ปัญหาความรุนแรงที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Facebook Live กำลังเป็นประเด็นที่น่ากังวล เพราะมีคนเห็นทั่วโลก เครื่องมือคัดกรองยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นับจากวันที่เปิดตัว Facebook Live ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 มีความรุนแรงที่ถูกถ่ายทอดสดแล้วกว่า 45 เหตุการณ์ คิดเป็น 2 ครั้งต่อเดือน (ข้อมูลจาก Buzzfeed) เช่น ฆ่าตัวตาย ข่มขืน ฆาตกรรม กระทำรุนแรงต่อเด็ก
เดือนเมษายนที่ผ่านมาเกิดเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ผ่าน Facebook Live ถึงสองเหตุการณ์ มีเหตุฆาตกรรมโดยผู้ลงมือเป็นคนถ่ายทอดเหตุการณ์ทั้งหมดเอง เป็นข่าวดังไปทั่วโลก นำมาซึ่งการตั้งคำถามต่อ Facebook ว่าควรจะมีวิธีจัดการอย่างไร และไม่กี่วันก็เกิดเหตุในประเทศไทยอีก หลังจากนั้น Facebook จึงประกาศเพิ่มทีมมอนิเตอร์เนื้อหารุนแรง-ฆ่าตัวตายบน Facebook อีก 3,000 คน และยืนยันจะพัฒนาเครื่องมือนำคอนเทนต์ออกได้อย่างรวดเร็ว
ภาพจาก About Facebook Live
ด้านตำรวจและผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากร แสดงความกังวลว่า Facebook Live จะเปิดโอกาสให้อาชญากรที่ต้องการชื่อเสียงใช้ก่ออาชญากรรม เพราะทุกข่าวดังกล่าวเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นข่าวตามสื่อใหญ่เลย เพราะ Live เปิดพับลิกให้เห็นทั้งโลกอยู่แล้ว
Buzzfeed พบว่าจำนวน Facebook Live ที่มีเนื้อหาความรุนแรงเริ่มลดลงหลังจากประกาศเพิ่มตำแหน่งมอนิเตอร์ (9 เหตุการณ์ในเดือน เม.ย. เหลือ 3 เหตุการณ์ในเดือน พ.ค.) อย่างไรก็ตาม งานคัดกรองไลฟ์ยังคงเป็นงานหนักไม่สิ้นสุด ปัจจุบัน Facebook มีทีมทำหน้าที่นี้กว่า 7,500 คน แต่การนำเนื้อหารุนแรงออกจากแพลตฟอร์ม 100% ยังทำไม่ได้ เพราะความรุนแรงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Facebook ไปแล้ว
ที่มา - Buzzfeed
Comments
เป็นสิ่งที่ผมอยากให้ AI เอาชนะมนุษย์ให้ได้ยิ่งกว่าเกมโกะ
คือให้ AI ตรวจคัดกรองเนื้อหาที่รุนแรงได้
ตอบยาก คนเรายังวัดระดับความรุนแรงไม่เท่ากันเลย
ขนาด คลิปรถไฟของไทยรัฐ ที่มียันรถไฟผ่านไปแล้ว
ยังมีคนด่าผมเลยที่บอกว่า เอาแค่เห็นว่าตกไป ก็พอแล้วเห็นแบบนี้มันทั้งรุนแรงและหดหู่ไป
การใช้ทรัพยากรที่เปลืองมากๆกับการจ้างคน 7500 คนเพื่อนสกรีน live อันเดียว ถ้าพัฒนา AI ได้จริงๆ จะดีกว่านี้มาก
ความเห็นของผมคือ กรณีนี้แก้ไขยาก ถ้าใช้คนมาคอยตรวจสอบ
แล้วจะต้องเพิ่มคนอีกจำนวนเท่าไหร่? สุดท้ายก็จะเป็นรายจ่ายที่ไม่คุ้มค่า
ถ้าจะควบคุมการ Live ให้ทำได้ยากขึ้น สร้างขั้นตอนและเงื่อนไขที่
จุกจิกมากมาย ตัวอย่างเช่น การยืนยันตัวตนก่อน จึงจะทำการ Live ได้
จะทำให้ยอดการใช้งานร่วงลง แต่สำหรับ Social Network อย่าง
Facebook สามารถทำได้ และผู้ใช้ส่วนใหญ่(ที่ดี) ก็น่าจะพร้อมสำหรับ
กฏหรือเงื่อนไขของทางบริษัทอยู่้แล้วหละครับ ผมมั่นใจว่าทาง Facebook
จะจัดการได้แน่นอน ด้วยการออกกฏมาเพื่อควบคุมปัญหาในส่วนนี้
จะตายแล้วยังเดือดร้อนคนข้างหลังตามล้างตามเช็ดอีก
เมื่อวานผมยังนึกกังวลว่า สักวันคงมีคน LIVE การฆาตกรรมแบบ FPS แน่ๆ ติดกล้องไว้ที่หัวหรือปืน จากนั้นก็ไล่เก็บชาวบ้านทีละคนพร้อมกับถ่ายทอดสดไปทั่วโลก...
live 1 ที จะมีเจ้าหน้าทีเข้ามาดูอย่างน้อย 1 คนสินะ ><