CEO อินเทล Brian Krzanich กลายเป็น CEO คนที่ 3 แล้ว ที่ลาออกจากคณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเกิดเหตุรุนแรงโดยกลุ่มคนสนับสนุนผิวขาวที่มีแนวคิดแบบสุดโต่ง ปะทะกับกลุ่มคนที่ต่อต้านการเหยียดผิวจนทำให้มีทั้งคนบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เมืองชาร์ล็อตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วโมงเดียวหลังจาก Kenneth Frazier, CEO จาก Merk & Co. เพิ่งลาออกจากสภาที่ปรึกษานี้ด้วยกรณีเดียวกัน ตามด้วย Kevin Plank, CEO จาก Under Armour
(ซ้าย : Kenneth Frazier, Merk & Co. CEO, กลาง : Kevin Plank, Under Armour CEO, ขวา : Brian Krzanich, Intel CEO)
— Merck (@Merck) August 14, 2017
Statement จาก Kenneth C. Frazier
I love our country & company. I am stepping down from the council to focus on inspiring & uniting through power of sport. - CEO Kevin Plank pic.twitter.com/8YvndJMjj1
— Under Armour (@UnderArmour) August 15, 2017
Statement จาก Kevin Plank
We are saddened by #Charlottesville. There is no place for racism or discrimination in this world. We choose love & unity. - CEO Kevin Plank
— Under Armour (@UnderArmour) August 14, 2017
There should be no hesitation in condemning hate speech or white supremacy by name. #Intel asks all our countries leadership to do the same
— Brian Krzanich (@bkrunner) August 14, 2017
I stand with others for equality and improving US competitiveness. Both requireimproving in todays environment. https://t.co/RcjpGaFXBQ
— Brian Krzanich (@bkrunner) August 15, 2017
CEO ทั้งสามรายต่างทวีตข้อความทั้งของตนเองและในนามขององค์กร ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และเห็นว่า สหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งขึ้นมาได้ก็เพราะความหลากหลาย ทั้งเพศ เชื้อชาติ ศาสนา สีผิว และความเชื่อทางการเมืองที่แตกต่าง การลาออกดังกล่าวเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง ผู้นำสหรัฐฯ ต้องให้เกียรติต่อค่านิยมที่เป็นรากฐานเหล่านี้และต้องปฏิเสธที่จะแสดงท่าทีที่นำไปสู่การสร้างความเกลียดชัง ความคลั่งแค้น ด้วยการทำให้เห็นว่าประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน
เหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มขวาจัด White supremacists และกลุ่มที่สร้างความเกลียดชังอื่นๆ ร่วมเดินขบวนเพื่อประท้วงการย้ายอนุสาวรีย์ของนายพล Robert Edward Lee ผู้นำสูงสุดของฝ่ายสหพันธรัฐที่สนับสนุนการมีทาส ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองชาร์ล็อตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย
ภาพจาก Wikipedia
ทรัมป์ตอบโต้การลาออกของ CEO Frazier ว่าเป็น CEO บริษัทยาที่มีราคาแพงมาก แถมยังทำให้ตำแหน่งงานหายไปจากสหรัฐอีก
Now that Ken Frazier of Merck Pharma has resigned from President's Manufacturing Council,he will have more time to LOWER RIPOFF DRUG PRICES!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) August 14, 2017
ทรัมป์ยังโทษสื่อว่าข่าวที่ชาร์ล็อตต์วิลล์มีแต่ fake news เช่นเคย
Made additional remarks on Charlottesville and realize once again that the #Fake News Media will never be satisfied...truly bad people!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) August 14, 2017
ก่อนหน้านี้ก็มี CEO ลาออกจากคณะที่ปรึกษาทรัมป์ ทั้ง Tesla, Walt Disney, GE, JPMorgan และ Uber ส่วนใหญ่มาจากที่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับนโยบายทรัมป์
Comments
ผมคิดว่าเนื้อหาของข่าวนี้เกี่ยวกับการเมืองสหรัฐล้วนๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีเลยนะครับ
CEO Intel นี่บริษัทผลิต CPU เชียวนะครับ
twitter ?
เออ จริงด้วย ไม่ทักนี่ลืมดูเลย
ผมมองว่าก็เกี่ยวข้องพอๆ กับข่าวที่ Elon Musk ลาออกเหมือนกันครับ ซึ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับ "บุคคลสำคัญในวงการไอที"
ถ้าอันนี้ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อันนั้นก็ไม่น่าจะเกี่ยวเหมือนกันครับ (ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองนะครับ ไม่ได้บอกว่าใครถูกผิด แค่จะบอกว่าก่อนหน้านี้มีข่าวแนวนี้เยอะเหมือนกันครับ)
ไม่ต้องแยกเทคโนโลยีหรือไม่มีเทคโนโลยีหรอกครับ
ข่าวสารทั้งหมดมันเชื่อมโยงกันหมด แค่ข้อมูลอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์มันก็กลายเป็น Information Technology แล้วครับ
อูยถลอก...
555555555
เกี่ยวเต็มๆครับเพราะ trump ใช้ twitter
อนุสารีย์ => อนุสาวรีย์
นี้มันข่าวการเมือง ...
หรือจริงๆถ้าอยากให้ข่าวนี้เกี่ยวกับเทคโนโลยีมากขึ้น ก็น่าจะพาดหัวและเน้นเนื้อหาประเด็นของ CEO Intel ลาออกจากคณะที่ปรึกษาทรัมป์