เมื่อวานนี้ Tesla ปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลง 3,500 ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1.1 ถึง 1.6 แสนบาท) หลังบริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ขนาด 100 กิโลวัตต์ได้ ซึ่งรถยนต์รุ่นที่ถูกปรับลดราคาคือ Model S และ X ในรุ่นความจุแบตเตอรี่ 100 กิโลวัตต์เท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีราคาแพงสุด
ลูกค้าที่จองรถไปก่อนประกาศนี้ออกมาแต่ยังไม่ได้ชำระเงินก็จะได้รับราคาใหม่เลย ดังนี้
ที่มา - TechCrunch
Comments
ได้ใจนะเนี่ย
ยี่ห้ออื่นเห็นแต่ออกเทคโนโลยีใหม่ ราคารถก็แพงขึ้นตามแบบว่าลงทุนแล้วต้องถอนทุนคืน
ส่วนตัวผมคิดว่าปกตินะ รถโมเดลปัจจุบันที่ทำตลาดมานานแล้ว ก็จะมีการลดราคากระตุ้นยอดขายบ้าง
เทคโนโลยีใหม่มันหมายถึงเทคโนโลยีการผลิตใหม่แต่สเปกรถมันเท่าเดิมก็ไม่น่าจะต้องเพิ่มราคานะ
เข้าไทย ราคาราว ๆ 11 ล้าน ลดลงมาคงไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง
ผมยังงอยู่ว่าจะคิดราคาแบบไหน ปัจจุบันรถนำเข้าจะมีอัตราภาษีนำเข้าตามความจุกระบอกสูบ ถ้างั้นถ้าเป็นรถไฟฟ้าจะคิดภาษีแบบไหน
ผมว่าควรคิดตามขนาดของรถได้แล้วครับ
เห็นด้วยนะครับ น่าจะคิดตาม "ขนาดกำลัง"
ถ้าหน่วยมาตรฐาน ตือ kiloWatt ก็น่าจะปรับให้มาเป็น kW กันให้หมด
จากขนาดกระบอกสูบก็ปรับเป็น hp เป็น kW ซะ
จะได้เทียบกันได้
เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่รู้คิดยังไงก็เลยคิดเต็มเพดานภาษีที่คิดได้ครับ
ฟังเหมือนจะขำแต่ที่เม้นท์นี้พูดคือเรื่องจริง...
ประมาณว่าคำนวนไม่ได้ เอามันสูงสุดนี่แหล่ะ จบข่าว แยกย้าย
ใจเย็นๆ ครับ 4 โมง ก็จะรวยกันแล้ว
เป็นไงบ้างครับ รวยมั้ย
เอิ่ม... แก๊งค์สี่โมงเหรอครับ?
หายเลย ไม่น่ารอด
เข้าไทยโดนภาษี 300-400% ราคาก็พุ่งเยอะแล้ว (นำเข้า)
แบบนี้ค่าเปลี่ยนแบตก็ถูกลงสินะครับ
อยากได้ ถ้าเข้ามาเปิดโรงงานที่ไทยคงดี
คาดหวังไว้ว่าวันหนึ่งรถยนต์ที่วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า ใช้กันแพร่หลายเหมือน รถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่เป็นปัจจุบันนี้ ตอนนี้ก็ต้องเติมน้ำมันต่อไป และน้ำมันก็ขึ้น ๆ ลง เหมือนตลาดหุ้น เอาใจช่วยให้ขายดี ๆ เผื่อวันข้างหน้าราคามันจะถูกลงครับ