Qi Lu อดีตผู้บริหารยาฮูและไมโครซอฟท์ ที่ย้ายมาอยู่ Baidu เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Wired เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของ Baidu ด้าน AI ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
AI คือเป้าหมายหลักของ Baidu
Qi บอกว่าเป้าหมายของ Baidu ตอนนี้มีสองอย่าง คือเป็นผู้นำบนแพลตฟอร์มมือถือ และเป็นผู้นำด้าน AI ซึ่ง Baidu เรียกว่า Baidu Brain มีความสามารถในการทำงานมากกว่า 60 อย่าง ซึ่งมากกว่าที่กูเกิลและไมโครซอฟท์มี
แพลตฟอร์มที่ Baidu มีด้าน AI นั้นมีชื่อว่า DuerOS เป็นระบบรองรับภาษาธรรมชาติ (Natural Language) และสามารถโต้ตอบได้ด้วยบทสนทนา แต่ทำได้มากกว่า Google Now, Siri หรือ Cortana เพราะรองรับรูปแบบบทสนทนาได้เยอะกว่ามาก มีพาร์ทเนอร์มากกว่า 100 แบรนด์ ซึ่ง Qi บอกว่าตอนนี้ถือเป็นเบอร์หนึ่งในจีน แต่หากเทียบกับทั้งโลกแล้วคงแพ้แค่ Alexa ของ Amazon
Amazon คือผู้ที่มีเทคโนโลยี AI ล้ำหน้ามาก
Qi ให้ความเห็นเกี่ยวกับบริษัทเทคโนโลยีในอเมริกากับการแข่งขันด้าน AI ว่าต้องเกิดจากส่วนผสมที่ลงตัวสองอย่าง ได้แก่ การนำไปประยุกต์ใช้ที่เหมาะสม และการมีระบบนิเวศที่สนับสนุนด้านข้อมูลเรียนรู้ เขาเป็นผู้ร่วมพัฒนา Cortana ให้ไมโครซอฟท์ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ในตอนนี้ Amazon เทคโนโลยียังตามหลังอยู่มาก แต่วันนี้ไม่ว่าจะกูเกิลหรือไมโครซอฟท์ก็ล้วนตาม Amazon ไม่ทันแล้ว เพราะ Alexa ถูกนำไปใช้งานในสิ่งที่เห็นประโยชน์ และ Amazon ก็มีพาร์ทเนอร์ที่มากกว่าในการสนับสนุนข้อมูล
เขาบอกว่าการพัฒนา AI ให้ไปได้ไกล ผลิตภัณฑ์ต้องเน้น AI เป็นอย่างแรก (AI-First) แต่ทั้งไมโครซอฟท์กับกูเกิล ภาพการใช้งานยังอยู่ที่มือถือหรือพีซีเป็นหลัก ซึ่งนั่นคือ Finger-First จะเห็นว่า Alexa ใช้การสั่งงานด้วยเสียง นั่นคือ AI-First
เทคโนโลยี AI ตอนนี้ที่เห็นเป็นรูปธรรมมากคือการนำมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน ตรงนี้ Qi บอกว่าจีนจะได้เปรียบในการแข่งขันบนตลาดเอเชีย เพราะรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมา สามารถปรับได้กับคนญี่ปุ่น คนอินเดีย ได้ดีมากกว่าระบบของอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบ้านคนอเมริกามากกว่า ปัจจัยที่ว่าได้แก่ ลักษณะคนที่ใช้งาน, ขนาดบ้าน, ฟังก์ชันการใช้งาน
จากอเมริกากลับมาที่จีน
Qi Lu นั้นเป็นคนจีน แต่ทำงานในอเมริกามาโดยตลอด เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากไมโครซอฟท์ก็คืออุบัติเหตุที่ทำให้ขาหัก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดถึงสองครั้ง เขายืนยันว่าแม้ลาออกมาจากไมโครซอฟท์ แต่ความสัมพันธ์กับ Bill Gates และ Satya Nadella ยังดีอยู่
เขามองว่านวัตกรรมจะเป็นสิ่งที่ทำให้จีนเติบโตได้อีกมาก วันนี้อเมริกาถือครองนวัตกรรมอยู่ 60% ของโลก ประชากรโลกตอนนี้มี 7 พันล้านคน มีคนราว 3 พันล้านอยู่ในโลกยุคใหม่ที่พร้อมปรับสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ ฉะนั้นโลกกำลังเดินไปข้างหน้า ด้านเทคโนโลยีวันนี้จีนอาจสู้อเมริกาไม่ได้ แต่ระยะห่างก็ลดลงไปมาก
Qi บอกว่าตั้งแต่เขากลับมาอยู่ที่จีนได้ 6 เดือน ได้อ่านงานวิจัยด้าน AI ของประเทศจีน ได้พูดคุยกับนักพัฒนาจำนวนมาก ก็พบว่าจีนมีความพร้อมและความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีอยู่พอมาก ขณะเดียวกัน Baidu ยังคงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและบุคลากรในอเมริกา โดยยังมีสำนักงานอยู่ที่ Bay Area และ Seattle
ที่มา: Wired
Comments
https://baidu-pc-faster.en.softonic.com/
Happiness only real when shared.
เป็นแถวหน้า ถ้าในสงครามนี่คือโอกาสตายก่อนมีสูงหรือเปล่าครับ
คนจีนและคนเวียดนามมีความเกี่ยวเนื่องทางสายเลือด
ไปเที่ยวลาว คนลาวพูดว่า รับเงินทอนจากคนไทยไม่ต้องนับก็ได้ แต่นับจากคนเวียดต้องนับ
มีความเจ็บแค้นเรื่องใดกับคนเวียดนามหรือครับ?
เรื่องกลโกงอมตังทอน ถ้าไม่โดนแสดงว่ามาไม่ถึงเวียดนามครับ ไปเที่ยวเวียดนามจะเจอแทบทุกคน - -*
ส่วนเรื่องคนจีนคนเวียดนาม No Comment นะ เพราะเพื่อนๆ ทั้ง 2 ชาติก็ friendly กันดีทุกคน
ผมว่า ถ้าเอาเรื่องกิน เรื่องเที่ยว คนเอเชีย ดีทุกประเทศครับ แต่พอเป็นเรื่องอื่นก็แล้วแต่เลย
บริษัทนี้น่ากลัวขึ้นทุกวันๆ
น่าเสียดายมือดีไปอีกหนึ่งคน Qi Lu ถือว่าเป็น idol สำหรับหลายคนส่วนใหญ่ใน MS โดยเฉพาะ engineer จากประเทศจากเอเชียทั้งหลาย