LINE ประเทศไทยแถลงความสำเร็จของสติกเกอร์ เผยตลาดในไทยโตเป็นอันดับ 2 ของโลก พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่น LINE Creators Studio ให้ผู้ใช้งานสร้างสติกเกอร์ด้วยตัวเองง่ายขึ้น
อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประจำประเทศไทย ระบุว่า สติกเกอร์เป็นธุรกิจอย่างจริงจัง และเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของ LINE ด้วย มีนักวาด 120,000 คน ถือเป็นอาชีพใหม่และเป็นตัวขับเคลื่อนให้ธุรกิจสติกเกอร์เติบโตอย่างก้าวกระโดด
มร. อุเอคิ ผู้พัฒนาสติกเกอร์ชุด Betakkuma จากประเทศญี่ปุ่น
นาโอโตโมะ วาตานาเบ ผู้จัดการฝ่ายผลิตและวางแผนสติกเกอร์ LINE ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ปัจจุบัน LINE มีสติกเกอร์จากครีเอเตอร์เปิดให้ดาวน์โหลดรวมกว่า 530,000 ชุด ใน 230 ประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ทั่วโลกไปแล้วกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศที่มีการดาวน์โหลด Creators Sticker สูงสุดคือประเทศญี่ปุ่น ไทย และไต้หวัน
ส่วนในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปัจจุบัน LINE ประเทศไทยเปิดให้ดาวน์โหลดสติกเกอร์ใน Creator Sticker Shop 48,000 ชุด ภาพรวมเติบโต 15% (จากปี 2016) LINE 07'เปิดตัว LINE Creators Studio อีกช่องทางที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสติกเกอร์ LINE ด้วยตนเอง ดาวน์โหลดผ่านแอนดรอยด์ได้แล้ววันนี้ ส่วน iOS ต้องรออีกสักระยะ
พร้อมกันนี้ LINE ประเทศไทยให้รางวัลแก่ครีเอเตอร์ ดังนี้
- รางวัลสติกเกอร์ขวัญใจคอเพลง (Best Music Sticker Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด GMM HIT SONGS FOR DAILY LIFE
- รางวัลสติกเกอร์ยอดนิยมแห่งปี 2016 (Best Seller 2016 Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด TUAGOM
- รางวัลดาวรุ่งหน้าใหม่แห่งปี 2017 (Best Newcomer 2017 Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด CIRCLE DOOKDIK
- รางวัลดาวค้างฟ้าตลอดกาล (Best Sales Ever Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด JAMBOOKA
- รางวัลฮาไม่จำกัดแห่งปี (Best Comedy TV Show Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด TOEY TIEW THAI
- รางวัลสุดยอดสติกเกอร์ภาษาถิ่น (Best Dialect Sticker) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด NOO HIN NOUNE HIN HAE
- รางวัล CREATORS สุดปัง (Best Rising Star Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด NOM YEN
- รางวัลสติกเกอร์ขวัญใจมหาชน (People's Choice Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด PAO PAO
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Urgent Jobs
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
นับวันจะมีแต่ข่าวที่ทำให้ไลน์คงอยู่คู่คนไทยถาวรตลอดไปชั่วกาลนานเทอญ รู้สึกเจ็บในฐานะของคนเกลียดโปรแกรมนี้ เพื่อนก็ใช้ ญาติก็ใช้ เราไม่ใช้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่ทำงานก็ใช้ หน่วยงานราชการที่ติดต่อก็ใช้ บริษัทคู่ค้าก็ใช้ เราไม่ใช้ก็ไม่ได้ บังคับเข้ากลุ่มด้วย นับวันยิ่งเลอะเทอะ เกินคำว่าโปรแกรมแชท เกลียดสติ๊กเกอร์ มันกินพื้นที่หน้าแชทมาก จะเลื่อนหาอะไรก็ยาก คุย ๆ เรื่องงานอยู่มีแต่สติ๊กเกอร์โผล่มาเต็มมันขัดจังหวะคุยไม่รู้เรื่อง เนื้อหาใจความที่คุยไปเมื่อกี้มันหายไป ปิดก็ไม่ได้
+10
WE ARE THE 99%
ดีใจจัง (มีเพื่อน) ที่คิดแบบเดียวกันครับ
ที่ห่วยสุดๆ และยังไม่ปรับปรุงซะทีคือ "ใครบ้างที่อ่านแล้ว"
อ่านนี้ผมต้องใช้ในการทำงานอย่างมากครับ
กับอีกเรื่องก็คือ เรื่องการกลับไปอ่านย้อนหลัง ที่ลำบากที่คุณว่านั้นล่ะ
ปกติผมใช้ Search เอานะครับ ไม่ค่อยสะดวกแต่ไม่ถึงกับหาไม่เจอเลย
ส่วนเรื่องสั่งงานทางไลน์ อันนี้ก็ขึ้นกับความ Professional ของที่ทำงานคุณเองแล้วล่ะครับ ผมมองว่ายังดีกว่าสมัยก่อนที่ "สั่งทางโทรศัพท์ (โทรบอก)" นะครับ อันนี้ยังมีหลักฐาน ยังย้อนดูได้ ดีกว่าโทรมาสั่งๆ แล้วคำพูดก็ลอยหายไป (ยกเว้นจะอัดเสียงไว้)
ทำงานใช้ Slack ติดต่อกับคนภายนอกก็ Email ส่วน Line ไม่ค่อยได้ใช้ Wechat ไม่ค่อยอ่าน
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เหมือนกันครับ ผมชอบ Whatsapp สุด ดูมันมินิมอลดีแต่ไม่มีคนคุยด้วยละ รอบตัวมีแต่ Line รองมาก็ FB Messenger
ใช่เลยครับ
ยุคเริ่มต้นเมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว
เจ้านาย สั่งงานมาในไลน์ เราไม่ได้อ่าน
เลยโทรมาหาเรา ว่าสั่งงานนะ เข้าไปเปิดอ่านไลน์ด้วย รายละเอียดอยู่ในนั้น
เราก็เปิดไลน์ดู
ในไลน์... ระบุว่า ให้ทำ โน่น นี่ นั่น ซึ่งเอกสาร ส่งให้ไปให้ในเมล์แล้วนะ
อืม...
สุดท้ายก็ต้องเปิดเมล์เหมือนเดิม ซึ่งเราก็เปิดอ่านทุกวันอยู่แล้ว
แล้วจะต้องสั่งงานมาในไลน์ทำไม
เขาพยายามจะก้าวไปเป็น super app น่ะครับ
ก็น่ะ คงยากหน่อย หวังให้โลกหมุนรอบตัวเรา มันคงไม่ได้
+100 จ้า
ผมตั้งไว้ในโปรไฟล์ว่าถา้มีเรื่องด่วนให้โทรมา อย่าไลน์มา เพราะผมไม่ได้ตั้ง noti ไว้ (รำคาญมกเพราะโดนลากเข้ากลุ่มหลายสิบกลุ่ม) ก็ยังจะมีคนไลน์มา โทรมา เรื่องด่วน ๆ
พอผมไม่ตอบ หรือตอบช้า ก็ต่อว่าผม....โคตรงงว่าคนเดี๋ยวนี้โทรศัพท์กันไม่เป็นแล้วรึไง? (ตอนแอดไลน์ผมก็แอดด้วยการเมมเบอร์โทรนั่นแหละ)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ประเทศไทยมีตลาดสติกเกอร์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก แต่ประเทศที่ใช้ LINE กันเป็นหลักมันก็มีไม่กี่ประเทศเอง
เห็นรางวัลที่ LINE ให้แก่ Creator แล้ว สะท้อนอะไรหลายอย่างในสังคมได้เลยนะครับ
+1 คับ เมืองพุทธ
อยากเห็นหน้าคนวาด CIRCLE DOOKDIK ฮะ... น่าจะอยู่ในภาพแต่ไม่รู้ว่าคนไหน
ผู้หญิงแถวหน้า คนที่ 2 จากฝั่งซ้ายครับ
อเมซิ่งมากๆที่คนยอมจ่ายเงินให้เรื่องที่ดูไร้สาระมากขนาดนี้
ผมว่าสติกเกอร์มันก็พอนับได้ว่าเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมบันเทิงได้นะครับ ซึ่งถ้าบอกว่าสติกเกอร์เป็นเรื่องไร้สาระผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในวงการนี้ก็น่าจะเรียกว่าเป็นเรื่องไร้สาระได้เช่นกัน ซึ่งพอกลับมามองเม็ดเงินที่หมุนเวียนในวงการนี้มันก็ดูมหาศาลเกินกว่าที่จะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระนะครับ
ผมจ่ายเงินให้สติ๊กเกอร์ Line ประมาณกว่าหกพันบาทแล้วครับ ซึ่งผมก็รู้สึกโอเคนะครับเพราะใช้บ่อย บางทีไม่อยากพิมพ์ตอบก็ส่งสติ๊กเกอร์ไปแทนคำตอบก็เข้าใจกันแล้วครับ
ผมเป็นอีกคนที่รู้สึกเช่นเดียวกับคุณ
การเหยียดรสนิยมของคนอื่นว่าไร้สาระไม่ได้ทำให้คุณอยู่เหนือกว่าคนอื่นนะครับ
ดูไร้สาระ = "seemingly nonsense" แท้จริงอาจจะไม่ไร้สาระก็ได้
ผมก็ไม่ได้เหยียดใครนะครับ
มันเป็นความเห็นของผมว่า (สำหรับผมแล้ว)สติกเกอร์เป็นสิ่งไรสาระ(สำหรับผม, ย้ำอีกครั้ง)
การทำตัวเป็น SJW ต่างหากละครับ ที่เป็นการพยายามทำตัวเองให้เหนือกว่าคนอื่น
คนที่จ่ายเงินคือใครครับ? คุณหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ นั่นคือคนอื่นเป็นคนจ่ายเงิน และคุณบอกว่ามันดูไร้สาระ
นั่นหมายถึงคุณกำลังบอกว่าคนอื่นเสียเงินไปกับเรื่อง (ที่คุณดู) ว่ามันดูไร้สาระ
แบบนี้ไม่เหยียด?
A) "คนยอมจ่ายเงิน"
B) "คนที่ยอมจ่ายเงิน"
ไม่เหมือนกันนะครับ
แบบ A) พูดถึงคน as a general noun ไม่ได้พูดถึงในลักษณะเจาะจงตัวหรือกลุ่มคน (ในเคสนี้ คนยอมจ่ายเงินเป็นการพูดถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค)
แบบ B) เป็นการระบุถึงกลุ่มคนที่ได้จ่ายเงินไปแล้วโดยเฉพาะเจาะจง
ผมเขียนแบบ A) แต่คุณเอาไปตีความเป็นแบบ B) แล้วมาสรุปเองว่าผมมีพฤติกรรม"เหยียดรสนิยมของคนอื่นว่าไร้สาระ" แบบนี้ผมก็ไม่รู้จะเถียงกับคุณต่อไปทำไมนะครับ
อย่างไรก็ตาม หากความเห็นของผมกำกวม(เนื่องจากใช้ภาษาพูด)และสร้างความเข้าใจผิดหรืออาจรวมไปถึงความเจ็บช้ำน้ำใจให้ผู้ใดก็ตาม ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ลองเอามาทั้งประโยค เป็น
อเมซิ่งมากๆคนยอมจ่ายเงินให้เรื่องที่ดูไร้สาระมากขนาดนี้
กับ
อเมซิ่งมากๆที่คนที่ยอมจ่ายเงินให้เรื่องที่ดูไร้สาระมากขนาดนี้
อันที่สองนี่อ่านไม่เป็นความหมาย (ถ้าอ้างตาม A B นะครับ)
แต่ถ้าอ่านประโยคต้นเรื่อง มันก็คือประโยคที่สองดีๆนี่เอง
ผมไม่เข้าใจว่าคุณจะสื่ออะไรครับ
ตอนแรกไม่บอกเลยนะครับว่า คหสต มันเหมือนด่าคนอื่นที่เค้าทำว่าไร้สาระ
ผมก็เข้าใจมาตลอดว่าช่อง comment เอาไว้แสดงความเห็น
ไม่มีใครห้ามคุณแสดงความเห็นครับ แต่คุณก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาด้วยเหมือนกัน
แล้วอย่าปกป้องผลกระทบนั้นด้วยคำว่าความเห็นส่วนตัวเลยครับ มันดูไม่แมนเลย
ถ้าอ่านข้อความที่พิมพ์มาข้างบนเหมือนบอกว่า คนอื่นไร้สาระ ยอมเสียเงินกับมันทำไม
ลองมองอีกมุม มันก็เหมือนคนเอาเงินไปเล่นเครื่องเสียง แต่งรถ สะสมฟิกเกอร์ มันไม่มีอะไรไร้สาระหรอกครับ
ถือว่าเป็นความสุขของใครของมัน
ขอแทรกนิดนึงครับ
ข้อ2 ครับ รสนิยมคนไม่เหมือนกัน มีสาระของคนนึงอาจดูไม่มีสาระของอีกคนนึง เพียงแต่บางคนก็ไม่เข้าใจสัจจะธรรมนี้ก็จะเที่ยวตัดสินว่าสิ่งไหนมีสาระมากกว่ากัน บางคนก้าวไม่ข้ามก็จะโกรธว่ามาดูถูกกันทำไม บางคนก้าวข้ามความโกรธไปแล้วแต่ยังติดหวังดีคนอื่นก็จะมาอธิบาย บางคนก้าวข้ามไปไกลแล้วก็จะไม่สนใจแม้แต่จะพิมพ์ตอบความเห็นครับ
เรื่องธรรมดาของมนุษย์ครับ
การว่าคนอื่นทำตัวเป็น SJW มันก็เป็นการทำตัวเป็น SJW เหมือนกันนะครับ หรือจะเรียกว่าเป็น SSJW (Super Social justice warrior) ส่วนการกระทำของผมก็เหมือนเป็น USJW (Ultra Social justice warrior) ซึ่งจริง ๆ แล้วการแสดงความเห็นมันก็เป็นการพยายามทำให้ความเห็นเราเหนือกว่าอีกฝ่ายอยู่แล้วครับ แต่จะเหนือกว่าด้วยข้อมูล หรือเหนือกว่าด้วยกลยุทธ์ก็แล้วแต่ตัวบุคคลจะใช้ (เช่น ยก SJW มาใช้มันเป็นกลยุทธ์ทำให้ฝ่ายตรงข้ามโกรธเสียหน้าจะได้ไม่สามารถใช้เหตุผลได้เต็มร้อยหวังผลให้เค้าเถียงแพ้) จริง ๆ แล้ว SJW นี้ใช้ด่าคนเรียกร้องสิทธิ (ซึ่งบางทีก็เรียกร้องมากไป) มากกว่าการมาว่าคนวิจารณ์ความเห็นทั้วไปนะครับ
ผมว่าเคสนี้จะเรียกว่าเป็นการเรียกร้องสิทธิให้ "คน" (human being in general) ก็ได้ละมั้งครับ
ขอแย้งนะครับ การเหยียดรสนิยมคนอื่นว่าไร้สาระนี้มันทำให้เค้ารู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นไปแล้วครับ มันสำเร็จไปแล้วเราไปแก้ตรงนี้ไม่ได้แล้วครับ ทำได้เพียงบอกว่าการเหยียดรสนิยมคนอื่นการที่สาธารณะมันไม่สุภาพกับคนที่คุณไม่รู้จักหลายคนครับ เก็บไว้เหยียดคนรู้จักหรือจะให้ดีเก็บไว้กับตัวเองจะสุภาพมากกว่าครับ
สำหรับเรา เราว่าไม่ไร้สาระ
เกลียดตรงที่สติกเกอร์กะธีมยังจะมีการ region lock อีก โดยเฉพาะสติกเกอร์จากญี่ปุ่น
อยากจะบอกว่า ผมไม่เคยซื้อ Sticker เลยซักอัน
โหลดแต่ของฟรีอย่างเดียว (นิดๆหน่อยๆ)
+1 ครับ ของผมนี่ต่อให้ฟรีแต่ต้อง add friend ก็ไม่เอา
อยากได้อะไรที่มันดูมินิมอลกว่านี้ เบื่อๆๆๆ
รางวัลดาวค้างฟ้าตลอดกาล (Best Sales Ever Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชุด JAMBOOKA > ต้องเป็น JUMBOOKA นะครับ ผมก็ว่าทำไมหาไม่เจอ
คนไม่ชอบ ไม่อยากใช้ ผมว่าก็ต้องปรับตัวแหล่ะครับ อาจจะเป็นเพราะว่ามันคนใช้เยอะ ดูเกร่อ ไม่เก๋หรือเปล่า นี่เดาเอานะ ก็แล้วแต่ความชอบของคนครับ ส่วนผมมันคือที่ทำให้คุยกับครอบครัวมากขึ้น รายงานตัวเวลาไปไหนมาไหนกันง่ายขึ้น
ตามความเห็นของผมนะครับ คนที่แอนตี้สุดๆ คือคนที่โดนบังคับให้ต้องมาใช้ทำงานครับ ถ้าใช้แค่ในเชิงแฟชั่นมันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น แต่พอมาเป็นการทำงาน สำหรับหลายๆ คนมันเรียกได้ว่าเป็นหายนะเลยก็ว่าได้
เป็นแอพแชทที่อยู่ได้เพราะสติ๊กจริงๆ เพราะระบบกากมาก โหลดช้า โทรสายหลุดบ่อย ไม่ได้ยิน กดโนติบางทีพิมพ์ไม่ได้ ค้างบ้าง ข้อความบางทีก็ช้า โนติเอ๋อตลอด ต้องมาคอยนั่งดูคุยแฟนพิมพ์ ถ้าตอบช้าก็งอลอีก โทรมาจนสายหลุดไปแล้วโนติพึ่งขึ้น @-#&#&_@-#)+(
ที่จำเป็นต้องใช้เพราะคุณแฟนกับที่ทำงานไม่งั้นจะไม่แตะเลย
ผม line call กับแฟนแทบทุกวัน ครั้ง30-40นาที (ใช้มาประมาณ 4-5เดือนแล้ว) แทบไม่มีสายหลุดเลยครับ
ครั้งล่าสุด หลุดเพราะเนตไม่ดี(ขีดสัญญาณลดลง สัญลักษ์ 3G/4G หาย) ซึ่งก็ผ่านมานานมากแล้ว
เรื่องเสียงก็ขึ้นอยู่กับเนตนะ บางทีช่วงสัญญาณดรอปไปต่อ 3G/EDGE ก็จะเสียงก็จะ"อู้อี้ๆ"หน่อยๆ
แต่ถ้าเนตลื่นๆเช่นต่อ wifi หรือ อยู่ในจุดสัญญาณแรงๆ เสียงก็ดีชัดเจนมากครับ
ไม่เคยได้กินตังผมซักบาท ไม่เคยโหลดแม้แต่ 4 อันแรกที่ดีฟอลมา 55
+1
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
สนับสนุนแอพจากเอเชีย