เกิดเหตุเด็กหญิงชาวเยอรมันวัย 15 ฆ่าตัวตาย พ่อแม่ของเด็กอยากทราบสาเหตุที่ลูกฆ่าตัวตาย ด้วยการพยายามเข้าไปยังแอคเคาท์ Facebook ของลูกสาวเพื่อดูประวัติการแชท ล่าสุดศาลอุทธรณ์ของเยอรมันตัดสินว่าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ดังกล่าว
ตอนแรก ศาลชั้นต้นตัดสินว่าพ่อแม่มีสิทธิ์เข้าถึง Facebook ของลูกสาวได้ โดยระบุว่าข้อมูลสามารถสืบทอดได้โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหา แต่ทาง Facebook ขออุทธรณ์การตัดสิน ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็ตัดสินว่าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาใน Facebook ของลูกสาว เนื่องจาก Facebook ทำสัญญาการใช้งานกับตัวผู้ใช้ (ลูกสาว) ไม่ใช่พ่อแม่ และข้อมูลการติดต่อพูดคุยกับผู้อื่นของลูกสาวไม่สามารถสืบทอดได้
ศาลอุทธรณ์ชี้ว่า ความเป็นส่วนตัวออนไลน์เป็นสิทธิ ไม่สามารถสืบทอดเป็นมรดกได้ หากกรณีนี้ฝ่ายผู้ปกครองชนะสามารถเข้าถึงได้ จะเป็นแบบอย่างที่อันตรายมากต่อความเป็นส่วนตัวบนออนไลน์
ด้าน Facebook บอกว่า จะพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย
ภาพจาก Pexels
ที่มา - Ars Technica
Comments
สัญยา => สัญญา
หัวข้อข่าว
ศาลเยอรมันมันตัดสิน ?
มีเสียงแว่วขึ้นมา "ชั้นเป็นพ่อแม่ ทำไมชั้นดูไม่ได้".
สงสัย คะแนนไม่ถึง สอบไม่ติด สาธิตเกษตร
แล้วไม่อยากไปเรียน กรุงเทพคริสเตียน หรือไม่ อย่างไรครับ ?
แล้ว Facebook สามารถที่จะอ่าน Chat ของเราไหมครับ หรือ เข้ารหัสจน แม้แต่ Facebook เองก็อ่านไม่ได้
โดยตัวโครงสร้างที่เปิดเผยเปิดเผยไว้ WhatsApp จะทำไม่ได้ครับ ส่วน Facebook Messenger ตามปกตินี่ไม่เหลือ
ไม่แน่ใจว่าระบบนี้มาหรือยังนะครับ ถ้าเป็นแบบตัวนั้นทาง Facebook เองก็อ่านไม่ได้
ย้ำว่าทั้งหมดเป็นแค่โดยโครงสร้างที่คาดว่าจะเป็นกันครับ ถ้าเค้าจะอ่านจริงๆ เค้าสอดไส้อะไรมาก็ได้อยู่แล้ว
อ่านได้ครับ facebook developer อ่านได้หมด
ตามโครงสร้างและแนวทางที่ facebook ให้ไว้
ส่วน chat แบบดั่งเดิม ตัว facebook ยังอ่านได้ แต่ส่วนของ secret conversations จะเป็นแบบ end-to-end encrypted แม้แต่ตัว facebook ก็อ่านไม่ได้
"Facebook เอง" ต้องการหมายถึงใครบ้างครับ?
- พนักงานของ Facebook เช่น ระดับลูกน้อง, ระดับหัวหน้า, developer, คุณ Mark?
- Server service program?
- Application client program?
ถ้ามี พนง ไม่ว่าจะระดับไหนอ่านได้ก็นับเป็น Facebook ครับ
ผมคิดว่าการ Chat เป็นแบบ 1 ต่อ 1 บุคคลที่ 3 ไม่ควรจะอ่านได้
นอกจากบุคคลที่ 1 และ 2 เป็นคนบอกหรืออนุญาตครับ
โอ้โห นึกภาพไม่ออกว่าพ่อแม่จะรู้สึกยังไง ถ้าสาเหตุฆ่าตัวตายมันอยู่ในนั้น แต่เข้าไปรับรู้ไม่ได้
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่าถ้ามีหลักฐานชัดเจนว่าใน Chat นั้น มีข้อความมูลเหตุอยู่แน่นอน ศาลคงออกหมายให้ FB ได้แหละครับ, แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน แล้วจะไป "หา" เอาในที่ๆ ก็ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า มันกลายเป็นว่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของคู่สนทนาด้วยหรือเปล่าครับ ;)
my blog
การรับรู้ในบางครั้ง does more harm than good นะครับ ยิ่งถ้ารู้ว่าเด็กเกิด depression แล้วฆ่าตัวตายเพราะตัวพ่อแม่เองจะยิ่งไปใหญ่
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมรู้สึกขึ้นมาเล้กๆว่า แค่มีโอกาสเจอสาเหตุ แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม ผมก็อยากจะทราบ แต่ในสายตาของผม ข่าวนี้คือ คนที่หวงความเป็นส่วนตัวแบบสุดโต่ง จนไปเบียดบังผู้อื่น
ของลูกสาวนี่ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ความเป็นส่วนตัวของคนที่ติดต่อกับลูกสาวนี่จะเป็นยังไง เกิดมีการส่งข้อความหรือรูปภาพที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างกัน พ่อแม่ก็ไม่น่าจะมีสิทธิจะเข้าไปละเมิดคนอื่นได้ครับ
ความเห็นใจก็ส่วนความเห็นใจ แต่มาตราฐานทางสังคมมันก็ต้องรักษาไว้
ในมุมศาล คงมองในมุมมาตราฐานของภาพรวมทางสังคม ถ้าการเข้าไปดูเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนหาสาเหตุคงขอได้ แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ต่อการดำเนินคดี และซ้ำร้ายมันกลับไปทำลายมาตราฐานทางสังคมแทน แบบนี้คงต้องเก็บความเห็นใจวางไว้แทน
นี่ยังไม่รวมไปถึงการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นที่ได้พูดคุยกับลูกของเค้าเอง ซึ่งอาจจะมีเรื่องส่วนตัวของคนอื่นๆ มาเกี่ยวข้องด้วย
ผู้อื่นนี่ใครครับ
ความเป็นส่วนตัวมันก็เป็นของของคนนั้น ไม่น่าจะไปเบียดบังจากผู้อื่นได้นะครับ
ถ้าคนคนหนึ่งอยากได้อะไรของผู้อื่น แล้วเจ้าของเขาหวง ไม่ให้ ไม่เรียกว่าเบียดบังนะครับ
ถ้าอยากรู้จริงๆ พ่อแม่คงต้องเดา password ของลูกไปละกัน
ไทยเราไม่มีปัญหา เพราะเดี๋ยวเพื่อนจะแคปมาให้เอง หุหุ
แล้วอะไรต่างๆ บน cloud เช่น Google photo เวลาผมไม่อยู่แล้ว ลูกๆไม่รู้รหัส เค้าก็จะเข้าไปดูไม่ได้สิ
ทดลองติดตั้ง 3 OS | Windows Ubuntu Android
หลายๆอย่างก็เปิดเป็น public ได้นี่ครับ Google Photos เองก็มี public albums หลายๆอย่างก็ share permission ให้คนบางคนดูได้
หรือถ้าไม่เพียงพอก็บอก password ลูกๆไว้ก็ได้นี่ครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เฟซบุ๊คมันทำพินัยกรรมได้นะครับว่าถ้าเราเป็นอะไรไปแล้วใครจะเป็นคนดูแลบัญชีเราต่อ กูเกิลก็เช่นกัน
แต่พวกรูปบนคลาวด์ผมสั่งแชร์ให้ครอบครัวอยู่แล้วครับ
ครับ พอดีของผมลูกยังเล็กๆกันอยู่ แต่ผมก็เตรียมการไว้พอสมควรแล้ว คือสมัครเมลให้เค้า แล้วก็ตั้งสืบทอดให้เค้าเลย พอดีรูปทุกอย่างผมเอาขึ้น google photo หมดเลย ทั้งรูปจากมือถือ จากกล้องใหญ่
กะว่าพอเราไม่อยู่แล้่ว เค้าสามารถนั่งดูรูปครอบครัว หรือดูพัฒนาการของเค้าตั้งแต่เด็กได้เลย
ทดลองติดตั้ง 3 OS | Windows Ubuntu Android
อัดรูป 4x6 เป็นอัลบั้มไว้ แล้วเอาไฟล์ภาพใส่ไว้ใน sd card ไว้หลังภาพแรกในอัลบั้มเลยครับ ;)
my blog
ผมเชื่อว่าถ้าผมโดนเข้ากับตัวเอง ผมก็อยากจะดู
ว่าตามตรงผมเชื่อวิทยาศาสตร์ ผมไม่เชื่อเรื่องวิญาน ตายคือจบ ผลที่ตามมาไม่กระทบอะไรกับคนตาย
ดังนั้นการเปิดเผยเพราะพ่อแม่หรือลูกต้องการนั้นควรทำได้
ใครๆก็อยากดูครับอันนี้เป็นเรื่องปกติ
แต่หลายๆคน(ที่ลูกหรือพ่อแม่คุยด้วย)อาจจะไม่อยากให้ดูนะครับ การเปิดเผยเพราะความต้องการของคนหรือสองคนกับคนอีกหลายสิบหลายร้อยคนเอามาเทียบกันน้ำหนักฝั่งหลังมันมากกว่าครับ การมีกฎหมายก็เพื่อป้องกัน need ฝั่งนึงไปทำลายสิทธิของอีกฝั่งนึงอยู่แล้วครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แล้วคนที่คุยกับคนตายล่ะ ไม่เคารพสิทธิ์เขาเลยเหรอ เหมือนส่งจดหมายไปหาชาวบ้าน อ้าว คนรับตายแล้ว แกะอ่านเลยละกัน
+10
เพิ่งดู snowden จบ ในหัวมีแต่คำว่า NSA
The Last Wizard Of Century.
ถ้าไม่ใช่ฆ่าตัวตาย แล้วโดนฆ่าตกรรม มีหลักฐานแค่ในนั้น... ปกติเวลาตำรวจไปสืบค้นหาหลักฐานก็ละเมิดสิทธิ์คนอื่นอยู่แล้วทุกวันนี้ ลื้อค้นสาระพัด แค่มีหมายศาลเอง
มันเป็นการขอหมายเพื่อสืบสวนเอาตัวผู้กระทำผิดครับ คุณคงไม่อยากปล่อยฆาตกรอยู่ข้างบ้านคุณนะครับ มันมีความเสี่ยงจะเสียหายในวงกว้างว่าคนอื่นอาจโดนกระทำต่อ มันไม่มีความเหมือนกันเลยนะครับ อีกอย่างคนตายถ้าอยากให้พ่อแม่รู้เขาคงเขียนจดหมายบอก ถ้าไม่อย่างนั้นก็คือเขาไม่อยากให้รู้ครับ ต่อให้พ่อแม่ก็ต้องเคารพคนที่ตายด้วย
+1 ถ้ามีตัวละครฆาตรกรเพิ่ม เรื่องเปลี่ยนทันที เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อื่นอีก
กรณีนี้ถ้าพ่อแม่มีเบาะแสว่าลูกฆ่าตัวตายเพราะมีผู้อื่นเป็นสาเหตุ เช่น ได้รับการกลั่นแกล้ง, หลอกลวง, หรือลัทธิแปลกๆ อาจจะเปลี่ยนทิศทางการตัดสินได้เลย
หากการดู คือคนกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับรูปคดี ไม่ได้เผยแพร่ออกนอกวงคดี สมควรให้ดูครับ รู้เพื่อปรับหรือเป็นอุทาหรณ์/บทเรียน ดีกว่าไม่รู้ครับ
ส่วนหากเจ้าหน้าที่หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเอาข้อมูลเชิงบุคคลทั้งตัวผู้ตายและคู่สนทนาไปเผยแพร่สู่สาธารณะก็ควรมีความผิดครับ
ผมมองเป็นสองอย่าง การปกปิดความจริงในเรื่องอันควรผมมองว่าไม่เหมาะสมครับ