Mercedes-Benz ปรับทิศทางธุรกิจภาพใหญ่ จากเดิมที่เคยประกาศไว้ในปี 2021 ว่าจะเปลี่ยนรถทั้งหมดที่ขายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ภายในปี 2030 ตอนนี้แผนเปลี่ยนซะแล้ว
Mercedes-Benz คาดว่ารถ EV จะมีสัดส่วนประมาณ 50% ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ (2026-2030) ด้วยเหตุผลเรื่องความต้องการของลูกค้าและสภาพการแข่งขันในตลาด แต่เป้าหมายหลักของบริษัทยังเหมือนเดิมคือ to build the world’s most desirable cars โดยจะใช้เทคโนโลยีใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าล้วนหรือไฮบริด
Mercedes-Benz ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ของ MBUX Voice Assistant ผู้ช่วยสั่งงานในรถด้วยเสียง ให้ใช้ความสามารถของ ChatGPT เพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับคำสั่งที่หลากหลายกว่าเดิม
MBUX Voice Assistant เป็นผู้ช่วยในรถที่เรียกใช้ด้วยคำสั่ง “Hey Mercedes” โดยปกติแล้วผู้ช่วยในกลุ่มนี้ก็มักรับคำสั่งได้จำกัดตามที่ออกแบบไว้ แต่การใช้ ChatGPT เข้ามาจะช่วยให้ผู้ใช้ถามคำถามที่ซับซ้อนกว่าเดิม รวมถึงการขอรายละเอียดจุดหมายปลายทาง หรือการถามนอกเรื่องอย่างสูตรอาหาร
ทาง Mercedes-Benz ใช้โมเดลของ OpenAI ผ่านทาง Azure OpenAI Service ส่วนข้อมูลเสียงจะเก็บรักษาโดย Mercedes-Benz เอง
Mercedes-Benz ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมของระบบปฏิบัติการ MB.OS (Mercedes-Benz Operating System) ที่ตัวเองกำลังพัฒนาอยู่ และคาดว่าจะเริ่มใช้งานในช่วง "กลางทศวรรษ" (mid decade) หรือราวปี 2025
ระบบปฏิบัติการ MB.OS ใช้ทีมภายใน in-house พัฒนาร่วมไปกับสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มรถยนต์รุ่นใหม่ MMA platform (Mercedes Modular Architecture) ตัวระบบปฏิบัติการครอบคลุมตั้งแต่การขับขี่ การชาร์จ การขับขี่อัตโนมัติ ระบบภายในรถยนต์ ระบบแสดงผลข้อมูล ฯลฯ โดย Mercedez-Benz ยืนยันว่า MB.OS เป็นระบบปฏิบัติการปิด (proprietary system) ที่จะเปิดให้พาร์ทเนอร์บางรายเข้ามาร่วมเชื่อมต่อเท่านั้น
หลายคนอาจมีภาพจำว่าระบบช่วยขับของ Tesla หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autopilot นั้นเป็นผู้นำตลาดเพราะบุกเบิกมาก่อนและสร้างชื่อเสียงมานาน แต่รายงานล่าสุดของ Consumer Reports กลับพบว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
Consumer Reports (CR) ได้ทดสอบระบบช่วยขับขี่ 12 ระบบทั้งในสนามปิดและบนถนนจริง และแบ่งเกณฑ์ออกเป็น 5 ประเภทคือความสามารถและประสิทธิภาพ, การกระตุ้นผู้ขับขี่, ความง่ายในการใช้งาน, การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง
ผลการทดสอบสรุปออกมาว่าระบบ BlueCruise ของ Ford ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 84 คะแนน ตามมาด้วย Super Cruise ของ GM (75 คะแนน) และ Driver Assistance ของ Mercedes-Benz (72 คะแนน) ส่วน Tesla Autopilot นั้นรูดไปอยู่อันดับ 7 ได้เพียง 61 คะแนน แพ้แม้กระทั่งระบบ Safety Sense 3.0 ของ Toyota ที่ได้ 65 คะแนน โดยเมื่อปี 2020 Tesla เคยอยู่อันดับ 2
Mercedes-Benz ระบุว่าเป็นแบรนด์รถยนต์รายแรกในตลาดสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 3 บนถนนจริงแล้ว
ระบบนี้คือ Drive Pilot ที่ Mercedes-Benz นำมาโชว์ตั้งแต่ต้นปี 2022 และได้รับอนุมัติให้ใช้งานในเยอรมนีมาก่อนแล้ว (มีใน S-Class และ EQS)
ข้อจำกัดตอนนี้คือยังได้รับอนุมัติเฉพาะถนนในรัฐเนวาดาเพียงรัฐเดียว และจำกัดที่ความเร็วไม่เกิน 40 ไมล์ต่อชั่วโมง (64 กม./ชม.) เท่ากับว่าใช้ในช่วงรถติดเป็นหลัก ผู้ขับขี่สามารถนั่งโดยไม่ต้องจับพวงมาลัย แต่ต้องไม่หลับ เพราะรถอาจขอให้กลับมาขับแทนได้ตลอดเวลา และถ้าไม่ตอบสนองภายใน 10 วินาที รถยนต์จะหยุดฉุกเฉิน
Mercedes-Benz ขึ้นขายแพ็กเกจ Acceleration Increase ของรถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ Mercedes-EQ ราคา 1,200 ดอลลาร์ต่อระยะเวลา 1 ปี เมื่อซื้อแล้วจะเป็นการโอเวอร์คล็อคปลดล็อคให้รถยนต์สามารถเร่งความเร็วจาก 0 เป็น 60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้เร็วขึ้นจากเดิม 0.8-1 วินาที
รถยนต์ที่ถูกล็อคการเร่งความเร็วเอาไว้ แล้วต้องซื้อแพ็กเกจเพื่อปลดล็อคคือ Mercedes EQE และ EQS ทั้งเวอร์ชันซีดานและ SUV ตอนนี้แพ็กเกจยังมีเฉพาะหน้าเว็บของ Mercedes Benz ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
Apple Music ร่วมมือกับ Mercedes-Benz เพื่อนำฟีเจอร์ระบบเสียงรอบทิศทาง Spatial Audio พร้อมกับ Dolby Atmos มาใช้ในรถยนต์เป็นครั้งแรก แต่จะใช้ได้เฉพาะรถยนต์ Mercedes Benz บางรุ่น และต้องเพิ่มเงินเพื่อติดตั้งชุดเครื่องเสียงเพิ่มเติม
รถที่รองรับ ได้แก่ Mercedes-Maybach S-Class, EQS, EQS SUV, EQE, EQE SUV และ S-Class ซึ่งเป็นรุ่นที่รองรับการติดตั้งระบบเสียง Burmester 3D และ 4D ที่มีลำโพง 31 ตัว ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นเงิน $4,550 (ราว 173,500 บาท) และ $6,730 (ราว 256,700 บาท) สำหรับระบบ 3D และ 4D ตามลำดับ
ในงาน IAA 2022 อันเป็นงานจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขนส่งซึ่งจัดขึ้นที่ Hanover ประเทศเยอรมนี Mercedes-Benz เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นใหม่ eActros LongHaul พัฒนามาเพื่อการขนส่งสินค้าระยะไกล สามารถวิ่งได้ประมาณ 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
eActros LongHaul มีแบตเตอรี่ 3 ชุดรวมความจุ 600 kWh ใช้มอเตอร์ 2 ตัว ให้กำลังขับแบบต่อเนื่อง 400 kW และสามารถส่งกำลังได้สูงสุดมากกว่า 600 kW โดยแบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ LFP ที่มีข้อดีเรื่องอายุการใช้งาน ทั้งนี้ Mercedes-Benz ระบุว่าแบตเตอรี่จะสามารถใช้ได้นานกว่า 10 ปี รองรับการวิ่งมากกว่า 1.2 ล้านกิโลเมตร
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Mercedes-Benz ประเทศไทย ประกาศเปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยของ Mercedes-Benz EQS รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกที่ขายในไทย มี 2 รุ่นย่อย ราคา 8.57 และ 8.87 ล้านบาท มีดีลเลอร์แค่ 4 รายมีสิทธิ์จำหน่าย
Mercedes-Benz EQS เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบเก๋ง 4 ประตูขนาดใหญ่ หรือ Full-Size Luxury Sedan ที่ทางแบรนด์นำมาจัดแสดงในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 ถือเป็นหนึ่งในแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การจำหน่ายแต่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้นภายในปี 2030
สำหรับ Mercedes-Benz EQS ที่จำหน่ายในประเทศไทยมี 2 รุ่นย่อยคือ
Mercedes-Benz รายงานว่าบริษัทได้สั่งหยุดการผลิตในโรงงานสองแห่งที่บราซิล คือโรงงานใน Sao Bernardo do Campo และใน Juiz de Fora ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปในซัพพลายเชน
โรงงานของ Mercedes-Benz ในบราซิล เป็นส่วนการผลิตหัวรถบรรทุก ตัวรถบรรทุก และรถบัส ตลอดจนชิ้นส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบจากคำสั่งนี้ ทำให้พนักงานรวม 5,600 คน ถูกให้พักร้อนในช่วงเวลาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้โรงงาน Mercedes-Benz ในบราซิลเคยหยุดการผลิตไปครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม ซึ่งกระทบกับพนักงานประมาณ 1,200 คน
ที่มา: Reuters
Mercedes-Benz ออกมาโชว์เทคโนโลยีด้านการขับขี่อัตโนมัติหลายอย่าง โดยเทคโนโลยีของ Mercedes-Benz พัฒนาอยู่บนระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ชื่อ Mercedes-Benz Operating System (MB.OS) ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง โดยเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติที่นำมาโชว์ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ (SAE Level) ตามนิยามของ SAE International ที่เราคุ้นชื่อกันเวลาเห็นข่าวรถยนต์ไร้คนขับ
งาน Motor Expo 2021 กำลังจะเริ่มขึ้น โดย Mercedes-Benz ประเทศไทยได้นำรถยนต์ไฟฟ้า EQS มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเป็นการโชว์ตัวแก่บุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยผมได้มีโอกาสไปร่วมงานในวันสื่อมวลชนจึงได้เก็บภาพมาแชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันครับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าสนใจในวงการรถยนต์คือการเปิดตัว Mercedes-Benz EQS รถยนต์ไฟฟ้าเกรดพรีเมียม เทียบเท่ารถรุ่น S-Class (ข่าวรถรุ่นต้นแบบ Vision EQS ในปี 2019)
ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจคือคอนโซลหน้ามีจอภาพขนาดใหญ่ 55 นิ้ว (นับจากซ้ายสุดไปขวาสุด) ที่เรียกว่า MBUX Hyperscreen ที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA
NVIDIA มีบทความอธิบายการทำงานของจอภาพนี้ โดยระบบคอมพิวเตอร์เบื้องหลังคือ NVIDIA Drive ไม่ระบุรุ่น ซีพียู 8 คอร์ แรม 24GB ใช้ประมวลผลกราฟิกและ AI ไปพร้อมกัน (รถรุ่น EQS รองรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ level 3)
หนึ่งในความโดดเด่นของ Tesla ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ คือการทำให้รถยนต์อัพเกรดได้ ทั้งการเข้าศูนย์เปลี่ยนฮาร์ดแวร์และปล่อยอัพเดตซอฟต์แวร์ OTA
ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายจึงน่าจะพยายามเดินตามแนวทางนี้บ้าง แต่ด้วยปัญหาแนวทางการพัฒนา การผลิตชิ้นส่วน การประกอบหรือแม้แต่ความรู้ด้านเทคโนโลยี Mercedes Benz เลยหันไปจับมือกับ NVIDIA ออกแบบแพลตฟอร์มรถยนต์ที่สามารถอัพเกรดระบบไร้คนขับได้ โดยระบบไร้คนขับจะใช้งาน Drive AGX Orion แพลตฟอร์มประมวลผลของ NVIDIA เป็นหลัก
มีผู้ใช้รถยนต์ Mercedes-Benz รายงานว่า แอป Mercedes-Benz สำหรับใช้งานเพื่อระบุตำแหน่งรถยนต์, ปลดล็อก และสตาร์ทรถยนต์กำลังมีปัญหาเรื่องข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เพราะเขาสามารถเห็นข้อมูลบัญชีของคนอื่น และรายงานข้อมูลรถยนต์ของคนอื่นด้วย
TechCrunch ได้สอบถามผู้ใช้รถยนต์และแอปของ Mercedes-Benz สองคน และได้รับทราบว่าตัวแอปมีการดึงข้อมูลจากบัญชีอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองมา ทำให้สามารถเห็นชื่อเจ้าของรถคนอื่น, กิจกรรมล่าสุด, เบอร์โทรศัพท์ และอื่น ๆ ซึ่งหากมองในทางกลับกัน ไม่แน่ว่าข้อมูลส่วนตัวของตนเองก็อาจจะหลุดไปสู่คนอื่นได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี มีบางคนทดลองกดปุ่มสั่งล็อค/ปลดล็อค หรือสตาร์ทเครื่องยนต์ พบว่าไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ผลกระทบค่อนข้างจำกัด
ที่งาน Frankfurt Motor Show 2019 ที่กำลังจัดอยู่ขณะนี้ Mercedes-Benz ก็เดินหน้าบนเส้นทางรถยนต์ไฟฟ้าต่อ โดยการเปิดตัว Vision EQS รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่เน้นความหรูหรา หรืออาจกล่าวได้ว่ามันคือ S-Class แห่งโลกรถยนต์ไฟฟ้า
Mercedes-Benz ระบุว่า Vision EQS จะถูกวางตัวอยู่ในระดับท็อปสุดของซีรี่ส์ EQ (ชื่อเรียกกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าล้วน) ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิก S-Class แต่จะถูกทำตลาดควบคู่กันไป รวมถึงชื่อ S-Class ก็ยังถือเป็น "เรือธง" ของแบรนด์อยู่
ที่งาน Geneva Motor Show เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Mercedes-Benz ค่ายรถหรูจากเยอรมนีได้เผยโฉมต้นแบบรถตู้ไฟฟ้า EQV เป็นครั้งแรกต่อสาธารณชน พร้อมระบุว่าเป็นรถ MPV พรีเมียมพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก
ล่าสุดวันนี้ Mercedes-Benz ได้เปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวในเวอร์ชันวางขายจริงอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งก็มีหน้าตาไม่ต่างไปจากเวอร์ชันต้นแบบมากนัก ดูแล้วเป็นเพียงการนำรถรุ่น V-Class ที่ทำตลาดอยู่ปัจจุบันมาปรับหน้าตาเท่านั้น
BMW ประกาศปิดบริการแชร์รถ ReachNow ที่เปิดตัวในปี 2016 ซึ่งเปิดบริการเฉพาะบางเมืองในสหรัฐอเมริกา (ซีแอทเทิล พอร์ตแลนด์ บรุคลิน)
ประกาศนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะเป็นผลจาก ดีลยักษ์ใหญ่มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่ BMW เซ็นกับคู่แข่งร่วมชาติ Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz เพื่อตั้งบริษัทร่วมทุนเกี่ยวกับรถยนต์ในอนาคตร่วมกัน
บริการแชร์รถยนต์ ReachNow จะถูกปิด เพื่อหลีกทางให้กับบริการลักษณะเดียวกันชื่อ Share Now ซึ่งเกิดจากการควบรวมระหว่าง car2go ของ Daimler และ DriveNow ของ BMW เข้าด้วยกัน โดย BMW แนะนำให้ลูกค้า ReachNow ย้ายไปใช้ car2go แทน
ถึงแม้จะเป็นแบรนด์คู่แข่งโดยตรงกันมานาน แต่เมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนแปลง เราจึงเห็นผู้ผลิตรถยนต์ฝั่งเยอรมนีคือ BMW ประกาศจับมือกับ Daimler (บริษัทแม่ของ Mercedes Benz) พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับร่วมกัน และตั้งบริษัทร่วมทุนถึง 5 บริษัท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านรถยนต์ไร้คนขับ รถยนต์ไฟฟ้า และการขนส่ง มูลค่ารวม 1 พันล้านยูโร
บริษัทร่วมทุน 5 แห่งนี้ประกอบไปด้วย
เมื่อวาน Mercedes-Benz ประเทศไทยนำโดยคุณ Roland Folger ซีอีโอประกาศพร้อมลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยระบุว่าไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ โดยพิจารณาจากจำนวนรถยนต์และสถานีชาร์จ พร้อมประกาศสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในไทย
Roland Folgar มองว่าประเทศไทยค่อนข้างพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในแง่ของการขยายตัวของสถานีชาร์จ, การสนับสนุนของภาครัฐ ไปจนถึงการรับรู้และตื่นตัวของผู้บริโภค โดยที่ผ่านมา Benzแนะนำรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกในไทยตั้งแต่ปี 2555 กับรุ่น E 300 BlueTEC Hybrid ก่อนจะเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยภายใต้ชื่อ EQ Power และหลังจากนี้น่าจะทำตลาดอย่างกว้างขวางขึ้น รวมถึงชูความเป็นรถยนต์ที่ฉลาดหรือ Connected Car มากขึ้นด้วย
Mercedes-Benz ประกาศนำแพลตฟอร์ม Houndify จากบริษัท SoundHound ไปใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวประจำรถยนต์ รองรับสั่งงานด้วยเสียง สามารถเข้าใจคำพูดที่เป็นธรรมชาติได้
แพลตฟอร์ม Houndify เป็นส่วนหนึ่งของระบบอินโฟเทนเมนต์แบบใหม่ที่เรียกว่า MBUX เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2018 สามารถพูดว่า Hey Mercedes เพื่อเรียกใช้บริการต่างๆ เช่น ผลการแข่งขันกีฬา, ราคาหุ้น, ตำแหน่งปั๊มน้ำมัน, ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง, ค้นหาเพลง, รายงานสภาพอากาศ หรือระบบภายในรถยนต์ เป็นต้น
ระบบ MBUX แบบใหม่ จะมากับรถยนต์ A-Class ที่จะวางขายในอเมริกาเหนือปี 2019
เกือบสองปีมาแล้วที่ Mercedes-Benz ค่ายรถยนต์หรูจากเยอรมนีได้เผยโฉมคอนเซ็ปต์รถยนต์ SUV ไฟฟ้าล้วน “EQC” ที่งาน Paris Motor Show ล่าสุดได้ฤกษ์เปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวเวอร์ชันขายจริงแล้ว
Mercedes-Benz EQC หรือชื่อเต็มๆ ว่า Mercedes-Benz EQC400 4MATIC เป็นรถยนต์ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของบริษัท มันมาพร้อมกับมอเตอร์ 2 ตัว (หน้า-หลัง) มีกำลังรวมกัน 402 แรงม้า เร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (96.5 กม.) ได้ภายใน 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ความจุแบตเตอรี่ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีเซลล์แบตเตอรี่ทั้งหมด 384 เซลล์
บริษัท Daimler ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยแบ่งบริษัทให้เป็น 3 บริษัทย่อยคือ Mercedes-Benz AG, Daimler Truck AG และ Daimler Mobility AG ซึ่งทุกบริษัทจะอยู่ภายใต้บริษัทใหญ่ Daimler AG เพื่อให้มีหน้าที่แยกจากกันชัดเจนและปฏิบัติงานได้คล่องตัวขึ้น
สำหรับ Mercedes-Benz AG จะเป็นบริษัทที่รับผิดชอบเรื่องรถยนต์และรถตู้ ซึ่งเดิมคือหน่วย Mercedes-Benz Cars & Vans มีพนักงานทั่วโลก 175,000 คนส่วน Daimler Truck AG จะเป็นหน่วยที่รับผิดชอบเรื่องรถบัสและรถบรรทุก ซึ่งเดิมคือหน่วย Daimler Trucks & Buses มีพนักงานทั่วโลกราว 1 แสนคน
Daimler AG บริษัทเจ้าของแบรนด์เบนซ์ได้รับอนุญาตทดสอบรถอัตโนมัติระดับ 4 (อัตโนมัติแทบทั้งหมด ขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เมื่อจำเป็น) บนถนนเปิดในกรุงปักกิ่งได้แล้ว หลังจากทดสอบในสนามปิดมาก่อนนี้ นับเป็นบริษัทต่างชาติบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตนี้
ทีมวิจัยของ Mercedes-Benz ในจีนร่วมมือทดสอบรถอัตโนมัติกับพันธมิตรท้องถิ่นหลายรายรวมถึง Baidu Apollo เพื่อสร้างเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับสภาพแวดล้อมการจราจรในจีน และผ่านการทดสอบในเขตทดสอบทั้งในปักกิ่งและเหอเป่ย
Mercedes-Benz มีความร่วมมือกับ Baidu มานาน ตั้งแต่ปี 2015 ก็ร่วมกันติดตังบริการของ Baidu ลงในรถเบนซ์มาก่อนแล้ว
เกิดเหตุการณ์ซิ่งระห่ำแบบไม่เต็มใจกับชายชาวจีนคนหนึ่งที่ชื่อ Xue เมื่อรถ Mercedes-Benz คันใหม่ที่เขากำลังขับอยู่บนทางด่วนเกิดความขัดข้องทำให้ไม่สามารถปิดระบบ cruise control ผลก็คือเขาไม่สามารถชะลอรถลงมาจากความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้
การควบคุมรถทำได้เพียงใช้พวงมาลัยบังคับรถให้เลี้ยวไปตามทาง ทันทีที่ Xue รู้ตัวว่างานเข้า เขาก็รีบติดต่อศูนย์ให้ความช่วยเหลือของ Mercedes-Benz เพื่อขอวิธีรับมือสถานการณ์ทันที ซึ่งนายช่างใหญ่ของศูนย์ก็แนะนำวิธีแก้ปัญหาหลายอย่างทั้งให้ปิดระบบจ่ายไฟ, เหยียบเบรก และเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่งเกียร์ว่าง แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้รถกลับมาอยู่ในความควบคุมของคนขับ