนี้ ก็สามารถเอาผิดกับท่านได้
ใช่หรือไม่ ?
กม น่าจะมีผลกับคนเป็น กลุ่มๆ ไปนะครับ
อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็น !@#$!@#$!@#$
[Blog ZeroEngine] [@ZeroEngines]
เน้นไปที่ คนเอาไปกระจายต่อมากกว่า เช่น คนนี้เข้าไปอ่านเสร็จ แล้วเอาไปแชร์ต่อ เพราะถึงยังไงคนสุดท้ายที่เป้นผู้รับ มันค่อนประเทศ ไม่เสียเวลาจับหรอก น่าจะมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ละ
"ผู้ที่อ่านคอนเทนต์นั้นแม้ไม่ได้กดไลค์กดแชร์" นี่คือประเด็นครับ คนเอาไปแชร์น่ะเค้าขู่จะจับอยู่แล้วครับ
ประเด็นที่ถกเถียงกันคือตรงนี้
แล้วเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบแล้วบังเอิญอ่านโพสที่ผิด จะโดนด้วยมั้ย
ผิดเซปชั่นกันเลยทีเดียว
"ถึงยุคทมิฬมาร จะครองเมืองด้วยควันปืน
ขื่อแปจะพังครืน และกลิ่นเลือดจะคลุ้งคาว
แต่คนย่อมเป็นคน ในสายธารอันเหยียดยาว
คงคู่กับเดือนดาว ผงาดเด่นในดินแดน"
- จิตร ภูมิศักดิ์
you gotta be kidding me
/me horror face
หึ หึ ไม่ขอออกความเห็นอะไร แต่เท่าที่เคยผ่านตา หาคน Implement ให้ได้ก่อนเหอะ
เอ FB จะยอมส่งข้อมมูลให้ไหมน๊าาาา
แต่ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะถ้าไม่บลอค 131 URL FB ก็จะโดนปิดอยู่แล้ว เอ้้้ น่าสงสัย
ถ้าจะเอาอย่างนี้ พวกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจที่ทำสำนวนคดี อัยการ ทนาย ผู้พิพากษา นี่ผิดหมดเลยนะ เพราะต้องอ่านคอนเทนต์เพื่อประกอบคดี/ทำรูปสำนวน/ตัดสิน ด้วย แล้วคือมีคนไลค์มาแล้วมันขึ้นบนหน้าไทม์ไลน์ให้ต้องอ่าน อันนี้จะดูเจตนายังไง คือเพีี้ยนมากๆ ออกมาพูดนี่อย่างมากก็ทำได้แค่ขู่ ไม่ให้คนเข้าไปอ่านคอนเทนต์ที่ว่าถึงแม้มันจะเป็นความจริงแค่นั้นแหละ
ตีความอย่างกว้างมาอีกแล้ว คดีอาญาฯ แต่ไม่ตีความแบบเคร่งครัด ก็เหนื่อยกันหน่อยในการกำหนดบรรทัดฐาน
ต้องตีความยังไงให้ผู้อ่านมีความผิดครับ ใครที่พอทราบเรื่องกฎหมาย ผมขอความรบกวนชี้แนะด้วยครับ
ถ้าอ่านแล้วไม่แจ้งเจ้าพนักงานพนักงาน ถือว่าสนับสนุนการกระทำความผิดมั้ยจ้า
ไม่ได้เป็นนักกฎหมายเหมือนกันจ้า
ถ้าแจ้งจะโดนข้อหาเผยแพร่มั้ยครับ
เห็นแล้วไม่ตำหนิติเตียน เข้าข่ายผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ
มาตรฐานการพิจารณาแย่จัง
ด...ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน!!
แคปจอแพร๊บครับ
ผมอยากให้มีมาตรฐานมากกว่านี้ครับ กลัวดิ้นหลุดได้ น่าจะเขียนในตัวบทไปเลยว่าใครก็ตามที่เห็นถือว่าผิดทั้งหมด ไม่ว่าจะเพื่อติเตียนหรือไม่ก็ตาม
ผมชอบครับ อานุภาพร้ายแรงประดุจดั่งจดหมายลูกโซ่ เห็นแล้วต้องมีผู้โชคร้าย
รอฮาคอมเม้นนี้แหละ
วิจารณ์เรื่องนี้จะผิดกฎหมายไหม 555
ผมก็กำลังคิดอยู่
Single Gateway อยู่ไม่ไกล...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
บน SSL จะดูยังไงน้อ...
อีกหน่อย แค่อ่านหนังสือพิมพ์ก็เข้าคุกได้
หาเครื่องมือทำ single gateway?
ถ้าข้อมูลที่ผ่านหูผ่านตาเป็นเรื่องเท็จ เจ้าหน้าที่ก็ควรชี้แจงว่ามันเป็นเรื่องเท็จ
ทำแบบนี้ จะเกิดความหวาดระแวงเสียเปล่าๆ
เข้ามาดู
ห้ามฟัง ห้ามเลีย ห้ามถูไถ เนื้อหาทั้งหลาย ปิดทวาร ตา หู ลิ้น ผิวหนังไปเลย เผื่อรับรู้ทางอื่นได้อีก
อยากให้รับรู้อะไร ให้ฉีดเข้าสมองไปเลย
ฟังแล้วได้อารมณ์Stasiมากครับ
กลัวคนอื่นรู้ กลัวคนอื่นวิจารณ์ มันไม่มีทางเป็นไปได้
ไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ เว้นเสียแต่ไม่ได้กระทำ
That is the way things are.
ก่อนจะรู้เนื้อหานี่มันต้องอ่านก่อนหรือเปล่าหว่า? งี้ก็ไม่ต้องอ่านอะไรเลยแล้วกันจะได้ไม่ต้องเสี่ย ม.1234 เนอะ!
สงสัยอยากให้คนไทยลดโควต้าการอ่านลง XD
ทำไมนึกถึง Bites The Dust ในเรื่อง JoJo หว่า
ก็แค่ข้ออ้างขอเบิกงบ ถถถ
ม.44/คำสั่งคสช. มันยกโทษไปแล้วหนิครับ
มีประกาศฉบับนึงทีป่ระกาศตั้งแต่ต้นว่า
"พนง. หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ดำเนินการภายใต้คำสั่ง
คสช.หากทำผิดกม.ถือว่าไม่ผิดนะ"(มันมีคำว่าสุจริตหรือโดยเจตนาดีไรนี่หละจำไมไ่ด้ละ)
แต่คิดว่างงไหมๆ
ใช้อำนาจนอก กฎหมาย
เพื่อรับรองอำนาจในกฎหมาย
เพื่อบอกว่าการกระทำความผิดใน
กฎหมายที่ตนกำหนดขึ้น
ไม่ผิดตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย.......งงวุ้ย
"ทางตำรวจจะจัดหาเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อระบุบุคคลในกลุ่มที่สาม"
ด้วยความรู้ network อันน้อยนิด ผมรู้สึกว่าอุปกรณ์ + คำสั่งมาตรฐานมันก็ตรวจสอบได้อยู่แล้วว่า ip ไหนต่อเข้ามาดู ยกเว้นมุดรู ซึ่งยังไงก็ตามตัวยากอยู่แล้วไม่ว่าจะอุปกรณ์ไหนเครื่องมือใด
มีลางสังหรณ์ว่าจะมีการซื้อของราคาแพงเกิดขึ้น
ถ้ากรณี Facebook (และเว็บ HTTPS ทั้งเว็บ อื่นๆ) แยกเนื้อหาไม่ได้ครับ เห็นแค่เชื่อมต่อไปเซิร์ฟเวอร์บางตัวของเฟซบุ๊ก
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องเศร้าคือ ถ้าผิด ม.112 จะถือเป็นคดีร้ายแรง ไม่ให้ประกันตัว ถ้าโดนสุ่มตรวจด้วยเครื่องมือมั่วๆ ใช้ไม่ได้จริง กว่าเราจะออกจากคุก ก็หลายเดือนถึงเป็นปี
"...กว่าเราจะออกจากคุก.."
เกรงว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือดไปเสียก่อน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ถ้าปิด internet ได้คงทำไปแล้วหล่ะ
ประมาณนั้น
น่าคิดนะครับ เพราะถ้าหน่วยงานผู้รับผิดชอบไม่สามารถหาเครื่องมือตรวจสอบได้อาจจะใช้เกณฑ์ใหม่ที่ low tech กว่า โดย "บังคับให้ผู้ต้องหา เปิดดูประวัติการท่องเว็บไซด์ ทุกบัญชีทุกแบบ" บางทีอาจจะลามไปถึง "การลบ ประวัติท่องเว็บอย่างเจตนา ถือว่า "ส่อหมิ่นมาตรา 112" " ก็เป็นไปได้
แบ่งเวลาไปดูเรื่อง wannacry บ้างก็ดีนะครับ ข่าวข้างล่างมันมีผลกับประชาชนจริงๆครับ
บางทีคนคิดกฏหมายก็คาดไม่ถึงว่าคนใช้กฏหมายจะสุดโต่งก็ได้ อย่างเช่น พรบ.คอม ปี50 เห็นว่าวัตถุประสงค์บางข้อที่คนคิดกฏหมายในขณะนั้นเขาคิดไปอีกมุมหนึ่งมัง จำไม่ได้ข้อไหนพวก log อะไรนึ่รึเปล่านะจำไม่ได้ พอดีเคยฟังรายการทีวีเชิญคนเขียนกฏหมาย พรบ.คอม ปี50 มาพูด แต่คนเอามาตีความและใช้เล่นงานกันทางการเมืองในหลายๆคดี
กฏหมายไทยมันขึ้นอยู่กับการตีความ ใครตีความไปแบบไหนถามว่ามันได้ไหม มันก็อาจจะได้ถ้าคนคล้อยตาม ก็ต้องต่อสู้กันต่อไปนะ ประชาชน
ส่วนตัว คนอ่าน คนดูเฉยๆ ไม่เห็นว่ามีความผิดอะไรนะ ตราบใดที่เขาไม่ได้เอาไปเผยแพร่หรือส่งต่อ มันอาจบังเอินไปกดลิ้งที่คนแชร์เข้าไปอ่านก็ได้
ถ้าเขาเอามาเผลแพร่ต่อ มันนั้นก็ค่อยไปว่ากันตามความผิด
ไผ่ดาวดินยังไม่เข้ากระบวนการใดๆ เลยครับ นี่เป็นกฎหมายพิเศษครับ ไม่จำเป็นต้องทำตามมาตรฐานใดๆ
เข้าใจว่า ไผ่ดาวดิน เข้าข่าวเผยแพร่ นะครับ จึงโดน
โดนกักตัวไว้โดนไม่มีการพิจารณาคดีใดๆ นะครับ คือถ้าผิด ม.112 ก็กักตัวไว้ได้เรื่อยๆ เหรอครับ
กฎหมายก็มีนะครับว่ากักตัวได้กี่วันก่อน/หลังพิพากษา ผลัดละกี่วัน ฯลฯ
มันเหมือนว่าทำผิดกฎหมายเพื่อบังคับใช้กฎหมายน่ะครับ ผมถึงบอกว่ามันไม่มีมาตรฐานใดๆ
การออกกฎหมายที่ดี จึงควรเป็นการออกกฎหมายที่รับประกันว่า ไม่ว่าจะผู้บังคับใช้ในช่วงใด ยุคสมัยใด ก็จะไม่บังคับใช้สุดโต่งจนไปลิดรอนสิทธิของประชาชน ไม่ใช่ออกกฎหมายที่ให้อำนาจล้นฟ้า แล้วหวังจะพึ่ง "คนดี" ให้มาเป็นคนบังคับใช้กฎหมายไปในทางที่ถูกต้อง
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง #ผิด
... (ไม่กล้า comment)
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
Baby baby baby oooh
เอาจริงๆนะ สามารถทำได้จริงหรือป่าวครับ? ถ้าทำได้เขาทำอย่างไงเหรอครับ ให้รู้ว่าคนไหนอ่าน?
เราอาจจะมีระบบแบบตาเทพ หรือเนตรเปรต อะไรเทือกนั้นก็ได้นะครับ
ขอคืนความสุขให้เธอประชาชน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0
บ้าไปละ
แนะนำให้กลับไปใช้ GT 200 เหมือนเดิมเถอะครับ
ประหยัดงบประมาณ
ลงทุนแค่ตัวเครื่อง...เวลาจะระบุตัวใครก็ชัดเจน...มีวิดยาสาดรองรับ
แผล่บๆ
ไม่ได้ครับ ต้องลงทุนเพิ่มซื้อการ์ดตรวจจับคนทำผิด ม. 112 มาเสียบเพิ่มด้วยครับ ของเดิมไม่ครอบคลุมในส่วนนี้
และเนื่องจากต้องปรับแต่งเงื่อนไขการ์ดเป็นพิเศษเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายไทย ทางบริษัทจึงเสนอราคามาที่ใบละ XX,XXX,XXX บาทครับ
แทนที่เขาจะมาจับผิดคนอ่านคอนเทนต์ว่าทำไมคนอ่านเยอะ
เขาไม่ทำให้รายการของเขาให้คนสนใจมากขึ้นแทน
แค่เอาคำตอบที่ทุกคนรอคอยมาพูดให้เคลียร์ในรายการ คนก็สนใจมากขึ้นแล้ว
ประเทศไทยไร้เสรี
คอนเซ็ปต์เดียวกับการล่าแม่มดนั่นแหล่ะครับ
มันพิสูจน์ไม่ได้หรอกว่าใครอ่านหรือไม่อ่าน แต่แค่อยากจะจับใคร อยากจะกำจัดใคร ก็ยัดข้อหาเข้าไปว่ามันอ่านตำราแม่มดนะ ก็จับเลย สบายใจ
ใครจะกล้าหือกล้าอือ ทุกคนก็กลัวตายทั้งนั่น
ทุกวันนี้ผมเลิกบ่นแล้ว ปลง นั่งดูแต่ว่าจะย้ายไปเป็น Citizen ชาติอื่นยังไงได้บ้าง
เราคอมเมนต์อะไรได้บ้าง ?
น่าจะเป็นการป้องปราม เหมือนพวกก่อการร้ายที่เผยแพร่คำสอน ความเชื่อแบบผิดๆ สมาชิกกลุ่มแค่อ่านข้อความเหล่านั้นก็ซึมซับความเชื่อข้อความปลุกระดมที่ผิดๆ
ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอนาคตที่จะก่อความผิด
แต่กฏหมายปัจจุบันไม่สามารถเอาผิดกับคนกลุ่มนี้ได้เพราะยังไม่ก่อเหตุ เลยออกข้อนี้มาเพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
เดาเอาครับว่าเป็นแบบนี้
งั้นต้องกำหนดบรรทัดฐานอย่างไรดีครับ ผมอ่านข่าวอาชญากรรมอื่นๆ ข่าววัยรุ่นแว้นมอเตอร์ไซค์ หรือแม้แต่ข้อความที่ดราม่าทะเลาะกันจนถึงขั้นฟ้องหมิ่นประมาทได้ ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะต้องไปทำผิดตามนะครับ
เหมือนสมัยล่าแม่มด ที่ต้องจับคนที่ฝ่าฝืนคำสอนของศาสนจักรมาเผาให้หมด หรือไม่ก็ใช้ทัณฑ์ทรมาณให้รับสารภาพ(จะได้ตายเสียที) จะได้ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ให้คิดสงสัยศาสนจักรใช่ไหมครับ?
ผมพูดถึงยุคกลางนะ ที่แค่พูดว่าตัวเอง"คิด"สงสัย ศาสนจักร ก็ต้องโดนลงโทษแล้ว....
ผมว่าแค่ขู่นะ คงไม่มีปัญญาทำอ่ะ 55