Mercedes-Benz ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี เตรียมจะเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า Formula E ในฤดูกาลที่ 6 (ปี 2019/2020) หลังจากที่คู่แข่งคนสำคัญ BMW เพิ่งประกาศเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ในฤดูกาล 2018/2019 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทางเมอร์เซเดสยังเตรียมถอนตัวจากการแข่งขันรถยนต์รายการ DTM ซึ่งเป็นรายการที่ค่ายรถยนต์จากเยอรมนีใช้เป็นเวทีสำหรับทดสอบและพัฒนารถยนต์ของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2000 หลังจบฤดูกาล 2018
การที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายแห่งหันมาทุ่มเทให้กับการพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังมุ่งหน้าไปทางนี้
ภาพประกอบจาก Formula E
Formula E เป็นการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบล้อเปิด (เหมือน Formula 1) ที่ทาง FIA จัดการแข่งขันขึ้นครั้งแรกในปี 2014 เพื่อกระตุ้นและยกระดับการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งในด้านเทคโนโลยีและการตลาด รูปแบบการแข่งขันจะเป็นการตระเวนแข่งแบบ Street circuit ไปตามหัวเมืองใหญ่ของโลก โดยขณะนี้กำลังแข่งขันกันอยู่ในฤดูกาลที่ 3 (2016/2017)
นอกจากเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแล้ว แบตเตอรี่เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการแข่งขัน Formula E โดยในฤดูกาลที่ 5 จะไม่มีการเข้าไปเปลี่ยนรถแล้วเพราะคาดกว่าการชาร์จไฟ 1 ครั้งจะเพียงพอต่อการแข่งขันตลอดทั้งเรซ นอกจากนี้ทางคณะทำงานด้านเทคนิคกำลังศึกษาและเตรียมนำเสนอในเรื่องของ 'charge up' ที่จะให้รถเข้าไปหยุดชาร์จไฟคล้ายๆกับการเติมน้ำมันของรถ Formula 1 ในอดีต ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาสถานีจ่ายไฟ
ถึงตรงนี้ มีโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ที่กำลังแข่งขันและจะเข้าร่วมแล้วถึง 7 ค่ายได้แก่ Mercedes, BMW, Audi, Renault, Jaguar, DS (Citroen), Mahindra และคาดว่าในอนาคตอันใกล้จะมีค่ายรถยนต์เช่น Porsche, Volvo หรืออื่นๆเข้ามาร่วมแข่งขันเพิ่ม แม้ตอนนี้การแข่งขัน Formula E อาจจะยังไม่ใช่รายการที่ได้รับความนิยมมากนักเนื่องจากเสียงที่ค่อนข้างเงียบของเครื่องยนต์ไฟฟ้า แต่ Formula E ถือเป็นรายการที่เติบโตค่อนข้างเร็วและน่าจับตามองในอนาคต
Comments
เยอรมันนี => เยอรมนี
แก้แล้วครับ
..: เรื่อยไป
ชอบรถเสียงดังๆ กันสิน่ะเวลาแข่ง
อิอิ ประมาณนั้น ^^
..: เรื่อยไป
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะครับ แต่พอเวลาได้ยินเสียงเครื่องยนต์แล้วมันจะทำให้ตื่นเต้นกว่ากว่านั่งดูรถวิ่งผ่านไปเงียบๆ
รถสปอร์ตไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็มีออพชั่นเปิดเสียงเครื่องครับ
ส่วนนึงก็เรื่องความตื่นตัว (ไม่งั้นจะหลับ) อีกส่วนนึงก็เพื่อความสนุกสนานของคนขับด้วย
เคยไปดู F1 ของจริง รถวิ่งผ่านมาเสียงดังกัมปนาทราวกับเสียงสายฟ้าฟาดลงมาข้างๆหู รอบแรกตื่นเต้นมาก รอบสองยังตื่นเต้นอยู่ รอบสามชักเริ่มชิน รอบสี่ชักรู้สึกหนวกหู แต่ก็ดูไป
ค่ายญี่ปุ่นหายไปไหนหมด ?
จริงๆมีค่าย Nissan ที่ก็สนใจจะมาลุยตรงนี้เหมือนกัน แต่ยังอยู่ในระดับที่เฝ้าติดตามอยู่เฉยๆ
..: เรื่อยไป
nissanถ้าไม่มาแทนrenaultเลยก็คงไม่มาแหละครับ เพราะยังไงบริษัทเครือเดียวกันก็แชร์เทคโนโลยีกันอยู่แล้ว เหตุผลเดียวที่จะใช้ชื่อnissanลงแข่งก็คงมีแค่เพื่อการตลาดน่ะครับ
เนอะ ก็น่าจะตามนี่ล่ะมั้งครับ ตามข่าวเห็นมีบอกว่าทางเฟอร์รารี่ก็สนใจที่จะส่งยี่ห้อ Fiat-Chrysler มาแข่งตรงนี้เหมือนกัน
..: เรื่อยไป
ไปดู WEC กันก่อน
สั้นๆคือกากครับ และค่ายญี่ปุ่นก็คงไม่แคร์อยู่แล้ว(จริงๆอยากใช้คำว่า I don't give a .....)
ตอนแรกผมก็คิดว่ามุมมองแบบนี้มันอคติต่อค่ายญี่ปุ่นเกินไปหรือเปล่านะ แต่พอย้อนมาดูMclaren Hondaปีนี้กับปี2015 ก็นะ - -" (จริงๆ2016ก็ห่วยแต่ไม่ห่วยจัด555555)
จริงๆอยากให้ไม่มีการผูกขาดแบตเตอรี่ด้วยนะ จะได้แข่งกันพัฒนาแบตเตอรี่กันมากขึ้น จะได้เอาไปใช้ในproduction lineของตัวเองกันเร็วๆด้วย ซีซั่นนี้Williamsทำ พอซีซั่นหน้าMclarenก็ทำเจ้าเดียวอีก
ถ้าเสียงมันไม่ดังก็เอาเวที Tomorrowland ไปตั้งข้างสนามแข่งสิ่ ให้ Zedd หรือไม่ก็ Tiesto เปิดให้ แค่นี้ก็เร้าใจสุดๆล่ะ
ทำไม Formula E มีเกียร์