Fair Work Ombudsman หน่วยงานตรวจสอบด้านการจ้างงานของออสเตรเลียได้เริ่มกระบวนการสืบสวน Uber ในด้านวิธีการรับพนักงาน หลังจากที่กลุ่มของผู้ขับรถ Uber ต้องการสถานะของลูกจ้างไม่ใช่สถานะของพาร์ทเนอร์ตามที่ Uber กล่าวอ้าง
ทั้งนี้ คาดว่าทางหน่วยงานต้องการที่จะใช้กฎหมายในการบีบให้ Uber ทำตามกฎของสถานที่ทำงาน และจ่ายเงินค่าจ้างพนักงานรวมถึงให้ผลประโยชน์เมื่อเกษียณเหมือนกับลูกจ้างตามบริษัททั่วไป
ทั้งนี้ Uber ยังคงแก้ต่างโดยให้เหตุผลว่าบริษัทให้อิสรภาพกับพาร์ทเนอร์มากกว่า โดยทางบริษัทให้ข้อมูลกับ Reuters ทางอีเมลว่าพาร์ทเนอร์ชาวออสเตรเลียกว่า 60,000 คนเลือกขับรถกับ Uber เพราะว่าต้องการจัดตารางเวลาและเป็นนายของตัวเอง ซึ่งทางบริษัทยินดีร่วมมือกับหน่วยงานเพื่อตอบคำถามทุกอย่างที่ต้องการ
ที่มา - Reuters
Comments
จะเรียกพาร์ทเนอร์แล้วเงินปันผลละ? ถ้าไม่มีมันก็หลอกกันเห็นๆแหละ
Partner คือคู่ค่า ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น ต้องมีเงินปันผลให้ด้วยเหรอครับ
สำหรับผมเหมือนจ้าง Outsource ทำงานอย่างนึงได้ค่าจ้างจบแล้วคือจบ ไม่จำเป็นต้องแบ่งกำไรให้อันนี้ไม่รู้ผมคิดถูกมั้ย
อีกอย่าง Uber ไม่เคยมีกำไร ไม่รู้จะเอาปันผลที่ไหนมาแบ่ง 555
อันนี้ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุผลอะไรที่ uber ถึงควรจะให้สถานะลูกจ้าง
คือผมอาจจะคิดว่าใครไม่พอใจก็ไม่ต้องทำ อีกอย่าง uber ก็บอกว่าไม่ใช่ลูกจ้างตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่
ผมสงสัยว่า ถ้าขับแท็กซี่แล้วจะมีสวัสดิการให้หรอคับ
จริงๆ Uber ไม่น่าจะอยู่ในสถานะ "นายจ้าง" นะ แต่น่าจะใกล้เคียงกับสถานะ "นายหน้า" มากกว่า คือเป็นตัวกลางให้ลูกค้าได้พบกับผู้ให้บริการ โดยเก็บส่วนแบ่งจากค่าบริการ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดเด่นของเค้าอยู่แล้ว ถ้าคนขับเป็นลูกจ้างของเค้า ก็ไม่ต่างอะไรกับสหกรณ์แท็กซี่น่ะสิ
ถ้าขับ บางวันไม่เป็นเวลาแน่นอน ผมว่า อันนี้เข้าข่ายเป็น partner
แต่ถ้าขับเกือบทุกวัน เวลาค่อนข้างแน่นอน อันนี้มีลักษณะ คล้ายเป็นลูกจ้างเหมือนกันนะครับ